ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 12 ฝัน
ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
รอบๆ ตัวของฉันมันมืดไปหมด
ฉันมองเห็นร่างกายของตัวเอง
เห็นร่างกายของฉันในปัจจุบัน ‘ฮันซอยอน’
ในที่มืดแห่งนี้
ฉันเดินไปมาและรู้สึกได้ว่าฉันกำลังขยับ
ทั้งที่มันไม่น่าเป็นไปได้หากว่าตามประสาทสัมผัสของมนุษย์
ทั้งที่รอบด้านมืดไปหมดแต่กลับรับรู้ได้ว่ากำลังเคลื่อนไหว
มันแปลกแต่ฉันไม่มีทางเลือก
ฉันเดินไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว
ฉันเดินโดยไม่หยุดเพื่อหาทางออก
ทว่านานสองนานฉันก็หาทางออกไม่เจอ
ฉันทรุดตัวลงนั่งกอดเข่า
ฉันเหนื่อย
ฉันเหนื่อยมากแล้ว
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้
ฉันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายวัยมหาลัยที่กำลังจะได้ใช้ชีวิต
ฉันกลับต้องมาติดอยู่ในนิยายบัดซบที่ไม่มีแม้แต่จุดจบของเนื้อเรื่อง
ฉันกลายเป็นตัวละครที่ถูกกำหนดให้ตายก่อนเนื้อเรื่องจะเริ่มด้วยซ้ำ
หนำซ้ำยังไม่พอ
สิ่งที่ฉันต้องเจอหลังจากกลายเป็น ‘ฮันซอยอน’
มันยากเกินกว่าที่ฉันจะรับไหวแล้ว
ฉันอยากร้องไห้
ฉันอยากยอมแพ้
จิตใจของฉันมันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ฉันหลอกตัวเองไม่ไหวอีกแล้ว
หลังจากที่ฉันกลายเป็นฮันซอยอน
ร่างกายที่ป่วยหนัก
ฉันรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วทั้งตัวจนถึงขั้นที่ว่ายอมตายเสียยังดีกว่า
ฉันก็พยายามหาทางรักษาถึงมันจะต้องพึ่งยารักษาราคาแพง
ฉันต้องทนอาการป่วยและเหตุการณ์ต่างๆ มาหลายครั้งตั้งแต่กลายเป็นฮันซอยอน
ฉันในตอนนี้
ฉันเหนื่อย
เหนื่อยมากจริงๆ
หากการมีชีวิตอยู่มันเหนื่อยขนาดนี้
ฉันตายไปไม่ดีกว่าหรอ?
ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ
แต่ว่าหากฉันตายไป
ฉันจะกลับโลกเดิมของฉันได้ไหม
ฉันอยากกลับไปโลกเดิม
โลกเดิมของฉันที่เต็มไปด้วยชีวิตสงบสุข
ชีวิตของฉันในตอนนั้นที่ไม่ต้องเครียดอะไร
ชีวิตของฉันในตอนนั้นที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน
ชีวิตของฉันในตอนนั้นที่สามารถยิ้มออกมาได้จากใจจริง
ฉันอยากเจอคนรู้จักของฉัน
อยากเจอครอบครัวของฉัน
ฉันอยากเจอพ่อ แม่และน้องสาวของฉัน
แต่ว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆ งั้นหรอ
บางทีมันอาจจะไม่มีทางกลับไปได้แล้ว
ดังนั้นหากฉันจมอยู่ในที่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
จมอยู่ในสถานที่แบบนี้ตลอดไป
ไม่ต้องไปเจอกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายฉันอีก
ไม่ต้องกังวลกับทุกๆ อย่าง
เพียงแค่นั่งเฉยๆ ในที่มืดแบบนี้
ทว่าเหมือนฟ้าเล่นตลก
ฉันที่ยอมแพ้แล้ว
ตรงหน้าของฉันก็ปรากฏแสงที่ส่องระกาว
รูปทรงของแสงมันเป็นเหมือนลูกแก้ว
ฉันมองไปที่ลูกแก้วนั้น
ฉันเห็นตัวฉัน
ไม่สิ ‘ฮันซอยอน’ ต่างหาก
ความทรงจำของฮันซอยอนกำลังแสดงอยู่บนลูกแก้วที่กำลังส่องสว่าง
ภาพของฮันซอยอนที่กำลังเล่นกับคิมจีฮุนอย่างสนุกสนาน
ภาพของฮันซอยอนที่กำลังพูดคุยกับคิมจีฮุนในสวนดอกไม้
ภาพของฮันซอยอนที่กำลังนอนคุยกับคิมจีฮุนในตอนกลางคืน
ฉันรู้สึกอบอุ่นกับภาพตรงหน้า
มันเป็นภาพแห่งความสุข
แต่ว่า…
มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?
นั่นมัน ‘ฮันซอยอน’
ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของฉัน
ฉันอยากที่จะปฏิเสธมัน
แต่รู้ตัวอีกที…
ฉันก็เอื้อมมือของตัวเองไปกอดลูกแก้วนั้นไว้แล้ว
ฉันไม่รู้เพราะอะไรฉันถึงกอดมัน
มันเป็นความรู้สึกที่ฉันไม่เข้าใจ
ในตอนนั้นเองลูกแก้วนั้นก็สลายไป
เศษแสงสว่างของลูกแก้วนั้นค่อยๆ ประกอบกลายเป็นร่างของเด็กคนหนึ่ง
เบื้องหน้าของฉัน คือ ‘ฮันซอยอน’
ฮันซอยอนที่ฉันเห็นจากลูกแก้ว
ฉันพยายามจะลุกไปหาฮันซอยอน
แต่ว่าฉันเหนื่อยแล้ว
แม้แต่จะลุกฉันก็ยังไม่มีแรง
‘ขอโทษนะ’
ฉันได้ยินเสียงของฮันซอยอนขึ้นมาในหัว
มันเป็นเสียงสั้นๆ
ทว่ามันกลับทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าความอัดอั้นในใจของฉัน
มันระเบิดออกมาทั้งหมด
ฉันรับรู้ได้ถึงน้ำตาของฉันที่ไหลพรากออกมา
บดบังทัศนวิสัยของฉันไปจนหมด
ฮันซอยอนค่อยๆ เดินเข้ามาโอบกอดฉันเอาไว้
ฉันรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของฮันซอยอน
ฉันยื่นแขนจะโอบกอดกลับไป
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะโอบกอด
ทุกอย่างก็สลายไป
ในตอนนั้นเองฉันถึงรู้สึกถึงแรงที่กำลังบีบมือของฉันอยู่
ฉันพยายามจะลืมตาขึ้น
ทว่าร่างกายของฉันมันหนักมากเหลือเกิน
แต่แรงที่กำลังบีบมือของฉัน
พร้อมกับเสียงแว่วที่ลอยเข้าหูมา
มันทำให้ฉันฝืนพยายามขยับร่างกายที่หนักอึ้ง
ในที่สุดฉันลืมตาขึ้นมาให้ได้
ฉันมองเห็นทุกอย่างพร่าเลือนไปหมด
ฉันเห็นเงาร่างเลือนๆ อยู่ด้านข้างของฉัน
แต่ว่าเพียงแค่เงาร่างเลือนๆ ที่ไม่ชัดเจนแบบนั้น
ฉันกลับรู้ได้ว่านั่นคือ ‘คิมจีฮุน’
ฉันได้ยินเสียงของคิมจีฮุน
สายตาของฉันยังปรับตัวไม่ได้
ฉันเลยเพ่งสายตามองไปที่คิมจีฮุน
จนในที่สุดสายตาของฉันก็เริ่มเห็นชัดขึ้น
ฉันหันไปรอบๆ
ตอนนี้ดูเหมือนฉันจะอยู่ในห้องพยาบาล
เมื่อรับรู้ถึงสถานที่ที่ฉันอยู่แล้ว
ฉันก็หันไปมองหน้าคิมจีฮุน
“…จีฮุน”
ฉันพูดออกมาแต่ว่าคอของฉันแห้งผากจนแค่พูดสั้นๆ ก็แสบคอ
ยังไม่ทันที่ฉันจะทำอะไร
คิมจีฮุนก็กอดฉันแน่น
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาแค่กอดฉันไว้แน่นๆ
ฉันกอดและตบหลังเขาเบาๆ เป็นการตอบรับ
‘ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง’
ฉันคิดในใจ
พวกเรากอดอยู่แบบนั้นอยู่นาน
จนฉันทนความอึดอัดไม่ไหว
ฉันเลยผลักเขาออก
ซึ่งเขาก็ปล่อยฉันแต่โดยดี
“เป็นยังไงบ้าง…?”
เขาถามพร้อมกับยื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน
ฉันจิบน้ำช้าๆ ก่อนที่จะตอบเขา
“รู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ”
ฉันตอบกลับเขาไปพร้อมรอยยิ้ม
ในหัวของฉันเหตุการณ์ก่อนที่ฉันจะสลบไปที่เกิดขึ้นยังคงอยู่
แต่ในตอนนี้ฉันรู้สึก… รับมันได้
“ดีแล้ว…”
คิมจีฮุนพูดแค่นั้น
พวกเราก็ไม่พูดอะไรด้วยกันต่อเลย
เวลาค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดคิมจีฮุนก็พูดออกมา
“ซอยอน…”
“…มีอะไรหรอ?”
“…ขอโทษ”
คิมจีฮุนพูดออกมาพร้อมกับก้มหน้า
“ไม่ใช่ความผิดของจีฮุนหรอก”
ฉันส่ายหน้าไปมา
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นความผิดของฉันเอง
มันเป็นเพราะฉันทนระงับความต้องการของตัวเองไม่ได้
ทุกอย่างมันเลยเป็นแบบนี้
“ไม่…”
คิมจีฮุนอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เขาก็เงียบไป
หากเขาไม่พูดอะไร
ฉันก็ไม่ซักไซ้มันต่อ
“ฉันจะไปเรียกหมอมา”
คิมจีฮุนลุกขึ้นยืนหลังจากพูดจบ
ทว่าฉันในใจของฉันกลับไม่อยากให้เขาไป
ฉันดึงแขนเสื้อของเขาไว้
“จีฮุน…”
“รังเกียจฉันที่เป็นแบบนี้หรือเปล่า?”
ฉันถามเขาออกไป
หัวใจของฉันรู้สึกอึดอัดมาก
ความกังวลของฉันมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกเสี้ยววินาที
สิ่งที่ฉันทำต่อหน้าเขา
มันเป็นอะไรที่น่าอับอาย
มีคนเห็นสิ่งที่ฉันทำจำนวนมาก
และคนที่เห็นคนนั้นคือ ‘คิมจีฮุน’
ความสัมพันธ์เพียงหนึ่งเดียวของฉันในตอนนี้
“…ซอยอน”
“ฉันไม่มีทางรังเกียจเธอเด็ดขาด”
“งั้นหรอ.. ขอบคุณนะ”
ฉันพูดขอบคุณออกไป
คำตอบของคิมจีฮุน
มันทำให้ฉันยิ้มออกมา
มันทำให้หัวใจของฉันผ่อนคลายลง
ฉันนอนผิงกับหัวเตียง
ฉันปล่อยมือที่จับแขนเสื้อของคิมจีฮุนไป
“เดี๋ยวฉันมา”
คิมจีฮุนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตักของฉันไว้
ฉันพยักหน้าตอบรับและมองแผ่นหลังของเขาที่เดินออกไปจากห้องพยาบาล
ไม่นานคิมจีฮุนก็กลับมาพร้อมกับคุณหมอผู้หญิงที่ฉันไม่เคยเห็นหน้า
“ก่อนอื่นต้องเช็คสภาพร่างกายพื้นฐาน”
คุณหมอค่อยๆ เช็คร่างกายของฉัน
เมื่อเห็นว่าร่างกายของฉันไม่มีอะไรผิดปกติ
เธอก็หันไปบอกกับคิมจีฮุน
คิมจีฮุนที่ได้ยินคุณหมอพูดผลลัพธ์การตรวจร่างกาย
เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ทว่าคุณหมอก็มองหน้าฉันและพูดออกมาอย่างจริงจัง
“เธอจำอะไรได้ไหม?”
ฉันพยักหน้าตอบ
ฉันจำได้ทุกอย่าง
จำเหตุการณ์ที่น่าอับอายตอนนั้นได้ดี
แต่ว่าเมื่อนึกถึงตอนนั้นมันกลับทำให้หัวใจของฉันบีบแน่น
แต่มันยังอยู่ในระดับที่ฉันรับได้
คุณหมอพยักหน้า
“ก่อนอื่นเพื่อรักษา… เธอควรมาที่นี่อย่างน้อยทุกๆ สามวันเพื่อพูดคุยกับหมอ”
“และทานยาที่หมอจัดให้ทุกๆ วัน”
ฉันพยักหน้ารับ
“ขอบคุณค่ะ…”
“ถ้างั้นก็ขอให้หายไวๆ นะ”
หลังจากหมดหน้าที่คุณหมอสาวก็เดินออกไป
ฉันมองคิมจีฮุน
“ฉันทำให้นายลำบากหรือเปล่า?”
ฉันถามเขาออกไป
ฉันในตอนนี้ดูเหมือนอาการจะย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ
มันคงทำให้เขาลำบากขึ้น
ยังไม่ต้องพูดถึงค่ารักษาเลย
ค่ารักษาของฉันคงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวแน่ๆ
ฉันรู้สึกเกรงใจและอึดอัดเพราะทำให้เขาลำบาก
“…ไม่เป็นไร”
คิมจีฮุนตอบกลับสั้นๆ ก่อนที่เขาจะกุมมือของฉันไว้แน่น
“เหมือนตอนพวกเราเด็กๆ เลย”
ฉันพึมพำออกมา
ในฝันที่ฉันเห็นความทรงจำของฮันซอยอน
เวลาฮันซอยอนป่วยหนัก
คิมจีฮุนมักจะอยู่ข้างๆ เธอและคอยกุมมือเธอไว้เสมอ
“…อืม”
“บางทีฉันก็อยากย้อนเวลากลับไปในตอนนั้น”
“หากฉันร่างกายแข็งแรง จีฮุนคงไม่ต้องมาดูแลฉันแบบนี้”
ฉันพึมพำออกมาเสียงเบา
“……”
คิมจีฮุนไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาทำเพียงแค่มองหน้าของฉัน
“ฉันอยากกลับไปอยู่ในวันที่ที่ชีวิตของเราสงบสุข”
ฉันพูดออกมาจากใจจริง
ทั้งจาก ‘ฮันซอยอน’ และ ‘ตัวฉัน’
หลังพูดออกมา
ในตอนนั้นเองฉันถึงรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลออกมา
คิมจีฮุนกุมมือของฉันแน่นขึ้น
“ฉันจะทำให้ชีวิตของพวกเราสงบสุขเหมือนเดิม”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ฉันมองตาของคิมจีฮุน
สายตาที่หนักแน่นของเขา
มันทำให้ฉันเชื่อใจเขา
“อื้อ… ขอบคุณนะ”
ฉันขอบคุณเขาด้วยหัวใจที่รู้สึกอบอุ่นก่อนที่จะหลับตาลง
“หลังจากวันนี้พวกเราจะกลับบ้านได้ใช่ไหม?”
“ได้แน่นอน”
“จริงหรอ?”
“อืม”
ฉันยิ้มออกมา
เขายังคงตอบกลับออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนปกติ
แต่ฉันกลับรู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูก
…ให้ตายสิ
ฉันรู้สึกเหมือนพวกเรากลายเป็นครอบครัวเดียวกันเลย
“หลับพักผ่อนเถอะ”
คิมจีฮุนพูดขึ้นมา
ฉันถึงตอบรับเบาๆ
ก่อนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
และฉันก็หลับไป