แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 437 แก้แค้น
เจียงป่ าวชิงลงกลอนประตู สีหน้าทีอ่อนแอของนางพลันหายวับไปแปรเปลียน กลายเป็ นใบหน้าเปื้ อนยิม นางไม่ ้ ใช่คนโง่ เห็นชัด ๆ ว่าหวังชือพยายามใช้ความ คิดเห็นของพวกเพือนบ้านมาบังคับให้นางยอมจํานน
ถ้าอย่างนั้นนางจะทําให้หวังชือเห็นถึงพลังของความคิดเห็นของผู้คนเอง จะว่าไปแล้ว อันทีจริงการแสร้งทําเป็ นคนใสซือก็รู้สึกสบายใจอยู่เหมือนกัน
เจียงฉิงออกมาจากในห้องครัวแล้วโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของเจียงป่ าวชิง เด็กหญิงพูดขึ้นอย่างแค้นใจด้วยนํ้าเสียงอู้อี้ “ข้าล่ะอยากออกไปต่อยกับคนเจ้า เล่ห์คนนั้นจริง ๆ ทําตัวไม่สมกับเป็ นผู้ใหญ่เลยให้ตายเถอะ!”
มีหลิวเดินถือชาตามมาแล้วมองเจียงป่ าวชิงอย่างเป็ นห่วง “แม่นางไม่เป็ นอะไร ใช่ไหมเจ้าคะ ?”
เจียงป่ าวชิงยกยิมมุมปากเล็กน้อยแล้วลูบศีรษะเจียงฉิง ้ “เรืองเล็กน่า ข้าไม่เป็ นไร หรอก”
ก็แค่เศษขยะคนหนึงเท่านั้น ไม่ใช่เรืองใหญ่อะไร คิดซะว่าเป็ นสีสันชีวิตในวัน ธรรมดา ๆ ก็แล้วกัน ทว่า… สิงทีเจียงป่ าวชิงคิดไม่ถึงคือ ในไม่ช้าก็มีคนทีอยากจะ มา “สร้างสีสันชีวิต” มาทีนีอีกครั้ ง
วันนั้นเป็ นวันทีอากาศสดใส รถม้าของจวนองค์ชายหย่งชินมาส่งสุนถาวทีหน้า ซีดหน้าเซียวทีนี มีหลิวดีใจมาก นางพุ่งตัวไปรับห่อผ้าของสุนถาวอย่างเร่งรีบ
สุนถาวมองซ้ายมองขวา ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา “พวกเจ้านายไม่อยู่บ้านรึ ?”
มีหลิวจึงพูดขึ้นยิม ๆ ้ “คุณชายเล็กกับคุณหนูเล็กไปส่งการบ้านทีบ้านอาจารย์ สอนหนังสือของพวกเขา คุณชายใหญ่ไปทีบ้านท่านอาจารย์ของเขาแล้ว ส่วนแม่ นางเจียงของเราไปร้านยาทีเจ้าของเป็ นคนรู้จักของนาง จึงเหลือข้าเฝ้าบ้านคน เดียว ไม่คิดว่าพวกเขาจะส่งเจ้ามาในวันนี้ เจ้าหายดีแล้วรึ ?”
สุนถาวพยักหน้าเบา ๆ
เดิมทีสุนถาวเป็ นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว หลังจากเกิดเรืองนั้นนางก็ยิงกลายเป็ นคน เงียบ ๆ ยังคงมีแผลเป็ นจากความหนาวเย็นและหิมะกัดเล็ก ๆ บนใบหน้าของ นางซึงยากทีจะลบเลือนออกไป ก่อนหน้านี้เจียงป่ าวชิงเคยให้ยาสุนถาว แต่มันก็ ยังทิงรอยแผลเป็ นไว้จาง ๆ ้
มีหลิวจับมือสุนถาวอย่างเป็ นห่วงเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ทีนีอาจ ไม่ได้ดีเท่ากับจวนองค์ชาย แต่พวกเจ้านายต่างก็เป็ นคนใจดี เราทําตัวให้ดี ๆ จะ ได้เข้ากับพวกเขาได้ง่าย คุณชายเล็กทีซนทีสุดเป็นเพียงเด็กคนหนึง ก่อนหน้านี้ที คุณหนูเล็กเล่นขว้างหิมะแล้วบังเอิญว่าหิมะมาโดนศีรษะข้าอย่างไม่ตั้งใจ นางขอ โทษข้าอย่างเกรงใจด้วย…”
นํ้าเสียงของสุนถาวแหบเล็กน้อย “พี ข้ารู้หรอกน่าว่าพวกเขาเป็ นเจ้านายทีดี”
เมือมีหลิวเห็นว่าสายตาของสุนถาวแน่วแน่ก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากนั้นก็ จูงมือสุนถาว “ไป ข้าจะพาไปดูห้องของเรา”
หลังจากผ่านการทําความสะอาดมาสองสามวัน ห้องนั้นก็กลายเป็ นห้องเล็ก ๆ ที ค่อนข้างดีห้องหนึง อาจเล็กไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรมีหลิวกับสุนถาวก็สามารถ อาศัยอยู่ได้ และห้องนี้ยังพอให้วางตูเสื้อผ้าหนึงหลังกับอีกหนึงโต๊ะเครืองแป้งที เรียบง่ายได้ด้วย
มีหลิวเพิงพาสุนถาวไปจัดการเก็บข้าวของในห้องพักได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงใคร ไม่รู้ทุบประตูข้างนอกเสียงดังสนัน ราวกับต้องการทุบประตูให้แตกละเอียด อย่างไรอย่างนั้น
ปัง! ปัง! ปัง!
มีหลิวกลัวว่าสุนถาวจะกลัวจึงรีบพูดกับอีกฝ่ าย “เจ้าไม่ต้องกลัว เมือวันก่อนมี ผู้หญิงทีดูชัวร้ายคนหนึงมาหาเรือง แต่ ถูกแม่นางของเราไล่กลับไปแบบแทบไม่ เปลืองแรง บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจกลับมาก่อเรืองอีกก็ได้ ข้าจะไปดูสักหน่อย”
สุนถาวพยักหน้าเงียบ ๆ และเดินตามหลังมีหลิวไปเปิ ดประตู
แต่มีหลิวเพิงเปิ ดแง้มออกเป็ นช่ องเล็ก ๆ และยังไม่ทันได้ถามอีกฝ่ ายว่าเป็ นใคร ฝ่ ายนั้นกลับใช้โอกาสนี้ชนประตูให้เปิ ดด้วยพละกําลังหยาบคายจนเกือบทําให้มี หลิวกระเด็นออกไปแล้วก็บุกเข้ามาในบ้าน
สุนถาวรีบจับมีหลิวไว้ทันที มีหลิวรู้สึกหวาดกลัวเมือเห็นว่าคนกลุ่มนี้ล้วนเป็ น พวกหน้าตาน่ากลัวและรูปร่างสูงใหญ่ นางพูดเสียงสัน ๆ “กลางวันแสก ๆ เช่นนี้ พวกเจ้า… พวกเจ้าคิดจะทําอะไร!”
หัวหน้าของคนกลุ่มนั้นเหลือบมองมีหลิวแล้วส่งเสียงออกมาทางจมูกอย่างเย็นชา “เจ้าคือเจียงป่ าวชิงรึ ?”
มีหลิวตกใจ ดูจากท่าทางแล้ว คนพวกนี้มาแก้แค้นแม่นางของพวกนางอย่าง แน่นอน!
ทันใดนั้นมีคนหนึงพูดอะไรสักอย่างทีข้างหูของคนทีท่าทางเป็ นหัวโจก ก่อนที หัวโจกคนนั้นจะสังเกตมีหลิว แล้วจุ๊ปากพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม “ว่ากันว่าเจียง ป่ าวชิงอาศัยความงามของตัวเองหาผลประโยชน์ ทั้งยังไม่เห็นคนอืนอยู่ในสายตา และอวดดีเป็ นทีสุด แต่ดูจากรูปลักษณ์ของเจ้าแล้วไม่เห็นจะงดงามตรงไหน บอก มาซะดี ๆ ว่าเจียงป่ าวชิงอยู่ทีไหน!”
มีหลิวกับสุนถาวพยายามกลั้นความหวาดกลัว ทั้งสองคนตัวติดกันเพือไม่ให้ขา อ่อนแล้วร่วงหล่นลงไปบนพื้นเพราะตัวสัน “แม่นางของเราออกไปข้างนอก”
หัวโจกคนนั้นโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟทันที “จะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง! ข้าไม่เชือ นางต้องซ่อนตัวอยู่ในบ้านแน่ ๆ เฮ้ย! พวกเจ้าเข้าไปค้นเดี๋ยวนี้” พูดจบหัวโจก เตรียมพาคนบุกเข้าไปในบ้านทันที
มีหลิวกับสุนถาวตกใจ คิดจะเข้าไปห้ามคนกลุ่มนั้น แต่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที
อ่อนแอสองคนจะแบกรับชายผู้ดูหยาบคายหน้าตาดุร้ายได้อย่างไร ชายหัวโจก คนนั้นผลักหญิงสาวทั้งสองออกไปอย่างฉุนเฉียว และพอดีว่าในลานบ้านมีบันได สําหรับก้าวเข้าตัวบ้านพอดี มีหลิวกับสุนถาวหกล้มศีรษะชนพื้นและหมดสติไป ในทีสุด
คนกลุ่มนั้นไม่สนใจ ทําเพียงชําเลืองมองและพ่นลมออกมาทางจมูกอย่างเย็นชา พวกเขาถือวิสาสะบุกเข้าไปในบ้าน มองหาหาจุดทีเจียงป่ าวชิงอาจซ่อนตัวอยู่ใน บ้าน
คนทีกลับมาก่อนคือเจียงป่ าวชิง นางเห็นตั้งแต่ไกลแล้วว่าประตูบ้านเปิ ดออกอยู่ ครึงหนึง เห็นดังนั้นความโมโหครอบงําจิตใจนางทันที
มีหลิวเป็ นคนมีวินัย แม้นางจะทํางานอยู่ในลานบ้านแต่ก็ไม่น่าลืมปิ ดประตู ยิงไม่ ต้องพูดถึงตอนอยู่ในบ้าน ไม่ว่าอย่างไรคนอย่างมีหลิวต้องปิ ดประตูอย่างแน่น หนาแน่นอน จะได้ไม่มีขโมยเข้าไปในบ้านโดยไม่รู้ตัว
เวลานี้อาฉิงกับชุนหยู่ยังไม่กลับจากบ้านครูเวิน ส่วนพีชายของนางยิงกลับช้ากว่ า กว่าเขาจะกลับก็ตอนกลางคืน
เปิ ดประตูบ้านไว้กว้างในตอนนี้… มันผิดปกติแล้ว! เจียงป่ าวชิงส่งเสียงเรียกเบา ๆ “เจิ้งหนาน กานซุ่ย”
นีเป็ นองครักษ์สองคนทีกงจี้จัดสรรให้คอยซุ่มดูแลและคุ้มกันนางอยู่ตลอด ด้วย เหตุนี้ นางจึงมันใจมากเวลาทําเรืองต่ าง ๆ
ไม่นานหินก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึงก็กลิงมาทีใต้เท้าของเจียงป่ าวชิง นางเบาใจขึ ้ ้น ทันที เพราะนีหมายความว่าทั้งสองคนยังคงซุ่มคุ้มกันนางอยู่ นางผลักประตูบ้าน แล้วก้าวเข้าไปในลานบ้าน แต่กลับเห็นว่าม่านประตูถูกใครไม่รู้ดึงโยนไปไว้ ด้านข้าง มีหลิวกับสุนถาวนอนหมดสติอยู่บนพื้นตรงใต้บันไดในลานบ้าน ทั้ง สองหน้าซีดด้วยความหนาว
เจียงป่ าวชิงตกใจมาก รีบเดินเข้าไปหาและจับชีพจรให้กับทั้งสองคน เมือเห็นว่า สภาพชีพจรอ่อนแต่ก็ไม่ได้อยู่ในสภาพแย่ ทว่าแม้ทั้งสองคงจะเพิงหมดสติไปได้ ไม่นาน แต่ถ้าหากว่ายังปล่อยให้นอนอยู่ทีพื้นหิมะสักสามสีชัวโมงในวันทีอากาศ หนาวเย็น เกรงว่าคงช่วยกลับมาไม่ได้แม้ไม่มีบาดแผลใด ๆ ก็ตาม
……
ตอนทีมีหลิวฟื้ นขึ้นมา สุนถาวคงหมดสติและมีเข็มเงินมากมายแทงอยู่บนร่างซึง ดูน่ากลัวเป็ นอย่างยิง นางขยับตัวเล็กน้อย รู้สึกปวดศีรษะอย่ างรุนแรงจึงอดไม่ได้ ทีจะส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา
ทันทีทีมีหลิวส่งเสียงร้อง นางก็ได้ยินเสียงหนักแน่นดังมาจากข้าง ๆ “หัวเจ้า กระแทก อย่าเพิงรีบขยับ นอนพักไปก่ อนเถอะ”
มีหลิวฟังรู้ว่าเป็ นเสียงของเจียงป่ าวชิง แต่นีเป็ นครั้งแรกทีนางได้ยินเสียงแม่นาง ของนางหนักแน่นเช่นนี้ มันหนักแน่นจนทําให้คนฟังรู้สึกกลัวอย่างน่าประหลาด
มีหลิวพยายามต่อสู้กับความเวียนศีรษะ เสียงของนางสันเล็กน้อย “แม่นาง สุน ถาวไม่เป็ นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ…”
เจียงป่ าวชิงดึงอะไรบางอย่างออกจากร่างมีหลิวเบา ๆ มีหลิวมองดูสิงทีดูเหมือน เข็มเงินจํานวนหนึง นางเคยเห็นวิธีการรักษานี้ของแม่นางเจียงและรู้สึกว่ามันน่า กลัวแต่ก็มหัศจรรย์มาก ไม่นึกเลยว่าวันหนึงตนเองจะได้ใช้เข็มยานี้
เจียงป่ าวชิงก้มหน้าก้มตาเก็บเข็มเงิน “ไม่ต้องห่วง สุนถาวไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็ แค่ร่างกายของนางเพิงฟื้ นตัวจากบาดเจ็บคราวก่อนแต่ก็ต้องมาล้มหัวกระแทก นางคงฟื้ นช้ากว่าเจ้าสักหน่อย”