ไม่อยากไปดูตัวเลยตั้งเงื่อนไขสุดเว่อร์แต่ดันตรงกับเพื่อนร่วมชั้น - ตอนที่ 1
ณ ดาดฟ้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง
เวลาหลังเลิกเรียน
โดยปกติแล้วสถานที่นี้นั้นถูกห้ามเข้า ได้มีนักเรียกชั้นมัธยมปลาย2คนกำลังสนทนาเรื่อยเปื่อยกันอยู่
เพราะเครื่องแต่งกายที่ดูไม่ค่อยเรียบร้อย ทำให้มองแวบแรกแล้วดูสถานการณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไร
“เห้อ……”
1ในนั้น เป็นเด็กผู้ชายผมสีดำตาสีฟ้า ทาคะเซกาวะ ยุซุรุ ได้ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เขาแสดงสีหน้าที่ดูเหนื่อยแบะย่ำแย่ออกมา
“เป็นอะไร ยุซุรุ อยู่ดีๆก็ถอนหายใจออกมาแบบนั้น”
“ขอถามหน่อยสิ”
ผู้ชายที่อยู่ข้างๆยุซุรุ ซาตาเกะ โซอิจิโร่เริ่มบ่นออกมา
“เดี๋ยวนี้ อายุที่พวกผู้ชายกับผู้หญิงจะแต่งงานกันได้คืออายุ15ใช่มั้ย?”
“นั่นสินะ…..แล้วมันทำไมล่ะ?”
“ไม่รู้สิแต่เพราะแบบนั้น…..พอเรียนจบม.ต้น ปู่กับย่าที่บ้านก็บอกให้แต่งงานซะ…..แล้วก็ให้ไปดูตัวเนี่ย…..น่ารำคาญจัง”
หลายต่อหลายครั้งยุซุรุจะถูกถาม “หาแฟนได้รึยัง?” “มีคนที่ชอบรึยัง” จากนั้น จนในที่สุดก็ลงเอยด้วยการที่ไปหาคู่ให้ตามอำเภอใจและเริ่มกลายเป็นบทสนทนาที่ให้ไปดูตัว
แน่นอนว่า เพราะตัวเองไม่สนใจที่จะแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก เลยปฏิเสธไปเสียงแข็งแต่…..
“แต่ว่านายน่ะ อายุยังไม่ถึง15เลยนี่? รีบร้อนจังเลยน้า ……ทำไมถึงเอาเรื่องนั้นมาพูดอีกแล้วล่ะ”
“อยากเห็นหน้าของเหลนน่ะ” (เผื่องงลูกของหลาน)
“นั่นมัน…..ก็จริงนะ ถ้าไม่รีบแต่งงานก็คงไม่ได้เห็น”
โซอิจิโร่หัวเราะออกมาชุดใหญ่
สำหรับยุซุรุนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าขำเลย
เพราะยุซุรุอาศัยอยู่คนเดียว ปกติจึงไม่ค่อยได้เจอหน้าปู่ แต่พอกลับไปที่บ้านของครอบครัวนั้นมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอหน้ากัน
ถูกบอกไว้ว่า วันหยุดยาวช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไม่แน่อาจจะได้ดูตัวก็เป็นไปได้
“ไม่ใช่ว่ามีคนที่ชอบหรือ ไม่ใช่ว่าเคยมีความรักหรอกนะ แต่ว่าหลังจากนี้ไปถ้าอยากจะมีมันจะถูกเรื่องคู่หมั้นขวางไว้น่ะสิ ไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความตั้งใจจะหมั้นด้วยเลยแท้ๆแต่ให้ไปดูตัวมันก็เสียเวลาเปล่านะ……มันพอจะมีทางที่จะเลี่ยงได้ไหมนะ?”
“ถ้างั้น…..ลองใช้วิธีกำหนดความต้องการแบบเว่อร์ๆออกไปดูมั้ย?”
“ความต้องการแบบเว่อร์ๆ?”
“ถ้าอยากให้ผมไปดูล่ะก็ พาสาวที่งามสุดๆมาสิ! ประมาณเนี้ย”
“นั่นมัน…..อืม เข้าท่าเลยนะ ……แล้วความต้องการเว่อร์ๆเนี่ย ต้องมีอะไรบ้างล่ะ?”
“อืมม อย่างเช่นผมสีบลอนด์ตาสีฟ้าล่ะมั้ง? ปู่ของนาย คงหามาไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ?”
“ไม่อะ อาจจะพาคนต่างชาติมาก็ได้ ปู่ของชั้นก็มีเส้นสายอยู่ต่างประเทศด้วยนะ”
มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะหาได้ในญี่ปุ่น แต่ว่าอย่าได้ประเมินพลังความต้องการของคนแก่ที่อยากเห็นหน้าของเหลนต่ำไป
“ถ้ากำหนดไปว่าต้องคล่องภาษาญี่ปุ่นล่ะ? เพราะถ้ามีกำแพงทางภาษาแล้วมันน่ารำคาญ สัญชาติญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ขอคนที่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นน่ะ ถ้าตั้งกำกรอบไว้ขนาดนี้ล่ะก็ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเจอใช่มั้ยล่ะ?”
“ก็จริงนะ…..ช่างเถอะ จะรับมาเป็นเจ้าสาวทั้งทีก็ต้องหาคนที่รู้หัวนอนปลายเท้าด้วย อีกอย่างถ้าหาคนที่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นก็จริงที่เป็นเรื่องยาก…..อืม เอาแบบนั้นแหละ”
ในเวลานั้นยุซุรุก็ตัดสินใจเอาแบบนั้น
ประจวบเหมาะ มือถือนั้นก็ดังขึ้น
“ครับ ฮัลโหลครับ”
‘ยุซุรุ! วันหยุดยาว ถ้ากลับมาที่บ้าน…..จะยอมไปดูตัวได้ไหมน่อ? นี่เป็นคำขอแรกในชีวิตเลยนะ ในตอนที่ยังมีชีวิตปู่อยากเห็นหน้าเหลน……’
“ได้สิ”
‘ไม่ว่าอะไรก็…….เอ๋!? ได้หรอ ยุซุรุ!’
“แต่ว่า มีข้อแม้นะ”
ยุซุรุบอก”ความต้องการเว่อร์ๆ”ไปกับปู่ของเขาที่กำลังตะลึงอยู่อีกด้านนึงของสายโทรศัพท์
“ถ้าอีกฝ่ายเป็นสาวสวยผมบลอนด์ตาสีฟ้าล่ะก็ จะเอาเรื่องดูตัวไปคิด อา แน่นอนว่า ต้องเป็นคนที่อายุเท่ากันและเป็นคนญี่ปุ่นด้วย มันน่าลำบากใจน่ะถ้ามีกำแพงเรื่องภาษากับอายุ แล้วก็……”
ยุซุรุมองไปที่โซอิจิโร่
จากนั้นโซอิจิโร่ก็พิมบางอย่างในมือถือ และก็เอามาโชว์ให้ยุซุรุดู
ในนั้นมีข้อความถูกพิมพ์เอาไว้ ยุซุรุจึงเริ่มอ่าน
“หน้าอกใหญ่ ก้นใหญ่…..อา หรือก็คือเป็นคนที่รูปร่างดี เป็นคนอ่อนโยน สง่างาม เหมือนยามาโตะ นาเดชิโกะ แล้วก็เป็นคนที่ทำอาหารได้ ฉลาด เล่นกีฬาได้ ……แบบนี้ มันจะไปมีได้อย่างไง”
เมื่อยุซุรุพูดกับโซอิจิโร่ด้วยใบหน้าประหลาดใจ โซอิจิโร่ก็ยักไหล่
จากนั้นในหน้าจอมือถือของเขาก็ปรากฏ”ถ้าไม่มีก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ?”พิมพ์เอาไว้
‘นะ นั่นมัน….. ถะ ถึงจะเป็นปู่ก็ตาม แต่ก็มากไปหน่อยนะ…..’
“ถ้าลำบากก็ ไม่ต้องทำก็ได้นี่? ผมเองก็ไม่เดือดร้อนด้วย……”
‘คุ…..เข้าใจแล้ว จนกว่าจะถึงวันหยุดจะหาไว้ให้ เตรียมตัวรอไว้เลยนะ!’
“ครับๆ”
ยุซุรุคิดว่าจะต่องเตรียมทำไม แล้วก็วางสายไป
จากนั้นก็ถามโซอิจิโร่
“อยากจะเห็นหน้าเหลนขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ไม่รู้สิ? คงเป็นเพราะเริ่มแก่ตัวขึ้นมั้ง…..จะว่าไป คนที่ใกล้เคียงกับที่กำหนดไว้ คนใกล้ตัวก็มีด้วยนะ”
“ใกล้ตัว?”
“ยุกิชิโระไง ยุกิชิโระ อาริสะในห้องของนาย”
ยุกิชิโระ อาริสะ
เป็นเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิง ที่ค่อนข้างดังในโรงเรียน
เส้นผมออกไปทางสีน้ำตาลอ่อนๆเล็กน้อย (สีน้ำตาลอมเหลือง) ดวงตาก็เป็นสีเขียวสวยงาม
ผิวสวยงามดุจดั่งหิมะ เรียบเนียนดุจดั่งเครื่องปั้นดินเผา
ถึงตัวจะดูมีความบอบบาง แต่พอได้มองดูดีๆ ร่ากายเธอนั้นก็มีความดึงดูด
เธอมีบรรยากาศที่ตีตัวออกห่างจากทุกคน
เป็นผู้หญิงแบบนั้น
ได้ยินมาว่าเพราะว่าเธอมีความงดงามลึกลับเหมือนภาพวาด จึงถูกพวกผู้ชายมองด้วยความอิจฉา และถูกสารภาพรักอยู่บ่อยๆ
จากนั้น เพราะไม่ได้ยินเรื่องราวที่พูดกันไปเรื่อยเปื่อยนี่แล้ว จึงคิดว่าทั้งหมดนั่นถูกปฏิเสธกันหมด
“ไม่ใช่ตาสีฟ้าแต่เป็นตาสีเขียวนี่ ผมก็ดูเป็นสีน้ำตาลมากกว่าสีบลอนด์ ถึงทำอาหารเก่ง แต่เหมือนยามาโตะ นาเดชิโกะหรือป่าว……”
โชคไม่ดี ที่ไม่ใช่คนที่ใกล้ตัวพอจะรู้จักว่าเป็นคนอย่างไง
มีความสัมพันธ์ที่อย่างมากก็แค่ทักทายกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไงกับตัวเอง
“ถ้าเป็นยุกิชิโระอาริสะก็น่าสนใจอยู่นะ”
โซอิจิโร่พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งตลก
แต่ว่า ถ้าตัดเรื่องสีผมกับดวงตาออกไป บุคลิกกับความสามารถด้านงานบ้าน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเธอตรงตามเงื่อนไขที่ยุซุรุได้ตั้งไว้
“ถึงจะบอกว่าตามหาก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปแปะลงหนังสือพิมพ์โฆษณาตามหาหรอกนะ ปู่แค่ใช้ตามหาพวกลูกสาวที่รุ่นเดียวกันจากเว้นสายของปู่ ในเส้นสายของปู่เองก็ไม่รู้ว่ามียุกิชิโระด้วยรึป่าว อีกอย่าง คิดว่ายุกิชิโระจะยอมมาดูตัวกับชั้นงั้นเหรอ? ถ้าฝั่งนั้นไม่รู้สึก ก็ไม่มีการดูตัวหรอกนะ”
“ก็นะ แต่แรกการที่มาดูตัวในตอนนี้ มันก็แปลกๆนั่นแหละ”
“ใช่มะ?”
ไม่ใช่ขุนนางหรือซามูไรโบราณด้วย
แต่แรก ยุซุรุคิดว่าถ้าหา”ผู้หญิง”เจอมันก็อยู่ในระดับที่น่าสงสัย
“งั้น แค่สมมตินะ สมมติว่า……ยุกิชิโระอาริสะมาจะทำไง? ตอบรับมั้ย? นั่นก็เป็นสาวงามด้วย”
สำหรับคนที่ตกหลุมรักยุกิชิโระอาริสะหรือคนที่ถูกปฏิเสธไป ได้คู่ดูตัวกับเธอ คงเป็นการพัฒนาที่ดูโลภ
แต่ว่าสำหรับยุซุรุนั้น……
“ถึงจะคิดว่าเป็นคนที่สวย แต่ก็ไม่ได้ชอบนี่นะ ถึงจะไม่คิดว่าเป็นคนเลวร้าย จะว่าไงดี อารมณ์เหมือนเย็นชา……เป็นแบบที่ชั้นไม่ถูกด้วยน่ะ อย่างน้อย ก็ไม่อยากได้เป็นคู่แต่งงานด้วย”
ไม่ใช่ว่ายุกิชิโระอาริสะแสดงสีหน้าไม่เก่ง หรือไม่ใช่ว่าเธอควบคุมอารมณ์ไม่ได้…..
เธอนั้นดูเหมือนว่าจะปฏิเสธการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น
ไม่อยากจะมีเพื่อนและคนรักจึงได้ตีตัวห่างออกจากทุกคนอย่างเหมาะเพื่อไม่ให้หลุดออกจากกรอบของห้อง
ให้อารมณ์ประมาณนั้น
“อีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้น…..ไม่ดูตาไร้ชีวิตชีวาไปหน่อยหรอ สีก็สวยนั่นแหละ แต่ดูไม่มีความรู้สึกเลย”
ทะเลสาบที่บริสุทธิ์เกินไปที่จะมีปลาอาศัยอยู่ได้
สีของดวงตาอาริสะเป็นแบบนั้น
โซอิจิโร่เห็นด้วยกับความรู้สึกของยุซุรุที่มีต่ออาริสะแหละพยักหน้าตาม
“จากที่ว่ามาก็จริงด้วยนะ อีกอย่างถ้าจะใช้ชีวิตร่วมกับอีกฝ่ายล่ะก็……คงต้องดูที่บุคลิกมากกว่าใบหน้าสิน้า สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้ากันได้ อะไรทำนองนั้น”
ยุซุรุพยักหน้าตาม
“ใช่ใช่ การที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขนี่สำคัญ ส่วนยุกิชิโระอาริสะน่ะ…..อารมณ์เหมือนไม้ประดับเลยนะ”
ถ้าแค่มองอย่างเดียวก็เป็นอาหารตาแล้ว
ที่จริง ยุซุรุก็มีแอบมองบ้างบางครั้งเพื่อไม่ให้ถูกจับได้
แค่ได้มองผู้หญิงสวยน่ารัก ก็เหมือนได้รับการรักษา
“ล่อเล่นน่า คิดว่ายังเข้าใจหรอก เหมือนถูกมองตรงๆด้วยสีหน้าเย็นชา มันก็ประมาณนั้นแหละ”
“รู้สึกไม่ดีเลยนะ เห้ย ……..เอาเถอะ แต่ว่า ก็พอเข้าใจนิดหน่อย”
ยุซุรุกับโซอิจิโร่ลั่นหัวเราะออกมา
ในตอนนั้นยุซุรุ ยังไม่รู้
ความมุ่งมั่นของคนชราที่อยากเห็นใบหน้าเหลน
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไป
วันหยุดยาวช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ครึ่งหลังของโกลเด้นวีค
ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งในหนึ่งในโตเกียว
มีหญิงสาวผมสีน้ำตาลอมเหลืองนั่งท่าเซอิซะตัวตรงอยู่หน้ายุซุรุที่สวมชุดกิโมโน
ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดกิโมโนที่มีลวดลายดอกไฮเดรนเยียสวยงาม
เธอมีผิวขาวสวย และดวงตากับจมูกก็สมส่วน
พูดได้เลยว่าเธอเป็นสาวสวย ผู้หญิงคนนั้นได้ใช้ดวงตาสีเขียวของเธอมองยุซุรุ เอามือวางบนเสื่อทาทามิ และก้มหัว
“ยุกิชิโระ อาริสะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก…….คงไม่ใช่แบบนั้นสินะคะ”
อาริสะพูดออกมาและใช้ดวงตาที่บริสุทธิ์แต่ไร้ชีวิตชีวาของเธอมองยุซุรุ
(……ทำไมถึงเป็นแบบนี้)
ยุซุรุจับหัวของเขาและคิดในใจ
———
ระดับความเดเระของนางเอก (อัตราความสำเร็จเมื่อสารภาพรัก หรือความต้องการอยากเป็นคู่รัก) : 0%