ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 13 แบคฮารยอน
ในตอนเช้าวันต่อมา
ฉันถูกคิมจีฮุนปลุก
ฉันค่อยๆ ลืมตาและก็เห็นคุณหมอที่ฉันเจอเมื่อคืน
รวมถึง… ‘จองฮารัง’
ที่ฉันไม่คิดว่าจะเจอเธอ
ฉันรู้สึกอับอาย
เพราะว่าจองฮารังก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
ฉันก้มหน้าลง
จองฮารังรับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของฉัน
สีหน้าของเธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คุณหมอสาวที่รับรู้ถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วน
เธอเลยพูดขึ้นมา
“ก่อนอื่น… นี่ยาที่ต้องทานทุกวัน หลังอาหาร”
“ส่วนนี่เป็นพวกยาบำรุงร่างกาย”
คุณหมอยื่นถุงยาและอธิบายยาแต่ละชนิดให้กับฉันอย่างละเอียด
จนฉันถึงกับยิ้มเหยเก
เมื่อเห็นกองยาที่ฉันต้องกินในตอนนี้
มันมากกว่าห้าอย่างที่ฉันต้องกิน
หลังจากที่จ่ายยาครบถ้วน
คุณหมอก็ขอตัวเดินออกไปพร้อมกับโค้งตัวให้กับจองฮารัง
ฉันเห็นท่าทางของคุณหมอที่ทำโค้งตัวทำความเคารพให้กับจองฮารัง
ฉันถึงรู้ว่าตอนนี้
ฉันอยู่ในกิลด์อึนบิชซองโซซึ่งเป็นกิลด์ของจองฮารัง
มันทำให้ฉันตกใจไม่น้อยเลย
เพราะฉันไม่คิดว่าตัวเองจะมาอยู่ภายในกิลด์อึนบิชซองโซ
แถมคิมจีฮุนก็ไม่ได้เข้ากิลด์ของจองฮารังด้วย
การที่เข้ามาอยู่ในกิลด์ของจองฮารังได้
หรือว่า… คิมจีฮุนจะเข้ากิลด์อึนบิชซองโซแล้ว!?
ถ้าหากเป็นแบบนั้นเนื้อเรื่องนิยายหลังจากนี้คงเปลี่ยนไปแล้ว
มันเป็นเพราะฉัน
ฉันเป็นคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้ขึ้น
หลังจากนี้ฉันคงไม่อาจใช้ความรู้หลายๆ อย่างจากเนื้อเรื่องนิยายที่ฉันรู้ได้แล้ว
ฉันถอนหายใจออกมา
ฉันรู้สึกกังวล
แต่ว่าอย่างน้อยมันก็มีเรื่องดีๆ อยู่
อย่างน้อยคิมจีฮุนจะมีทรัพยากรจำนวนมากให้พัฒนาตัวเอง
นั่นหมายความว่าในช่วงเริ่มต้นของนิยาย
คิมจีฮุนจะแข็งแกร่งและเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่าในนิยายต้นฉบับ
ฉันคิดในใจอยู่นาน
“คิดอะไรอยู่หรอ? ซอยอน?”
“อ๊ะ…”
ฉันตกใจเมื่อเห็นหน้าของจองฮารังที่ยื่นเข้ามาหาฉัน
“คะ.. คือว่า”
ฉันไม่รู้จะตอบอะไรไปดี
ฉันกระวนกระวายเพราะว่าจู่ๆ จองฮารังก็ยื่นหน้าเข้ามาทำให้ฉันตกใจ
“อย่าแกล้งซอยอน”
คิมจีฮุนดึงคอเสื้อของจองฮารังถอยกลับไป
“ฉันเองก็เป็นห่วงซอยอนเหมือนกันนะ”
จองฮารังพูดพร้อมกับแสดงท่าทางไม่พอใจและพองแก้ม
ฉันมองหน้าจองฮารัง
ในนิยายจองฮารังก็นิสัยแบบนี้
ในเวลาปกติเธอมักจะขี้เล่น สนุกสนานและน่ารัก
ทว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นช่วงเวลาที่เธอจริงจัง
เธอก็เด็ดขาดและน่าเชื่อถือ
พอเห็นนางเอกของนิยายตรงหน้าที่มีชีวิตอยู่จริงๆ
หลังจากที่ทิ้งอคติและความกังวลทั้งหมดไปแล้ว
ฉันก็รู้สึกดีกับจองฮารังมากขึ้น
“ขอบคุณนะ ฮารัง”
ฉันขอบคุณพร้อมกับโค้งหัว
อา… โค้งหัวยังไม่ไหวแหะ
แค่โค้งหัวนิดหน่อยฉันก็มึนหัวแล้ว
“ไหวไหมน่ะ?”
จองฮารังพยุงเมื่อเธอเห็นท่าทางโซเซจะล้มลงนอนบนเตียงเพียงแค่โค้งตัวนิดหน่อย
“…ไม่เป็นไร”
ฉันนอนเอนหลังพิงกับหัวเตียง
“นอนพักสักหน่อยค่อยกลับนะ เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
จองฮารังพูดขึ้นมา
เธอยื่นแก้วน้ำให้ฉัน
ฉันพยักหน้าขอบคุณเธอเล็กน้อยและจิบน้ำที่เธอยื่นมาให้
ฉัน จองฮารังและคิมจีฮุน
พวกเราพูดคุยกันสามคนจนเวลาผ่านไปจนเลยช่วงบ่าย
คุณหมอถึงเดินเข้ามาบอกให้ฉันกลับบ้านได้
“ว่าแต่บ้านของซอยอนอยู่ที่ไหนหรอ?”
“….อ่า”
ฉันลากเสียงยาวเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี
จะบอกว่าฉันตอนนี้อยู่บ้านเดียวกับคิมจีฮุนหรอ?
ไม่ได้อยู่แล้ว!
ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ของจองฮารังกับคิมจีฮุนจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ!?
จองฮารังอาจจะคิดว่าฉันมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับคิมจีฮุนก็ได้!
ซึ่งฉันกับเขา พวกเราเป็นแค่ ‘เพื่อน’ กันเท่านั้น
หัวของฉันกำลังประมวลผลเพื่อหาคำตอบ
“เธออยู่กับฉัน”
ฉันหันขวับไปหาคิมจีฮุน
ฉันอ้าปากค้าง
ฉันไม่คิดว่าเขาจะบอกออกไปตรงๆ แบบนั้น!
จองฮารังที่ได้ยิน
เธอช็อคตาโตเลย
‘นายพูดอะไรไปน่ะ!?’
ฉันพยายามส่งสายตาบอกกับคิมจีฮุน
แต่เขาก็ไม่สนใจสายตาของฉัน
“อะฮะฮะ… ฉันไม่คิดว่าพวกเธอจะสนิทกันขนาดนั้นเลยนะเนี่ย”
จองฮารังหัวเราะแห้งออกมา
“ไม่ใช่แบบนั้นนะ! เอ่อ.. พวกเราเป็นแค่เพื่อน.. เพื่อนสมัยเด็กเลยสนิทกันน่ะ!”
ฉันพยายามพูดข้อแก้ตัว
ท่าทางลุกลี้ลุกลนของฉันคงน่าตลกมาก
เพราะคิมจีฮุนแอบยิ้มมุมปากพร้อมกับส่งเสียง ‘หึ’ ออกมา
ฉันเห็นแบบนั้นฉันอยากจะลุกออกจากเตียงและแทงเข่าใส่เขาจริงๆ
“เฮ้ออ…”
ฉันถอนหายใจยาวๆ ออกมา
ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดใจแล้วสิ
พอนึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรไป
‘เป็นแค่เพื่อน’
ใช่ ฉันกับคิมจีฮุนเป็นแค่เพื่อน
แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเศร้า
ช่างเถอะ…
หลังจากนั้นจองฮารังก็พาฉันและคิมจีฮุนมาส่งถึงกิลด์แทยังบิช
ตอนที่มาถึงกิลด์
ฉันเห็นหัวหน้ากิลด์ของแทยังบิชรีบวิ่งมาด้วย
ก็แหงสิ… เพราะว่าเจ้าของกิลด์อึนบิชซองโซเป็นคนมาส่งถึงที่เลยนี่นะ
ไม่แปลกหรอก
หน้าตาของหัวหน้ากิลด์แทยังบิช
เหมือนกับภาพวาดในนิยายเลย
ผมสีเหลือง
ดวงตาสีทอง
รูปร่างเอวที่อย่างกับนางแบบ
“จีฮุน… เกิดอะไรขึ้นน่ะ!?”
“บอกมาเลยนะ!”
“ทำไมถึงเธอมากับหัวหน้ากิลด์อึนบิชซองโซได้ล่ะ!?”
หัวหน้ากิลด์แทยังบิชเดินเข้ามาเขย่าคิมจีฮุนอย่างแรงพร้อมกับรัวคำถามไม่หยุด
ฉันเห็นแล้วก็ได้แต่ขนลุก
แรงของผู้ปลุกพลังและคนทั่วไปนั้นต่างกันมาก
ผู้ปลุกพลังโดยเฉลี่ยแล้วมีพละกำลังมากกว่าคนทั่วไปเกือบห้าเท่าตัว
แค่เห็นแรงเขย่าที่คิมจีฮุนโดนแล้ว
ถ้าหากเป็นฉัน
ฉันคงสมองไหลไปแล้ว
“พอดีเกิดเรื่องหลายๆ อย่างครับ”
“ไว้เดี๋ยวจะอธิบายอย่างละเอียด”
คิมจีฮุนหยุดหัวหน้ากิลด์แทยังบิชไว้
ก่อนที่เขาจะจัดชุดของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ
“ก่อนอื่นนี่คือเพื่อนของผม อย่างที่หัวหน้ากิลด์ทราบ”
ฉันสะดุ้งเมื่อเห็นคิมจีฮุนผายมือมาที่ฉัน
“ชะ..ชื่อ ฮันซอยอน… ค่ะ”
“งั้นหรอ? ผู้หญิงที่กุมหัวใจของจีฮุนหรอเนี่ย..”
หัวหน้ากิลด์แทยังบิชเดินวนรอบๆ ตัวฉันพร้อมกับพูดหยอกล้อออกมา
ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็ตัวแข็ง
“มะ.. ไม่-“
ยังไม่ทันที่ฉันจะปฏิเสธ เธอก็พยักหน้าและพูดขัดฉัน
“ฉัน แบคฮารยอน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
แบคฮารยอนยื่นมือมาหาฉัน
ฉันยื่นมือไปก่อนที่เธอจะเขย่ามือของฉันแรง
“หยุดเลย…”
คิมจีฮุนเข้ามาห้ามหลังจากที่แบคฮารยอนเขย่ามือของฉันไม่นาน
แต่การเขย่ามือไม่นานกลับทำให้ฉันปวดแขนไปหมด
“ซอยอน เป็นคนทั่วไปไม่ได้ปลุกพลัง”
คิมจีฮุนพูดออกมาพร้อมดึงฉันไปอยู่ด้านหลังของเขา
“จ้า… จ้า…”
แบคฮารยอนโบกมือไปมาพร้อมกับสีหน้าเอือมๆ
“ถ้างั้นก็ตามสบายนะ แล้วก็จีฮุนอย่าลืมมาอธิบายกับฉันด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น”
คิมจีฮุนพยักหน้าตอบรับก่อนที่เขาจะพาฉันเข้าไปข้างในกิลด์
คิมจีฮุนลากฉันตรงดิ่งไปที่ห้องเลย
ในระหว่างนั้นฉันก็แอบมองมือของพวกเราที่กุมกันไว้อยู่
ฉันชอบเวลาที่เขาจูงมือของฉันแบบในตอนนี้มาก
มันรู้สึกราวกับว่าหัวใจของฉันเติมเต็ม
โดยเฉพาะตอนที่จุดหมายปลายทางคือบ้านของพวกเรา
อา… ให้ตายสิ
ฉันส่ายหัวไปมาไล่ความคิดในหัวออกไป
ฉันรู้สึกร้อนที่หน้าจากความคิดในหัวระหว่างที่กำลังถูกคิมจีฮุนจูงมือ
เมื่อถึงห้อง
พวกเราถึงปล่อยมือออกจากกัน
“จะอาบน้ำหรืออยากกินอะไรก่อนไหม?”
คิมจีฮุนหันมาถามฉัน
ในช่วงระหว่างที่กำลังเดินทางกลับ
พวกเราไม่ได้แวะหาอะไรกินเลย
อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่กับคิมจีฮุน
ฉันเลยไม่รู้สึกหิว
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าฉันตื่นเต้นและกังวลเพราะจองฮารังอยู่ด้วยบนรถในตอนนั้น
ฉันเลยไม่หิวกันแน่ก็ไม่รู้
“อยากกินข้าวฝีมือจีฮุนน่ะ”
ฉันพูดออกไปพร้อมกับลูบท้องของตัวเอง
นึกถึงฝีมือการทำอาหารของคิมจีฮุนแล้ว
ฉันถึงรู้สึกอยากอาหารขึ้นมาในตอนนี้
แล้วก็…
ฉันยื่นมือไปหาคิมจีฮุน
“ขอยารักษาของฉันได้ไหม”
ฉันลืมเรื่องยารักษาของฉันไปสนิทเลย
เพราะว่ามีแต่เรื่องวุ่นวายมันเลยทำให้ฉันลืมไปเสียสนิท
ยารักษาของคุณหมอ
ฤทธิ์ยาก็ดีมาก.. ดีกว่ายาทั่วๆ ไปเยอะ
พอคิดถึงฤทธิ์ยาที่ส่งผลดีขนาดนั้นแล้ว
ฉันไม่อยากเลิกมันเลย
คิมจีฮุนนิ่งไป
“ได้ไหม…?”
ฉันดึงแขนของคิมจีฮุนมากอดไว้
ฉันไม่รู้สึกหงุดหงิดเหมือนครั้งก่อนที่คิมจีฮุนไม่ให้ยาฉัน
ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน
แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“ก็ได้… เอาไปสิ”
คิมจีฮุนยื่นยามาให้ฉัน
เป็นยาสีฟ้าที่ถูกบรรจุในขวดแก้ว
ฉันดีใจและคว้ามันมาก่อนที่จะใช้เข็มดูดมันและฉีดที่แขน
ความรู้สึกที่ดีและอ่อนไหวต่อสัมผัสที่ทำให้ฉันรู้สึกดี
โดยเฉพาะหัวของฉันมันโล่งขึ้น
มันทำให้ฉันรู้สึกเลื่อนลอยแต่ก็ยังคงมีสติ
แต่ว่าฤทธิ์ยาที่ฉันรู้สึกมันดูเหมือนจะเป็นยาที่คุณหมอของกิลด์แทยังบิชเป็นคนให้มา
อา… ฤทธิ์ยาถึงจะไม่เท่ากับของคุณหมอ
แต่ว่ามันก็ยังดีกว่าไม่มีละนะ
แต่พอคิดถึงยารักษาแล้ว…
ยารักษาสีแดงนั่น…
ฉันเข็ดกับมันไปแล้ว…
แต่ว่าความรู้สึกดีที่ได้จากมันก็สุดยอดด้วย
แต่ฉันทนความอยากที่เกิดขึ้นจากยาตัวนั้นไม่ได้…
ถ้างั้นวันหลัง ถ้าหากฉันเจอคุณหมอ
บางทีฉันอาจจะขอยาสีชมพูที่เคยฉีดก่อนหน้านั้นได้
ยาสีชมพูมันทำให้ฉันรู้สึกดีกว่ายาสีฟ้า
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกระหายอยากรู้สึกดีจนฉันขาดสติแบบสีแดงนั่น
แค่คิดถึงความสุขที่ฉันจะได้จากยาสีชมพูอันนั้น
ฉันก็อดเลียริมฝีปากไม่ได้
อยากเจอคุณหมอจัง
อยากได้ยาสีชมพูขวดนั้น
ฉันฮัมเพลงในระหว่างที่คิมจีฮุนกำลังทำอาหาร
ซึ่งใช้เวลาไม่นาน
คิมจีฮุนก็ออกมาจากห้องครัว
ฉันนั่งที่โต๊ะอาหารและมองหน้าคิมจีฮุนพร้อมกับยิ้มออกมา
คิมจีฮุนมองหน้าฉัน
สีหน้าของเขาค่อนข้างบึ้งตึง
อืม… ฉันทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ?
ไม่น่าจะมีหรอกมั้ง?
ฉันคิดในหัวก่อนจะเลิกคิดพวกนั้น
เขาถอนหายใจก่อนที่จะจัดวางจานอาหาร
ทว่าครั้งนี้การจัดวางจานค่อนข้างแปลก
ครั้งก่อนที่พวกเราทานอาหาร
พวกเราจะนั่งฝั่งตรงข้ามกัน
ตอนนี้คิมจีฮุนกลับจัดที่นั่งให้พวกเรานั่งติดกัน
ฉันสงสัยนิดหน่อยทว่าฉันก็เลิกสนใจมัน
ฉันฮัมเพลงด้วยความรู้สึกดี
ฉันขยับตัวไปมาด้วยความร่าเริง
ในตอนที่ฉันฉีดยารักษา ฉันชอบขยับตัวไปมาแบบนี้
เพราะว่าตอนที่เสื้อผ้าฉันแกว่งไปมา
ทุกครั้งที่ชุดมันเสียดสีกับผิวของฉัน
มันทำให้รู้สึกเสียววาบ
ฉันที่กำลังเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกดี
เสียงของคิมจีฮุนก็ดังมาจากด้านหลัง
“ซอยอน”
“อ๊ะ~”
ฉันส่งเสียงน่าอายออกมา
มันเป็นเพราะสัมผัสที่ฉันรู้สึก
ตอนนี้คิมจีฮุนกำลังกอดฉันจากด้านหลัง
ความรู้สึกเสียววาบเพราะความอ่อนไหวต่อสัมผัสทางกาย
ทำให้ฉันรู้สึกเสียววาบไปทั่วทุกส่วนที่คิมจีฮุนกอดฉันไว้
หน้าฉันรู้สึกร้อนก่อนที่จะหันไปหาคิมจีฮุน
“มะ.. มีอะไรหรอ?”
ฉันรู้สึกถึงลมหายใจของคิมจีฮุน
เพราะสัมผัสของฉันมันอ่อนไหวมากหลังจากที่ฉีดยารักษา
ฉันเลยรู้สึกวูบวาบทุกครั้งที่เขาหายใจออกเพราะมันมากระทบกับหูของฉัน
“……”
คิมจีฮุนมองสีหน้าของฉัน
“เพราะแบบนี้… เธอถึงโดนหมอนั่น…”
คิมจีฮุนพึมพำเสียงเบาพร้อมกับกัดริมฝีปาก
คำพูดของคิมจีฮุนมันทำให้ฉันสงสัย
“หมอนั่นอะไรหรอ?”
“ไม่มีอะไร…”
คิมจีฮุนเลิกกอดฉันและทิ้งตัวลงนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ฉัน
ก่อนที่พวกเราจะลงมือทานอาหารกัน