แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 431 อ้วนขึ้นเล็กน้อย
ตอนที 431 : อ้วนขึ้นเล็กน้อย
แม้พระชายากับองค์หญิงเล็กต่างก็ดูเหมือนเป็ นคนทีเข้ากับคนอืนได้ดี แต่เจียง ป่ าวชิงยังคงต้องระมัดระวังอย่างยิงเมือต้องติดต่ อกับผู้มีอํานาจเหล่านี้ ณ ตอนนี้ ในทีสุดก็สามารถไปจากจวนองค์ชายหย่งชินได้สักที นางรู้สึกเบาใจไม่น้อยเลย
มีหลิวเห็นว่าเจียงป่ าวชิงนังพิงอยู่ ในรถม้าอย่างเกียจคร้านจึงช่วยยัดหมอนอิงใส่ ใต้เอวของเจียงป่ าวชิงอย่างเอาใจใส่ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา “แม่นางเจียง ถ้า เหนือยก็พักผ่อนพิงไหล่ข้าน้อยได้นะเจ้าคะ”
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “ไม่เป็ นไรหรอก เส้นทางแค่นี้ข้ายังพอทนไหว ขอบคุณเจ้า มาก”
นางเหนือยกายซะทีไหน เหนือยใจต่างหากล่ะ
หลังจากเรืองวุ่น ๆ ของพระชายารองอิงผ่านไป เจียงป่ าวชิงสมความปรารถนาขึ้น ไม่น้อยเลย แต่เรืองของพระชายารองอิงทําให้นางคิดอย่างหลีกเลียงไม่ได้ว่าถ้า หากตัวเองแต่งงานกับกงจี้ในภายภาคหน้าแล้ว เรืองบ้านเล็กบ้านน้อยอาจเกิดขึ้น แต่อย่างน้อยเรืองเช่นนั้นมันก็ฝึ กฝนคนได้ นางลูบจี้หยกตรงเอวพลางถอนหายใจ เลิกม่านหน้าต่างทีทั้งหนาและหนักขึ้นมามุมหนึงแล้วมองออกไปบนถนนอย่าง เหม่อลอย
หิมะเพิงตกเมือไม่กีวันก่อน ตอนนี้ชายคาส่วนใหญ่ทีหันไปทางถนนจึงเต็มไป ด้วยหิมะขาวดูงดงามมาก
หลังจากเข้าเดือนสิบสองแล้ว ผู้คนทีส่งเสียงร้องขายสินค้าเฉลิมฉลองเทศกาล ตรุษจีนก็มีเพิมมากขึ้น ผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของเดินกันผ่านไปมาดูคึกคักกว่า ปกติพอตัว เจียงป่ าวชิงมองอย่างเอาจริงเอาจัง มีหลิวทีอยู่ข้าง ๆ เตือนด้วยเสียง อันเบา “แม่นาง ลมพัดนอกหน้าต่างหนาวมาก ถ้าพัดใส่ใบหน้าอย่างต่อเนือง เกินไปอาจทําให้เป็ นหวัดได้นะเจ้าคะ”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า ปล่อยม่านหน้าต่างลงและไม่ได้พูดอะไรอีก
มีหลิวเห็นว่าเจียงป่ าวชิงไม่ได้พูดอะไร เอาแต่นังพิงหมอนอิงครุ่ นคิดอะไร บางอย่างด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เห็นดังนั้นนางก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “แม่ นาง ข้าน้อยพูดมากเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ…”
ท่าทางของนางดูกังวลอย่างมาก
เจียงป่ าวชิงดึงสติกลับมา เมือเห็นว่ามีหลิวมีท่าทีไม่สบายใจก็รู้สึกจนปัญญา เมือ สักครู่นี้นางแค่กําลังคิดว่าปี นี้เป็ นปี แรกทีได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน จะต้อง จัดเตรียมหรือฉลองให้ดีหน่อย
นางอดถอนหายใจไม่ได้
มีหลิวรีบคุกเข่าลงบนไม้กระดานของรถม้าทันที สีหน้าของนางเจือความ โศกเศร้าเล็กน้อย “ข้าน้อยรู้ว่าแม่นางไม่คุ้นชินทีมีข้าน้อยคอยรับใช้อยู่ข้าง ๆ ยิง ข้าน้อยเป็นสาวใช้ทีจวนองค์ชายมอบให้แล้วด้วย ไม่แปลกทีเราจะมีความเก้อเขิน ต่อกัน… แต่ข้าน้อยจริงใจต่อแม่นางจริง ๆ นะเจ้าคะ แม่นางอย่าได้โกรธข้าน้อย เลยนะ”
เจียงป่ าวชิงค่อนข้างทําหน้าไม่ถูก และไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร
หากจะให้พูดตามความจริงนางก็แค่ไม่ค่อยคุ้นชินกับสถานะเจ้านายกับผู้รับใช้ ระหว่างตัวเองกับมีหลิวก็เท่านั้น แต่ถ้าจะให้ปฏิบัติกับสาวใช้เหมือนพีเหมือน น้อง นางก็ไม่ได้มีความกรุณาอยากทีจะเป็ นพีน้องกันมากขนาดนั้น อีกอย่าง เจียงฉิงทีนางนับเป็นน้องสาวจริง ๆ ก็ยังอยู่ แม้มีหลิวเป็ นคนดี แต่นางจะเทียวไป นับคนโน้นคนนี้มาเป็ นพีสาวน้องสาวกันก็เกรงว่าจะเป็ นการไม่ให้เกียรติเจียงฉิง เกินไป
แต่ถ้าหากว่าต้องทําเหมือนสาวใช้เป็ นคนรับใช้จริง ๆ อันทีจริงเจียงป่ าวชิงก็ยัง ต้องการเวลาเปลียนความคิดของตัวเองสักเล็กน้อย
เจียงป่ าวชิงถอนหายใจ
มีหลิวก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เอ่อ… วันนี้ตั้งแต่ทีพระชายาส่งข้าน้อย ให้กับแม่นาง แม่นางถอนหายใจไม่รู้กีครั้งแล้ว ข้าน้อยสร้างปัญหาให้กับแม่นาง แล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ…”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า เพราะมันเป็ นปัญหาใหญ่จริง ๆ
“เจ้าลุกขึ้นเถอะ อันทีจริงเจ้าก็ไม่ได้ทําอะไรผิด อย่าเอะอะอะไรก็คุกเข่าสิ” น้ำเสียงของเจียงป่ าวชิงฟังดูจนปัญญาอย่างเห็นได้ชัด
ทว่ามีหลิวกลับไม่ยอมลุกขึ้น เสียงของนางเริมสัน “แม่นางเจียงฟังข้าน้อยพูด หน่อยนะเจ้าคะ บางทีในสายตาของแม่นาง แม่นางอาจมองว่าข้าน้อยมีเจตนา บางอย่างแอบแฝงอยู่ แต่ตั้งแต่ทีแม่นางไม่สนใจต่อความปลอดภัยของตัวเอง
ยอมไปช่วยสุนถาวแม้รู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับคุณหนูชิวเอ้อคนนั้น ตอนนั้นข้าน้อย คิดในใจทันทีว่าแม่นางเป็ นคนจิตใจดีมาก และคงดีมากหากว่าข้าน้อยสามารถรับ ใช้เพือตอบแทนแม่นางได้ อ้อ แล้วยังมีเมือครั้งทีแล้วทีข้าน้อยไปวานให้สิงหวู่ ทํางานให้แต่เขากลับทําไม่เรียบร้อยราบรืนจนทําให้พระชายารองอิงหาช่องว่าง มาสร้างความเดือดร้อนให้แม่นางเจียง แม่นางก็ไม่โทษข้าน้อยสักคํา ข้าน้อยไม่รู้ จะตอบแทนยังไงดีเลยเจ้าค่ะ พอดีว่าพระชายามาหาข้าน้อยและบอกว่าแม่นางยัง ไม่มีใครคอยรับใช้อยู่ข้างกาย ท่านจึงคิดจะส่งข้าน้อยกับสุนถาวไปรับใช้แม่นาง ตอนนั้นข้าน้อยรู้สึกดีใจมาก” เสียงของมี◌่หลิวค่อย ๆ อ่อนลง “ข้าน้อย… ข้าน้อยจริงใจกับ…”
เจียงป่ าวชิงอดไม่ได้ ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง นางก้าวไปดึงมีหลิวให้ลุกขึ้นและ อธิบายไปด้วย “ทีข้าถอนหายใจเพราะคิดอะไรหลาย ๆ เรืองจนอดไม่ได้ แต่ ไม่ได้เกียวกับเจ้าหรอกนะ ข้าบอกตามตรงว่าเรืองเจ้าถือเป็ นปัญหาจริง ๆ แต่ใน เมือมาด้วยกันแล้ว ข้าเองก็จะไม่ระบายอารมณ์ใส่เจ้า เราค่อย ๆ อยู่ด้วยกันไป ก่อนเถอะ” เจียงป่ าวชิงเห็นว่ายังมีคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้าของมีหลิวก็ใจอ่อน และพูดเสริมอีกหนึงประโยค “ข้าอาจพูดจาตรง ๆ ไม่ค่อยเอาใจใส่สักเท่าไหร่ ยังไงเจ้าก็อภัยให้ข้าด้วยล่ะ”
มีหลิวส่ายหน้าอย่างหวาด ๆ “ไม่เลยเจ้าค่ะ มีเจ้านายคนไหนสังให้คนรับใช้อภัย ให้ล่ะเจ้าคะ แม่นางเป็ นเช่นนี้คือใจดีมาก ๆ แล้วเจ้าค่ะ”
นางทั้งร้องไห้และหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาก่อนจะพูดต่อ “สุนถาวยังต้อง รักษาขาอีกสักสองสามวัน เมือถึงตอนนั้นจวนองค์ชายคงจะส่งสุนถาวมาสมทบ เจ้าค่ะ ข้าน้อยกับสุนถาวจะรับใช้แม่นางเป็ นอย่างดีอย่างแน่นอนเลย!”
เจียงป่ าวชิงปรบมือให้กับคําพูดแสดงความในใจนี้อย่างยกยอปอปั้ น เพือแสดงให้ เห็นว่านางตั้งตารอมันอย่างมาก
เนืองจากสังคนไปส่งต่อข้อความให้กับทีบ้านเมือวันก่อนแล้ว เจียงหยุนชานจึง ตั้งใจลาหยุดวันนี้โดยเฉพาะและพาเจียงฉิงกับเลียวชุนหยู่เตรียมตัวรอเจียงป่ าวชิง อยู่ทีบ้าน
แม้รู้ว่าน้องสาวสบายดีทุกประการ แต่เจียงหยุนชานกลับยังคงเป็ นห่วงน้องสาว อยู่ในใจ …ป่ าวชิงไปอยู่ดูแลรักษาผู้สูงศักดิ<หลายวัน จะได้รับความไม่เป็ นธรรม อะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้เลย
และป่ าวชิงจะผอมลงหรือไม่… นางได้กินดีอยู่ดีหรือไม่…
ในใจของพีชายอย่างเขาขึ้น ๆ ลง ๆ วันนี้ตั้งแต่เช้าไม่รู้ว่าเขาไปดูทีประตูทางเข้า กีครั้งแล้ว ในทีสุดก็เห็นรถม้าสองคันเคลือนมาจอดอยู่ทีประตูบ้านและรู้สึกดีใจ ทันที
ตอนทีเขากําลังจะเรียกป่ าวชิง ก็เห็นหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิมคนหนึงลงจากรถม้า ้ มาก่อน เมือหญิงสาวคนนั้นเห็นเขา นางก็ทําความเคารพอย่างสุภาพ “พบ คุณชายเจียงเจ้าค่ะ”
เจียงหยุนชานรู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวคนนั้นยืนมือเข้าไป ในรถม้า “แม่นาง พื้นค่อนข้างลืน ระวังด้วยนะเจ้าคะ ข้าน้อยจะช่วยประคองแม่ นางเองเจ้าค่ะ”
เจียงป่ าวชิงเลิกม่านรถม้าออก เมือเห็นมือของมีหลิวก็รู้สึกจนปัญญาอีกแล้ว “ไม่ ต้องหรอก ข้าไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางอ่อนแอ เจ้าไม่จําเป็ นต้องระวังขนาดนี้ก็ได้ ทํา ตัวตามสบายกว่านี้เถอะ”
เดิมทีมีหลิวอยากพูดว่า “แต่มันอันตรายนะเจ้าคะ” เจียงป่ าวชิงก็กระโดดลง จากรถม้าเป็ นทีเรียบร้อยแล้ว และโถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงหยุนชาน
“พี!”
เจียงหยุนชานหน้าแดง เขารู้สึกตืนเต้นดีใจเมือเจอกับน้องสาวแต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ เหมาะสมอยู่เล็กน้อย ก็เขากับป่ าวชิงโตกันขนาดนี้แล้ว…
ทว่าโชคดีทีเจียงป่ าวชิงเพียงแค่รู้สึกตืนเต้นดีใจทีได้เห็นพีชายหลังจากไม่ได้เจอ กันนานหลายวัน นางกอดเจียงหยุนชานไม่นานก็รีบปล่อยอีกฝ่ ายทันที
เจียงหยุนชานมองสํารวจเจียงป่ าวชิง เจียงป่ าวชิงเองก็มองสํารวจเจียงหยุนชาน ด้วยใบหน้ายิมแย้มเช่ ้ นกัน
ตามระเบียบปฏิบัติ เวลานี้เจียงหยุนชานควรพูดคําว่า “เจ้าผอมลงนะ” ด้วย น้ำตาคลอเบ้าไม่ใช่หรือ…? แต่หลังจากทีเจียงหยุนชานพีชายของนางมอง สํารวจอย่างละเอียดแล้ว เขากลับยิมปลื ้ ้มอกปลื้มใจ “ป่ าวชิง ข้าชอบทีเจ้าอ้วน ขึ้นเล็กน้อยนะ”
เจียงป่ าวชิงเหมือนถูกตีแสกหน้า นางจับใบหน้าตัวเองแล้วพูดขึ้นอย่างไม่ค่อย มันใจว่ า “ไม่กระมังพี…”
ต้องบอกว่าอาหารทีจวนองค์ชายนั้นดีมากจริง ๆ โดยเฉพาะอาหารฝี มือมีหลิว นางมักยกต้มไก่เอย ต้มปลาเอย ไม่ก็น้ำต้มสมุนไพรดี ๆ มาให้นางบํารุงร่างกาย เสมอและต้องยอมรับว่าอาหารเหล่านั้นรสชาติดีจริง ๆ
เจียงป่ าวชิงมองมีหลิวด้วยสายตาละเหียใจปนยิม ๆ ้
คงเป็ นเพราะได้ยินเสียงข้างนอก เจียงฉิงกับเลียวชุนหยู่จึงวิงออกมาจากในบ้าน อย่างรวดเร็ว เจียงฉิงตัวน้อยโถมเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงป่ าวชิงด้วยน้ำตานอง หน้าทันที “พีสาวมาแล้ว ข้าคิดถึงพีมากเลยจ้ะ!”
ส่วนเลียวชุนหยู่ควบคุมตัวเองได้มากกว่าหน่อย เขายืนอยู่ด้านข้างและเพียงเรียก ออกมาว่า “พีป่ าวชิง!” ด้วยความตืนเต้น
สําหรับสมาชิกและสถานะของคนในครอบครัวของเจียงป่ าวชิง มีหลิวสอบถาม เจียงป่ าวชิงตั้งแต่เนิน ๆ แล้ว นางทําความเคารพเลียวชุนหยู่กับเจียงฉิง “เข้าพบ คุณชายเล็กและคุณหนูเล็กเจ้าค่ะ”
เลียวชุนหยู่กับเจียงฉิงรู้สึกงุนงง แต่เจียงฉิงก็ยิมให้มีหลิวอย่างเป็นมิตรและพูดกับ เจียงป่ าวชิงว่า “พีสาว พีผอมไปแล้วนะจ๊ะ”
เจียงป่ าวชิงรู้สึกได้ทันทีว่าบนโลกใบนี้มีเพียงน้องสาวเท่านั้นทีดีกับนาง