ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) - ตอนที่ 30 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
- Home
- All Mangas
- ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)
- ตอนที่ 30 จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
ค่ายปฐมนิเทศของโรงเรียนคุณหนูนั้น มีสเกลที่ต่างจากโรงเรียนหญิงทั่วไป
นั่นก็เพราะว่ามันคือทริปล่องเรือสำราญสามวันสองคืนที่เรือสำราญของโรงเรียนหญิงโอโตริ [ควีนวอร์ช] ยังไงล่ะ
หลังจากที่ได้ลองค้นคว้าดูกับสโนว์เมื่อวานนี้ ก็ได้พบว่าเรือสำราญนั้นแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน
เรือระดับทั่วไป เรือระดับพิเศษ เรือระดับสูง แล้วก็เรือระดับชั้นยอด
ซึ่งควีนวอร์ชนั้น ถือเป็นระดับชั้นยอดนั่นเอง
แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเรือระดับทั่วไปน่ะ เป็นระดับที่ต่ำที่สุด ส่วนระดับชั้นยอดก็คือดีที่สุด (ถึงจะบอกได้ไม่แน่ไม่นอนก็เถอะ)
สิ่งอำนวยความสะดวกในเรือนั้นถือว่าสมบูรณ์แบบซะจนประหลาดใจเลยทีเดียว
ห้องรับแขกก็มีลักษณะเหมือนโรงแรมหรู ๆ มีร้านอาหารหลายอย่างเปิดให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น
อาหารตะวันตก และอาหารจีน แถมยังมีบาร์สำหรับนักเรียนด้วย (มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับพวกอาจารย์)
แล้วก็จะมีพนักงานและทีมงานมืออาชีพจะรอให้บริการอยู่ในเลานจ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าคุณหนู
มีทั้งสระว่ายน้ำที่จำลองการเล่นเซิร์ฟบนเรือ มีฟิตเนส สปา ร้านเสริมสวย ร้านค้า ห้องเด็กเล่น โถงเต้นรำ
แถมยังมีแพทย์และพยาบาลประจำอยู่บนเรือด้วย ถ้าต้องไปที่ห้องพยาบาลล่ะก็ ได้รับการรักษาเป็นอย่างดีแน่นอน
พอผมได้ดูรายละเอียดในการให้บริการของควีนวอร์ชที่อาจารย์มาริน่าแจกให้แล้ว
ผมก็ถึงกับต้องพูดว่า [นี่มันป้อมปราการเคลื่อนที่ชัด ๆ] เลยทีเดียว ส่วนสโนว์เองก็พูดว่า [อยากได้ซักครึ่งนึงของทั้งหมดนี่จังเลยนะ]
สำหรับผมกับสโนว์แล้ว นี่ถือเป็นเรือสำราญที่เราไม่คุ้นเคยเลย ถึงขนาดว่าพวกเรานี่อ้าปากค้างกันเลยทีเดียว
ในขณะที่ผมกำลังตื่นเต้น แต่สำหรับพวกคุณหนูแล้วอยู่ในระดับที่พูดได้เลยว่า [ของแบบนี้น่ะ ขึ้นมาจนเบื้อแล้วล่ะ ขอโทษทีนะ]
แล้วก็มองมาที่ผมและพูดว่า [จ้า ๆ เรือสำราญสุดหรู] พร้อมกับหาวด้วยความเบื่อหน่ายไปด้วยเลย
โดยพื้นฐานแล้ว เวลาส่วนใหญ่ของเรือจะเป็นการล่องไปในทะเล
เพราะเหตุนี้เอง โปรแกรมต่าง ๆ บนเรือเช่น การแสดงจึงมีการประกาศมาก่อนล่วงหน้า
ถ้าไม่ได้ลงจากท่าเรือไปเที่ยวชมสถานที่ไหนล่ะก็ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่าง ๆ บนเรือได้อยู่
ยังไงซะ ท้ายที่สุดแล้วจุดประสงค์ของค่ายปฐมนิเทศนี้มันก็มีขึ้นมาเพื่อให้พวกนักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กันนั่นแหละนะ
ดังนั้นแล้ว ผู้โดยสายทุกคนที่อยู่ตั้งแต่คลาส A ไปจนถึง E ก็จะอยู่บนเรือลำเดียวกันทั้งหมด
เป็นการสนับสนุนให้ปฏิสัมพันธ์โดยไม่คำนึงถึงคลาสเรียนนั่นเอง
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็ยังมีกิจกรรมในคลาสเรียนอยู่ล่ะนะ ซึ่งกิจกรรมเหล่านั้นก็จะเป็นกิจกรรมหลัก ๆ
ซึ่งพวกนักเรียนเหล่านั้นก็ถูกคาดหวังไว้ว่าจะต้องทำกิจกรรมเป็นกลุ่มตอนอยู่บนเรือโดยไม่มีข้อจำกัดอะไร
มีอิสระมากซะจนต่อให้ไม่ลงเรือก็ไม่เป็นไรเลยแหละนะ
แต่ว่าที่อุปกรณ์เวทย์จะมีมินิคอนโซลติดไว้อยู่ด้วย ฉะนั้นก็จะถูกรู้ตำแหน่งปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา
ถ้าอาจารย์มองที่จอหน้าต่างแล้วเห็นใครกำลังจะทำอะไรงี่เง่า ก็จะได้ไปจัดการได้ทันท่วงที
อาจารย์มาริน่าผู้น่าสงสาร…คงได้ปวดท้องแน่…
เอาล่ะ แน่นอนว่าค่ายปฐมนิเทศน่ะมันไม่ได้จบไปเฉย ๆ อยู่แล้ว
ผมที่เล่นเกมต้นฉบับมาแล้ว ก็เลยรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
จากที่ผมตัดสินดูแล้ว ผมไม่คิดว่าสึกิโอริจะรับมือไหวเลย แต่ครั้งนี้ผมไม่คิดว่าผมควรจะเข้าไปมีส่วนนะ
ผมตั้งใจที่จะเชียร์ตัวเอกกับนางเอกจากมุมถนน แล้วก็คอยชมยูริอยู่ห่าง ๆ
ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็ สึกิโอริกับเหล่านางเอกต้องกลับมาสนิทสนมกันมากขึ้นจากอีเวนต์นี้แน่ ๆ
เพราะแบบนี้แหละ ค่ายฝึกแห่งนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนของเหล่าตัวเอกเลยล่ะ
หายใจเข้า หายใจเข้า เข้าไว้
คราวนี้แหละ ผมจะลบการมีตัวตนของผมออกไปให้หมด แล้วไปเพลิดเพลินกับการเดินทางด้วยเรือดีกว่า
สิ่งที่ผมต้องทำก็มีแค่การซื้อของที่ระลึกให้อาจารย์กับสโนว์ แล้วก็คุณลิลลี่เท่านั้น และด้วยความมุ่งมั่นครั้งใหม่นี้ ผมก็เลยนั่งลงอยู่ในห้องรอ
ที่ที่พวกเราอยูตอนนี้ก็คือ [โตเกี่ยวเทอร์มินัล]
และในอีก 10 นาที ผมก็กำลังจะไปขึ้นเรือสำราญสุดหรู ควีนวอร์ชแล้ว…แต่บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้ผมง่วงมาก
“……”
ไม่สิ ก็นี่มันเป็นการขึ้นเรือสำราญสุดหรูครั้งแรกของผมเลยนี่นา!! มันก็ต้องประหม่าแหละ!! ยังไงก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้วรึเปล่า!!
เมื่อวานผมก็ประหม่าซะจนสโนว์บอกให้ [ไปเข้าห้องน้ำสิคะ] เลย
“……”
ถ้าเมาเรือขึ้นมาจะทำยังไงล่ะเนี่ย…เริ่มกังวลแล้วล่ะสิ…ถึงจะบอกว่าให้พาคนใช้ขึ้นเรือไปด้วยได้
แต่เขาก็บอกว่าต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง…ถึงจะทำไม่ได้แต่จริง ๆ ก็อยากพาสโนว์มาด้วยแหละนะ…แต่เธอก็ค่อนข้างคิดเยอะเลยแหละ
พื้นที่นั่งรอบนชั้น 2 เป็นพื้นที่กว้างที่สามารถใช้ได้ ซึ่งต้องเดินขึ้นมาจากโถงทางเข้าที่ทำจากกระจกทั้งหมด
ช่างเป็นภาพที่งดงามอะไรแบบนี้ การที่ได้เห็นสาว ๆ มารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่นั่งรอแบบนี้เนี่ย
และแน่นอนว่า ไม่มีใครอยู่ใกล้ผมที่เป็นผู้ชายเลยแม้แคนเดี–
“ฮิอิโระคุง”
สึกิโอริที่ใส่เครื่องแบบ นั่งไขว่ห้างแล้วยิ้มให้ผม
“รู้สึกไม่สบายเหรอ? เป็นอะไรรึเปล่า? เอาหมากฝรั่งหน่อยมั้ย?”
“……”
จู่ ๆ ตัวเอกก็เมินเหล่านางเอกแล้วมานั่งข้างผมเพราะอะไรก็ไม่รู้
ก็นะ เราอยู่กลุ่มเดียวกันนี่นา…คุณหนูเองก็พูดว่า [อยู่ใกล้ผู้ชายแบบนี้ มันทำให้รู้สึกขยะแขยงนะคะ!!] แล้วก็หายตัวไปไหนก็ไม่รู้
“ท่านพี่คะ นี่น้ำชาค่ะ เชิญเลย”
“……”
เธอยื่นชามาให้ผม
ทำไมคนที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับผมอย่างเธอ ถึงได้มาคอยดูแลผมเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาแบบนี้กันนะ?
เธอมาถามอีเวนต์ที่ผมจะเข้าร่วม แล้วก็ส่งคนใช้ไปซื้อยาแก้เมามาให้ผมด้วย
“ฮิอิโระ! ฮิอิโระ! ฉันอยากไปสระน้ำจัง สระว่ายน้ำน่ะ!”
“……”
ลาพิส นี่เธอกำลังจะบอกว่าอยากจะไปลงเล่นสระน้ำกับฉันงั้นเรอะ?
ผมเงยหน้าขึ้นมองลาพิส แล้วเธอก็พยักหน้า
“รู้แล้วล่ะ! ฉันทำเครื่องหมายสีแดงไว้ตรงกิจกรรมที่อยากทำหมดแล้วล่ะ!”
พระเจ้าแห่งยูริครับ…ได้ยินรึเปล่าครับ ผมกำลังพูดกับท่านผ่านหัวใจโดยตรงอยู่นะครับ…ต*ย…
“……”
ผมก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง
ลาพิสนี่ไม่ได้เรื่องแล้ว…ความตื่นเต้นเข้ามาเติมเต็มหัวใจจนลืมภารกิจของตัวเองไปหมดแล้ว…
ดูจะตื่นเต้นกับการที่จะได้นอนค้างกับเพื่อน ๆ มากเลย…น่ารักดีนะ (ร้องไห้)
เอาเป็นว่าตอนนี้ ลองเชิงดูก่อนละกัน
“……”
ผมยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ และโทรหาสโนว์
“ฮัลโหล ช่วยฉันด้วย (พูดแบบตรงๆ)”
‘เอ๊ะ…เอาเลยเหรอคะ…? ไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะ…? งั้นเอาเป็นว่าก่อนอื่นก็ตั้งรูปหน้าจอเป็นรูปคู่เลิฟ ๆ กับฉันดูดีมั้ยคะ…? ถ้างั้นแล้วแผนที่จะเอารูปนั้นไปโชว์ทีหลังล่ะคะ…?’
“ไม่มีใครสนใจแล้วล่ะ (แพ้ 3 ชนะ 0)”
‘เอ๋…’
“ก่อนอื่น ในตอนนี้ก็ต้องลองแย็บสเต็ปที่สองในแผนดูเลยแล้วกัน ทำให้ฉันดูทีสิ ว่าหมัดแย็บซ้ายของเธอมันเร็วขนาดไหนน่ะ ส่วนกำปั้นของฉันน่ะ มันไม่ไหวแล้วล่ะ ถึงจะขยับไม่ไหว แต่มันก็ยังสั่นอยู่แหละ”
‘เข้าใจแล้วล่ะค่ะ ถ้างั้นก็เปิดลำโพงหน่อยสิคะ’
ผมเปลี่ยนไปเปิดลำโพงแทน
“ฮัลโหลที่รัก ตอนนี้ถึงเทอร์มินัลแล้ว–“
‘ฉันได้รับการติดต่อมาจากท่านเรย์แล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นฉันขอวางสายก่อนนะคะที่รัก โชคดีนะคะ ลาก่อน’
ตู๊ด ๆ ๆ
ผมจ้องมองหน้าจอที่วางสายไปแล้วด้วยความตกใจ
คร้าบ ไม่ได้ช่วยอะไรเลยซักกะนิดเลยเฟ้ย ^ ^
“ขะ…ขอโทษนะคะท่านพี่…ดันเข้ามาขัดจังหวะซะแล้ว…พอดีเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาขึ้นเรือแล้ว…ท่านพี่ก็ไม่ยอมตอบซักคำเลย…เดี๋ยวคงต้องไปขอโทษสโนว์แล้วล่ะค่ะ…ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขัดทั้งคู่เลยนะคะ…”
“รู้อยู่แล้วล่ะ ฉันเชื่อเธออยู่แล้ว ฉันก็เป็นคนโทรเองด้วย ความเร็วที่สโนว์ทรยศฉันน่ะ มันเร็วยิ่งกว่าเสียงอีกนะ”
ผมถอนหายใจและเดินตรงไป
“ลาพิส เรย์ พวกเราต้องแยกกลุ่มกันไม่ใช่รึไง ฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเราจะต้องสนุกไปกับอีเวนต์วันนี้ แต่การมาค่ายปฐมนิเทศนี้คือการทำกิจกรรมเป็นกลุ่มนะ ถ้าพวกเธอเอาแต่ทำตามใจ พวกคนอื่นในกลุ่มก็คงน่าสงสารแย่เลยสิ”
เพราะไม่สามารถหาอะไรมาแย้งได้ล่ะมั้งนะ เรย์กับลาพิสก็เลยก้มหัวลง
“เข้าใจแล้วค่ะ…เดี๋ยวจะกลับไปหาพวกเขานะคะ”
“ฮิอิโระ ขอโทษนะ คือฉันเข้าใจจุดยืนของฉันอยู่แล้วล่ะ ขอโทษนะ”
“เห็นทั้งสองคนเข้าใจแบบนี้ฉันก็ดีใจนะ…ดีใจมากเลยล่ะ…!(น้่ำตาไหล)”
ดูเหมือนทั้งคู่จะยอมรับแต่โดยดีแล้วล่ะ
ทั้งสองคนนั้นก็แยกตัวไปเจอกับสมาชิกในกลุ่มคนอื่น ส่วนสึกิโอริที่ดูอยู่ก็ยิ้มออกมา
“จะพูดก็พูดได้นี่นา”
“ถึงปกติก็พูดแบบนี้อยู่แล้วก็เถอะนะ…แต่ว่าคุณหนูไปไหนล่ะ? แต่เดี๋ยวสิ ก็เข้าใจอยู่แหละนะว่าไม่ชอบกันน่ะ แต่ถ้ามีการเรียกให้ขึ้นเรือแล้วนี่ ถ้าไม่รวมกลุ่มกันมันจะลำบากเอานะ”
“ก็เห็นไปสนุกกับอีเวนต์ตรงนั้นอยู่นะ?”
“อีเวนต์?”
ถ้าลองมองดูดี ๆ แล้ว เหมือนจะเห็นพวกผู้หญิงกำลังทะเลาะกันอยู่เลยแฮะ
“ฮึ่ม!! เพราะแบบนี้ถึงได้เป็นแค่คนชั้นต่ำยังไงล่ะ!! ดิฉันน่ะไม่อยากเสวนากับคนชั้นต่ำอย่างพวกคุณหรอก!!”
“เดี๋ยวเถอะ พูดอะไรก็ระวังปากหน่อย ทางนี้มีกันสามคนนะยะ!”
“พวกเรากระชากหน้าเธอ ตอนที่อาจารย์ไม่เห็นเลยก็ยังได้นะ!”
“อะไร คิดว่าตัวเองสำคัญมากรึไง! คุณมาเริ่มหาเรื่องพวกฉันก่อนไม่ใช่รึไง!?”
คุณหนูถืออุปกรณ์เวทย์สร้อยคอด้วยความมั่นใจ
“โอโฮะโฮะโฮะ!! มีแค่ 3 คน คิดจะสู้กับ โอฟิเลีย ฟอน มาร์เจไลน์ผู้นี้งั้นเหรอคะ? อย่ามาล้อเล่นกันหน่อยเลยค่ะ รู้ที่ยืนตัวเองซะบ้างนะคะ”
ไม่ได้อยู่ในสายตาแปปเดียว ก็ไปกัดกับชาวบ้านอีกแล้ว!!
“สึกิโอริ หยุดเอาแต่ดูแล้วไปห้ามเร็ว!! ดูสีหน้าที่ดูมั่นใจนั่นสิ!! อีกแค่สามวิคงกลายเป็นหน้าร้องไห้แล้วมั้งนั่น!!”
“มันก็เรื่องปกตินี่นา”
“มันน่าสงสารต่างหากนะ!? จะต้องร้องไห้เลยนะนั่น!? ขอโทษนะ!! ขอโทษด้วยนะ!! คือว่า!! ฉันจะคุกเข่าขอร้องเลย ยกโทษให้เธอทีเถอะ”
ผมก้าวเข้าไประหว่างคุณหนูกับพวกสาว ๆ
รู้สึกได้เลยว่าการเดินทางที่แสนยาวนานและยากลำบากกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
[ติดตามเรื่องนี้ได้ที่ Okuse-Translator]