โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 186 บทที่ 8 ตอนที่ 43
บทที่ 8 ตอนที่ 43
ณ สถาบันโซลมินาติในใจกลางเมืองอาคาร์ซัม
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหญ่ที่สุดในหมู่พวกเขา ผู้คนหลายสิบคนมารวมตัวกันที่ชั้นใต้ดินของสนามประลอง
「ทีมควบคุมที่สาม และสี่พร้อมแล้ว และทีมควบคุมห้าและหกกำลังเตรียมพร้อม!」
「การตรวจสอบความเร็วขององค์ประกอบต้นทางและกระบวนการเชื่อมต่อเสร็จสมบูรณ์ไร้ซึ่งปัญหา」
「เอาล่ะ ! มีความคลาดเคลื่อนระหว่างการพัฒนาวงเวทย์ที่แปดและวงเวทย์ที่สิบห้า หน่วยเสริม รีบแก้ไขทันที!」
นักวิจัยในเสื้อคลุมสีขาวเดินไปเดินมาด้วยความสิ้นหวัง
พื้นห้องใต้ดินซึ่งถูกขูดไปมาถูกตกแต่งด้วยวงเวทย์หลายชั้นและแผ่นกระจกขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งวางซ้อนกัน
แผ่นกระจกที่หุ้มด้วยวงกลม และนักวิจัยหลายคนกำลังยุ่งกับการทำงานกับแผ่นกระจกแต่ละแผ่นและแผงทางด้านล่าง
ตอนนี้ทางเรากำลังเตรียมเวทย์พิธีกรรมหลายชั้นขนาดใหญ่พิเศษ
วงกลมเวทย์ในห้องใต้ดินนี่เป็นสัญลักษณ์ของอาคาร์ซัมอีกรูปแบบหนึ่ง ข้างๆ เขา มีทิม่า ไลม์ ยืนดูเหล่านักวิจัยที่กำลังประกอบวงเวทย์ให้เสร็จสมบูรณ์
สถานที่ๆเธอยืนอยู่ตอนนี้คือแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ในขอบหินปูน
แท่นบูชาที่มีวงเวทย์สี่สีเชื่อมต่อกับวงเวทย์พิธีกรรมหลายชั้นขนาดใหญ่อยู่ทางด้านหน้า และเพื่อจะเปิดใช้วงเวทย์ที่มันใหญ่ขนาดนี้
เธอหายใจออกอย่างรุนแรง ความตึงเครียดปกคลุมไปทั่วห้องใต้ดิน
「เฮ้อออออออออ……」
「เป็นอะไรรึเปล่า?」
จิฮัดที่ดูสถานการณ์พูดกับเธอ
ข้างๆเขามีอินด้าที่คอยตามติด
「ค่ะ ไม่มีปัญหา」
จากทางด้านหลังทิม่าตอบจิฮัดอย่างเงียบๆ
ตกใจเล็กน้อยกับคำตอบที่สงบของเธอ
ทิม่าอยู่ในอาคาร์ซัมเป็นเวลานานและจิฮัดรู้อดีตของเธอ
รวมทั้งถึงการที่เธอเป็นคนขี้อายด้วย
แม้จะมีพลังมหาศาลซ่อนอยู่ในร่าง แต่หัวใจกลับอ่อนแอ เหมือนกับกระดาษที่ชุ่มน้ำ และด้วยแรงเพียงน้อยนิด ก็จะฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อย่างไรก็ตามในการตอบกลับสั้นๆ ที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ พวกเราต่างมีความรู้สึกที่สอดคล้องกัน
สัญชาตญาณของจิฮัดซึ่งเคยมีประสบการณ์ต่อสู้หลายครั้งในฐานะนักรบนั้นเชื่อมั่นและบอกว่าไม่เป็นไร
「ขอให้ควบคุมวงเวทย์นี้ ฉันเองก็จะช่วยด้วย แต่มันเป็นวงเวทย์ขนาดใหญ่……」
「ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถทำให้พิธีกรรมทำงานได้ด้วยตัวเองแบบนี้……」
「เข้าใจแล้ว แล้วจะเอายังไงกับการอพยพผู้อยู่อาศัย?」
「ทางออกจากพื้นที่เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว พาออกไปได้เลย」
「งั้นก็ดี ทีนี้จะได้ตั้งสติได้สักที」
ตั้งสติได้สักที เธอคนนั้นไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน
เธอมักจะกลัวที่จะใช้พลังของตัวเองอยู่เสมอ
「……เปลี่ยนไปมากเลยนะ เธอเนี่ย」
「อืม ฉันเองก็คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากเหมือนกันค่ะ ฉันเคยเกลียดพลังที่ฉันมี แต่ตอนนี้……..ฉันดีใจที่มันทำประโยชน์ให้กับผู้คนได้ ฉันสามารถใช้มันเพื่อช่วยสหายคนสำคัญ เพราะแบบนั้นฉันจึงไม่ลังเลที่จะใช้มัน」
จิฮัดยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เธอยังคงจ้องไปยังวงเวทย์ขนาดใหญ่
ในขณะนั้นผู้ส่งสารก็เข้ามายังห้องใต้ดิน
「พวกเราได้ยืนยันแหล่งพลังต้นกำเนิดขนาดใหญ่แล้ว ที่มานั้นมาจากคฤหาสน์ฟรานซิส!」
เริ่มแล้ว
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างตึงเครียด
「เอายังไงดีการเตรียมการยังไม่พร้อมเลย!?」
「ไหนบอกว่าทำเสร็จแล้วไง!」
「ทิม่า ไม่เป็นไรแน่นะ?」
「ค่ะ!」
「เอาล่ะ ! ถ้างั้นเปิดใช้งานอุปกรณ์แยกตัวในเมือง ทุกคนเตรียมพร้อมปฏิบัติงานเต็มรูปแบบ!」
นักวิจัยทั้งหลายเริ่มเคลื่อนไหว
อพยพออกจากสถานที่ๆทำงานกันก่อนหน้านี้และย้ายไปที่ขอบของวงเวทย์
อินด้าที่ติดตามจิฮัดเองก็มาเข้าร่วม และแต่ละคนต่างกางมือออกมาและเผชิญหน้ากับวงเวทย์
หากมองใกล้ๆจะเห็นเส้นวงจรเวทย์จำนวนมากซึ่งนำไปสู่ผนังด้านนอกของห้องใต้ดิน
จากนั้นเหล่านักวิจัยที่ล้อมรอบวงเวทย์ก็เริ่มถ่ายเทพลังเวทย์ลงวงเวทย์ตรงหน้า
「เริ่มกระบวนการบูต ยืนยันการเปิดใช้งานวงเวทย์ที่หนึ่งถึงสี่」
「ถ้างั้นวงเวทย์ที่ห้าถึงสิบสองเริ่มเปิดการใช้งาน」
นักวิจัยบางคนที่ไม่ได้อยู่ที่ขอบวงเวทย์รายงานผล
「พลังเวทย์เริ่มเชื่อมต่อกับพื้นที่เป้าหมายเริ่มการเชื่อมต่อ」
「ตรวจสอบการเชื่อมต่อ ระบบแยกตัวเมืองออกจากพื้นที่ข้างเคียง พร้อมทำงานแล้วครับ」
「เริ่มปฏิบัติการแยกตัวเมือง」
ในวินาทีถัดมา พลังเวทย์จำนวนมหาศาลปะทุออกจากร่างของทิม่า
แสงเวทย์ทั้งสี่สี ได้แก่ แดง น้ำเงิน เหลือง และ เขียว กระจายไปทั่วห้องใต้ดินและไหลลงไปในวงเวทย์ที่อยู่ตรงกลาง
แท่นบูชาที่ทิม่ายืนอยู่เริ่มเรืองแสงสี่สี และสีที่แสดงถึงวงเวทย์แต่ละวงก็เริ่มเรืองแสงตอบสนอง
「วงเวทย์ขนาดใหญ่ส่วนกลางถูกเปิดใช้งานแล้วการเชื่อมโยงกับวงเวทย์ย่อยเสร็จสมบูรณ์!」
「ตรวจสอบว่ามีสื่อควบคุมใช้งานเปิดอยู่ การเชื่อมต่อของพลังเวทย์กับเส้นเลือดมังกรได้รับการยืนยัน」
โดยไม่สนใจคำพูดที่ฟังแล้วหัวจะปวด ทิม่ายังคงจดจ่อ
วงเวทย์ตรงหน้านั้นสร้างด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคของอาคาร์ซัม
และวงเวทย์นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งในการคงอยู่ของอาคาร์ซัม
ปัจจุบันอาคาร์ซัมรู้จักกันในเมืองแห่งการศึกษา แต่จริงๆแล้วยังมีอีกชื่อ
ชื่อของมันคือ『เมืองแห่งการทดสอบมหาเวทย์ เมืองเวทมนตร์อาคาร์ซัม』
การเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง การวางผังเมืองมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นในการรับมือกับการรุกรานของศัตรูต่างถิ่น โดยใช้เมืองทั้งเมืองเป็นมหาเวทมนตร์
เป็นเมืองที่สร้างเทคโนโลยีมากมายเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นเลือดมังกรที่ไหลผ่านต้นกำเนิดทีมีอยู่ในทวีปอันกว้างใหญ่
ในตอนแรก ส่วนหนึ่งของแผนนี้เป็นเมืองที่จะตั้งโดยมีสัตว์อสูรรายล้อม
แต่ว่าก็ไม่เคยได้ทดลองมหาเวทย์อย่างเต็มที่มาก่อนจนถึงปัจจุบัน
นั่นเป็นเพราะเราไม่สามารถเปิดใช้ใจกลางเมืองได้
พูดให้แม่นยำกว่านี้คือไม่มีใครสามารถเปิดใช้มหาเวทย์นี้ได้
ทิม่า ไลม์ แม้ว่าจะเป็นตระกูลที่มีอยู่มาอย่างยาวนาน แต่บุตรแห่งอภินิหารแห่งดาราได้ถือกำเนิดในตระกูลแห่งนี้
เธอเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถดึงพลังของธาตุทั้งสี่ออกมาใช้งานได้อย่างแท้จริง และยังมีพลังเวทย์ที่เหนือกว่าเผ่ามนุษย์ปกติ เธอยังเป็นคนที่มีคุณสมบัติในการเปิดใช้ชีพจรมังกร
ซึ่งมันควบคุมได้ยากกว่าหากเทียบกับต้องควบคุมพลังเวทย์ ดังนั้นการเปิดใช้วงเวทย์นี้จึงถูกพับเก็บเป็นเวลานาน
「เริ่มการตอบสนองปฏิกิริยาต่อชีพจรมังกร วงเวทย์ย่อยและวงเวทย์หลักมีความเสถียรถึงค่าที่กำหนด」
แต่ตอนนี้เธอสามารถควบคุมพลังเวทย์ได้อย่างเต็มที่แล้ว
พลังเวทย์คือการรวบรวมจิตวิญญาณของธาตุเข้าด้วยกัน พลังเวทย์ของธาตุทั้งสี่ไหลไปยังวงเวทย์ขนาดใหญ่ราวกับกระแสน้ำวนเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของเธอดึงแหล่งพลังงานที่ไร้ซึ่งสี หรือพลังงานต้นกำเนิดออกมาได้จำนวนมาก
「เริ่มการเปิดใช้งานอุปกรณ์แยกตัวเมือง!」
วงเวทย์กะพริบซ้ำๆราวกับกำลังรัวเป็นจังหวะ เริ่มเรืองแสงอย่างรุนแรง
มหาเวทย์ที่ไม่เคยมีการใช้ที่ไหนมาก่อนถูกใช้งาน ทำให้ทุกคนต่างอ้าปากค้างเมื่อได้เห็น มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังตั้งสมาธิในการใช้พลังเวทย์เพื่อควบคุมมัน
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ กำแพงคฤหาสน์ของตระกูลฟรานซิส อันหรูหราได้ถูกทำลายลงไป และเงาสองเงาที่ลอยขึ้นมาในสวนก็เข้าปะทะกัน
พื้นดินระเบิดด้วยเสียงคำรามและพายุหิมะก็ทำลายเสาหินอ่อนและผนังด้านนอกสีขาวที่สวยงาม
ดินและทรายที่บดขยี้ถูกคลื่นกระแทกพัดออกไปกลายเป็นพายุแห่งการฆ่าล้างบางและแสงประกายสีเงินระยิบระยับทำลายพื้นที่โดยรอบที่เข้าใกล้พายุนั่น
เงานั้นหลุดเข้าไปในช่องว่างที่ถูกเปิดออก วิโทร่ายิ้มออกมาด้วยความยินดีปรีดาเมื่อเห็นโนโซมุเดินเข้ามาพร้อมกับคมดาบที่พร้อมพรากชีวิตเธอ
「ฮะฮะฮะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าอันแสนดุร้ายของวิโทร่าที่ฟื้นฟูแขนขวาที่ถูกฟันขาดไปในทันที เธอเองก็ต่อยใส่โนโซมุด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
「เยี่ยมเลย เยี่ยมมากจริงๆ ! นี่เป็นครั้งแรกในรอบร้อยห้าสิบปี ที่ฉันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด!」
ขณะที่โยนชุดสีแดงเข้มที่ระยิบระยับ เธอก็ใช้การโจมตีอันทรงพลัง
มันเป็นการโจมตีธรรมดาที่ถูกอัดด้วยพลังเวทย์ แต่พลังเวทย์นั้นยิ่งกว่าพ่อมดชั้นยอดของอาณาจักรเสียอีก
แรงระเบิดทำลายพื้นที่รอบๆกระจายเป็นเศษฝุ่นหลังจากนั้น คลื่นกระแทกนั่นสามารถซัดสิ่งมีชีวิตให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้อย่างง่ายดาย
「ชิ……」
คลื่นกระแทกอันรุนแรงถูกเฉือนด้วยหนึ่งดาบสังหาร ดาบนั่นสะบั้นได้แม้แต่มวลอากาศทำลายกฏฟิสิกส์จนหมดสิ้น
คมดาบที่เต็มไปด้วยพลังของราชันย์มังกร เป็นคมดาบที่มนุษย์ที่หากรับไปเพียงครั้งเดียวก็ขึ้นสวรรค์
โนโซมุพุ่งเข้าไปในช่องว่างของพายุนั่นโดยไร้ซึ่งเสียง
แม้แต่ในสายตาของวิโทร่า ความเร็วนั้นก็เร็วมากจนในที่สุดเธอก็มองตามทัน ด้วยความเร็วที่เหนือเสียง คมดาบแห่งการโต้กลับได้ถูกปล่อยออกไป
「ว้าววววววว สุดยอดไปเลยเจ้าน่ะ!」
เมื่อคมดาบเฉือนเข้าด้านข้างของวิโทร่าเธอก็เปล่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่ใช้กำปั้นเพื่อผลักมันออกไป
เฉือนไปข้างหน้าและเฉือนลง
กำปั้นของเจ้าหญิงแห่งความตายหล่นลงสู่พื้น และดาบของโนโซมุก็ตัดผ่านระเบิดในระยะใกล้ๆ
「ฮ่าฮ่า แค่นี้ไม่เจ็บไม่คันหรอกนะ!」
แม้จะถูกผ่าครึ่งจากกำปั้นจนถึงต้นแขน แต่วิโทร่าก็ไม่แสดงท่าทีแปลกใจกลับแสดงรอยยิ้มอันน่ากลัวที่เต็มไปด้วยความสุข และพลังเวทย์ก็ยังพุ่งขึ้นสูงไปอีก
「อาฮะฮะฮะฮะฮะ!」
ขณะที่เลือดโปรยปราย แขนของเธอที่แข็งตัวก็ถูกฉีกออกวิโทร่าใช้แขนซ้ายที่ขาดออกมาเหมือนกับแส้ในขณะที่ฟื้นฟูมันไปด้วย
「อึก!」
การโต้กลับโดยไร้ซึ่งบาดแผล โนโซมุถูกกระแทกด้วยแขนซ้าย มันไม่เพียงแค่ตัดอากาศโดยรอบ แต่ยังรวมถึงพื้นที่รอบๆ
วินาทีถัดมามีแรงจำนวนมากกดทับร่างกายเขา
ความแข็งแกร่งของร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้มาจนถึงตอนนี้ โนโซมุเริ่มบิดตัวและโดดถอยหลัง หลบการโจมตีอันแสนน่ากลัวของวิโทร่าที่ใช้ทุกส่วนของร่างกายเป็นการโจมตี
(ความเร็วในการฟื้นฟูบ้าเกินไปแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดจิตใจที่โหยหาการฆ่าฟันนั่น ไม่มีวี่แววจะลดลงเพราะความเจ็บปวดเลยเหรอ……)
แม้ว่าร่างของเธอจะอาบไปด้วยเลือดของตัวเอง แต่วิโทร่าก็ยังคลั่ง
ในขณะที่เธอซึ่งหลงระเริงไปกับเลือดของตัวเอง เธอยังมีสีหน้าดีใจยิ่งขึ้นไปอีก
「ฉันเป็นฝ่ายโดนอยู่คนเดียวมันก็ยังไงอยู่น้าาาา เพราะงั้นขอเอาคืนบ้างล่ะกัน!」
ด้วยการถอนหายใจเพียงเล็กน้อย วิโทร่าปล่อยพลังเวทย์ออกจากร่างของเธอ
จากนั้นด้วยพลังเวทย์มหาศาล เวทย์จึงถูกเปิดใช้งานทันที
เสริมพลังกายด้วยพลังเวทย์อันหนาแน่นและสร้างบาเรียเวทย์เข้ามาปกป้องตัวเองในชั่วอึดใจ
วิโทร่านั้นไม่ใช้วงเวทย์ และเธอก็ไม่ร่ายด้วย
มันเป็นเวทย์ที่ถูกบังคับใช้งานตามธรรมชาติด้วยพลังเวทย์อันสูงส่งของเธอ ซึ่งมันตอบสนองกับตัววิโทร่าเองที่เป็นสื่อพลังเวทย์โดยตรง
มันเป็นวิธีการใช้เวทย์แบบดั้งเดิมนั่นก็คือละคำร่าย ไร้วงเวทย์ ซึ่งต่างจากคนส่วนใหญ่ในทวีปอาร์คมีล
เธอใช้เวทย์หลายอย่างพร้อมกัน และเริ่มจะปล่อยในเวลาเดียวกันในตอนที่โนโซมุลงจอด ตู้ม ! แรงระเบิดอันรุนแรงที่เทียบเท่ากับคมดาบมายาของเขา
「อั่ก!」
โนโซมุสามารถลงจอดได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ยังคงนิ่งเฉยกับการพุ่งเข้ามาของวิโทร่า
เขาย่อตัวต่ำลง ขยับ『ไร้นาม』อยู่ระหว่างตัวเองกับวิโทร่า ซึ่งพยายามกางแขนเข้ามา
ไร้นามของโนโซมุฟันทะลุบาเรียที่กำลังฟื้นฟูและจมเข้าไปข้างในอย่างเป็นธรรมชาติ
จากนั้นโนโซมุก็ฟันข้อไหล่ขวาเธอโดยใช้แรงที่ศัตรูพุ่งเข้ามา
แล้วทั้งสองก็เข้าปะทะกัน
ขณะที่พวกเขาตัดผ่านกันเสียงเงียบๆก็เกิดขึ้นและแขนขวาของวิโทร่าก็ขาดวิ่น
「ทำไมถึงไม่ยอมรับอ้อมกอดเค้าอ่า ทำตัวแบบนั้นใจร้ายกับสาวน้อยคนนี้เกินไปไหม? อ้อมกอดจากสาวน้อยแสนสวยเชียวนะ」
ขณะที่ฟื้นฟูแขนขวาที่ถูกตัดขาด วิโทร่าพูดด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับคำพูดของเธอ เธอนั้นกำลังมีความสุขจนน้ำลายไหลเยิ้มออกมาเลย
ความงามที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในฐานะแวมไพร์ เธอน่ากลัวจนทำให้กระดูกสันหลังนั้นเสียววาบ และความงามของเธอก็ถูกเติมเต็มในทางที่ผิด ขณะที่เธอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขในสภาพตัวโชกเลือด
「การตั้งท่าแบบนั้นมันห่างไกลจากการกอดกันปกตินะครับ แม้จะบอกว่าผมเป็นฝ่ายปฏิเสธที่ผิดก็เถอะครับ แต่ถ้ารับอ้อมกอดนั่นเข้าไปเต็มๆแล้วล่ะก็ กระดูกทั้งร่างผมของแหลกเป็นผุยผงเลยล่ะ? แล้วแวมไพร์อย่างคุณมาใจเต้นอะไรกับเรื่องแบบนี้เหรอเนี่ย……」
ในทางกลับกันโนโซมุเองก็แสดงออกอย่างสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับผิดหวังในความงามที่ถูกใช้ในทางผิดๆ
จนถึงตอนนี้โนโซมุเคยเอาแต่ทำลายโซ่ตรวนผนึกวิญญาณเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ด้วยความแม่นยำและสกิลเฉพาะตัวของเขาทำให้เทียบกับในอดีตไม่ได้เลย
อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจให้คำตอบแก่ตัวเองและลืมตาตื่นอย่างแท้จริงในฐานะดราก้อนสเลเยอร์ อาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้ เขาอยู่ในสภาพที่ จิตใจ ทักษะ และร่างกายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
ชิโนะ มิคางุระ คงคาดการณ์เอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาคงมาถึงระดับนี้ จะมีพลังที่สามารถเอาชนะภัยพิบัติเดินได้
เมื่อมองไปที่โนโซมุ วิโทร่าก็ถอนหายใจออกมา
(ยอดเลย เหมือนกับการมองเข้าไปในหุบเหวในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงจันทร์……)
ดวงตาที่ใสราวกับจะมองทุกอย่างจากมุมสูง และดวงตาที่ซ่อนความโกรธดั่งแม็กม่า มันเป็นธรรมชาติ เหมือนกับหญ้าอ่อนที่จำนนต่อสายลมแต่มีลักษณะในนึกถึงต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกลงในดิน
ตัวตนที่ผสมความขัดแย้งต่างๆเข้าด้วยกันทำให้เธอใจเต้นรัวและทำให้เธอมีอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้นเธอก็ชูแขนขวาที่สร้างขึ้นใหม่
แขนที่เปียกโชกไปด้วยเลือดถูกปกคลุมด้วยพลังของโนโซมุที่เหลืออยู่เล็กน้อย
「อืมมม เอาไงดีน้า……」
เธอกลืนพลังตกค้างที่ติดอยู่ที่แขนเข้าไปในร่างกาย
แหล่งพลังของเทียแมตที่เหลืออยู่เผาลิ้นของวิโทร่า รสชาติที่แผ่กระจายไปบนลิ้มของเนื้อที่ไหม้เกรียมเหมือนกับน้ำหวานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้
ในขณะที่ใช้นิ้วขาวบางๆเลียน้ำลายที่เหนียวเนอะ เธอก็ลิ้มรสและกลืนกินพลังตกค้างของเทียแมตซ้ำแล้วซ้ำเล่า
「หวาาา……นี่ขนาดแค่เศษพลังของราชันย์ แม้แต่เศษพลังที่เหลือก็ยังเผาไหม้ลิ้นของฉัน……มันน่าตื่นเต้นแล้วอร่อยเหาะสุดๆไปเลย………อูววววววว หมดซะแล้ว!」
ดวงตาของวิโทร่าที่มีความสุข นั้นอันตรายยิ่งขึ้น
วินาทีถัดมาเธอเข้าหาโนโซมุด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว
ตามด้วยเสียงระเบิดในอากาศ เธอเคลื่อนไหวเร็วเหนือเสียง และเสียงที่เร็วเหมือนดั่งฟ้าผ่านั้นเร็วยิ่งกว่าตัวของโนโซมุเสียอีก
「หะ……」
แม้แต่การเคลื่อนไหวที่เร็วยิ่งกว่าเขาก็ยังถูดสะบั้นด้วยดาบเล่มเดียว
『ไร้นาม』ที่ถูกตกแต่งด้วยพลังทั้งห้าสีและโซ่สีขาวถูกใช้อย่างประณีตเพื่อสกัดกั้นคลื่นพายุ ในเวลาไม่ถึงวินาที กำปั้นของเธอถูกเฉือนออก และมันรุนแรงพอที่จะซัดพื้นที่รอบๆปลิวกระจาย
จากนั้น คมดาบที่ย้อนกลับมาก็ฟันขาขวาของวิโทร่า
「อ๋อย เจ็บน้าาา!」
วิโทร่าที่สูญเสียขาก็สูญเสียการทรงตัว โนโซมุคว้าแขนของเธอด้วยมือซ้ายในขณะที่กำปั้นของเธอแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและหมุนร่างของเธอลงกับพื้น
จากนั้นก็ยกร่างของวิโทร่าไปในอากาศขณะที่ร่างของเธอลอยด้วยแรงที่มากเกินไป การโจมตีของเธอก็กระแทกเข้ากับพื้นโดยไม่มีโอกาสได้สวนกลับ
「หาาาาาาาาาาาาา!」
ตู้มมมมมม ! มีเสียงดังทุ้มหนาหูตกลงมา วิโทร่าที่พุ่งไปด้านหลังและลอยไปในอากาศในขณะที่พื้นดินรอบๆถล่มลง
นอกจากนี้หมัดซ้ายของโนโซมุยังทลวงสีข้างของเธอที่เป็นลมล้มพับด้วยความเจ็บปวด
ขา สะโพก ไหล่ แขน ทุกอย่างปลิวหายไปในหมัดๆเดียว แม้จะเป็นแวมไพร์ แต่ก็ต้องใช้พลังเวทย์ในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การทำให้อวัยวะภายในหลายๆส่วนแตกออกไปทำให้ร่างของวิโทร่าปลิวว่อน
ตามมาด้วยหมัดอีกสองสามหมัด
ร่างของวิโทร่ากระเด็นใส่พื้นอยู่หลายครั้งพุ่งชนกำแพงคฤหาสน์ฟรานซิส เศษหินอ่อนและควันห่อหุ้มร่างเธอในพริบตา
ความเงียบสงบเกิดขึ้นในทันที
「สุดยอด……」
ก่อนที่จะรู้ตัวไอริสและคนอื่นๆก็พูดออกมาด้วยความตกใจ
「……ท้ายที่สุดแล้ว ยังโหยหาตัวผมอีกรึเปล่าครับ ทั้งๆที่ผมปฏิเสธไปตั้งขนาดนี้แท้ๆ」
ราวกับจะยืนยันคำพูด วิโทร่าโผล่ออกมา
แขนขวาที่ถูกตัดขาด อวัยวะภายในที่ถูกบดขยี้ กระดูกสันหลังที่แตกหัก ได้รับการฟื้นฟู
「โนโซมุ เบลาตี้ เธอที่เป็นสุภาพบุรุษกระทำรุนแรงกับสาวน้อยแบบนี้จะไม่เป็นแผลทางใจบ้างเหรอ?」
และแม้ว่าเธอจะถูกซัดจนหมดทีท่ายังไงก็ยังยิงมุขออกมาอย่างต่อเนื่อง
「ถ้าไม่ชอบที่ผมปฏิบัติกับคุณแบบนี้ก็กลับบ้านไปได้แล้วครับ ผมไม่ค่อยอยากต่อยตีกับสาวสวยหน้าตาดีแบบคุณเท่าไหร่ ทำแล้วมันไม่สนุก เสียสุขภาพจิตอีกต่างหาก」
「เฮ้อ ทัศนคติไร้สาระเสียจริงนะ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนในชีวิตเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่ฉันได้สู้กับเจ้าเนี่ยสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย แต่เจ้ากลับเบื่อฉันแล้วอะ」
「ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วย แต่ผมไม่ค่อยถูกจริตกับคุณเท่าไหร่ ไปหาเรื่องคนอื่นเถอะครับ」
「อ้าาา อย่าปฏิเสธกันแบบนั้นสิ มันยิ่งทำให้ฉันฟินมากกว่าเดิม อยากหิ้วกลับบ้านมากกว่าเดิมอีกอ่ะ!」(TN:เออตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมอินคิวบัสกับซัคคิวบัสถึงได้แพ้นาง)
แม้จะแสดงท่าทีแบบนี้แต่เธอก็ยังปล่อยพลังเวทย์ออกมาเรื่อยๆ
แม้จะมองจากดาวอังคารก็บอกได้เลยว่าเป็นการปล่อยพลังเวทย์ได้สิ้นเปลืองมาก ฝุ่นกระจายไปรอบๆกลายเป็นเกล็ดหิมะ และพื้นดินรอบตัวเธอก็เริ่มแข็งตัว
แรงกดดันที่เหนือยิ่งกว่าอาเซลมังกรขาวที่เคยโจมตีโนโซมุ วิโทร่ายกมือขวาขึ้นสูง
ในพริบตา แสงก็ปกคลุมรอบตัวเธอและทะยานขึ้นบนท้องนภา
กำแพงบางๆที่ปลิวไสวไปมาเหมือนผ้าไหม แต่ว่าพลังเวทย์ที่รุนแรงซะจนเสาเอกของคฤหาสน์ฟรานซิสพังทลายลง
ความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วตัวโนโซมุ
และในขณะที่วิโทร่าควงแขนของเธอราวกับจะปัดกวาดฝุ่นรอบๆ แสงทรงกระบอกขนาดใหญ่ก็เริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆและทำลายพื้นดินที่แข็งตัว
『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์(絶氷鬼の薄衣)』
เป็นเวทย์ที่สร้างกำแพงเวทย์ใหญ่ๆหนาแน่นเป็นพิเศษที่พร้อมจะแช่แข็งศัตรูเป็นวงกว้างและบดขยี้มันจนแหลกละเอียด
กำแพงเวทย์จางๆเริ่มขยายตัวทำลายคฤหาสน์ฟรานซิสราวกับว่ามันพยายามจะทำลายพื้นที่โดยรอบด้วยหิมะ
「ตอนนี้ถ้าเป็นเจ้าคงฟันพายุหิมะนี่แล้วหนีไปได้อย่างง่ายดาย แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าคงไม่ตายดีเป็นแน่แท้ ต่อให้โดนแค่นิดเดียวก็อาจสูญเสียอวัยวะส่วนนั้นไปได้เลย มันคงเรียกได้ว่าพลังแห่งการทำลายล้างอย่างแท้จริง ใช่ม้า?」
ก่อนที่วิโทร่าจะพูดจบ โนโซมุก็เข้ามาสกัดกั้น
แขนซ้ายเขายกขึ้นพร้อมกับโซ่สีขาวที่พันรอบแขน ทันที่เขากำหมัดแน่นราวกับบังคับโซ่ก็คลายออกและพลังทั้งห้าสีก็เอ่อล้นออกมา
พลังต้นกำเนิดจำนวนมากไปรวมที่แขนซ้ายของเขา ราวกับถูกนำทางโดยโซ่ที่พันรอบๆแขนของเขา เมื่อพลังทั้งหมดมารวมกันที่แขนซ้ายโนโซมุก็กระแทกหมัดลงกับพื้น
『ระเบิดทำลายล้าง』
แหล่งพลังทั้งห้าสีพุ่งออกมาจากใต้เท้าของวิโทร่าและกลืนกิน “อาภรณ์ปีศาจเหมันต์”ของเธอและสะกดมันเอาไว้
「ฮะฮะฮะฮ่า ! จะวัดพลังงั้นเหรอ ! ก็เอาสิ!」
แม้จะถูกกลืนกินโดยพลังต้นกำเนิดของราชันย์มังกร แต่วิโทร่ายังคงดึงพลังเวทย์จำนวนมากและพยายามต่อต้าน 『ระเบิดทำลายล้าง』 ของโนโซมุ
「ฮ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกห์!」
「อะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」
เสียงตะโกนของโนโซมุและเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของวิโทร่าที่ดังก้องไปทั่ว
ระเบิดทำลายล้างพยายามระงับอาภรณ์ปีศาจเหมันต์ที่พยายามจะกลืนกินทุกสิ่ง การะปะทะกันของขั้วพลังทั้งสองนั้นทำให้เกิดระเบิดแสงวูบวาบเปล่งประกายขึ้นมา
และการวัดพลังของทั้งสองก็กำลังจะจบลง
ในขณะที่ระเบิดทำลายล้างค่อยๆกลืนกินอาภรณ์ปีศาจเหมันต์อย่างช้าๆ
ระเบิดทำลายล้างที่กลืนกินจนหมดได้ปลดปล่อยคลื่นทั้งในวงและนอกวง
คลื่นกระแทกระเบิดออกทำลายคฤหาสน์ฟรานซิสที่ถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งอย่างสมบูรณ์ ซากปรักหักพังลอยขึ้นไปในอากาศ และระเบิดทำลายล้างก็กลืนกินร่างวิโทร่า
「อะฮ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาก!」
ความตกใจนั่นทำให้เหล่าสาวๆกรีดร้อง
โนโซมุเงยหน้าขึ้นมองซากปรักหักพังของคฤหาสน์ฟรานซิสที่กำลังตกลงมา
「ฮึบ!」
โนโซมุชักดาบออกมาหนึ่งครั้งฟันเศษซากปรักหักพังจนเป็นผุยผงในครั้งเดียว
คมดาบที่มากกว่าสิบครั้งในวินาที ด้วยพลังของ 『ปัดฝุ่น』ทำให้เศษซากกระจัดกระจายไปรอบๆ
「โนโซมุ ระวัง!」
「หวาาาาาาาาาา!」
แต่ว่าขณะที่โนโซมุระวังไม่ให้เศษซากเหล่านั้นตกใส่สาวๆ มันก็ดันตกใส่หัวโนโซมุแทน
เมื่อได้ยินเสียงของไอริสเตือน โนโซมุจึงชักดาบออกมาอีกครั้ง
「โอ้ว ชิบผายล่ะ!」
กระแสน้ำวนที่เป็นเกลียวทะลวงไปด้านข้างพัดเศษซากที่ตกลงมา
พายุที่รวมพลังของขั้วตรงข้ามเข้าด้วยกัน ทำให้แม้แต่หินที่ตกลงมาก็มลายกลายเป็นฝุ่นผง
จากนั้นเงาขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้ามาในคฤหาสน์ฟรานซิส
มาร์ที่สะพายดาบใหญ่ไว้ด้านหลังปรากฏตัว
ด้วยรอยอักขระบนแขนขวาของเขาที่เปล่งประกาย เขาเข้ามายืนข้างๆโนโซมุและถอนหายใจ
「มาร์……」
「ไอ้บ้าเอ้ย มัวแต่ห่วงคนอื่นจนลืมปกป้องตัวเอง」
「ขอโทษที ช่วยได้มากเลย」
「เออ ช่างเหอะ……」
มาร์ถือดาบใหญ่ไว้ขณะหันไปมองแวมไพร์ตรงหน้า
วิโทร่ายืนอยู่พร้อมกับบาดแผลที่ฟื้นฟูเสร็จแล้ว
ร่างกายของเธอถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดของตัวเองและมาร์ก็เลิกคิ้วอย่างไม่ตั้งใจ
「เฮ้ย โนโซมุเพื่อนยาก แกเล่นซะยัยแวมไพร์นั่นเลือดท่วมตัวเลยนะเห้ย……」
「อ่า แม้ว่าจะ พยุหกำปั้น เตะยางแตก เข่าลอย ขวาตายซ้ายสลบ ขุนเข่าไร้น้ำใจ พระรามล้มยักษ์ วานรข้ามห้วย ตีรันฟันแทงยังไง ก็ฟื้นฟูได้หมดเลย แมลงสาบยังน่ารักกว่าเธอคนนี้ตั้งเยอะฆ่าแล้วตายเลย……」
คำพูดที่เต็มไปด้วยคำเสียดสีและดูถูกเหยียดยามของโนโซมุ ดูเหมือนจะเอือมระอากับยัยแวมไพร์เฮงซวยนี่จริงๆ
แม้แต่ลูกาโต้ก็ใช้เวลานานในการฟื้นตัว แต่นี่เล่นโดนปุ๊บ ฟิ้นตัวปั๊บ อย่างกับสัตว์ประหลาดในตำนานไฮดร้า
แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ลุกขึ้นมายืนเคารพธงชาติได้อย่างรวดเร็ว
พลังเวทย์ที่ไร้ก้นบึ้งนั่น และไม่รู้ว่ามีมหาศาลมากแค่ไหน
ในทางกลับกันวิโทร่ามองมาที่มาร์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
「อืม ยังมีคนที่สามารถต่อสู้กับลูกัสจังได้อีกเหรอเนี่ย? พวกมนุษย์นี่แข็งแกร่งกว่าที่คิดนะ ต้องพิจารณาใหม่แล้วสิ」
「ใช่แล้ว」
มาร์ยักไหล่จ้องมองวิโทร่า แต่มีเหงื่อเย็นๆไหลบนหน้าผากเขา
แม้ว่าจะชำนาญสกิลผสานแล้วและเติบโตพอที่จะสู้กับลูกาโต้ได้ แต่พลังของวิโทร่ามันคนละระดับกับลูกาโต้เลย
「ขอโทษด้วยนะมาร์……」
「อ่า รู้อยู่แล้วล่ะ อยู่ไปก็ถ่วงเอ็งเปล่าๆสู้ไปแบกสาวดีกว่าเยอะ」
「ฝากด้วยล่ะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมจะถ่วงเธอคนนี้ได้นานสักแค่ไหน……」
ขณะที่โนโซมุและมาร์พูดกันเงียบๆ คริสตัลน้ำแข็งก็เริ่มก่อตัวรอบวิโทร่าซึ่งเริ่มดึงพลังเวทย์มากขึ้น
「ยังจะเพิ่มพลังเวทย์ได้อีกเหรอเนี่ย………ถ้าเป็นแบบนี้ความเสียหายต่อเมืองนี้คงจะ……」
「ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกเพื่อนยากตอนนี้ถึงเวลาหยิบไพ่ตายมาใช้แล้ว……」
มาร์มองเห็นทิวทัศน์รอบๆในคฤหาสน์ฟรานซิส
ในขณะที่กำแพงแสงระยิบระยับและขนาดใหญ่ปกคลุมคฤหาสน์ฟรานซิส
นอกจากนี้ยังมีสิ่งกีดขวางจำนวนมากเกิดขึ้นรอบคฤหาสน์ฟรานซิส
เป็นสิ่งกีดขวางที่ถูกสร้างขึ้นจากคนในสถาบันโซลมินาติ
สร้างขึ้นด้วยแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าพลังเวทย์ มันมีขนาดใหญ่จนครอบคลุมหนึ่งในสามของเขตขุนนาง และแต่ละส่วนยังมีความแข็งแกร่งมากด้วย
「นี่มัน……」
「นี่คือกำแพงเวทย์จากมหาเวทย์ที่ติดตั้งในเมืองแห่งนี้ ดูเหมือนว่าพวกทิม่าจะทำได้ทันเวลาพอดี」
ด้วยรอยยิ้มของมาร์ เขาจ้องไปยังสถาบันโซลมินาติ
「แต่นั่นก็หมายความว่าออกไปข้างนอกไม่ได้ไม่ใช่เหรอไง……」
「ไม่ต้องกังวล ดูไอ้นี่」
ด้วยเหตุนี้มาร์รีบไปหาไอริสและคนอื่นๆ ยกดาบใหญ่ขึ้นและปลดปล่อยสกิลผสาน “วังวนระเบิดวายุ” ขึ้นไปบนท้องฟ้า
ในวินาทีถัดมากำแพงเดียวกันก็คลายออกรอบๆมาร์และคนอื่นๆ
「ก็ตามนั้นแหละ ขอบเขตนี้ดูเหมือนจะสามารถขยับเคลื่อนย้ายได้อิสระ」
ดูเหมือนว่าจะสามารถปรับใช้ได้ในระดับหนึ่ง
เดิมทีมันเป็นสิ่งที่ไว้ใช้รับมือการรุกรานครั้งใหญ่ อาจกล่าวได้ว่ามันต้องการอิสระระดับหนึ่ง
「แต่ว่ามีเพียงแค่ที่นี้ที่สามารถปรับได้ตามต้องการ หากมีอะไรหลุดรอดไปได้ไม่รับประกันนะเว้ย」
มันยังไม่สมบูรณ์แบบ เป็นที่ได้ชัดหากต้องการฟังก์ชั่นเสริม ประสิทธิภาพจะลดลง ทำให้สิ่งกีดขวางรอบๆไอริสอ่อนแอกว่าจุดอื่น
「……ฝากด้วยล่ะสหาย」
ถึงกระนั้นมาร์ก็จะหาทางทำอะไรสักอย่าง
โนโซมุปล่อยเพื่อนเขาออกไปและเผชิญหน้ากับวิโทร่าอีกครั้ง
「โอเค เอาตัวเกะกะออกไปได้ก็ดีสำหรับเราทั้งคู่ หากปล่อยให้คู่เต้นรำของฉันฟุ้งซ่านไปกับแมลงตัวเมียคนอื่นๆ ความบันเทิงจะหมดสนุกเอาได้ ตอนนี้ โนโซมุ เบลาตี้ มาเต้นรำกันเถอะ ตอนนี้ได้เวลาที่จะเร่งจังหวะ เพิ่มลีลาเร้าใจหน่อยแล้ว」
วินาทีถัดมาพลังเวทย์รุนแรงราวกับระเบิดลูกใหญ่ถูกปลดปล่อย โนโซมุยกแขนซ้ายขึ้นมากัน
จากนั้นพายุก็สงบลง เขาเงยหน้าขึ้นอุทานโดยไม่ตั้งใจ
「……โกหกน่า」
สภาพของเธอในตอนนี้เรียกได้ว่าอารมณ์ขบขันที่ต่อยตีกันเมื่อกี้หายไปหมดแล้ว
พลังเวทย์ที่หนาจนสามารถมองเห็นได้โอบล้อมร่างกายของวิโทร่าเหมือนกับออร่าที่ปลดปล่อยพลัง
เธอยกมือขึ้นสู่ท้องฟ้าในขณะที่ผมสีเงินของเธอปลิวไสวดั่งแสงออโรร่า
อาภรณ์ปีศาจเหมันต์ถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้มาแค่ลูกเดียว
มันยิ่งกว่าระเบิดทำลายล้างของโนโซมุ มันถูกสร้างขึ้นหนาสามสี่ชั้นซ้อนกัน
และในเวลาเดียวกันวิโทร่าก็สะบัดแขนไปรอบๆ อาภรณ์ปีศาจเหมันต์ซึ่งเรียงรายเหมือนกับแนวรบของทหารม้า ก็พุ่งเข้าหาโนโซมุพร้อมๆกัน
จะจบแล้วทั้งทีจะมาเล่นในสเกลเท่าเดิมมันก็ไม่ใช่ถูกไหม 5555
ป.ล.ค้างไปซะเถอะคนอ่าน ส่วนคนแปลขอไปนอนละ สองตอนล่อไปเกือบ 70 หน้า
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง