แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1098 เปิดเผยในที่สาธารณ
ตอนที่ 1098 เปิดเผยในที่สาธารณะ
……….
ตอนที่ 1098 เปิดเผยในที่สาธารณะ
โก่วเวินใช้เวลาหนึ่งวันตระเวนไปตรวจสอบแหวนเพชร และกลับไปมหาวิทยาลัยในวันรุ่งขึ้น
แม้ว่าโควตาการศึกษาต่อต่างประเทศด้วยทุนรัฐบาลของหล่อนจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ค่าเล่าเรียนได้รับการชำระด้วยเงินจากรัฐเมื่อต้นภาคเรียน ดังนั้นหล่อนจึงยังคงไปเรียนต่อได้
แม้รัฐจะไม่ให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมใด ๆ แก่หล่อน เช่น ค่าครองชีพ แต่หล่อนมีงานทำและสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองจนเรียนจบได้ หล่อนจึงไม่ได้กังวลใจ
เมื่อโก่วเวินปรากฏตัวในห้องเรียน ดวงตาของนักเรียนทุกคนก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
ทุกคนนับถือในความหน้าหนาของหล่อนมาก แม้จะถูกยกเลิกทุนรัฐบาลแล้ว แต่ยังคงกล้ามาเรียน หากเป็นพวกเขาคงซ่อนตัวไปนานแล้ว
โก่วเวินไม่เพียงไม่ปิดบัง หล่อนยังแสร้งทำเป็นไม่สนใจและอวดแหวนเพชรหนึ่งกะรัตของตน แม้กระทั่งต่อหน้าหลินม่ายก็ตาม
แม้ว่าหลินม่ายจะรวยและดูถูกแหวนเพชรหนึ่งกะรัต แต่แหวนเพชรวงนี้ก็ยังสามารถช่วยหล่อนได้มาก
หล่อนถูกยกเลิกทุนแล้วยังไง? อย่างน้อยก็ยังได้รับความรักจากชายหนุ่มไม่ใช่หรือไง?
ยิ่งกว่านั้นสถานภาพของแฟนหนุ่มก็ค่อนข้างดี ถึงขนาดมอบแหวนเพชรหนึ่งกะรัตให้หล่อน
ในหมู่นักศึกษาที่ได้รับทุนเรียน นอกจากหลินม่ายแล้ว แฟนของใครบ้างที่สามารถซื้อแหวนเพชรหนึ่งกะรัตเช่นนี้?
เยว่จื้อเกาเห็นแหวนเพชรบนนิ้วมือของโก่วเวินเช่นกัน เขาพลันขมวดคิ้วด้วยความสับสน
เขาไปเยี่ยมจ้าวซั่วหยางเป็นพิเศษและบอกกับอีกฝ่ายว่า โก่วเวินเป็นภรรยาของพี่ชายและเป็นพี่สะใภ้ของเขา อย่างไรก็ตามจ้าวซั่วอย่างไม่เพียงปฏิเสธที่จะยุติความสัมพันธ์กับโก่วเวิน แต่ยังมอบแหวนเพชรให้โก่วเวินอีกด้วย ทำไมถึงหน้าไม่อายขนาดนี้!
จ้าวซั่วหยางร่ำรวยและมีอำนาจ ในเมื่อต่อสู้กับเขาไม่ได้ ก็คงต้องใช้การคลุมกระสอบเขาและทุบตีซะ!
แต่เขาก็ต้องคิดทบทวนอีกครั้ง หากเขาใช้กระสอบคลุมจ้าวซั่วหยางและทุบตี แล้วจ้าวซั่วหยางและโก่วเวินคาดเดาได้ว่าเป็นเขาจนนำไปแจ้งตำรวจ เขาจะไม่เดือดร้อนเอาหรือ?
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่โทรแจ้งตำรวจและเพียงตอบโต้เขาลับ ๆ เขาก็ไม่มีทางสู้ได้
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ขณะเดียวกันก็รู้สึกไร้หนทางและไม่รู้จะแก้แค้นคู่รักสารเลวนั่นอย่างไรดี!
โก่วเวินสังเกตเห็นสายตาอันเย็นชาของเยว่จื้อเกา
หล่อนยกมือขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้งและเรียกเยว่จื้อเกาไปยังมุมที่เงียบสงบของมหาวิทยาลัย ก่อนถามเขาว่า “นายบอกพ่อของนายหรือยัง เมื่อไหร่จะจัดการเรื่องหย่าร้างให้ฉันกับพี่ชายปัญญาอ่อนของนาย?”
ทันทีที่หล่อนพูดจบ เยว่จื้อเกาก็ตบหน้าของโก่วเวินอย่างแรง “อย่ามาเรียกพี่ชายว่าคนปัญญาอ่อน! เขาเคยเป็นคนฉลาดและเป็นนักเรียนชั้นนำ เขากลายเป็นแบบนั้น ก็เพราะผลักฉันออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้ฉันโดนรถบรรทุกที่ควบคุมไม่ได้ และถูกรถบรรทุกชนเสียเอง!”
โก่วเวินเป็นคนเห็นแก่ตัว หล่อนจะเข้าใจความเจ็บปวดในใจของเยว่จื้อเกาได้อย่างไร?
แต่หล่อนกลับตกใจกับความโกรธในดวงตาของเยว่จื้อเกา
หล่อนหยิบรูปถ่ายบนเตียงของตนกับเยว่จื้อเกาออกจากกระเป๋าด้วยมือสั่นสะท้าน ก่อนจะแสดงให้อีกฝ่ายดู
“นายคิดว่าฉันจะกลัวเหรอ? คิดว่าฉันไม่มีรูปบนเตียงของเราสองคนจริง ๆ หรือ? ดูสิ นายเห็นนี่ใช่ไหม?”
เมื่อมาถึงจุดนี้ หล่อนก็มีความมั่นใจมากขึ้น “ฉันขอแนะนำนายไปขอให้พ่อของนายทำเรื่องหย่าร้างระหว่างฉันกับพี่ชายโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นถ้าฉันส่งรูปถ่ายบนเตียงเหล่านี้กลับไปที่จีน ทั้งครอบครัวของนายจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนอื่นได้อีก นายจะกลายเป็นคนไร้ยางอายที่ทำเรื่องบัดสีกับพี่สะใภ้ตัวเอง!”
เยว่จื้อเกาหยิบรูปถ่ายจากมือหล่อน จากนั้นหันหลังกลับและเดินตรงไปยังโรงอาหารของมหาวิทยาลัย
โก่วเวินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงไล่ตามเขาไป “เยว่จื้อเกา ทำไมนายถึงตรงไปโรงอาหารพร้อมรูปถ่ายพวกนั้น?”
เยว่จื้อเกาเมินหล่อน และเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
โก่วเวินวิ่งไล่ตามเขาและพยายามรั้งเขาไม่ให้เดินไปทางโรงอาหาร หล่อนมีลางสังหรณ์ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เยว่จื้อเกาสะบัดหล่อนออก และเดินไปทางโรงอาหารต่อไป
เมื่อเขามาถึงโรงอาหารและมองไปรอบ ๆ ไม่นานเขาก็เห็นจ้าวซั่วหยาง
เขาเดินไปหาจ้าวซั่วหยางและโยนรูปถ่ายเหล่านั้นลงตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนพูดด้วยความเหยียดหยาม
“คู่หมั้นของคุณนอกใจคุณมาหาผม ฤดูหนาวกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว คุณมีหมวกให้อบอุ่น โชคดีจังนะ!”
คำพูดของเยว่จื้อเกาเป็นเหมือนระเบิด ทำให้นักเรียนหลายคนรู้สึกสับสนและเข้ามาดูภาพอนาจารเหล่านั้นทันที
เมื่อพวกเขาเห็นภาพนั้นชัดเจน พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่จ้าวซั่วหยางด้วยสายตาแปลก ๆ
จ้าวซั่วหยางยังคงสงบนิ่ง “เอารูปถ่ายเหล่านี้ออกไป อย่าทำลายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเวินเวิน!”
โก่วเวินที่รีบวิ่งตามมาและหอบหายใจอย่างหนัก พลันรู้สึกสะเทือนใจจนแทบน้ำตาไหลเมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวซั่วหยาง
ก่อนหน้า เมื่อหล่อนเห็นเยว่จื้อเกาทิ้งรูปถ่ายอนาจารของพวกเขาทั้งสองต่อหน้าจ้าวซั่วหยาง หล่อนก็ตกใจมากจนหัวใจแทบหยุดเต้น โดยคิดว่าทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว
โดยไม่คาดคิด รุ่นพี่จ้าวพยายามปกป้องหล่อนอย่างถึงที่สุด
เยว่จื้อเกาโกรธมากจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน เขาคำรามใส่จ้าวซั่วหยาง “ผมพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโก่วเวินงั้นเหรอ? ใครทำลายความสัมพันธ์ของใครกันแน่? ผมไม่ได้บอกคุณเหรอว่า โก่วเวินเป็นพี่สะใภ้ของผม? คุณยังอยากอยู่กับหล่อนและมอบแหวนเพชรให้หล่อนอีกเหรอ?”
จ้าวซั่วหยางใช้นิ้วแตะรูปถ่ายอนาจารบนโต๊ะและหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “คุณยังนอนกับพี่สะใภ้ของตัวเองเลย นั่นยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก แล้วกล้ามาตำหนิผมได้ยังไง?”
“ผมน่ะเหรอแย่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน?” เยว่จื้อเกายิ้มเยาะซ้ำแล้วซ้ำเล่าและหยิบเครื่องบันทึกเทปมือสองขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็กเกต
เมื่อกดที่ปุ่มเล่น คำพูดของโก่วเวินที่เพิ่งพูดกับเขาดังขึ้นจากเครื่องบันทึกเทปทันที
หลังจากถูกโก่วเวินหลอก เขาพกเครื่องบันทึกเทปขนาดเล็กและกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กติดตัวไปด้วยเสมอ
กล้องขนาดเล็กยังไม่ได้ถูกนำมาใช้จนถึงตอนนี้ แต่เครื่องบันทึกเทปขนาดเล็กนั้นมีประโยชน์มากในสถานการณ์ปัจจุบัน
นักเรียนจีนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยกเว้นนักเรียนต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษาจีนต่างก็เผยสีหน้าตกตะลึง
แม้จะเคยเห็นคนไร้ยางอายมาบ้าง แต่พวกเขาไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน
เพื่อบังคับให้สามีหย่ากับหล่อน หล่อนถึงกับทำสิ่งที่ไร้ยางอายโดยวางกับดักให้น้องชายสามีมีเซ็กส์กับหล่อน
ทุกคนมองโก่วเวินด้วยสายตาเหยียดหยาม
โก่วเวินไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร ขณะที่หล่อนจ้องมองจ้าวซั่วหยางด้วยใบหน้าซีดเซียว
เมื่อสักครู่นี้จ้าวซั่วหยางคิดว่าหล่อนถูกเยว่จื้อเการังแกและหล่อนก็เป็นเหยื่อ ดังนั้นเขาจึงยืนเคียงข้างหล่อนอย่างไม่เห็นแก่ตัว
แต่เนื้อหาบทสนทนาที่เยว่จื้อเกาเล่นผ่านเครื่องบันทึกเทปก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่า เยว่จื้อเกาต่างหากที่เป็นเหยื่อ และหล่อนเป็นคนร้ายกาจอย่างยิ่งที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมา
หล่อนกลัวว่าจ้าวซั่วหยางจะเห็นธาตุแท้และทิ้งหล่อนไป
จ้าวซั่วหยางยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองเยว่จื้อเกา “ครอบครัวของคุณมีพลังมากจนคุณบังคับให้เด็กสาวที่มีความสามารถแต่งงานกับคนปัญญาอ่อน! ถ้าหล่อนต้องการหย่า หล่อนก็ต้องวางแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นอกจากผมจะรู้สึกเสียใจกับหล่อนแล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้คุณมาสร้างความร้าวฉานระหว่างเรา!”
หลินม่ายที่กำลังรับประทานอาหารกลางวันนั่งดูการแสดงตรงหน้า เธอแอบชื่นชมคำพูดคมคายของจ้าวซั่วหยางในใจ
สิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง โดยพยายามแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนดี
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ดีไปกว่าใครเลย กลั่นกรองถ้อยคำสวยหรู แต่สุดท้ายก็เป็นแค่สุนัขกัดกันเอง
โก่วเวินรู้สึกประทับใจอย่างมากและคิดในใจว่า รุ่นพี่จ้าวใจดีกับหล่อนมากและยังคงยืนหยัดเพื่อตัวหล่อนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
เมื่อเห็นท่าทางของจ้าวซั่วหยาง เยว่จื้อเการู้สึกผิดหวังและโกรธเคือง ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและจากไป
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบข้างหูของหลินม่าย “เยว่จื้อเกาน่าสงสารนะคะ”
หลินม่ายยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร
ชายคนนี้จะน่าสงสารสักแค่ไหน?
หากมีพ่อร่ำรวย การเรียนต่อต่างประเทศก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย
ที่น่าเสียดายจริง ๆ คือคนที่มีความสามารถและทะเยอทะยานในโรงงาน แต่ไม่มีโอกาสได้ไปศึกษาในต่างประเทศต่างหาก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ไม่ต้องเจ็บใจไปหรอก เดี๋ยวอีกไม่นานนังลูกหมาก็จะโดนคนที่มันเห็นเป็นที่พึ่งนั่นแหละเล่นงานเจ็บยิ่งกว่า
ไหหม่า(海馬)