โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 187 บทที่ 8 ตอนที่ 44
บทที่ 8 ตอนที่ 44
ตกลงแล้วมันคืออะไรกันแน่?
เมื่อถามคำถามนี้ออกไปเธอก็จะตอบกลับมาว่า「เอาล่ะผู้ท้าชิงเอ๋ย จะมีเพียงเจ้าคนเดียวงั้นเหรอ」
หากได้ถามลูกาโต้แล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาปฏิบัติตัวเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตร สหาย คนรัก หรือ ศัตรู เป็นได้ทุกอย่าง
เธอไม่เข้าใจเรื่องนั้นเลยเธอเกิดมาไม่มาพ่อแม่พี่น้อง และไม่มีชาติตระกูลต้นกำเนิด
เธอไม่มีทั้งเพื่อนและศัตรู
แต่ว่าผู้ที่ให้กำเนิดเธอมาคือใคร ไม่รู้ว่าจะเรียกพวกเขาว่าพ่อแม่ได้เต็มปากรึเปล่า
คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอที่ตื่นขึ้นมาในแว็บแรก คนที่อวยพรให้กับ “ฉัน” คนนี้
แต่เธอก็ไม่เคยได้พบเจอคนๆนั้นอีกต่อไปเพราะเธอฆ่าไปคนๆนั้นตั้งแต่ยังเด็ก
『เจ้าคือผลงานชิ้นเอกของครอบครัวเราและจะเป็นผู้สืบทอด ปกครองแผ่นดินนี้และต่อสู้เพื่อประชาชนของเจ้า』
พวกเขาพูดเช่นนั้นในวันที่เธอได้รับพลังมา และ โดนท้าต่อสู้
แต่ว่าการตัดสินมันก็ช่างง่ายดายการต่อสู้จบลงโดยไม่มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด
สิ่งที่เหลืออยู่คือปราสาทที่ถูกแช่แข็งไปด้วยพลังเวทย์อันมหาศาลและพายุหิมะที่กำลังโหมกระหน่ำ เข้าซัดทุกๆคนจนมีเพียงคนรับใช้เหลือรอดเพียงหนึ่งเดียว
เธอนั่งลงบนบัลลังก์หลังจากฆ่าพ่อแม่ของตัวเองด้วยมือคู่นี้
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชีวิตอันยาวนานและแสนน่าเบื่อ
ในปราสาทที่ถูกปกคลุมไปด้วยพายุหิมะ เธอดื่มเลือดที่ประชาชนในประเทศบริจาคมาให้และเผชิญหน้ากับคนที่คิดจะมาชิงบัลลังก์เป็นครั้งคราว
มันไม่สมเหตุสมผลเลยว่าทำไมถึงได้เข้ามาท้าสู้ทั้งๆที่อ่อนแอ แต่เธอที่ไม่มีอะไรจะทำ ก็ทำได้แค่ฆ่าผู้ท้าชิงอย่างขี้เกียจ
วันเวลาแห่งความเบื่อหน่ายผ่านพ้นไปเรื่อยๆ
ในสถานการณ์เช่นนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เธอสนุกขึ้นมาบ้างก็คือเหล่าผู้ท้าชิงบัลลังก์
ผู้มาเยือนมากหน้าหลายตา แต่ทุกครั้งที่ได้สู้นางก็เริ่มเกิดความรู้สึกปิติสุขเป็นอย่างยิ่ง
พอถามลูกาโต้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้ว……….มันคือความรู้สึก
ทุกครั้งที่เธอได้ต่อสู้จะเกิดอารมณ์ขึ้นมา แม้ว่ามันจะหายไปหลังการต่อสู้จบลง แต่เธอก็รอคอยช่วงเวลาแบบนี้มากกว่าใครๆที่จะทำให้เธอได้หายเบื่อ
ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าลูกาโต้แพ้ให้กับ “ชาย”คนหนึ่ง นางก็รู้สึก “สนใจ” ในตัวเขา
โนโซมุ เบลาตี้ ตัวตนที่เอาชนะคนรับใช้เพียงหนึ่งเดียวของเธอ
ในเวลานั้นเธอคิดว่าเขาน่าสนใจเหมือนกับผู้ท้าชิงที่ผ่านมา แต่ว่าเรื่องราวที่ได้ยินมามาจากอีกาส่งข่าวก็เป็นเรื่องไร้สาระเหลือจะเชื่อที่ไปเพิ่มความคาดหวังในตัวเธอ
『ดราก้อนสเลเยอร์』
ไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินฉายานี้แล้วจะบอกว่ามันเป็นเรื่องบ้าบอ
เมื่อ 150 ปีที่แล้ว เป็นคนเดียวที่สามารถสร้างบาดแผลร้ายแรงให้กับเธอได้ เธอจึงสนใจมาก
ในขณะนี้「ความสนใจ」ได้กลายเป็น「ความกระหาย」
ความกระหายในตัวตนของดราก้อนสเลเยอร์ นอกจากโนโซมุ เบลาตี้แล้ว ยังมีอีกหลายๆคนที่ดู “น่าสนใจ”
นี่น่ะเหรอตัวตนที่เรียกว่ามนุษย์ ตัวตนแห่งความอ่อนแอที่มีพัฒนาการไร้ขีดจำกัด
แถมยังมีหลายคนที่เก่งกาจ มันยิ่งเร้าอารมณ์เธอมากขึ้นไปอีก
เมื่อรวมกับความเป็นจริงที่ว่าเธอนั้นกระหายเลือดมนุษย์เป็นเวลานานทำให้เธอเหมือนกับได้เกิดใหม่
แต่ว่าแค่นั้นมันยังไม่พอหรอก
อยากจะได้มากกว่านี้ มากกว่าสิ่งอื่นใด
ในขณะที่เธอเกิดอารมณ์ ร่างกายของเธอก็ยิ่งร้อนผ่าวมากยิ่งขึ้นไปอีก
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
แนวรบปรากฏขึ้น อาภรณ์ปีศาจเหมันต์ที่ปกคลุมขอบเขตการมองเห็นได้เข้าหาโนโซมุ ขณะที่ทำลายซากปรักหักพังคฤหาสน์ฟรานซิส
เวทย์ที่เขาเคยเอาชนะได้ด้วยระเบิดทำลายล้างถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง
「ให้ตายเหอะ เป็นสัตว์ประหลาดรึไง……」
หน้ากำแพงน้ำแข็งบางๆที่ค่อยเข้ามาใกล้ๆโนโซมุ เขาชักดาบตั้งท่าพร้อมกับปรับลมหายใจ
แม้จะบ่นแต่การแสดงออกของเขากลับสงบนิ่ง รูม่านตาของเขาแคบลง และเขาก็มองเข้าไปใน『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ที่กำลังใกล้เข้ามา
(พลังเวทย์ที่เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม ความเร็วในการปล่อยเวทย์ที่ไม่ธรรมดา แต่……)
『ไร้นาม』ที่ถูกโซ่สีขาวผนึกวิญญาณซึ่งพันรอบมันถูกปลดปล่อยและแสงทั้งห้าสีปะทุขึ้น
เช่นเดียวกับบ่อน้ำพุร้อน พลังที่เอ่อล้นออกมาเคลือบดาบคาตานะ จากนั้นโซ่ตรวนสีขาวที่ลอยไปในอากาศหลังปลดพลังออกมาได้เต็มที่ก็กลับเข้าไปพันรอบดาบคาตานะอีกรอบ
คมดาบของ『ไร้นาม』ที่ห้อมล้อมไปด้วยโซ่ตรวนสีขาว มันมีพลังแห่งการทำลายล้างและล่องลอยปล่องแสงสว่างห้าสีออกมา
จากนั้นคมดาบมังกรที่ราวกับจะกลืนกินทุกสิ่งได้ถูกปลดปล่อยออกมา
『ขาดสะบั้น』
คมดาบที่ถูกอัดแน่นไปด้วยพลังถูกฟันเฉือนผ่าน『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ของวิโทร่าและระเบิดออก
พลังงานต้นกำเนิดซึ่งกลายเป็นคมดาบนับไม่ถ้วน ตัดผ่านอาภรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังเวทย์มหาศาล
พลังของมังกรแห่งการทำลายล้างทำลายได้แม้แต่เวทย์ของวิโทร่าที่ถูกปล่อยออกมาเป็นชุดอยู่เพียงฝ่ายเดียว
จากนั้นโนโซมุก็ฟาดฟัน『ปัดฝุ่น』ใส่อาภรณ์ต่อไป
「อึก!」
เขายังคงไล่ฟัน『อาภรณ์ปีศาจน้ำแข็ง』อย่างต่อเนื่อง
หากเฉือนอันแรกผ่านไป ก็จะมีลูกที่สองและสามตามมา
แม้ว่าจะสามารถไล่ต้อนไปได้เรื่อยๆ แต่วิโทร่าที่ปล่อยพลังเวทย์มหาศาลก็ไม่มีท่าทีอ่อนล้าแต่อย่างใด
ตอนนี้เขาควบคุมพลังของเทียแมตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขาเลยสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องใช้แรงเยอะเช่นกัน
「ท้ายที่สุดแล้วก็เอาไม่ลงงั้นเหรอเนี่ย เฮ้อ!」
แม้จะไม่ได้รับบาดแผล แต่ปากของเขาก็บิดเบี้ยวเพราะวิโทร่าเล่นโจมตีมาไม่พัก
แม้ว่าจะรับการโจมตีส่วนใหญ่ได้ก็จริงแต่ก็มีการโจมตีที่เล็ดรอดออกไปนอกระยะการโจมตีของโนโซมุเช่นกันและเริ่มทำลายพื้นที่รอบๆ
ทำให้『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ปะทะ『ขอบเขตการแยกเมือง』ซึ่งเป็นการวัดพลังกัน
และทุกครั้งที่อุปสรรคของการแยกตัวเมืองถูกทำลาย ทั้งเมืองในบริเวณนั้นจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
「บ้าเอ้ย!」
『อาภรณ์ปีศาจน้ำแข็ง』นั้นเป็นเวทย์ที่ทรงพลัง ซึ่งโนโซมุต้องใช้『ระเบิดทำลายล้าง』เข้าต่อกรเท่านั้น
แต่ว่าหากไม่ฟันอันที่มันเข้ามาใกล้ก็จะไม่มีเวลาได้เตรียมตัว
「เอาล่ะ ถ้าเจ้าไม่รีบล่ะก็เมืองนี้ก็คงจะ……….พังทลายอย่างหมดจด เจ้าจะเอาชนะฉันได้ก่อนไหม?」
วิโทร่าพูดออกมา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อเห็นภาพแปลกประหลาดต่อหน้าเธอ
ทันทีที่『ขอบเขตการแยกเมือง』อันที่สามซึ่งควรจะถูกทำลายกับถูกสร้างขึ้นมาใหม่
วิโทร่าเอียงคอเล็กน้อย และเธอก็มองที่ไปเท้าของเธอพยักหน้าอย่างพึ่งพอใจ
「เข้าใจแล้ว เล่นใช้ชีพจรมังกรเป็นแหล่งพลังงานเลยงั้นเหรอเนี่ย ตราบใดที่มหาเวทย์ และ สื่อเวทย์ไม่ถูกทำลายก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆเพราะอยู่บนชีพจรมังกร แต่ว่ามันจะมีขีดจำกัดรึเปล่าน้า……」
อุปสรรคที่ใช้กั้นตัวเมืองอาคาร์ซัมไม่เพียงแต่แข็งแกร่งทนทาน แต่ยังมีความสามารถในการฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยม
กำแพงเมืองที่สูงตระหง่านซึ่งควรจะพังลงแต่กลับถูกทดแทนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้『ขอบเขตการแยกเมือง』สามารถสร้างสิ่งกีดขวางได้ตามต้องการ ตราบใดที่ตัวปรับใช้ขอบเขตไม่ถูกทำลายลง
นอกจากนี้ หากสามารถใช้สิ่งกีดขวางเพื่อกั้นเหล่าสัตว์อสูรได้ ก็สามารถจัดการมันได้อย่างแน่นอน ในทางยุทธวิธี กลยุทธ์ และการวางหมากหลากหลายแบบ ซึ่งสามารถปรับใช้เป็นวงกว้าง
「ถ้าอย่างงั้นก็ไม่ลังเลแล้วนะ ! มาวัดกันดีกว่าระหว่างพลังทำลายล้างของฉัน กับ การฟื้นฟูสิ่งกีดขวางนั่น!」
พลังเวทย์เอ่อล้นมากขึ้นไปอีก พลังเวทย์ที่เยอะจนกว่าจะพูดออกมาเป็นคำๆเดียว เช่น กระแสพลังเวทย์เพิ่มขึ้นในขอบเขตของเมือง
ความชื้นนั้นแข็งตัว และหิมะได้กลายเป็นพายุหิมะขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่ต่อสู้
「อะ ฮะฮะฮะ………..ล้อกันเล่นปะเนี่ย?」
「มีพลังเวทย์มากแค่ไหนกันฟะ……」
มาร์ที่กำลังผ่านพื้นที่ปรับใช้ แก้มกระตุกไปพร้อมๆกับไอริส
ความรู้สึกที่พัดผ่านยิ่งกว่าการแยกตัวในเมือง ความรู้สึกของการถูกผลักลงไปยังก้นบึ้งมหาสมุทร ไม่ทำให้เพียงแต่ไอริส แม้แต่มาร์เองก็ยังสั่นเทา
『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』ถูกสร้างขึ้นอีกจำนวนมาก
บางทีเพราะพลังเวทย์ที่มากขึ้นทำให้จำนวนมันมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมไปอีก
「นี่คือสิ่งที่เจ้าจะต้องได้รับ จะทำยังไงกับเจ้านี่ดีล่ะ อะเฮือก!?」
แต่ก่อนที่เธอจะออกคำสั่งพลังเวทย์ที่เธอปลดปล่อยออกมา
คมดาบที่คมกริบปล่อยแสงทั้งห้าสีที่ถูดฟาดฟันออกไป
วินาทีถัดมาคมดาบนั่นก็พุ่งทะลุเจาะเข้าที่กลางอกของวิโทร่าพร้อมระเบิดออก
『ทะลวงแกนกลาง』
คมดาบนั่นเจาะทะลุผ่านเวทย์ของวิโทร่า ที่หนามากกว่าสิบชั้น และในขณะเดียวกันก็สร้างรูขนาดใหญ่ที่ช่องท้องของวิโทร่า นอกจากนี้พลังเวทย์ที่เธอรวบรวมมาก็มลายหายไปในคราวเดียว
「ยังคิดที่จะฟื้นฟูอีกเหรอ……!」
『ทะลวงแกนกลาง』ของโนโซมุทะลุม่านน้ำแข็งและปิดระยะห่างในคราวเดียว
จากนั้นท้องของวิโทร่าที่กำลังจะฟื้นฟูก็ถูกทะลวงไปอีกครั้ง
「อ่อก!?」
「แน่นอนว่าพลังเวทย์ของเธอน่ะสุดยอดมาก ทั้งในด้านของพลัง ด้านการทำลายล้าง และระยะโจมตี ความเร็วในการใช้งาน ต้องเรียกได้ว่าหลุดโลกสุดๆ」
ทุกสิ่งทุกอย่างของวิโทร่านั้นไม่ธรรมดา
ด้วยความเร็วที่เทียบเท่ากับ “ปรับใช้ทันที” ของไอริสแล้ว พลังโจมตียังเหนือกว่าทิม่า และยังร่ายได้ต่อเนื่องแบบลูกาโต้
「อะไรนะ…!」
ความเจ็บปวดไหลผ่านร่างกายของเธอย้อนกลับหลังจากที่เธอพยายามจะร่ายเวทย์ แต่ในวินาทีถัดมากำปั้นของโนโซมุก็ต่อยเข้าที่ข้างศีรษะของเธอ
「อ่อก!?」
แรงกระแทกนั่นทำให้จิตสำนึกของวิโทร่าสั่นสะเทือน และพลังเวทย์ที่จะเปิดใช้งานก็กระจัดกระจายไป
「แต่มันก็ยังน่ามหัศจรรย์ เพราะยังไงก็ยังหลีกหนีไม่พ้นองค์ประกอบพลังเวทย์อยู่ดี」
มีหลายสิ่งที่ต้องทำในการจะทำให้เวทมนตร์ปรากฏขึ้น
ก่อนอื่นเวทมนตร์ หากไม่มีพลังเวทย์ ก็จะไม่สามารถใช้ได้
และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ…….
「เพื่อรักษาสภาพของเวทมนตร์ให้ชัดเจนและออกมาเป็นรูปร่าง ต่อให้ละวิธีร่ายหรือไม่เขียนวงเวทย์ หรือการใช้เวทย์ต้นกำเนิด นั่นก็คือจินตนาการและจิตใจของผู้ใช้……」
「อึก!」
โนโซมุกระทืบเท้าของเขาย่ำที่ไปอกขณะที่พยายามทำให้เธอไม่หมดสติ
「หืมม!?」
「อั่ก!」
จากนั้นข้อศอกก็ถูกกระแทกลงไปที่ท้องของวิโทร่า ในขณะที่ร่างกายของเธอดิ้นรนไปด้วยความเจ็บปวด
『ไร้นาม』ที่ฟาดออกจากแขนขวาทำให้ตับของเธอขาด
ร่างกายของเธองอคดเคี้ยวด้วยความเจ็บปวด และเลือดสดๆไหลออกจากปากของเธอ
「อะอ่อก……」
เวทมนตร์นั้นเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของผู้ใช้ ดังนั้นจินตนาการและสภาพจิตใจของผู้ใช้ที่ไม่พร้อมก็จะไม่สามารถร่ายเวทย์ออกมาได้
และนั่นแหละคือปัจจัยหลักที่เป็นข้อเสียของวิโทร่า
เนื่องจากเธอไม่มี『ทักษะ』พึ่งพลังเวทย์และจินตนาการเพียงอย่างเดียวในการใช้พลังเวทย์ทำให้เธอไม่สามารถใช้งานได้หากไม่มีสภาพจิตใจที่พร้อมและจินตนาการที่ชัดเจน
「ดังนั้นเพียงแค่ทำให้สภาพจิตใจของผู้ใช้สับสนเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานเวทมนตร์ได้」
ตอนนี้วิโทร่ากำลังคดตัวไปด้วยความเจ็บปวดทำให้สภาพจิตใจของเธอไม่มั่นคง กำปั้นของโนโซมุก็ยังคงซัดเข้าที่หน้าของวิโทร่าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อโดนแรงกระแทกรุนแรงส่งผลกระทบต่อสมองก็จะทำให้จิตสำนึกของเธอสั่นคลอน
การโจมตีธรรมดาไม่สามารถทำให้สมองของวิโทร่ากระทบกระเทือนได้
ยังไงก็ตามการที่โนโซมุปลดพลังของเทียแมตมาใช้ได้อย่างเต็มที่ทำให้แม้แต่หมัดเพียวๆก็สามารถทำให้คนธรรมดาตายคาหมัดของเขาได้
「ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผลกว่าการตีรันฟันแทงเธอกว่าเยอะเลย ชอบล่ะสิ ชอบใช่ไหมล่ะ」
「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」
โนโซมุยังคงต่อยเธอต่อไปเรื่อยๆทำให้วิโทร่าสติของเธอเลือนลางเพื่อไม่ให้เธอร่ายเวทย์ได้
เธอนั้นไม่มีใครที่เทียบได้ในจักรวรรดิ เมื่อ 150 ปีก่อนเธอรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเธอได้
ทำได้แค่สังหารอีกฝ่ายอยู่ฝั่งเดียวนั่นแหละคือสิ่งที่เธอเป็น
ในทางกลับกันเธอไม่มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างจริงจังและทักษะติดตัวอยู่เลย
ตรงกันข้ามกับโนโซมุที่มีประสบการณ์ต่อสู้อย่างโชกโชนและขัดเกลาทักษะอย่างต่อเนื่องและโดน『โซ่ตรวนผนึกวิญญาณ』ที่เขายังไม่เคยรู้ความสามารถแท้จริงของมันลดศักยภาพของเขาลง
ความแตกต่างในการเติบโตทางด้านประสบการณ์ของทั้งสองฝ่ายจึงแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
「ผมน่ะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เหมือนกับคุณ ล้มพับหมดแรงหยอดน้ำข้าวต้มแทบทุกวัน แม้แต่แขนขาก็ล้าจนแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหว และยังต้องโดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวตลอดหลายปีที่ผ่านมา」
โนโซมุใช้ทุกวิถีทางเพื่อควบคุมจิตสำนึกของวิโทร่า
เขาเอาดาบกระแทกดวงตาของเธอเพื่อปิดการมองเห็น ฟันข้อต่อของเธอเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหว ทำลายปอดและอวัยวะภายใน เพื่อไม่ให้เธอสามารถหายใจได้ และทำให้ร่างกายของเธอตอบสนองได้ช้าที่สุด
แน่นอนว่าวิโทร่านั้นสมานแผลเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและความสามารถในการฟื้นฟูของเธอ แม้ว่าจะสามารถฟื้นฟูได้ทันทีแต่ความเจ็บปวดที่ถูกทรมานร่างกายของเธอไม่ได้หายไปและมันส่งผลกระทบต่อสมอง
ทักษะของโนโซมุถูกสร้างขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและโจมตีซ้ำจุดเดิมและทำลายร่างกายของวิโทร่าเหมือนกับยาพิษ
เธอโดนกระหน่ำโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ว่า……。
「ใครจะยอมอยู่เฉยๆ……..!?」
ความหนาวเย็นไหลไปตามกระดูกสันหลังของโนโซมุจากนั้นโนโซมุก็ดึงกำปั้นที่พยายามจะต่อยไปที่ท้องของเขา
ในวินาทีถัดมาหนามอันแหลมคมก็งอกออกมาจากท้องของวิโทร่า
ปีกค้างคาวอันแหลมคมโผล่ออกขณะที่เนื้อและกระดูกส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ทำให้กำปั้นของโนโซมุต้องหยุดลง
「นี่มันปีกค้างคาวงั้นเหรอ !? นี่เองก็เป็นความสามารถของแวมไพร์งั้นเหรอ!」
เขาซัดกำปั้นเขาที่หน้าของวิโทร่า
อย่างไรก็ตาม เยื่อหุ้มปีกที่งอกออกมาจากไหล่ของเธอก็รับการโจมตีของโนโซมุ
เธอพยายามเปลี่ยนร่างของตัวเองให้เป็นค้างคาว สิ่งนี้พบได้บ่อยในเหล่าแวมไพร์ ในความเป็นจริงลูกาโต้เองก็ใช้ได้เหมือนกัน
แต่ว่าการแปลงร่างของเธอนั้นต่างออกไป เธอเปลี่ยนแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น
「อะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…….เจ็บจริงๆเลยนะเนี่ย……」
การโจมตีของโนโซมุหยุดลงและวิโทร่าก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
และเมื่อเธอฟื้นตัวได้แล้วก็ยกมือขวาขึ้นจากนั้นก็เปลี่ยนแขนของเธอให้เป็นปีกค้างคาวและซัดออกไป
「อั่ก!?」
เขาก้มลงเพื่อหลบการแปลงร่างของวิโทร่า แต่ปีกที่งอกจากร่างของวิโทร่าก็พุ่งเข้าโจมตีเขาพร้อมกับเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
ปีกของมันแหลมคมราวกับดาบเหล็ก
เขานอนอยู่บนพื้นและหลีกเลี่ยงปีกค้างคาวที่บินเข้ามาใกล้ ซึ่งเขายังคงแทบ『ไร้นาม』ไปที่อกของวิโทร่า
「อั่ก!」
ซู่มมมมมม! จากนั้นท้องของเธอก็ถูกเฉือนออก
「อะ ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ในขณะที่อวัยวะภายในนั้นหลุดรอดมาจากท้องที่ฉีกขาด วิโทร่าก็หัวเราะออกมา และเปลี่ยนร่างของเธอ
แขนซ้ายของเธอเปลี่ยนเป็นปีกค้างคาวยักษ์ และปีกสองคู่ก็งอกมาจากหลังของเธอ
และปีกนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้ามาโจมตีจากทุกทิศทาง
「บ้าเอ้ย!」
เมื่อเผชิญหน้ากับปีกที่แหลมราวกับดาบโนโซมุก็ถอยกลับและต้องดึงดาบออกมา
ถ้าเป็นแบบนี้เกมที่เขาคุมอยู่จะย้ายไปฝั่งเธอทันที
หากไม่ทำเช่นนั้น โนโซมุจะปล่อย『ปัดฝุ่น』ใส่ปีกนับพันที่พุ่งออกมาจากตัววิโทร่าไม่ได้ ขณะที่เขาพยายามปิดระยะห่างอีกครั้ง
「ย๊ากกกกกกกกกกห์!」
เขาพุ่งเข้าไปจากช่องว่างที่ถูกเปิดออก แต่ปีกที่ถูกเปิดช่องว่างก็ฟื้นฟูกลับมาทันที
ต่อหน้าปีกที่เหมือนกับหุบเขาแห่งดาบ โนโซมุดึงพลังของเทียแมตออกมาและบรรเลงเพลงดาบ
เขาถือดาบที่ส่องประกายห้าสีเฉือนปีกที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
พลังเวทย์ของวิโทร่าเริ่มส่งผลกระทบต่อโลกภายนอกอีกครั้ง และตอนนี้มันถูกปล่อยออกมาแช่แข็งบรรยากาศโดยรอบ
「อั่ก!?」
「เอ้า เอ้า รับเข้าไปอีกสิ รับความรักของฉันไป!」
ตอนนี้ไม่รู้มันจะจบลงที่ใด
แรงกดดันของเธอพุ่งเข้ามามากยิ่งขึ้น
คมดาบราชันย์มังกรเฉือนผ่านพลังเวทย์หนาแน่นพิเศษของวิโทร่าใส่รูปร่างที่ผิดรูปของเธอ แต่โนโซมุกัดฟันหลังกับแรงต้านทานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาเชือนแขนขวาของวิโทร่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เลือดและพลังเวทย์ที่ปะทุออกมาเชื่อมบาดแผลในทันที
「พลังเวทย์มีมากแค่ไหนฟะเนี่ยยัยนี่ไม่ตลกเลยนะเฟ้ย!」
「ฮ่าฮ่า ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ! ฉันไม่เคยดึงพลังของตัวเองมามากขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยแม้แต่จะแปลงร่างด้วยซ้ำ! ฉันไม่คิดว่ามันอาจจะน่าตื่นเต้นกว่าหากพวกเราดวลกันด้วยกำปั้นแห่งรัก!」
วิโทร่าเหวี่ยงแขนออกมาอีกครั้ง
「ไม่มีใครเคยทำให้ฉันเอาจริงมาก่อน และไม่เคยมีใครทำให้ฉันบาดเจ็บหนักขนาดนี้ มีแต่คนยอมสยบต่อหน้าฉัน!」
พลังเวทย์ที่ขับเคลื่อนออกมาดั่งพายุหิมะทำให้พื้นดินถล่มลงมาอย่างกว้างขวาง คลื่นกระแทกไหลผ่านพวกเขา และช่องว่างระหว่างพวกเขาก็เปิดออก
「เอาล่ะจะพาฉันสนุกได้มากแค่ไหน? จะให้ฉันได้ปลดปล่อยความใคร่นี้ไปได้เท่าไหร่? โชว์ทุกสิ่งที่เป็นเจ้าให้ฉันดูซะสิ!」
แขนซ้ายที่เปลี่ยนไปถูกยื่นออกมาที่ดวงตาของโนโซมุ
「น่ารำคาญจริงวุ้ย!」
ในขณะที่โนโซมุใช้『ทะลวงแกนกลาง』ตัดผ่านช่องว่างอีกครั้ง
「ชิ!」
「อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
คมดาบและปีกเข้าปะทะกันทันที
คมดาบและแขนเข้าปะทะกันคลื่นกระแทกซัดชิ้นส่วนเนื้อที่แตกละเอียดและสิ่งสกปรกโดยรอบไป
การต่อสู้ของบุคคลที่มีพลังพอๆกันในขณะที่มันทำลายล้างไปรอบๆก็ยิ่งดุเดือดยิ่งขึ้น
เหมือนหินที่กลิ้งลงสู่ทางลาดชัน ความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่หายนะ
ป.ล.อีกสามตอนจบเนื้อเรื่องหลักแล้วมั้ง?