แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 422 เรื่องบานปลาย
เมื่อเห็นว่าไม่ได้มีความตื่นตระหนกอย่างที่นางคิดไว้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเจียงป่าวชิง กลับมีรอยยิ้มอธิบายไม่ถูกมาแทนที่ สีหน้าของพระชายารองอิงก็ดุร้ายมากยิ่งขึ้น
ไอ้คนต่ำต้อยคนนี้กำลังเยาะหยันนางอย่างเห็นได้ชัด!
พระชายารองอิงค่อย ๆ เก็บรอยยิ้มอย่างช้า ๆ เมื่อนางโบกมือ หญิงชราแข็งแรงที่อยู่ด้านหลังนางก็ค่อย ๆ มาล้อมเจียงป่าวชิงไว้ สภาพการณ์นี้ดูค่อนข้างน่ากลัวเล็กน้อยแต่มีหรือคนอย่างเจียงป่าวชิงจะกลัวพวกที่ชอบทำตัวขี้อิจฉาพวกนี้
ด้านข้างเป็นห้องพักผ่อนรักษาอาการของพระนางเจียฮุ่ย ถ้าหากว่าพวกเขาที่อยู่ห้องนี้ส่งเสียงดังเอะอะโวยวายจะรบกวนพระนางเจียฮุ่ยเอาได้ พระชายารองอิงไม่กล้าให้คนจับเจียงป่าวชิงมัดแน่ นางก็แค่ต้องการขู่ขวัญเจียงป่าวชิงและบีบบังคับให้ยอมรับผิดก็เท่านั้น
เจียงป่าวชิงแค่นหัวเราะพลางเอื้อมมือออกไปยกโต๊ะไม้ตัวเล็กฝังประดับด้วยเปลือกหอยที่อยู่บนพื้นที่ยกสูงด้านข้างให้พลิกคว่ำลงไป แน่นอนว่าโต๊ะไม้ตัวนั้นล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ข้าวของบนโต๊ะหลายอย่างหล่นกระจายจนเกิดเป็นเสียงค่อนข้างดัง
ไม่ต้องพูดถึงพระชายารองอิงที่มีชีวิตอยู่ดีกินดีมาโดยตลอดเลย แม้แต่พวกหญิงชราดูแข็งแรงที่กำลังล้อมเจียงป่าวชิงต่างก็ตกใจกันทั้งนั้น พวกนางทั้งหมดตกตะลึงอึ้งกิมกี่ ยืนมองข้าวของที่หล่นระเกะระกะอยู่บนพื้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
พระชายารองอิงกัดฟัน นางรู้ว่าต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จอย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นหากว่าคนในห้องของพระนางเจียฮุ่ยมาที่นี่ต้องมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีกมากมายเป็นแน่
พระชายารองอิงโบกมือด้วยสีหน้าอึมครึมและรีบสั่งพวกหญิงชรา “เอ้า ยืนบื้อกันทำไมอีก รีบเก็บให้ไวแล้วไปปิดปากนางซะสิ!”
เจียงป่าวชิงขมวดคิ้ว ที่นางคว่ำโต๊ะไม้เมื่อครู่นี้ไม่ใช่แค่ทำให้เกิดเสียงดังและขัดขวางทางเดินของหญิงชราพวกนั้นอย่างเดียว นางยังใช้โอกาสนี้ปีนขึ้นไปบนพื้นที่ยกสูงอย่างรวดเร็ว ดึงปิ่นปักผมบนศีรษะออกมาถือไว้ในมือโดยหันปลายปิ่นปักผมไปข้างนอก จ่อไปทางหญิงชราพวกนั้น สุดท้ายก็มองทุกคนอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่าและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ถ้าพวกเจ้าขยับเข้ามาอีกครั้งก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจ!”
เจียงป่าวชิงเป็นหญิงที่มีรูปโฉมงดงามมาก เดิมทีใบหน้าสวยของนางปนไปด้วยความเย็นชาอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อวันก่อน ๆ นางมักยิ้มแย้มเสียจนคนอื่น ๆ ไม่ทันสังเกตว่าเวลานางทำสีหน้าเย็นชามันดูน่าเกรงขามมากเพียงใด รอยยิ้มเยาะของนางดูไร้เทียมทานอย่างที่ใครก็ไม่อาจต่อกร
หญิงชราต่างมองหน้ากัน เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ลังเลมากเสียจนไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าเพราะกลัวว่าจะถูกเด็กสาวที่ดูไร้ซึ่งความกลัวคนนี้แทง
พระชายารองอิงโมโหแทบบ้า นางกัดฟันแน่น “รีบเข้าไปสิ! นางมีแค่คนเดียวแล้วพวกเจ้ากลัวอะไร!”
แม่นมซุนพูดเสียงอ่อย “นายท่านอิงเจ้าขา เด็กคนนี้ดูดุร้ายมากเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยทำอะไรเงอะงะ คงไม่ดีถ้าหากว่าทำเรื่องของนายท่านอิงพลาดไป ยังไงเราเรียกองครักษ์มามัดนางจะดีกว่านะเจ้าคะ เดิมทีการที่นางขโมยของมีค่าจากจวนก็ถือเป็นความผิดร้ายแรงแล้ว จับนางมัดแล้วนำตัวไปให้องค์ชาย…”
พระชายารองอิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นว่าประตูข้างนอกถูกเปิดออก เผยให้เห็นแม่นมกุ้ยเดินนำสาวใช้ในห้องของพระนางเจียฮุ่ยมาหยุดยืนตรงนอกประตู
แม่นมกุ้ยยังไม่ทันได้เข้ามาในห้องก็เห็นว่ามีข้าวของระเกะระกะเกลื่อนอยู่เต็มพื้น และมีพวกหญิงชราท่าทางแข็งแรงกลุ่มหนึ่ง นางขมวดคิ้วมองภายในห้องอย่างละเอียด สายตาเลื่อนไปหยุดที่พระชายารองอิงพลันมีสีหน้ารังเกียจฉายวาบขึ้นมาทางใบหน้า
แม้นางจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นเจียงป่าวชิงที่ช่วยชีวิตพระนางเจียฮุ่ยของนางถูกหญิงชราพวกนั้นล้อมและเหมือนกำลังถูกบีบบังคับจนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนพื้นที่ยกสูง และเจียงป่าวชิงยังถือปิ่นปักผมเงินไว้อยู่ในมือราวกับป้องกันตัวด้วย แม่นมกุ้ยแทบไม่ต้องคิด นางยืนพูดอยู่นอกประตูด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “หมอเทวดาเจียงเป็นอะไรไหมเจ้าคะ กลางวันแสก ๆ แท้ ๆ กลับมีคนเข้ามาก่อกวนแม่นางถึงในห้องได้ จิ้งหลาน เจ้าอย่ามัวยืนงง รีบไปรายงานองค์ชายกับพระชายาเร็วเข้า!”
จิ้งหลานเป็นคนฉลาด เมื่อนางเห็นว่าสีหน้าของพระชายารองอิงเปลี่ยนไปคล้ายกับต้องการจะให้คนขวางตัวนางไว้ นางรีบหมุนตัวแล้ววิ่งจากไปทันที
ถึงแม้ว่าพระชายารองอิงจะไม่เห็นพระชายาอยู่ในสายตา ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่ในจวนองค์ชายหย่งชินมานานหลายปี แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกับแต่ก่อน พระนางเจียฮุ่ยประชวรและองค์ชายกำลังสงสัยว่านางเป็นคนทำให้พระนางเป็นเช่นนี้หรือเปล่า นางต้องประพฤติตัวดี คอยไปร้องไห้อยู่ในห้องพระนางเจียฮุ่ยทุกวี่วันเพื่อให้องค์ชายรู้สึกสงสาร อุตส่าห์ลงทุนทำขนาดนั้น ตอนนี้นางไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปแบบเรือล่มเมื่อจอดได้ อีกทั้งแม่นมกุ้ยยังเป็นสาวใช้ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระนางเจียฮุ่ย ยิ่งไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ง่าย ๆ
พระชายารองอิงยืนแข็งทื่อ “แม่นมกุ้ยเข้าใจผิดแล้ว เจียงป่าวชิงขโมยของของข้า ข้าจึงมาถามเอาความจริงจากนางก็เท่านั้น”
แววความรังเกียจฉายวาบในดวงตาของแม่นมกุ้ย นางขมวดคิ้ว “จะเป็นไปได้ยังไงเจ้าคะ หมอเทวดาเจียงช่วยชีวิตพระนางเจียฮุ่ยไว้ องค์ชายกับพระชายามอบรางวัลให้หมอเทวดาเจียงมากมาย เมื่อพระนางเจียฮุ่ยหายเป็นปกติดีแล้ว ท่านคงมอบรางวัลให้หมอเทวดาเป็นอย่างดีเพิ่มอีก” แม่นมกุ้ยหยุดชะงักเล็กน้อย นางสังเกตเห็นว่าสีหน้าของพระชายารองอิงเปลี่ยนไปได้จากทางหางตาจึงหัวเราะเยาะในใจแล้วพูดต่อ “ข้าน้อยขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังสักหน่อยนะเจ้าคะ พระชายารองโปรดอย่าได้ไม่พอใจ ไม่แน่วงศ์ตระกูลของหมอเทวดาเจียงอาจดีกว่าวงศ์ตระกูลของพระชายารองก็ได้เจ้าค่ะ”
พระชายารองอิงเหมือนถูกใครบางคนทิ่มแทงประตูชีวิตตัวเอง สีหน้านางย่ำแย่ นี่มันร้ายแรงราวกับถูกคนตบหน้าฉาดใหญ่
ชีวิตครอบครัวของนางแย่ลงเรื่อย ๆ แม้นางจะเป็นบุตรที่เกิดจากบ้านรอง แต่ก่อนหน้านางยังมีพี่ชายบิดามารดาเดียวกันอีกคน ซึ่งพี่ชายคนนั้นติดการพนันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนเกือบสูญเสียทรัพย์สมบัติในบ้านทั้งหมดไป แต่ที่ยังสามารถประคองชีวิตให้รอดไปวัน ๆ ได้เป็นเพราะนางส่งสิ่งของที่องค์ชายหย่งชินมอบให้แก่นางออกไปสงเคราะห์ครอบครัวตลอดหลายปีที่ผ่านมานั่นเอง
พระชายารองอิงดูสง่างามและเป็นที่โปรดปรานในจวนมาหลายปีแล้ว แต่เบื้องหลังนางไม่สวยงามนัก ครอบครัวนางย่ำแย่อย่างที่ใคร ๆ เขาก็รู้กันถ้วนทั่ว
เมื่อแม่นมกุ้ยพูดถึงเรื่องวงศ์ตระกูลของนางในตอนนี้ พระชายารองอิงจะไม่ขาดความมั่นใจได้อย่างไร เหงื่อใสไหลลงมาตามหน้าผากขาวของพระชายารองอิง นางพยายามฝืนพูดต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ดูแม่นมพูดเข้าสิ ไปพูดเรื่องวงศ์ตระกูลอะไรกัน นี่เรากำลังคุยกันเรื่องที่ว่าเจียงป่าวชิงคนนี้ขโมยปิ่นปักผมรูปหางหงส์พร้อมจี้หยกเล็ก ๆ ที่องค์ชายมอบให้ข้า นั่นเป็นของแทนใจที่องค์ชายมอบให้แก่ข้าและมันมีความหมายอย่างมากต่างหากเล่า”
แม่นมกุ้ยอุทานออกมาด้วยสีหน้ารังเกียจเหลือทน “ที่พระชายารองบอกว่าเป็นของแทนใจอะไรนั่นข้าน้อยไม่เข้าใจหรอกเจ้าค่ะ เรื่องพวกนี้ยังไงก็รอให้พระชายากับองค์ชายมาก่อนแล้วค่อยว่ากันจะดีกว่าเจ้าค่ะ”
พระชายารองอิงได้ยินคำว่า “องค์ชาย” ในใจนางถึงค่อยสงบลง แม้ช่วงนี้ท่าทีขององค์ชายที่มีต่อนางจะผิดปกติไปเล็กน้อยแต่นางเชื่อว่าคงเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เรื่องนี้นางมั่นใจว่าองค์ชายต้องปกป้องนางอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับที่พระชายากับนางเคยปะทะกันมานับไม่ถ้วน องค์ชายก็มักยืนอยู่เคียงข้างนางเสมอ
พระชายารองอิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายความกังวลก่อนจะเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมาให้เห็น “เช่นนั้นก็ตามแต่แม่นมกุ้ยว่าเลย”
แม่นมกุ้ยพยักหน้าแล้วตะเพิดใส่พวกหญิงชราเหล่านั้น “ไงล่ะ พวกเจ้ายังไม่หลีกไปกันอีก! จะยืนกันอยู่ทำไม หรือต้องให้ข้าเชิญพวกเจ้าให้หลีกไป ?!”
เป็นคนรับใช้เหมือนกันทว่าแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน
เหล่าหญิงชราเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาให้เห็นแล้วพากันหลีกไปด้านข้างทันที
แม่นมกุ้ยก้าวไปข้างหน้าพลางมองข้าวของที่เกลื่อนเต็มอยู่บนพื้นแล้วเดินอ้อมไปยื่นมือให้เจียงป่าวชิงอย่างใจดี “หมอเทวดาเจียง แม่นางไม่ได้รับความเป็นธรรมเสียแล้ว”
เจียงป่าวชิงเก็บปิ่นปักผมและกระโดดลงจากพื้นที่ยกสูงโดยอาศัยแรงมือของแม่นมกุ้ย นางยิ้ม “ซะที่ไหนกันล่ะจ๊ะ มีแม่นมอยู่ด้วยคิดว่าคงไม่เป็นไรแล้วจ้ะ”
.
.
.