โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ - ตอนที่ 642 - ต้นไม้เพลิงกินคน
มีไป๋หลีคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ต่อให้คนเหล่านั้นมีความปรารถนาแรงกล้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางหลบหนีไปได้ สุดท้ายทั้งหมดถูกป้อนเป็นอาหารบำรุงแก่ต้นไม้เพลิง
ระหว่างการต่อสู้ เรือเหาะของกลุ่มเฟิงหลีได้มาถึงแล้วเช่นกัน แต่ไม่ได้ทำการยิงสนับสนุนออกไป เพราะระดับการต่อสู้ของฉินเฟิงในครั้งนี้ ต่อให้เรือเหาะเสนอหน้า ก็คงทำได้แค่ตกเป็นเป้าโจมตี ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ฉินเฟิงกลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นตัวประกันของเลเวล B จากกองกำลังมืด ดังนั้นสั่งการห้ามปรามไว้แต่เนิ่นๆ
“เร็วเข้า! รีบไปช่วยผู้รอดชีวิต!”
“มากับพวกเราเถอะ”
“พวกคุณยังคิดหลบหนีไปเพื่ออะไร? ไปตายในทุ่งล่าหรือ? ได้โปรดมากับพวกเรา เราเป็นคนจากเมืองลาวาเดือด!”
“กลุ่มเฟิงหลี … ใช่แล้ว! พวกเรามาจากกลุ่มเฟิงหลี พวกเราไว้ใจได้นะ ขึ้นมาเถอะ”
ท่ามกลางความโกลาหล ฝูงชนเริ่มได้รับความช่วยเหลือ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง สมาชิกของพันธมิตรมนุษย์ ในที่สุดก็มาถึง
คนกลุ่มนี้มาช้ายิ่งกว่าเรือเหาะซะด้วยซ้ำ ไม่ทันได้เข้าร่วมการต่อสู้
แน่นอน ว่าต่อให้พวกเขาคิดเข้าร่วมการต่อสู้ ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะฉินเฟิงใช้เวลาไม่กี่นาทีก็สังหารได้คนหนึ่งแล้ว ดังนั้นต่อให้พวกเขาออกมาตั้งแต่แรก ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี
แต่ตอนนี้ การที่สมาชิกเลเวล B จากทางพันธมิตรมนุษย์ปรากฏตัวขึ้น วัตถุประสงค์ของพวกเขาย่อมชัดเจน
เกือบทั้งหมดมองไปยังใต้ต้นไม้เพลิง สายตาจดจ้องอยู่กับปีศาจโทรลลาวาเดือด
ปัจจุบันมีเพียงฉินเฟิงคนเดียวเท่านั้น ที่สายตาตรึงอยู่กับต้นไม้เพลิงต้นยักษ์ แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด เขาสั่งให้ไป๋หลีถอนตัวทันที
ถึงเขาจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ ว่าการบูชายัญเลเวล B จะช่วยให้ต้นไม้เพลิงได้รับสารอาหารอย่างมาก แต่เขาก็ไม่คาดคิดถึงขนาดที่ว่า ต้นไม้จะเติบใหญ่ได้รวดเร็วขนาดนี้ ปัจจุบันแตกเป็นพุ่มสูงถึง 500 เมตรแล้ว!
ช่วงเวลานี้ เลเวล B ที่ตามมาสมทบสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากต้นไม้เพลิง … มหาศาลจนผู้คนยากจะหายใจ
“ฉินเฟิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เหอเล่อหมิงกับอีกสองคนเอ่ยถาม
พวกเขาต่างจากเลเวล B คนอื่นๆ มิได้ออกไปล่าปีศาจโทรลในทันที แม้ว่านั่นจะเป็นการสร้างโอกาสร่ำรวยแก่พวกตนก็ตาม แต่ทั้งสามให้ความสำคัญกับฉินเฟิงก่อนเป็นอย่างแรก
แน่นอน แม้ปากจะเอ่ยถามฉินเฟิง หากแต่สายตาของทั้งสามกลับเบนตกลงบนอาวุธในมือเขา เจ้าสิ่งนี้คืออาวุธที่สามารถใช้สังหารผู้ใช้พลังเลเวล B ได้ เกรงว่ามันจะไม่ใช่อาวุธธรรมดา
แต่คงมิแคล้วเป็นสุดยอดอาวุธเทวะ!
“ผมไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พวกเราต้องรีบถอนตัวทันที” ฉินเฟิงกล่าว
“อ้าว ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นน่ะสิ” ฉินเฟิงย้ำเตือน
สำหรับเลเวล B สามคนที่มาถึงตั้งแต่แรก พวกเขาทำเงินได้เยอะมากแล้ว อีกอย่างพวกนี้ยังเป็นลูกโทรล เลยไม่จำเป็นต้องกระโจนหาเนื้อชิ้นเล็ก
ประเด็นก็คือ พวกเขาเองก็บังเกิดความรู้สึกไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นเมื่อฉินเฟิงเสนอ พวกเขาก็ตอบรับทันที
พอพวกเขาจากไป นั่งเรือเหาะของฉินเฟิงทิ้งห่างออกมา จู่ๆก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างฉับพลันในระยะไกล พื้นดินยกสูงขึ้น แอ่งลาวาปะทุเดือดพล่าน
วู้มมม!
ณ ใจกลางธารลาวาเดือด รากต้นไม้สีแดงเข้ม เลื้อยลดขึ้นมาจากพื้นดิน จากนั้น พื้นดินเริ่มถูกทำลาย ยกสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายลากยาวไปไกลกว่า 2 เมตร
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยังลุกลามไปถึงเลเวล B จากฝั่งพันธมิตรมนุษย์คนอื่นๆที่กำลังออกล่าลูกโทรล
“เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?” ผู้ใช้วรยุทธโบราณร้องอุทาน แรงสั่นสะเทือนรอบตัวเขาเริ่มรุนแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ พื้นดินปริแยกเป็นรอยร้าว รากต้นไม้เลื้อยขึ้นมาจากใต้ดิน
ผู้ใช้วรยุทธโบราณพยายามหลบหนี แต่เหมือนจะถูกค้นพบ ถูกรากไม้นับไม่ถ้วนเข้าโอบล้อมโจมตี รัดพันเขาไว้อย่างแน่นหนา
เปรี้ยง!
ผู้ใช้วรยุทธโบราณระเบิดกำลังภายใน ดิ้นรนขัดขืน อำนาจอันทรงพลังกวาดกระจายไปไกล จนสามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
การต่อสู้ดิ้นรนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีทีท่าว่าจะสลัดหลุดเลย!
“นั่นหลิวจื่อ!”
ดูเหมือนว่าฟูเหวินจูจะรู้จักอีกฝ่าย
เขาก้าวออกไป แต่ถูกฉินเฟิงคว้าตัวไว้อย่างรวดเร็ว
“อย่า! ตอนนี้พวกเราช่วยเขาไม่ได้แล้ว”
เหลือบมองลงไปอีกที พบว่ารากไม้ยิ่งมายิ่งรัดตัวหลิวจื่อ พัวพันเขาจนหมดลมหายใจ ก่อนลากศพเข้าหาต้นไม้เพลิง
ช่วงเวลานั้นเองลำต้นของมัน กลับปรากฏปากใหญ่อ้าออกอย่างกะทันหัน
หวือออ!
หลิวจื่อถูกโยนเข้าปากต้นไม้ ปากใหญ่หุบปิดลง ต้นไม้เพลิงมิได้ขยายขนาดใหญ่อีกต่อไป หากแต่รากไม้ของมัน คล้ายสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเดิม!
ดูน่าสยดสยองอย่างถึงที่สุด!
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ดูเหมือนว่าคนที่เผชิญกับปัญหาดังที่กล่าว จะไม่ได้มีแค่คนเดียว
สามารถเอ่ยได้ว่า ผู้ใช้พลังที่บุกเข้ารอบๆและยังไม่ได้หลบหนี ต่างถูกพวกมันเข้าพัวพันทั้งสิ้น
บางตำแหน่งอยู่ใกล้ต้นไม้เกินไป ไม่สามารถหลบหนีได้ บางคนโชคดีหน่อยที่อยู่ไกล ยังคงหลบหนีได้ทัน
“ฉินเฟิง พวกเราต้องเรียกเลเวล A มาช่วยเหลือแล้ว อำนาจของเจ้าต้นไม้นั่น น่ากลัวเกินไป”
แต่ฉินเฟิงกลับส่ายหัว และเปิดอุปกรณ์สื่อสาร
“เมื่อไหร่เมืองลอยฟ้าจะมาถึง?”
“อีกครึ่งชั่วโมงครับประธาน!”
“ดี!”
ถ้าแค่ครึ่งชั่วโมง ฉินเฟิงยังพอรอได้
แอย่างไรก็ตาม แผนที่วางไว้กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
“ทุกคนดูนั่น! ต้นไม้กำลังเคลื่อนที่”
“มัน … มันมีชีวิตงั้นหรือ?”
ฟูเหวินจูและคนอื่นๆ หัวใจเต้นตึกตักครึกโครม
“บ้าจริง!”
สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
เพราะเลเวล B ที่ละโมบโลภมากพวกนั้น กลับตัดสินใจหลบหนีไปยังทิศทางของเมืองลาวาเดือด! หากพวกเขายังมุ่งหน้าต่อไป ไม่เกินห้านาที ทั้งคนทั้งต้นไม้คงบุกไปถึงเมือง
เพราะท้ายที่สุดแล้วระยะห่างระหว่างทั้งสองมันใกล้เกินไป ยังไม่กล่าวถึงเรื่องที่ว่าต้นไม้เพลิงแม้มีขนาดใหญ่โต แต่เคลื่อนที่ครั้งนึงกินระยะทางนับหลายร้อยเมตร ดังนั้นยังคงว่องไว
“ถ้าพวกคุณยังไม่อยากตาย ก็ขอให้วิ่งอ้อมไปทางอื่นซะ!”
ฉินเฟิงคำรามด้วยความโกรธ แต่ต้นไม้เพลิงมีขนาดใหญ่เกินไป ช่วงเวลานี้ต่อให้พวกเขาหันหัววิ่งไปทางอื่น ก็ไม่สามารถหลบหนีมันได้อยู่ดี ดังนั้นหลายคนไม่คิดฟังคำขู่ของฉินเฟิง
“ไป๋หลี ลงมือเลย!”
ฉินเฟิงตะโกน
ไป๋หลีหายวับไปจากที่เดิม หยางเป่ยและคนอื่นๆหัวใจกระตุกวูบ พวกเขาแค่มองก็รู้ว่าวันนี้ฉินเฟิงโกรธมาก
“ผู้การฉิน ใจเย็นๆก่อน อย่าฆ่าพวกเดียวกันเลย”
ฉินเฟิงเอ่ยเสียงเย็น “ผมจะช่วยพวกเขาหนีต่างหาก ไม่ได้คิดฆ่าพวกเขา!”
จะกลัวก็แต่ว่า คนพวกนี้จะคิดว่าฉินเฟิงมีเจตนาอื่นแอบแฝงเนี่ยสิ
เพราะหากวิ่งไปทางเมืองลาวาเดือด ถึงเวลานั้นเมืองลาวาเดือดคงช่วยยิงสกัดกั้นต้นไม้เพลิง และซื้อเวลาให้พวกเลเวล B หนีไปได้
แต่ในเวลานั้นเอง รูนมิติของไป๋หลีพรั่งพรูออกมา เหล่าเลเวล B ที่อยู่เบื้องล่างหายวับไปกับตา ปรากฏกายขึ้นอีกทีอยู่ห่างจากจุดเดิม 5,000 เมตร และทิศทางเบื้องหน้าพวกเขา ไม่ใช่ทิศทางของเมืองลาวาเดือด
อย่างไรก็ตาม ระยะแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทิ้งห่างจากต้นไม้เพลิง พวกเขาไม่อยากเสียเวลาคิดอีก ทั้งไม่มีความตั้งใจจะหันหลังกลับ ได้แต่สับฝีเท้ามุ่งหน้าต่อไป
ฝั่งต้นไม้เพลิงชะงักงันชั่วคราว คล้ายกำลังเค้นสมองว่าสมควรเลือกไปยังทิศทางไหนดี
ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงเก็บมีดกษัตริย์คราม และเรียกปืนใหญ่มือออกมาอีกครั้ง
“พวกคุณล่วงหน้าไปก่อนเถอะ ผมจะไปถ่วงเวลาต้นไม้เพลิง”
“อย่านะฉินเฟิง แบบนั้นมันอันตรายเกินไป!”
สีหน้าของทั้งสามแปรเปลี่ยนกลับกลาย
จริงอยู่ว่าฉินเฟิงเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ต้นไม้เพลิงต้นนี้ยังไม่อาจตรวจสอบระดับของมัน ดังนั้นหากคิดปะทะตรงๆ ถือว่าเสี่ยงเกินไป
พวกเขาไม่กล้าจินตนาการเลยจริงๆ เพราะถ้าหาฉินเฟิงพลาดขึ้นมา มันคงน่าเสียดาย
เนื่องจากฉินเฟิงน่ะแตกต่างจากคนอื่นๆ ในมุมมองของพวกเขา ฉินเฟิงย่อมสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A ได้100% ทั้งยังอาจยกระดับไปถึงเลเวล S ในตำนานที่พวกตนใฝ่ฝันเลยก็ยังได้!
ทว่าไม่รีรอให้ทุกคนเสียเวลาคิดหรือย้ำเตือนมากไปกว่านี้ หลังบรรจุปืนใหญ่มือเสร็จสรรพ ฉินเฟิงก็ทำการควบรวมพลังงาน และยิงมันออกไปทันที
วูซซซ!
กระสุนปืนใหญ่ส่งเสียงหอนคำราม ลอยไปได้ไกลกว่าพันเมตร ทิ้งเส้นสายสีขาวไว้เบื้องหลัง มองไกลๆดั่งริบบิ้นพริ้วไหวในอากาศ ร่วงตกลงไประเบิดตรงรากของต้นไม้เพลิง
ต้นไม้เพลิงสั่นสะท้านทันที รากนับไม่ถ้วนถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง แต่สักพักก็ระเหย จางหายไป นี่เป็นสถานการณ์น้ำและไฟถูกยับยั้ง เกิดการต่อต้านกันและกัน
พลังสมาธิของต้นไม้เพลิง ตรึงลงบนร่างของฉินเฟิงทันที
หวือออ! ต้นไม้เพลิงขยับไหว จากนั้นเร่งตรงมายังทิศทางของฉินเฟิง
รากไม้ที่ขยับเคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง มองไปคล้ายกับอสูรกายนับพัน กระทั่งฟูเหวินจูและเลเวล B คนอื่นๆ ยามเฝ้ามองยังบังเกิดความรู้สึกหนังศีรษะด้านชา
ฉินเฟิงหันหัวไปอีกทาง ยิงกระสุนน้ำแข็งอีกลูก แม้ไม่สามารถทำร้ายต้นไม้เพลิง แต่สามารถดึงดูดความสนใจของมันได้
ฝูงชนได้แต่จ้องมองฉินเฟิงที่กำลังล่อลวงต้นไม้เพลิงให้ไกลออกไป
โดรนสังเกตการณ์ไม่สามารถไล่ตามความเร็วนี้ได้ทัน!
บนตึกสำนักงาน ผู้ใช้พลังทุกคนกลายเป็นเงียบงัน
“ถือเป็นวาสนาของพวกเราที่มีเจ้าเมืองและผู้การรัฐสุดประเสริฐ!” ผู้ใช้พลังเลเวล E เอ่ยปากออกมา ก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้นำของหนึ่งในชุมชนเล็กๆ แต่ปัจจุบันถูกรวบเข้ามารวมกับเมืองลาวาเดือดแล้ว เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเจ้าตัวแดงก่ำด้วยความสำนึกบุญคุณ