โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” - ตอนที่ 180 บทที่ 8 ตอนที่ 37
บทที่ 8 ตอนที่ 37
「หายไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่?」
「ดูเหมือนว่าจะหายไปเมื่อเช้านี้ เมื่อมิมูรุตื่นมาตอนเช้า เธอก็ไม่อยู่ที่ห้องแล้ว」
「กึกกึก……….ฟู่วววววววว!」
ขณะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับมิมูรุที่น้ำตาไหลออกมา ทอมบอกทุกคนที่อยู่ ณ ตรงนี้ เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
พันธสัญญาโลหิตและการเปลี่ยนแปลงของตัวซีน่า ปู่ทวดและคนคุ้มกันมารับเธอกลับไป
เมื่อมาร์และคนอื่นๆได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์จากมิมูรุ พวกเขาก็แสดงสีหน้ายากลำบาก ดวงตาของทิม่าเบิกกว้าง พูดไม่ออก
「ไม่อยากจะเชื่อเลยทำไมซีน่าถึงอยู่ในสภาพแบบนั้น……」
「ถ้าได้เห็นฉากเลิฟซีนระหว่างเจ้าหญิงผมแดงและโนโซมุในสภาพแบบนั้น คงไม่แปลกเลยถ้าเธอจะคิดลบเข้าไปอีก~~」
「เลิฟซีน!?」「ว๊าาาาาาาาาาาาาาา!」
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ตื่นตกใจฟีโอยังคงอารมณ์ดี
เขายังคงพูดเรื่องแปลกๆออกมาได้หน้าตาเฉย แต่ทิม่าและมิมูรุนั้นมีปฏิกิริยาผิดปกติกับคำพูดเหล่านั้น
「ใจเย็นๆ ทิม่าและก็ยัยแมวน้อย เข้าใจอยู่หรอก แน่นอนว่าถ้าเขารู้ว่าซีน่าอยู่ในสภาพเช่นนี้ โนโซมุเองมันก็คงช็อคแน่นอน」
มาร์ปลอบใจทิม่าและมิมูรุขณะที่หันมามองทอม
ซึ่งแตกต่างจากทิม่าที่มีอารมณ์ร่วมกับมิมูรุกับซีน่า มีคนๆหนึ่งที่ต้องใช้ความคิดจนหัวหมุน
จากสิ่งที่ได้ยินมาจากมิมูรุเป็นไปได้สูงที่ซีน่าจะสะสมความเครียดมากเกินไปและระเบิดมันออกมา
เนื่องจากเธอปฏิเสธที่จะกลับบ้านเกิดดังนั้นเธอไม่น่าจะไปจากอาคาร์ซัม
「ถ้าจะโดนลากกลับไปเธอก็คงปฏิเสธอยู่แล้ว และหากเธอระเบิดอารมณ์ออกมา ก็จะกลับมาหลังจากที่สงบสติได้นี่?」
「ก็ไม่รู้สิน้า~~!」「นั่นสินะ ถ้างั้นพวกเราควรออกไปตามหากันดีกว่า!」
ฟีโอบอกว่าปล่อยไปเถอะ แต่มิมูรุกับทิม่ากลับกังวล
คามิล่าที่ได้ยินเรื่องนี้ก็กระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข แต่เธอก็ไม่เข้าใจกับลิซ่าที่อยู่ข้างๆว่าทำอะไรลงไป
「แล้วพวกเราจะเอายังไงดีล่ะ ฉันยอมขาดเรียนไปช่วยได้นะ……」
สำหรับตอนนี้ มันดีกว่าที่จะบอกกับโนโซมุว่าเกิดอะไรขึ้นกับซีน่า ในขณะนั้นมาร์และคนอื่นๆได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดมาจากด้านหลัง
「นี่พวกเธอมาทำอะไรที่นี่」
คนที่เข้ามาคืออาจารย์อินด้าที่รับผิดชอบห้องสองของชั้นปีสามและเป็นผู้ช่วยจิฮัด
เธอหอบหายใจอย่างหนักราวกับว่าในที่สุดเธอก็พบเป้าหมาย
เธอเหลือบมองไปที่มาร์และคนอื่นๆจากนั้นหรี่ตาลงเล็กน้อย
「ฉันกำลังตามหาพวกเธออยู่พอดีเลย มีเรื่องเร่งด่วน เกิดอะไรขึ้นกับโนโซมุและซีน่ากันคะ?」
「วันนี้พวกเธอสองคนไม่ได้มา ซีน่านั้นออกจากห้องพักแต่เช้าตรู่ แล้วมีธุระอะไรกันเหรอ?」
เมื่อได้ยินว่าโนโซมุและซีน่าไม่ได้อยู่ที่นี่ ดวงตาของอินด้าก็ยิ่งกระชับขึ้น
บางทีอาจถูกกระตุ้นจากการจ้องมองที่เฉียบแหลมของอินด้า มาร์และคนอื่นๆก็ประหม่าเหมือนกัน
「มันเกี่ยวกับซีน่า มีบางอย่างที่จะต้องบอกกับพวกเธอ ตามฉันมา」
เมื่อเธอพูดแบบนั้น อินด้า ก็หันหลังราวกับว่าไม่สนใจพวกเขาอีกแล้ว และไม่มีเวลามาเล่าให้ฟังดูเหมือนว่าเธอเองก็ร้อนรนผิดปกติ และมาร์กับคนอื่นๆก็ตามอินด้ารู้สึกว่าความวิตกกังวลนั้นเพิ่มมากขึ้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
อินด้าพาเราไปที่สำนักงานของจิฮัด
ตามการกระตุ้นของอินด้า มาร์และคนอื่นๆได้เปิดประตูไม้และเข้าไปในห้อง
「ท่านจิฮัด ดิฉันพาพวกเขามาแล้วค่ะ」
「ขอบคุณนะ อินด้า」
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในสำนักงาน พวกเขาทุกคนต่างส่ายหัว เอลฟ์รูปงามยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานที่จิฮัดอยู่
「เธอคือ?」
「โอ้ววว!」
ในขณะที่มาร์และคนอื่นๆเอียงศีรษะไปที่เอลฟ์ ด้วยเหตุผลบางอย่างมิมูรุซึ่งจำบุคคลนั้นได้เผยให้เห็นเขี้ยวของเธอ
ถัดจากจิฮัดคือลอรัสที่เป็นคู่หมั้นของซีน่านั่นเอง
เขายิ้มด้วยใบหน้าที่เรียบร้อยเหมือนกับนักแสดงเวที และทักทายมาร์และคนอื่นๆที่เข้ามาในสำนักงาน
「ไม่เจอกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ รู้สึกยังไงบ้าง?」
「ทำไมมาอยู่ที่นี่! ไอ้เอลฟ์บ้านี่!」
「มาว่ากันแบบนี้เสียหายนะครับ……..ถึงแม้จะเกลียดมากแค่ไหนแต่ผมก็ต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอ……」
「หนอยย……!」
「มิมูรุใจเย็นๆหน่อย เป็นคู่หมั้นของซีน่างั้นเหรอ แล้วจิฮัดทำไมถึงพูดเรื่องนี้กันล่ะ?」
ด้วยเลือดบนศีรษะมิมูรุพยายามเข้าใกล้ลอรัส แต่ทอมที่อยู่ข้างๆก็รั้งกันไว้และกระตุ้นให้จิฮัดพูด
แม้ในการพูดคุยสั้นๆนี่เป็นเรื่องง่ายๆว่าเอลฟฺ์คนนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของซีน่า แต่ก็ชัดเจนว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่นั่น
「ดูเหมือนว่าเอลฟ์คนนี้ได้คุยกับโนโซมุและซีน่า…..สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?」
「มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น และตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่ ในระหว่างนี้จะเล่าเรื่องราวระหว่างที่ค้นหาไปด้วย………มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?」
ราวกับจะสานต่อคำพูดนั้น
「ก็ค่อนข้างประมาณหนึ่ง จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องราวระหว่างเอลฟ์กับอาคาร์ซัม ไทรโฟเลี่ยมหนึ่งในผู้อาวุโสของเอลฟ์ได้หมดหวังที่จะพาซีน่าออกจากอาคาร์ซัม」
「รู้แล้วน่าได้ยินมาจากมิมูรุมาแล้ว」
「ในการประชุมครั้งนี้ ไทรโฟเลี่ยมคิดจะใช้กำลังบังคับซีน่าให้ออกจากที่นี่?」
「……เข้าใจแล้วแต่จริงจังกันขนาดนั้นเลย? หมายถึงเป้าหมายคือการพาซีน่าออกไปแล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?」
มาร์ไม่ได้เกรงกลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองลอรัส
ในทางกลับกันลอรัสเองก็มองด้วยท่าทางสบายๆ ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับสายตาแบบนี้มาพอควร
ราวกับตอบคำถามของมาร์ ลอรัสเริ่มบ่นออกมา
「ผมน่ะไม่คิดจะใช้กำลังพาเธอกลับไปหรอกนะ หรือมากกว่านั้นผมไม่คิดจะฝืนใจเธอเลย ปัจจุบันเธอเป็นนักเรียนของสถาบันโซลมินาติ แม้ว่าผู้อาวุโสจะโวยวายมากแค่ไหนแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายเรื่อยส่วนตัวของเธอ แต่หากพยายามลักพาตัวและพาเธอกลับบ้านเกิดโดยไม่เต็มใจแบบนั้นมันก็คงไม่ต่างกับโจรใช่ไหมล่ะ?」
และถ้าทำแบบนั้นจริง จะทำให้เกิดความขุ่นเคืองระหว่างเอลฟ์กับอาคาร์ซัม และโดยมันจะลุกลามไปยังเผ่าอื่นๆด้วยนั่นเป็นสิ่งที่ลอรัสพยายามหลีกเลี่ยง
「เอลฟ์นั้นมีชื่อเสียมาจากการเมินคำช่วยเหลือของเผ่าอื่นๆมาก่อนแล้ว ดังนั้นจะไม่สามารถสร้างเรื่องน่าอับอายได้มากกว่านี้อีก」
ลอรัสพูดด้วยรอยยิ้มราวกับดูถูกตัวเอง
สำหรับชายหนุ่มคนนี้ที่มีประสบการณ์ในการเจรจากับเผ่าอื่นๆการกระทำของไทรโฟเลี่ยมมันหนักหนาเกินไป
「วิธีที่จะพาเธอออกจากที่นี่? แม้ว่าเธอจะเสียพลังไปส่วนใหญ่แล้ว เธอก็ไม่มีทางจะขัดขืนได้ไม่ใช่เหรอไง?」
「ตอนนี้เธอสูญเสียสัมผัสวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง ในสภาวะที่พลังเวทย์ไม่ฟื้นฟู จะไม่สามารถสัมผัสและฝึกฝนอะไรได้ แบบนี้มันยิ่งเข้าทางไทรโฟเลี่ยมที่สามารถใช้เวทย์วิญญาณได้อย่างสบายๆ แม้ว่าเธอจะพยายามต่อต้านท่านไทรโฟเลี่ยมแต่ก็สู้กับคนที่บังคับเวทย์วิญญาณไม่ได้หรอก」
「ถ้างั้นสถานการณ์นี้มันไม่แย่แล้วเหรอไง」
「ก็เพราะแบบนั้นแหละถึงได้เรียกว่าวิกฤตเลย เธอเองก็รู้สึกหงุดหงิดกับการที่มีอุปสรรคมากมายมาขัดขวางการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขของเธอ มีภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่ออยู่ในเมืองตั้งสองลูก อย่างพลังของดราก้อนสเลเยอร์และเจ้าหญิงแห่งความตายอีก……」
เมื่อลอรัสชี้แจงว่าโนโซมุเป็นดราก้อนสเลเยอร์ การจ้องมองของมาร์ก็ยิ่งสับสนมากขึ้นมีเพียงแค่คนจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ไม่มีทางที่คนนอกจะรู้ได้
「รู้ได้ยังไง!」มาร์หันไปมองจิฮัดอย่างเงียบๆ แต่จิฮัดส่ายหัวบอกปฏิเสธ
「……เวทย์วิญญาณงั้นเหรอ?」
เมื่อพิจารณาได้แล้วว่าจิฮัดไม่ได้ปริปากพูดก็คงเป็นเวทย์ของเอลฟ์ อย่างไรก็ตามลอรัสส่ายหัวปฏิเสธคำพูดของมาร์
「นั่นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ คนที่นำข้อมูลเกี่ยวกับดราก้อนสเลเยอร์ให้กับพวกเราไม่ใช่วิญญาณ แต่เป็นตัวราชันวิญญาณที่คอยจับตาดูโนโซมุคุงต่างหากล่ะ」
「ตาแก่ซอนเน่งั้นเหรอ เหตุผลล่ะ?」
「เขาไม่ยอมให้พวกเหลือบไรเข้าใกล้ดราก้อนสเลเยอร์ได้」
เมื่อได้ยินคำพูดของลอรัส มาร์และคนอื่นๆก็แสดงความเครียดออกมา ซึ่งหมายความว่าซอนเน่นั้นจะไม่ยื่นมือมายุ่งกับเรื่องของซีน่า
เขาจะไม่ให้ความร่วมมือในการค้นหาซีน่าและในบางกรณี อาจจะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับโนโซมุเลย
แม้ว่าปัจจุบันซอนเน่กำลังฝึกสอนให้กับโนโซมุเกี่ยวกับเวทย์วิญญาณ แต่เดิมทีแล้วเขามีหน้าที่เหมือนหมาเฝ้ายามที่คอยจับตาดูเทียแมต
「ก็เพราะแบบนั้นแหละ จากนั้นเองไทรโฟเลี่ยมก็พยายามจะลักพาตัวนักเรียนของเรา ในขณะนี้ สถาบันการกำลังยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับการเจรจาของฟอร์ซิน่ากับดิซาร์ต แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้นักเรียนของเราเป็นอะไรไปได้เช่นกัน」
「ถ้างั้นก็มาทำงานร่วมกันดีกว่า ผมพอจะรู้ว่าโนโซมุอยู่ที่ไหน」
ตอนนี้พวกเรารู้สถานการณ์ส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากเมินเฉยสถานการณ์
ซอนเน่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มาร์ตัดสินใจว่าต้องทำบางอย่าง
นอกจากนี้ หากสามารถหยุดไทรโฟเลี่ยมได้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาวุ่นวายได้ เพราะประกายไฟที่ซอนเน่กังวลก็คือซีน่าที่อาจไปกระตุ้นโนโซมุ
「ปัญหาคือซีน่าที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน……」
「ถ้างั้นผมจะไปเอง จะทำเท่าที่ทำได้」
「ฝากด้วยนะ」
ลอรัสออกมาข้างหน้า เขาเป็นเอลฟ์และสามารถใช้เวทย์วิญญาณในการค้นหาวงกว้างได้
ความสามารถในการสื่อสารกับวิญญาณจะเป็นประโยชน์ในการตามหาบุคคล
มิมูรุและสหายบางคนมีท่าทางไม่เต็มใจ แต่มาร์ก็ตัดสินใจยอมรับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
「อืม แต่ว่าเวทย์วิญญาณของท่านไทรโฟเลี่ยมทรงพลังกว่าของผม ถ้าต้องปะทะกันจริงๆก็คงยากมากๆ……」
「ถ้าอย่างงั้นก็ต้องฝากให้คนอื่นจัดการ จิฮัด พวกทหารสามารถเคลื่อนไหวได้มากแค่ไหน?」
「ยี่สิบคนก็เต็มกลืนแล้ว」
「จำนวนไม่มากพอ……」
มีทหารอย่างน้อยหนึ่งพันนายในอาคาร์ซัม
ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนขนาดนี้มันน้อยเกินไปหากต้องค้นหาให้ทั่วอาคาร์ซัม
เมื่อมาถึงจุดนี้ มาร์ และ จิฮัด ต่างเลิกคิ้วด้วยท่าทางขมขื่น
「เพราะว่าทหารส่วนใหญ่ถูกไปใช้ในการเจรจาของตระกูลฟรานซิสกับตระกูลวาจาร์ต เห็นได้ชัดว่าตอนนี้มันเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ และมันจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ แต่ดันเลื่อนมาเป็นวันนี้」
「……หมายความว่ายังไง?」
ตามที่มาร์ได้ยินจากฟีโอการเจรจาควรจะเริ่มในวันพรุ่งนี้
ขณะที่มาร์ลดเสียงต่ำลงเพื่อยืนยันเรื่องนี้ จิฮัดถอนหายใจออกอย่างหนักและเริ่มพูดด้วยสีหน้าประหม่า
「ไอริสดิน่า ฟรานซิสและโซลมิเลียน่า ฟรานซิส ถูกขับไล่ออกจากตระกูลฟรานซิส เห็นได้ชัดว่าลอร์ดวิคเตอร์ได้ใช้มาตรการขั้นสูงสุดเพื่อปกป้องลูกสาวของเขาอย่างสุดชีวิต」
「แบบนั้น….ตอนนี้ไอและโซเมียอยู่ที่ไหนกันคะ!?」
คนแรกที่ตอบสนองต่อคำพูดเหล่านั้นคือทิม่าเพื่อนสนิทของไอริส
ด้วยสีหน้าประหลาดใจและความหงุดหงิดจิฮัดพูดเสียงต่ำในขณะที่เธอพยายามจะวิ่งออกไปข้างหน้า
「ทั้งสองคนจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของตระกูลพัลรีน ดูเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังหลับอยู่」
เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนปลอดภัยไหล่ของทิม่าก็ผ่อนคลายลงบ้าง แต่ก็ยังมีความหงุดหงิดปรากฏบนใบหน้าของเธอ
ในขณะเดียวกันเมื่อสิ่งต่างๆเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มาร์และฟีโอที่รู้สึกว่าเรื่องมันเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มพูดออกมา
「ยิ่งการเจรจานานเท่าไหร่ยิ่งทำให้อาคาร์ซัมอยู่ในความสับสนมากขึ้น ปัจจุบัน พวกทหารส่วนใหญ่อยู่ให้การคุ้มครองพื้นที่จัดประชุมรอบคฤหาสน์ฟรานซิส เพื่อความปลอดภัย」
「แม้ว่าจะรู้กันแล้วว่าแวมไพร์ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่บ้าคลั่งเพราะเลือดกันไปทั่ว แต่การรับรู้ที่ถูกปลูกฝังมาอย่างยาวนานในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาทำให้ความคิดของพวกเขายังไม่เปลี่ยนไปง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นวิโทร่า ปรากฏตัวในงานเปิดสถาบันยิ่งทำให้ผู้คนกลัวโดยสัญชาตญาณ」
คำอธิบายของจิฮัดถูกเสริมโดยอินด้า
การปรากฏตัวของวิโทร่านั้นทรงพลังมากจนขนาดเธอไม่สนใจสิ่งรอบตัว แต่เธอก็ดูเหมือนจะทำให้คนอื่นหวาดกลัวเพียงแค่อยู่ตรงนั้น
มันเหมือนกับนอนแช่อยู่ในทะเลและเห็นฉลามยักษ์ว่ายผ่านไป แม้ว่าฉลามจะไม่สนใจเหยื่อตัวเล็กๆ แต่มนุษย์ก็จะตื่นกลัวเป็นธรรมดา
「ยิ่งไปกว่านั้น รัฐสภาของอาคาร์ซัมยังอยู่ในความวุ่นวายขั้นสุด มีผู้ที่ร้องขอให้ขับไล่ตระกูลฟรานซิสและตระกูลวาจาร์ต แม้กระทั่งตัวตนที่บิดเบือนหลักการคงอยู่ของเมืองอาคาร์ซัมแห่งนี้」
ความกลัวที่ฝังแน่นมานานวิโทร่าที่มีทำให้ส่งผลกระทบต่อตัวเมืองเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้าเมือง
หลักการดำรงอยู่ของอาคาร์ซัมมีไว้เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการวิจัย แต่ปรัชญาหลักการของเมืองคือการระดมพลังและเจตจำนงของผู้คนในทวีปเพื่อต่อต้านภัยคุกความของสัตว์อสูร
อดุมคติเหล่านี้ได้ถูกฟูมฟักด้วยการเสียสละของบุคคลจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ความกลัวที่เป็นพื้นฐานก็ทสามารถทำลายหลักปรัชญาได้เช่นกัน
คำอธิบายของจิฮัดยิ่งกระตุ้นความไม่พอใจของมาร์ให้มากขึ้น
「แบบนี้มันค่อนข้างจะแย่ถึงขั้นสุดเลยนะ……」
「อ่า ยังไงก็ตามต้องออกตามหาซีน่าและโนโซมุ」
เมื่อได้ยินคำพูดของมาร์ทุกคนก็พยักหน้าพร้อมกัน
「ตอนนี้อาคาร์ซัมกำลังยุ่งกับการควบคุมความอันตรายของตระกูลวาจาร์ต ต้องขอโทษด้วย แต่พวกเราทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้」
「รู้แล้วน่า」
「อาจารย์จิฮัด ดิฉันจะไปกับพวกเขาด้วยค่ะ」
มาร์และคนอื่นๆพยักหน้าเล็กน้อยหลังออกจากสำนักงาน
หลังพวกเขามีอินด้าที่ตามมาและลอรัส พวกเขาต้องการความร่วมมือของอินด้าและลอรัสที่เป็นเอลฟ์ไม่กี่คนที่อยู่ในเมืองนี้
เมื่อมองพวกเขาออกจากสำนักงาน จิฮัดก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนและมองออกไปนอกหน้าต่าง
ในตอนท้ายสายตาของเขาจ้องมองไปยังสถาบันวิจัย ซึ่งติดอยู่กับสถาบันโซลมินาติ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ณ เขตด้านนอกของอาคาร์ซัม
ซีน่ามายังพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่มีหญ้าและนั่งลงบนพื้นหญ้า อากาศหนาวเย็นในฤดูหนาวและความหนาวเย็นของโลกช่วยบรรเทาความร้อนรนในจิตใจของเธอ
「เฮ้อ……….ช่างหัวสถาบัน………ขอออกมาพักผ่อนบ้างเถอะ เฮ้อ……」
ใบหน้าของซีน่านั้นแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นที่พวยพุ่งมาจากในหน้าอกของเธอ
เธอกลับไปที่หอพักของเธอหลังจากบอกปู่ทวดของเธอว่าจะไม่กลับไปที่บ้านเกิด แต่เช้าตรู่ขแองวันรุ่งขึ้นเธอก็ออกมาในเมืองก่อนที่เพื่อนร่วมห้องเธอจะตื่น
เป็นเพราะฉันโวยวายต่อปู่ทวดหรือเพราะจิตใจที่เต้นรัวในยามค่ำคืน
ตรงกันข้ามกับความคาดหมายเธอเองก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่อยู่ด้านหลังหน้าอกของเธอได้บรรเทาลงก่อนที่จะรู้ตัว แผลใจที่เคยถูกเปิดออกก็เริ่มถูกชำระล้างจนทำให้จิตใจสงบลง
「ท้ายที่สุดแล้ว ฉันก็รักเขา ฉันอยากจะอยู่กับเขาตลอดไป แม้ว่าฉันจะช่วยอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ฉันก็……..แม้ว่าต่อให้ต้องละทิ้งความฝันของฉัน ฉันก็จะขอทำเพื่อนาย」
นั่นคือคำตอบของเธอที่เธอยืนยันอย่างหนักแน่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับลิซ่าที่ระเบิดอารมณ์ออกมา
ตอนนี้เธอคงจะถูกเพื่อนๆรุมด่าอย่างแน่นอน ความภาคภูมิใจและความปรารถนาในฐานะเอลฟ์เธอได้โยนมันทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ซีน่าก็ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะอยู่กับโนโซมุจวบจนวาระสุดท้าย ละทิ้งซึ่งทุกอย่าง และเมื่อตัดสินใจได้เช่นนั้น เธอก็กลับมาสงบสติได้
「สายลมเย็นจังเลยน้าาาา ฉันค่อนข้างจะห่วงมิมูรุด้วยสิ ถ้ากลับไปตอนนี้อาจจะยังทัน……」
ซีน่านอนอยู่บนพื้นหญ้าเงยหน้ามองพระอาทิตย์ขึ้น รับสายลมเย็นๆยามเช้า
จากนั้นเมื่อนึกถึงความรู้สึกบนริมฝีปากที่ทับซ้อนกับโนโซมุเธอก็ค่อยๆใช้นิ้วแตะไปที่ริมฝีปากของเธอ
(ไม่ได้เจอเขามาสักพักแล้ว อยากจะเจอเขาเหลือเกิน อยากจะอยู่เคียงข้าง……)
เมื่อนึกถึงหน้าของโนโซมุที่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ความรักและความปรารถนาก็รั่วไหลมาจากอกของซีน่า ในขณะเดียวกันเธอก็ยังไม่ได้บอกความลับอันแสนยิ่งใหญ่ที่ปกปิดต่อเขา
(ความหมายของพันธสัญญาโลหิตและผลที่ตามมา ฉันต้องบอกมันกับเขา แล้วก็เรื่องความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขาอย่างชัดเจน……)
「เธอเนี่ยเข้มแข็งผิดจากฉันเลยนะ……」
ภาพของหญิงสาวผมแดงเข้ามาในใจของซีน่า
จนกระทั่งก่อนที่เธอจะกลับมาเป็นตัวเธอคนเดิม เธอนั้นเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวโนโซมุไปมาก จนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผย หลังจากนั้นเธอก็กลับมาเป็นคนที่ร่าเริง รักการผจญภัย และกล้าเผชิญหน้ากับความรัก
แม้ว่าซีน่าจะเป็นเอลฟ์และมีความเหงาเฉกเช่นคนธรรมดา เธอจึงสารมารถมองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของผู้คนได้
ฉันตัดสินใจแล้ว จะไม่คิดปกปิดมันอีก ฉันจะลงมือทำแทนที่จะมาเสียใจภายหลัง
「……ดีล่ะ」
ด้วยรอยยิ้มมุ่งมั่นบนใบหน้าซีน่าลุกขึ้นนั่ง
ในตอนที่ลุกขึ้นมานั่นเองเธอเห็นไทรโฟเลี่ยมอยู่ปลายสายตาของเธอซึ่งมาถึงก่อนที่เธอจะรู้ตัว
ซีน่าไม่ได้ใส่ใจมากนักกับการปรากฏตัวของเขา แต่ทักทายเขาเพียงแค่รอยยิ้มบนใบหน้าเท่านั้น
「นี่เป็นครั้งสุดท้าย กลับหมู่บ้านกับข้าซะ」
「ไม่ ฉันจะไม่กลับ ที่นี่คือบ้านของหนู」
การพูดคุยที่ซ้ำซากน่าเบื่อ อย่างไรก็ตามเสียงของซีน่านั้นไม่ได้โกรธเหมือนแต่ก่อน
เสียงของเธอนั้นเข้มแข็งขึ้นมากทำให้ไทรโฟเลี่ยมกลอกตาไปมา
「ซีน่าก็อย่างที่ข้าพูดเมื่อวาน……」
「ค่ะ จริงอยู่ที่ฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีก ถึงกระนั้นหนูก็ไม่เปลี่ยนใจหรอกนะคะ」
「…………」
ในขณะที่ไทรโฟเลี่ยมเงียบลง ซีน่ายังคงแสดงความรู้สึกของเธอว่าไม่สนใจด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง
คำพูดของซีน่านั้นชัดเจนมากไม่สนใจความคิดของไทรโฟเลี่ยม
และความหนักแน่นของเธอราวกับเป็นสิ่งยืนยันที่ไม่สามารถปฏิเสธมันได้อีกแล้ว เธอได้ตัดสินใจอย่างแท้จริง
「ข้างๆเขานั่นแหละคือที่ๆหนูอยู่ แม้ว่าเขาจะตายก่อนฉัน แม้ว่าดาบของเขาจะหันเข้าหาฉัน แต่ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเขาคลอดไป เพราะว่าหนูรักเขาไปแล้ว」
แม้ว่าต่อให้ฉันจะตาย ฉันก็จะอยู่เคียงข้างเขาตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ไม่มีความลังเลอะไรอีกแล้ว มีเพียงความรู้สึกที่เธออยากทุ่มเทให้กับคนที่เธอรัก
「อึก……」
ต่อหน้าต่อตาของซีน่าที่ยังคงแน่วแน่ไม่มีเปลี่ยน ตัวเธอในตอนนี้สดใสกว่าเมื่อก่อนและจิตใจที่หนักแน่นของเธอก็ทำให้ไทรโฟเลี่ยมนึกถึงน้องสาวของเธอ
ในขณะเดียวกันเขาเองก็เป็นเอลฟ์ที่ดื้อรั้นและพร้อมที่จะยอมรับผลลัพธ์ที่ตัดสินใจลงไป
เพราะความเย่อหยิ่งแบบนั้น เลยทำให้ทุกคนต้องตาย
อาณาจักรเอลฟ์ที่มีศูนย์กลางเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ได้พังพินาศ และการุกรานครั้งใหญ่ของพวกสัตว์อสูรก็ทำให้ประเทศของเราต้องดับสูญ เพื่อนร่วมชาติต่างก็หนีหัวซุกหัวซุน
「ปู่ หนูขอโทษนะ และขอบคุณสำหรับความห่วงใยที่มีต่อหนูเสนอมา」
ซีน่านั้นไม่ได้โกรธไทรโฟเลี่ยมอีกต่อไป ซึ่งเธอบอกเช่นนั้น แม้ว่าจะไม่สนิทและไม่ได้รักใคร่ดุจครอบครัวที่ใกล้ชิดกันแต่อย่างน้อยเธอก็ขอบคุณสำหรับความห่วงใยที่มีให้
ในสายตาของไทรโฟเลี่ยมการแสดงออกของซีน่านั้นซ้อนทับกับน้องสาวของเธอก่อนที่จะตาย
รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเธอ จ้องมองมาตรงๆ ด้วยสีหน้าแดงก่ำ มันก่อให้เกิดซึ่งความเศร้า โล่งใจ และหงุดหงิด และรบกวนจิตใจตาแก่คนนี้อย่างบอกไม่ถูก
「จะไม่ยอมกลับไปจริงๆเหรอ……」
「ค่ะ」
「เอ่อ อ่า เข้าใจแล้ว แค่คำพูดมันคงหยุดเจ้าไม่ได้แล้วสินะ」
ขณะที่เธอจ้องมองไปบนท้องฟ้า ไทรโฟเลี่ยมก็มองไปยังญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
ไทรโฟเลี่ยมรู้จักซีน่าตั้งแต่ยังเล็กๆ เมื่อเธอสูญเสียเวทย์วิญญาณเธอก็ถูกปฏิบัติเหมือนไข่ในหิน
ไม่ได้โดนกีดกันหรือดูถูกจากคนในเผ่า
อย่างไรก็ตามใบหน้าที่ดูเศร้าของเธอก็มากพอที่จะสำให้คนรอบๆเป็นห่วง
ตัวเธอที่รู้ว่าตัวเองไม่มีพลังเพียงพอก็ไม่อยากจะโดนมองด้วยสายตาแบบนั้นอีกต่อไปเธอจึงตัดสินใจมาที่อาคาร์ซัม
ไทรโฟเลี่ยมเองก็คัดค้านแล้ว ความเกลียดชังที่มีต่อเผ่าอื่นเองก็มีมากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขากลัวซีน่าที่จิตใจแตกสลายจะกลายเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนดั่งเดิมอีก
ปรากฏว่าไทรโฟเลี่ยมไม่สามารถโน้มน้าวเธอได้ ในช่วงเจ็ดปีนับตั้งแต่การรุกรานได้ดำเนินมา ซีน่าได้รับพลังมามากเกินพอที่จะปกป้องตัวเองแม้ว่าจะไม่สามารถใช้เวทย์วิญญาณได้ก็ตาม
ถึงกระนั้น พวกเราก็ไม่ยอมให้เธอออกไปไหน หลังจากทะเลาะกันวุ่นวายทั้งวันทั้งคืน ซีน่าก็ออกเดินทางไปอาคาร์ซัมด้วยการหนีออกไป
ตอนนั้นได้แต่เชื่อใจเธอว่าคงไม่เป็นอะไร
แต่คราวนี้ภัยคุกคามที่อยู่รอบตัวเธอมันได้ทำลายข้อแก้ตัวที่เอลฟ์ชราคนนี้พยายามหาข้ออ้าง
ดังนั้นไทรโฟเลี่ยมจึงมาที่นี่และตระหนักได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมเธอจึงหันไปใช้ทางเลือกสุดท้าย
「ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าจะพาเจ้ากลับไปด้วยกำลัง นั่นคือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้」
「สัญญา?」
「ใช่กับน้องสาวของเจ้าที่ได้เข้าต่อสู้กับพวกสัตว์อสูร……」
ไทรโฟเลี่ยมเพิ่มพลังเวทย์และเริ่มเรียกเหล่าวิญญาณที่อยู่โดยรอบ
ด้วยแสงวิเศษที่ปะทุออกมาจากร่างกายที่เหี่ยวเฉาอนุภาคแสงระยิบระยับเริ่มรวมตัวกัน
ลางสังหรณ์ว่าเวทย์วิญญาณได้ถูกใช้งานได้โผล่ขึ้นมา แม้จะเผชิญหน้ากับพลังที่มุ่งเป้ามาที่เธออย่างชัดเจน ซีน่าก็ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้าน
「ไม่คิดจะต่อต้านยังงั้นรึ?」
「จะเอาอะไรไปสู้กับตัวฉันที่เสียพลังไปหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะหยุดพลังของปู่ได้หรอก แต่ใจฉันมันไม่ได้ยอมแพ้เลยสักนิด」
เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดของเหลนสุดที่รักของเขา ไทรโฟเลี่ยมก็เปิดใช้งานเวทย์ของเขา
วิญญาณเต้นรำอยู่โดยรอบพุ่งเข้าหาซีน่าและบินไปรอบๆเธอ
ในที่สุดแสงแห่งเจตจำนงก็ค่อยๆจางหายไปจากดวงตาของซีน่า
「ข้าจะจับเจ้าและพาเจ้ากลับไปทั้งๆแบบนี้ ข้าไม่สนใจหรอกเจ้าจะโกรธจะเกลียดข้าก็เชิญ」
“ขลุ่ยใบไม้ผนึกจิตใจ(操心の草笛)”
เวทมนตร์ที่ไทรโฟเลี่ยมใช้เป็นเวทย์ผนึกจิตใจใส่ฝ่ายตรงข้ามและทำให้อีกฝ่ายที่โดนทำคามคำสั่งของผู้ร่าย มันเป็นเวทย์ที่ถูกตั้งชื่อตามเหล่าภูติที่ชอบใช้ขลุ่ยใบไม้ในการแกล้งผู้คน
อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพมันไม่ธรรมดา และภายในขอบเขตการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นร้อยหรือสองร้อยคนก็สามารถทำให้เป็นหุ่นเชิดได้ และในขณะเดียวกันเนื่องจากยืมพลังของสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่เรียกว่าภูติ จึงไม่สามารถต่อกรด้วยวิธีการทั่วไปได้
เอฟเฟกต์นั้นทรงพลังกว่าเวทย์สะกดจิตที่ลูกาโต้เคยใช้ในอดีต
หลังจากปิดผนึกความคิดของซีน่าแล้ว ไทรโฟเลี่ยมก็พยายามพาซีน่าออกไปที่ทางประตูทิศใต้เพื่อพาออกจากอาคาร์ซัม
「ซีน่า พวกเราจะออกจากเมืองนี้ ตามข้ามาซะ」
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับคำสั่งของไทรโฟเลี่ยมซีน่ายังนิ่งเฉย
สงสัยว่าพลังที่ใช้น้อยไปงั้นเหรอ? ไทรโฟเลี่ยมจึงสั่งให้เหล่าวิญญาณทำสัญญาปิดผนึกจิตใจของซีน่า แต่ไม่ว่าจะสั่งมากแค่ไหน คำตอบกลับก็คือเวทย์นั้นทำงานปกติดี
「หมายความว่ายังไง ไม่มีทางน่า เป็นเพราะจิตใจเธอเชื่อมต่อกับดราก้อนสเลเยอร์นั่น? หรือว่าเจตจำนงของตัวเอง……」
เขาพูดคุยกับเหล่าวิญญาณรอบตัวเขา แต่คำตอบเดียวที่ได้จากเหล่าวิญญาณคือไม่ได้ผล บางทีการจะเขียนพันธสัญญาทับคงจะเป็นไปไม่ได้
ไทรโฟเลี่ยมที่ตกตะลึงและยอมจำนนกับความดื้อรั้นของเหลนเขา และด้วยมือของเขาที่จูงมือเธอ เขาก็เริ่มเดินไปทางประทางทิศใต้ของอาคาร์ซัม
ป.ล. เหลือเนื้อเรื่องหลักอีก 10 ตอน รูทแยกสามสาว 3 ตอน IF Route 1 ตอน DLC อีก 4 ตอน ก็จะจบจริงๆล่ะ
ชี้แจงสักนิด : หายไป 1 สัปดาห์ เอาPC ไปซ่อมครับ หมดไป 5-6 พัน เพราะงั้นเดือนนี้ก็ไม่มีกินแล้ว 5555+ เปลี่ยน MB การ์ดจอ SSD
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง