แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 994 โต้วโต้วโทรมารบกวน
ตอนที่ 994 โต้วโต้วโทรมารบกวน
ตอนที่ 994 โต้วโต้วโทรมารบกวน
ขณะสามีและลูกชายของหญิงชรากำลังจะเข้าตะลุมบอน เจ้าหน้าที่รัฐก็ตะโกนเสียงดังลั่น “หยุด!”
ชายชราและลูกชายหยุดฝีเท้าทันที สุดท้ายแล้วเขายังหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่
เจ้าหน้าที่รัฐชี้ไปที่หลินม่ายก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สหายคนนี้ไม่ใช่ภรรยาของผู้รับเหมา หล่อนคือหลินม่าย ผู้ประกอบการเอกชนชื่อดัง”
เวลานี้เขาจ้องมองหญิงชราด้วยความขุ่นเคือง “หล่อนเห็นว่าพวกคุณน่าสงสารจึงเข้าช่วยเหลืออย่างมีเจตนาดี แต่พวกคุณกลับจะทุบตีหล่อนอย่างนั้นเหรอ? แบบนี้ฉันจะให้ตำรวจจับกุมพวกคุณทั้งหมดเข้าคุก!”
หญิงชราเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที “ก็ฉันไม่รู้นี่…”
เวลานี้นางรีบลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะเข้าหาหลินม่ายราวกับขอทาน “ท่านผู้ใจบุญ ในเมื่อท่านมีเงินมาก โปรดให้เงินพวกเราเพิ่มเถอะนะ”
หลินม่ายเกลียดชังหญิงชราผู้นี้เสียแล้ว แม้อีกฝ่ายจะไม่ทราบว่าเธอเป็นใคร แต่นางก็เกือบจะทุบตีเธอแล้ว
ท้ายที่สุด พฤติกรรมที่สุดโต่งจากใครบางคนมันเกิดขึ้นเพราะความเจ็บปวดจนทำให้หน้ามืดตามัว
สุดท้ายแล้วหากญาติของนางต้องตายตกเพราะหัวหน้าคนงานที่ไร้ศีลธรรม นางคงข่มเหงภรรยาของหัวหน้าคนงานนั้น
แต่การจับเธอถอดเสื้อผ้าให้อับอายจนไม่อยากเป็นมนุษย์ นี่ไม่ใช่การกระทำที่รุนแรง แต่เป็นจิตใจที่ชั่วร้ายภายใน
หลินม่ายยิ้มฝืน ๆ ก่อนจะถามออกไป “แล้วคุณอยากได้เท่าไหร่?”
หญิงชรามีความสุขมาก เวลานี้นางรีบตอบกลับ “ในเมื่อคุณมีเงินมาก พวกเราขอหลาย ๆ หมื่น”
ลูกสะใภ้ที่ตั้งครรภ์อยู่ตะโกนออกมาอย่างอับอาย “แม่สามี… คุณ… คุณทำแบบนี้ได้ยังไง?”
หญิงชราหันไปตวาดอย่างเดือดพล่าน “หุบปากซะ ถ้าแกพูดอีกคำ ฉันจะตบปากแกให้ตาย!”
แม้ลูกสะใภ้ไม่ยินดี แต่หล่อนก็ทำได้เพียงเงียบปากลง เพราะยังมีสายตาชั่วร้ายจากลุงและพ่อสามีที่กดดันมาด้วย
หลินม่ายเห็นคุณลุงในชุดพยาบาลถือขวดน้ำใบใหญ่กำลังยืนรับชมการแสดงนี้อย่างสนุกสนาน
เธออดไม่ได้ที่จะเดินไปหยิบขวดน้ำในมือของลุง
ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน เธอสาดน้ำใส่หน้าหญิงชราก่อนจะกล่าวประชด “ตื่นค่ะ เลิกฝันเฟื่องได้แล้ว!”
หญิงชราเช็ดน้ำออกจากใบหน้า แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะต่อว่าหลินม่าย
นางหันหลังกลับมาก่อนจะหยิบเงินในมือของลูกสะใภ้แล้วพูดว่า “ฉันจะเป็นคนเก็บเงินนี่เอง!”
ลูกสะใภ้พยายามยื้อมันเอาไว้พร้อมกับท้องใหญ่ ๆ ของหล่อน “แม่ แม่คะ คุณเอาเงินนี้ไปไม่ได้ ถ้าเอาไปแล้ว ฉันกับลูกจะอยู่ยังไง อีกอย่างฉันก็กำลังจะคลอดแล้วด้วย”
หญิงชราเม้มปาก “ถ้าแกคลอดลูกชายได้ เราจะเลี้ยงลูกให้แกเอง แล้วแกก็ออกจากตระกูลของเราไปพร้อมกับนังเด็กสาวขี้แพ้ทั้งสามคนซะ!”
หลินม่ายดึงเงิน 5,000 หยวนกลับมาก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันให้เงินนี้กับลูกสะใภ้ของคุณ แล้วทำไมคุณถึงคิดจะอยากได้มัน?”
หญิงชราน้ำตาไหลพราก “คุณให้เงินกับนังสารเลวที่ผลิตแต่เด็กหญิงไม่ได้นะ คุณต้องมอบมันให้กับฉันสิ ฉันยังมีลูกชายสองคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน”
เจ้าหน้าที่ของรัฐทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตะโกนเสียงดัง “คุณพูดเรื่องอะไร? ประธานหลินไม่ใช่บรรพบุรุษของตระกูลกั๋ว หล่อนมีหน้าที่จะมาสนใจว่าลูกชายของคุณแต่งงานหรือยังไม่แต่งงานด้วยเหรอ?”
ผู้ชมทั้งหมดหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพรียง
หลินม่ายมอบเงินกลับคืนให้หญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ก่อนจะบอกให้หล่อนเก็บเงินไว้ให้ดีแล้วจากไป
หลังจากกลับบ้านมาแล้ว หลินม่ายก็เห็นสีหน้าของคุณย่าฟางไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอจึงกล่าวถามอย่างกังวล
คุณปู่ฟางตอบแทน “ไม่ใช่เพราะโต้วโต้วหรือไงล่ะ”
หลินม่ายประหลาดใจ “โต้วโต้วอยู่ห่างจากเราหลายพันกิโลเมตร แล้วหล่อนจะมาสร้างความวุ่นวายกับพวกเราได้ยังไงล่ะคะ?”
“หล่อนโทรมาก่อกวนพวกเราน่ะสิ และในเช้านี้หล่อนก็โทรมากว่าสิบสาย”
ขณะที่คุณปู่ฟางพูดจบ โทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นดังขึ้นอีกครั้ง
คุณปู่ฟางถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “โต้วโต้วโทรมาอีกแล้ว!”
หลินม่ายเดินไปวางโทรศัพท์ด้วยตัวเอง
คุณย่าฟางถามว่า “แล้วทำไมไม่ถามโต้วโต้วว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนล่ะ?”
หลินม่ายนั่งลงบนโซฟาก่อนจะรับแอปเปิลเขียวที่เสี่ยวมู่ตงยื่นให้ เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะถามว่า “แล้วคุณย่ากับคุณปู่ไม่ได้ถามเหรอคะ?”
“ฉันถามแล้ว แต่หล่อนก็ไม่ยอมบอก เอาแต่ยืนกรานว่าจะคุยกับเธอเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราโกรธ” คุณปู่ฟางตอบ
แม้คุณย่าฟางจะบอกว่าไม่สนใจโต้วโต้วแล้ว แต่สุดท้ายนางก็เลี้ยงดูโต้วโต้วมาหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าไม่กังวลเรื่องของเด็กคนนี้
นางหันมากล่าวกับหลินม่ายอย่างกังวล “จะมีอะไรเกิดขึ้นกับโต้วโต้วหรือเปล่า? หรือว่าหล่อนขอความช่วยเหลือจากเธอจริงๆ?”
หลินม่ายส่ายศีรษะก่อนจะพูดว่า “ถ้ามีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น หล่อนจะไม่โทรหาเราเป็นสิบครั้งอย่างนี้หรอกค่ะ หลังโทรศัพท์หาฉันสองครั้งแล้วโทรไม่ติด หล่อนน่าจะไปหาตำรวจหรือเลขาเสิ่น”
เห็นคุณย่าฟางยังคงกังวล หลินม่ายจึงพูดขึ้นว่า “อย่างนั้นฉันจะโทรไปถามเลขาเสิ่นแล้วกันค่ะ”
เธอวางแอปเปิลในมือก่อนจะโทรหาเสิ่นเสี่ยวผิง แล้วถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของโต้วโต้วในเวลานี้
เสิ่นเสี่ยวผิงกล่าวออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่าพูดเรื่องโต้วโต้วเลยค่ะ ตอนนี้กระทั่งหมายเลขโทรศัพท์ของฉันแม่ของหล่อนก็รู้แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแม่ของหล่อนโทรหาฉันและบอกว่าโต้วโต้วป่วยหนักหัวใจวาย จึงขอเงินไปหาหมอ 1,000 หยวน แต่ว่าฉันปฏิเสธไป เวลานั้นฉันเลยไปรับโต้วโต้วเพื่อจะพาไปโรงพยาบาลและจะจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่โต้วโต้วและพ่อแม่ของหล่อนกลับปฏิเสธฉัน นี่มันคือการแกล้งป่วยเพื่อขอเงินชัด ๆ แล้วแม่ของโต้วโต้วก็ยังไม่หยุดเท่านี้ หล่อนโทรมาคุกคามฉันตลอด โดยจะให้ฉันจ่ายเงินให้หล่อนให้ได้ มันน่ารำคาญมากเลยล่ะค่ะ”
หลินม่ายพูดต่อว่า “โทรหาตำรวจสิ ให้ตำรวจขังหล่อนไว้สักสองสามวัน น่าจะมีสติขึ้น”
เสิ่นเสี่ยวผิงตอบกลับ “ฉันทำแล้วค่ะ ฉันบอกตำรวจไปว่าเป็นเพราะแม่ของโต้วโต้วโทรมารบกวน ฉันจึงพลาดคำสั่งซื้อหลายรายการและต้องเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ตำรวจจึงควบคุมตัวแม่โต้วโต้วไว้ห้าวัน ตั้งแต่วันนั้นมา แม่ของโต้วโต้วก็ไม่โทรมาหาฉันอีกเลย”
หลินม่ายยิ้มเยาะในใจ หรงจี้เหมยเคยถูกจับมาก่อน หล่อนจึงหวาดกลัวและไม่กล้ากระทำชั่วด้วยตัวเอง เวลานี้หล่อนกลัวที่จะเผชิญหน้ากับเสิ่นเสี่ยวผิง เลยบอกให้โต้วโต้วมายุ่งกับเธอแทนงั้นหรือ?
ไม่นานหลังจากเธอวางสาย โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
คุณย่าฟางกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เมื่อไหร่เรื่องนี้มันจะจบสักที!”
เมื่อครู่นี้หลินม่ายเปิดลำโพงขณะโทรหาเสิ่นเสี่ยวผิง คุณย่าฟางจึงได้ยินทุกการสนทนาอย่างชัดเจน
ตอนนี้นางไม่กังวลเรื่องของโต้วโต้วแล้ว กลับกลายเป็นเกลียดแทน
หล่อนคิดร่วมมือกับแม่ที่แท้จริงเพื่อรีดไถเงินจากแม่บุญธรรม มันเป็นการกระทำที่มากเกินไป!
หลินม่ายอยากจะวางสายไปเหมือนเดิม
แต่เธอก็กลัวว่าสายนั้นจะเป็นสายจากหุ้นส่วนธุรกิจ หรือลูกน้องของตัวเอง หากพลาดไปคงจะไม่ดีนัก
หลินม่ายลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็รับโทรศัพท์ และเป็นเสียงของโต้วโต้วดังขึ้นจากปลายสาย
โต้วโต้วตะโกนเรียกแม่พร้อมกับร้องไห้ลั่น แต่ถูกหลินม่ายกล่าวขัดทันที “หยุดเรียกฉันว่าแม่ได้แล้ว ฉันไม่ใช่แม่ของเธออีกต่อไป!”
แต่โต้วโต้วก็ยังยืนกรานเรียกว่าแม่อยู่อย่างนั้น
ทันทีที่เสียงของหล่อนดังขึ้นอีกครั้ง หลินม่ายก็วางสายทันที
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ โต้วโต้วกำลังตกตะลึง หล่อนไม่คิดมาก่อนว่าแม่บุญธรรมผู้แสนอ่อนโยนของตนจะกลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจอย่างนี้
หรงจี้เหมยใส่ไฟจากด้านข้าง “ดูเหมือนว่าแม่หลินของลูกจะมีลูกเป็นของตัวเองจนอยากจะทิ้งลูกนานแล้ว ดูซิ หล่อนไม่คิดจะรับสายลูกด้วยซ้ำ!”
โต้วโต้วก้มศีรษะลงด้วยความหดหู่ใจ
หรงจี้เหมยบอกกล่าวให้โต้วโต้วโทรหาหลินม่ายต่อไปจนกว่าหลินม่ายจะทนไม่ไหว สุดท้ายอีกฝ่ายก็ต้องยอมรับสายแต่โดยดี
โต้วโต้วเป็นนักเรียนชั้นประถม และตำรวจไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวการโทรศัพท์ก่อกวนแม่บุญธรรมของเธอได้ สุดท้ายแล้วเธอยังเด็กเกินไป
ไม่กี่นาทีที่หลินม่ายวางสาย โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง หลินม่ายรับสายและได้ยินว่าเป็นโต้วโต้วที่โทรเข้ามา
คราวนี้เธอไม่ได้วางสายทันทีหลังจากได้ยินว่าเป็นเสียงของโต้วโต้ว
แน่นอนว่าการหลีกหนีไม่สามารถทำให้โต้วโต้วหยุดได้
หลินม่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอต้องการอะไรจากฉัน?”
โต้วโต้วร้องไห้ก่อนจะบอกกล่าวว่าหล่อนป่วย ต้องการไปโรงพยาบาล
น้ำเสียงของหลินม่ายเฉยชา “ฉันรู้เรื่องนี้แล้ว แม่ของเธอบอกให้เธอแกล้งป่วยเพื่อมาขอเงินฉันใช่ไหม?”
โต้วโต้วตกตะลึงไปครู่ ก่อนจะกล่าวออกมาแผ่วเบา “หนู…หนูป่วยจริง ๆ ค่ะ”
น้ำเสียงของหลินม่ายเรียบเฉย “ถ้าอย่างนั้นตอนที่น้าเสิ่นจะพาไปหาหมอทำไมเธอถึงไม่ไป? พ่อแม่เธอจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินสักแดง”
“หนู… อยากจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง”
“ไม่ว่าเธอจะเอาเงินไปหาหมอเองหรือให้น้าเสิ่นจัดการให้มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ต่างกันตรงไหน?”
โต้วโต้วกล่าวแผ่วเบา “หนูไม่อยากให้น้าเสิ่นเลือกโรงพยาบาลให้”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เลือกโรงพยาบาลเอง แล้วให้น้าเสิ่นจัดการค่ารักษาให้”
โต้วโต้วอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ “จริงเหรอคะ?”
หลินม่ายตอบ “แน่นอนว่าจริง แต่ถ้าเธอโกหก เธอจะต้องยอมรับผลการกระทำของตัวเองด้วย”
โต้วโต้วกล่าวออกมาอย่างลังเล “แต่… น้าเสิ่นไม่รับสายแม่ของหนูแล้ว”
หลินม่าย “งั้นฉันจะไปคุยกับน้าเสิ่นให้ อย่าเพิ่งวางสายไปล่ะ”
หลังเห็นว่าน้าถูเตรียมอาหารพร้อมแล้ว เธอก็วางหูโทรศัพท์แล้วไปที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหาร
คุณย่าฟางถามออกมาอย่างสับสน “เธอจะไม่โทรหาเสี่ยวเสิ่นก่อนเหรอ? ทำไมถึงมากินอาหารก่อนล่ะ?”
หลินม่ายขยิบตาเล็กน้อย “ถ้าไม่มากินข้าวก่อน ข้าวก็เย็นหมดน่ะสิคะ!”
ได้ยินอย่างนั้น คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางก็ยกยิ้มอย่างเข้าใจทันที
ก่อนหน้านี้พวกเขากังวลเล็กน้อยว่าหลินม่ายจะถูกโต้วโต้วล่อลวงเพราะความใจดีของเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนโล่งใจแล้ว
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ โต้วโต้วและหรงจี้เหมยมีความสุขมาก ก่อนหน้านี้พวกหล่อนไม่บรรลุเป้าหมายกับเสิ่นเสี่ยวผิง แต่กลับไม่คิดว่าการโทรหาหลินม่ายมันจะสำเร็จง่ายดายเช่นนี้ ถ้ารู้แบบนี้พวกหล่อนน่าจะโทรหาหลินม่ายตั้งแต่แรก
แต่หลังจากผ่านไปกว่ายี่สิบนาที หรงจี้เหมยก็เริ่มกังวล
แม้จะโทรศัพท์ติดแล้ว แต่ค่าโทรก็ไม่ได้ถูก และหลายครอบครัวก็ไม่สามารถจ่ายได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหรงจี้เหมยเลย
หล่อนกับโต้วโต้วโทรหาหลินม่ายจากโทรศัพท์สาธารณะ
ค่าโทรคิดเป็นสองเฟินต่อนาที และยี่สิบนาทีนี้ก็ใช้เงินมากกว่าสามหยวน มันเพียงพอจะซื้อเนื้อได้สองขีด แล้วจะไม่ให้หรงจี้เหมยเป็นทุกข์ได้อย่างไร?
ทันใดนั้นหล่อนก็ตระหนักได้ว่าหลินม่ายคงจะตั้งใจทำให้โต้วโต้วรอเก้อ และพวกเขากำลังจะทำให้ฝ่ายหล่อนหมดเงินไปกับค่าโทรศัพท์ เวลานี้หล่อนจึงอดไม่ได้ที่จะหดหู่ใจ
หรงจี้เหมยสบฟันแน่น…นังหลินม่ายคนนี้ชั่วร้ายเกินไป หล่อนสังหารคนได้โดยไม่ต้องหลั่งเลือดสักนิด!
จู่ ๆ หล่อนก็รู้สึกไม่มั่นใจที่จะรับเงินจากหลินม่ายอีกแล้ว
หล่อนอยากจะวางสาย แต่ก็กลัวว่าจะพลาดโอกาสรับเงินจากหลินม่ายไป
และสุดท้ายเธอก็ไม่ได้วางสาย เพราะกลัวจะพลาดโอกาส
หรงจี้เหมยกำลังร้อนใจ ส่วนหลินม่ายกำลังละเลียดกินอาหารอย่างใจเย็น และใช้เวลานานกว่าปกติ
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันนานกว่าครึ่งชั่วโมง เธอก็กลับมาคุยกับหรงจี้เหมยและบอกว่าตนได้พูดคุยกับเสิ่นเสี่ยวผิงแล้ว พรุ่งนี้เสิ่นเสี่ยวผิงจะติดต่อพวกหล่อนไปในตอนเช้า
ในใจหรงจี้เหมยจึงได้สงบลงเป็นปกติ
คุณย่าฟางกล่าวออกมาด้วยความสับสน “ม่ายจื่อ เธอก็รู้นี่ว่าโต้วโต้วแค่โกหกและอยากได้เงิน แต่เธอก็ยังจะยอมให้อยู่อีก คิดอะไรอยู่กันแน่? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยนะ!”
หลินม่ายยิ้ม “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
จากนั้นเธอก็ต่อสายโทรศัพท์หาเสิ่นเสี่ยวผิง คุยกับอีกฝ่ายสักครู่ก่อนจะวางสาย
คุณย่าฟางยกยิ้มทันทีหลังจากได้ยินทั้งสองพูดคุยกัน
โต้วโต้วควรถูกจัดการแบบนี้ ในอนาคตหล่อนจะได้ไม่ไปหลอกเอาเงินใครง่าย ๆ อีก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คิดจะมาวัดรอยเท้าแม่บุญธรรมเหรอ ยังเร็วไปร้อยปีจ้าน้องถั่วเน่า
อยากโกยครอบครัวปลิงนี่ใส่จรวดแล้วยิงปล่อยสู่อวกาศเหลือเกินนนน ฉันเหนื่อยกับการอ่านเรื่องของพวกเธอมากนะ
ไหหม่า(海馬)