ไหปีศาจ - บทที่ 1060 ราชินีภูติใจอ่อน
บทที่ 1060 ราชินีภูติใจอ่อน?
ทั้งอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากส่วนลึกของวิญญาณ
แก่นแท้ในอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะสั่นสะเทือนตลอดเวลา
สวรรค์และโลกพลุ่งพล่านด้วยแสงภูติอันสง่างามตระการตาทั่วท้องฟ้า ยิ่งใหญ่ อลังการ แล้วทั้งหมดก็พุ่งไปที่วังภูติอย่างบ้าคลั่ง
แม้ว่าภูติส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงระหว่างสวรรค์และโลก ทำให้ตื่นเต้นและประทับใจอย่างอธิบายไม่ถูก
เจ้าแห่งอาณาจักรโบราณหมื่นอมตะตื่นขึ้นแล้ว
ในวังภูติ
เสาแสงพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า และประกายแสงที่ไม่มีที่สิ้นสุดลอยอยู่ทั่วท้องฟ้า ดึงดูดแสงภูติทั้งใกล้ไกล
เมื่อราชินีตื่นขึ้นมา นิมิตก็ปรากฏขึ้น
เป็นเวลานานกว่าที่แสงภูติจะสงบลง ท่ามกลางแสงภูติ หญิงสาวงามเดินออกมาอย่างช้า ๆ เสียงนกเพลิงอมตะกำลังร้องเพลง และความงามอันน่าทึ่งก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เชียนจีไม่แยแส ทรงเกียรติ และน่าเกรงขาม นางศักดิ์สิทธิ์และต้านทานไม่ได้ นางทำให้ผู้คนรู้สึกว่าแค่มองก็เสียมารยาทแล้ว
ไม่มีทางต้านทานแรงกดดันมหาศาลนี้ได้
เทวทูตทั้งเก้าตื่นเต้นมาก พวกเขามองไปที่แสงสวรรค์และคุกเข่าลงทีละคน “คารวะท่านราชินีภูติ”
เชียนจีหายจากอาการบาดเจ็บ และอำนาจของนางก็ไม่ได้อ่อนแอลง
แสงภูติทั้งหมดพัวพันกันและเกือบจะรวมกันกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่
เชียนจีพยักหน้าให้กับเทวทูตทั้งเก้าช้า ๆ “ช่วงนี้ต้องลำบากพวกเจ้ามากสินะ”
เทวทูตทั้งเก้าส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “พวกเราไม่ลำบากอะไรเลยท่านราชินี”
พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากกลัว
จากนั้นพวกเขามองไปที่หลี่ชิอย่างไม่สบายใจ
ในขณะนี้ หลี่ชิไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของเขาได้ อารมณ์ของเขาซับซ้อนในสายตาของเขา ร่างกายของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ริมฝีปากของเขาก็สั่น หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาว่า “หยู่หลง…”
เชียนจีมองลงไปที่ หลี่ชิอย่างเย็นชา ไม่เศร้าหรือมีความสุข
โดมู่เซียนพูดอย่างเร่งรีบ “ท่านราชินีภูติ ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติในสถานที่ลับ เราทำอะไรไม่ได้เลย มันเป็นฝีมือหลี่ชิที่สกัดเลือดมังกรแก่นแท้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของท่าน…”
“ข้ารู้” เชียนจีกล่าวทันที
เสียงเหมือนสายฟ้านับร้อยผ่าลงมา
มีความตกใจเล็กน้อยในหัวใจของทุกคน
ทุกคนไม่คิดเลยว่าราชินีภูติจะรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว
เป็นเรื่องยากที่ราชินีภูติที่จะคงการรับรู้ของนางเมื่อนางอยู่ในอาการโคม่าไม่ใช่หรือ?
ลั่วอู๋ไม่กล้าไปยืนใกล้เกินไป เขาแค่มองจากระยะไกล
เขาก็แปลกใจเล็กน้อย
ถ้าเป็นแบบนี้ สิ่งที่หลี่ชิทำในช่วงนั้นเชียนจีก็น่าจะรับรู้ด้วยเช่นกัน ด้วยวิธีนี้เชียนจีก็น่าจะสามารถสัมผัสถึงความคิดของ หลี่ชิได้
ท้ายที่สุด หลี่ชิยินดีที่จะสละชีวิตเพื่อช่วยนาง ซึ่งไม่ใช่การหลอกลวงแน่นอน
ต่อให้นางใจแข็งแค่ไหนก็น่าจะสัมผัสได้
ลั่วอู๋ชำเลืองมองเชียนจีอย่างระมัดระวัง และเห็นความสง่างาม ความเยือกเย็น และศักดิ์ศรีที่ไม่รู้จบบนใบหน้าของนาง แต่ไม่เห็นความอ่อนโยนแม้แต่น้อย
“แล้วไง นี่คือบาปที่เขาควรจะชดใช้อยู่แล้ว” เชียนจีกล่าวช้า ๆ “เขายังเป็นแค่มนุษย์สารเลว”
โดนมู่เซียนจุนเหงื่อออกอย่างช่วยไม่ได้
แรงกดดันของราชินีภูตินั้นน่ากลัวเกินไป ซึ่งกดดันนางมากเกินไป
มีร่องรอยของความขมขื่นในปากของหลี่ชิ
แม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าหยู่หลงจะเปลี่ยนทัศนคติต่อเขาได้ในทันที
แต่คำพูดที่เย็นชาเช่นนี้กลับทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
เชียนจีก้าวลงมาจากความว่างเปล่าทีล่ะก้าว แสงของเชียนจีมาบรรจบกันเป็นดอกบัวสีทอง และแม้แต่เมฆสีดอกกุหลาบกับบรรยากาศที่เป็นมงคลก็ลอยอยู่ทั่วท้องฟ้า ซึ่งทำให้นางมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นเรื่อย ๆ
“นี่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยบาปของเจ้าถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ” เชียนจีอ้าปากของนางอย่างเย็นชา และนางก็พ่นลมหายใจน่ากลัวออกมา
หลี่ชิถูกปกคลุมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่
หลี่ชิตกใจทันที ดูเหมือนว่าเขาจู่ ๆ ก็ถูกภูเขาสูงตระหง่านนับร้อยหล่นทับ
คำราม~
พลังมังกรแก่นแท้ระเบิดออกมา
พลังงานสีทองกำลังพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด
แต่มันถูกกดไว้ในวงที่เล็กมาก
สีหน้าหลี่ชิตึงเครียด และเขาก็หน้าเสียมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นก็มีเสียงดังจากใต้เท้าเขา
ตู้ม!
ร่างกายของเขาถูกกดลง
เขานอนราบลงไป
เขาดูเจ็บปวดเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณมังกรแก่นแท้ บางทีเขาอาจจะถูกบดขยี้เป็นเศษเนื้อไปแล้วก็ได้
เจียโรวนั่งนิ่งไม่ได้ นางกางปีกบาง ๆ อันบริสุทธิ์สามคู่ข้างหลังนางและบินไปที่เชียนจี “ไม่ อย่า!”
“เจ้าจะหยุดข้ารึ?” ในสายตาของเชียนจี แสงภูติแห่งการทำลายล้างส่องประกายราวกับจะทำให้โลกล่มสลาย
“ใช่” เจียโรวสูดหายใจเข้าลึก ๆ “เขาเป็นพ่อของข้า”
เชียนจีมองไปที่เจียโรว “งั้นก็ได้”
นางไม่พูดอะไรอีก นางไม่เหลียวมองหลี่ชิด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้เทวทูตทั้งเก้าประหลาดใจมาก
เพราะราชินีภูติในความคิดของพวกเขาเป็นผู้ปกครองที่เด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด
สิ่งที่นางต้องการทำจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเพราะคนอื่น
แม้ว่านางจะไม่ปล่อยพวกเขาไปในตอนแรก แต่เป็นเพราะเจียโรวขอให้นางไว้ชีวิตพวกเขา ไม่งั้นสถานการณ์คงไม่เป็นเช่นนี้
เจียโรวก็ประหลาดใจเช่นกัน
นางก็เตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด
“ไปให้พ้น”
เชียนจีกล่าวสั้น ๆ แล้วหันหลังจากไป
นางเดินตรงกลับไปที่วังภูติ ประกายแสงไร้ที่สิ้นสุดและน่าเกรงขามมาบรรจบกันในทันที ทุกอย่างก็สงบลงอย่างเงียบ ๆ แต่บรรยากาศอันเลวร้ายในอากาศนั้นช่างเหมือนจริงมาก
เทวทูตทั้งเก้าก็รีบกลับไปที่วังภูติและหายตัวไป
ส่วนนายพลภูติทั้งหนึ่งแสนตนก็ยังคงทำหน้าที่ของตนและปกป้องวังภูติต่อไป แต่ดวงตาของพวกเขาที่มีต่อลั่วอู๋และหลี่ชิดูแปลกไป
หากปราศจากคำสั่งของราชินีภูติ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะขับไล่พวกลั่วอู๋ตามใจได้
เจียโรวตกตะลึง
เพราะเชียนจีไม่ได้บังคับให้นางไปด้วย แต่กลับไปที่วังภูติเพียงลำพัง
เป็นสิ่งที่นางคาดไม่ถึง
เนื่องจากเชียนจีไม่พอใจกับสถานะปัจจุบันของนางมาก
เจียโรวทรุดลงด้วยความงุนงง แล้วนางก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ นางรีบวิ่งไปหาหลี่ชิอย่างรีบร้อน “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไหม?”
เพราะถูกเชียนจีใช้พลังกดลงพื้นอยู่ หลี่ที่ชิหน้าซีดส่ายหัวและตอบว่า “ข้าไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลั่วอู๋ก็เดินออกมาและพูดว่า “ฝ่าบาท ข้าจะช่วยท่านก่อน”
“ไม่ต้องแล้ว” หลี่ชิพูดอย่างเหนื่อยล้าว่า “พลังของหยู่หลงกลับคืนมาแล้ว ข้าออกไปได้ แต่ข้าไม่ต้องการที่จะออกไปเอง”
“หา?” ลั่วอู๋และเจียโรวสับสน
“ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้ เจ้าไปก่อนเถอะ”
เจียโรวพูดอย่างกังวลใจ “วิธีนี้จะได้ผลรึ?”
แต่หลี่ชิไม่ตอบ เขาหลับตาลงแทน
ลั่วอู๋แนะนำว่า “ฝ่าบาท ถ้าท่านอยู่ที่นี่ ราชวงศ์มังกรเร้นกายจะทำยังไง? จะเกิดความโกลาหลหากไม่มีผู้นำ”
“ถ้างั้นก็ขอให้เฒ่าเฉินออกมาทำงานอีกครั้งและดูแลสถานการณ์โดยรวมแทนข้าไปก่อน” หลี่ชิกล่าว
ลั่วอู๋ยิ้มอย่างขมขื่น
เฒ่าเฉินแก่แล้ว จะให้เขามาทำงานได้ยังไง
แต่ไม่ว่าลั่วอู๋จะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไร หลี่ชิก็ไม่ตอบอะไรอีก
“เฮ้อ ปวดหัวแน่งานนี้” ลั่วอู๋ถอนหายใจ
เจียโรวกังวล “จะทำอย่างไรต่อไปดี?”
“คงเหลืออยู่ทางเดียว” ลั่วอู๋กล่าว “ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เชียนจีไม่น่าโจมตีจักรพรรดิอีก เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย”
เจียโรวคิดดูและนางก็เห็นด้วย
และเมื่อพวกเขากำลังจะจากไป
แสงสีดำก็ออกมาจากวังภูติ
หนึ่งในเทวทูตทั้งเก้า หมาป่าภูติ มันมีเขี้ยวที่ขากรรไกรล่าง ซึ่งสูงตระหง่านเล็กน้อย ข้างหลังเขามีหางสีดำยาวซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานสีดำอันน่าสยดสยอง
ลั่วอู๋ระวังตัว “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ทั้งคู่อย่าเพิ่งไป ราชินีภูติเรียกพวกเจ้าเข้าพบ” หมาป่าภูติดูสุภาพมาก
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
ลั่วอู๋และเจียโร่วมองหน้ากัน
เกิดอะไรขึ้น?
ราชินีภูติเปลี่ยนใจแล้วหรือ?