แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1097 แหวนเพชร
ตอนที่ 1097 แหวนเพชร
……….
ตอนที่ 1097 แหวนเพชร
ยังไม่ทันที่โก่วเวินจะได้รับข่าวว่าเยว่จื้อเกายอมแพ้ หล่อนก็ต้องพบกับข่าวร้ายของตัวเอง
หยางจื้อกังรายงานว่าหล่อนวางยาเขา หลินม่าย และฟางจั๋วหรานแก่อธิการบดี
อธิการบดีจริงจังกับเรื่องนี้มากและยกเลิกโควตาศึกษาต่อต่างประเทศของโก่วเวินทันที พร้อมทั้งสั่งให้หล่อนกลับประเทศจีน
โก่วเวินตกใจมากจนแทบสิ้นสติ
หล่อนคิดว่าหลังออกจากประเทศแล้ว พวกเขาจะทำอะไรหล่อนไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
หากหล่อนรู้ว่าหยางจื้อกังมีอำนาจถึงขนาดนี้ หล่อนคงไม่ทำให้เขาขุ่นเคือง
แต่เรื่องราวมาถึงจุดนี้แล้ว มันก็ไม่มีทางให้กลับไปแก้ไขสิ่งใด
กระนั้นหล่อนยังคงโกรธเคืองอยู่
เพื่อให้หล่อนสารภาพผิดในวันนั้น หยางจื้อกังสัญญากับหล่อนต่อหน้าผู้คนมากมายว่าตราบใดที่หล่อนสารภาพอย่างตรงไปตรงมา เขาจะไม่เอาเรื่อง แต่ตอนนี้เขากลับผิดคำสัญญา
โกหก ทุกคนล้วนเป็นคนโกหก!
หลินม่ายไม่ค่อยพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้เท่าใด
แต่ก็พอรู้ว่าหยางจื้อกังมีอำนาจทำได้เพียงเท่านี้
รอจนกว่าจะจัดการสยงจินหรงเสร็จแล้ว เธอจะกลับไปคิดบัญชีกับโก่วเวินหมาบ้าที่ไล่กัดทุกคนที่เห็น
หลังเลิกเรียนในช่วงบ่าย โก่วเวินรีบไปยังบ้านของจ้าวซั่วหยาง ด้วยต้องการให้จ้าวซั่วหยางช่วยหาทางให้หล่อนอยู่ศึกษาต่อในต่างประเทศ
หล่อนไม่ยอมให้ความพยายามทั้งหมดต้องสูญเปล่า
เมื่อหล่อนเดินไปที่ด้านล่างของอพาร์ตเมนต์ที่จ้าวซั่วหยางอาศัยอยู่ เยว่จื้อเกาก็เดินออกมาจากลิฟต์ และเผยยิ้มแฝงเลศนัยทันทีที่เห็นหล่อน
โก่วเวินตกอยู่ในความสับสนจนต้องชะงักฝีเท้า
หล่อนไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเยว่จื้อเกาจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แล้วเขาบอกจ้าวซั่วหยางหรือเปล่าว่าหล่อนได้แต่งงานกับพี่ชายปัญญาอ่อนของเขาแล้ว?
เขากล้าดีอย่างไร!
เขาไม่กลัวเลยหรือว่าหล่อนจะแพร่ภาพพวกเขาทั้งสองขณะอยู่บนเตียงด้วยกัน ทำให้เขาเสียชื่อเสียงที่กล้าทำเรื่องไร้ยางอายกับภรรยาของพี่ชายกระทั่งถูกผู้คนประณาม?
เยว่จื้อเกาไม่ได้กลัวจริง ๆ
ตราบใดที่รูปถ่ายบนเตียงของเขากับโก่วเวินกระจายออกไป เขาก็จะบอกความจริงกับทุกคนว่า โก่วเวินเป็นคนจัดฉากนี้
แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะพังทลาย!
ด้วยหัวใจที่ไม่เป็นสุข โก่วเวินรีบขึ้นลิฟต์มายังประตูห้องของจ้าวซั่วหยาง ทว่าหล่อนยังไม่กล้าเข้าไป
หากเยว่จื้อเกาบอกจ้าวซั่วหยางว่าหล่อนแต่งงานแล้วจริง ๆ หล่อนจะเผชิญหน้ากับรุ่นพี่จ้าวได้อย่างไร? แล้วจะสามารถชนะใจเขาได้อีกไหม?
ขณะที่กำลังลังเล โก่วเวินก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างคนสองคนมาจากห้อง
ชายคนหนึ่งถาม “นายไม่ได้ขอยืมเงินฉันเพื่อซื้อแหวนหมั้นหรอกเหรอ? นายยังไม่ได้ซื้อหรือไง?”
เสียงของจ้าวซั่วหยางดังขึ้น “ซื้อแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าควรมอบให้หล่อนดีไหม”
ชายอีกคนถามด้วยน้ำเสียงงุนงง “นายไม่ได้บอกเองเหรอว่านายพอใจกับผู้หญิงคนนั้นมาก แล้วทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”
จ้าวซั่วหยางส่ายหัวและกล่าวว่า “ฉันคิดว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นพวกขุดทองเช่นกัน อาหารเช้าราคาสักเท่าไหร่กันเชียว หล่อนกลับบอกว่าไม่มีปัญญาจ่าย ฉันผิดหวังจริง ๆ!”
โก่วเวินที่กำลังแอบฟังอยู่นอกประตูรู้สึกหมดหนทาง หล่อนไม่มีเงินซื้ออาหารเช้าในตอนนั้นจริง ๆ
ชายคนนั้นแนะนำ “บางทีหล่อนอาจจะไม่มีเงินจริง ๆ หรือเปล่า?”
จ้าวซั่วหยางตะคอก “ใครมันจะไปยากจนถึงขนาดไม่มีเงินซื้ออาหารเช้า ฉันไม่เชื่อหรอก!”
ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสองถึงสามคำ แล้วชายคนนั้นก็ขอตัวกลับ
โก่วเวินลงลิฟต์มายังชั้นล่างและหาที่ซ่อนตัว
หลังจากเห็นชายต่างชาติออกมาจากลิฟต์ หล่อนจึงกลับไปที่ห้องของจ้าวซั่วหยางด้วยความกล้าหาญ และถามเขาด้วยความลังเล “เมื่อกี้มีใครมาที่บ้านบ้างไหมคะ?”
จ้าวซั่วหยางพยักหน้า “มีสิ เจมส์หุ้นส่วนโครงการของผมมาที่นี่เมื่อกี้”
โก่วเวินถามคำเบา “นอกจากเขาแล้ว ยังมีแขกคนอื่นมาไหมคะ?”
จ้าวซั่วหยางถามด้วยสายตาอันซับซ้อน “คุณอยากให้ใครมาที่บ้านของเราอีก?”
“ไม่… ฉันแค่ถามเฉย ๆ ค่ะ” โก่วเวินตอบกลับด้วยความตื่นตระหนก
หล่อนคาดเดาในใจว่าเยว่จื้อเกาอาจไม่กล้ามาหาจ้าวซั่วหยางและบอกเขาว่าหล่อนแต่งงานแล้ว เขาเพียงแค่มาปรากฏตัวที่นี่โดยจงใจทำให้หล่อนหวาดกลัวเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าหล่อนเงียบไป จ้าวซั่วหยางถามด้วยความห่วงใย “คุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า?”
โก่วเหวินไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไปและร้องไห้ออกมา พรั่งพรูถ้อยคำกับจ้าวซั่วหยางโดยบอกว่าหล่อนถูกถอดถอนออกจากโครงการและไม่ได้เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนจากรัฐบาลเพื่อเรียนในต่างประเทศอีกต่อไป
จ้าวซั่วหยางอุทานออกมา “เรื่องแค่นี้เอง จะร้องไห้ไปทำไม ผมเองก็ไม่ใช่นักศึกษาที่ได้รับทุนจากรัฐบาล แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ดีในอเมริกา”
“แต่อธิการบดีขอให้ฉันกลับประเทศจีน”
จ้าวซั่วหยางกล่าวคำเหยียดหยาม “หน่วยงานระดับสูงพวกนั้นต้องการให้นักศึกษาที่ได้รับทุนกลับไปรับใช้มาตุภูมิหลังจากเรียนจบ แต่สุดท้ายแล้วครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากภาครัฐกลับไปประเทศจีนแล้วหรือยัง? ประเทศนี้สามารถทำอะไรกับนักศึกษาที่อยู่ในต่างประเทศได้บ้าง?…ไม่มี! ดังนั้นคุณไม่ต้องกลัวไป ภูเขาสูงและจักรพรรดิอยู่ห่างไกล พวกคนแก่หงำเหงือกเหล่านั้นทำอะไรคุณไม่ได้หรอก”
โก่วเวินรู้สึกโล่งใจได้ครึ่งหนึ่ง เพราะหล่อนไม่อยากกลับไปประเทศจีน
ตราบใดที่สามารถอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ หล่อนก็ยินดีที่จะหยิบอาหารจากถังขยะมากินเพื่อความอยู่รอด
หล่อนปาดน้ำตาและพูดว่า “แม้ว่าฉันจะอยู่ต่อได้โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ แต่ฉันก็ไม่มีเงิน แล้วฉันจะเรียนให้จบได้อย่างไร?”
หล่อนพูดสิ่งนี้โดยมีจุดประสงค์ หวังว่าจ้าวซั่วหยางจะจ่ายเงินธรรมเนียมการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกาให้ตน
จ้าวซั่วหยางยากจนเข็ญใจมากจนอยากขายหล่อนให้กับสถานบันเทิงใต้ดินด้วยเงินไม่กี่เหรียญ แล้วเขาจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของหล่อนได้อย่างไร?
ด้วยทัศนคติของหล่อน มันคุ้มค่าแล้วเหรอ!
เขาพูดแบบสบาย ๆ ว่า “การสำเร็จการศึกษาเป็นเรื่องง่าย ผมสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ นั่นคือสิ่งที่ผมทำเมื่อมาอเมริกาครั้งแรก”
โก่วเวินพูดไม่ออกและรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง
หลังจากมาถึงสหรัฐอเมริกาได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ นักศึกษาใหม่ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ว่าพวกเขาสามารถหารายได้จากการทำงานอย่างผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา
หล่อนเคยไปทำงานผิดกฎหมายกับเพื่อนร่วมชั้นเป็นเวลา 2 วัน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็เหนื่อยมากจนปวดหลังและถูกเจ้านายดุว่าไร้ความสามารถ
แม้โก่วเวินจะเกิดในเมืองเล็ก ๆ นอกเหนือจากการเต็มใจที่จะอดทนต่อความยากลำบากในการศึกษาแล้ว หล่อนไม่สามารถทนต่อความยากลำบากอื่นได้อีก และหล่อนก็ไม่ต้องการอดทนด้วย
แต่จ้าวซั่วหยางขอให้หล่อนทำงานผิดกฎหมาย~
โก่วเวินรู้สึกเสียใจ หล่อนดูแลชีวิตประจำวันของจ้าวซั่วหยางเหมือนพี่เลี้ยงเด็ก แต่เขาปฏิเสธที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของหล่อน~
เมื่อเห็นว่าโก่วเวินนิ่งเงียบไป จ้าวซั่วหยางก็หยิบกล่องเครื่องประดับขนาดเล็กสวยงามออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วเปิดมันต่อหน้าหล่อน “ผมซื้อแหวนหมั้นให้คุณ คุณชอบไหม?”
ดวงตาของโก่วเวินเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
หล่อนคิดว่าแหวนที่จ้าวซั่วหยางยืมเงินจากคู่หูของเขาเพื่อซื้อให้หล่อนเป็นเพียงแหวนเงินธรรมดาเสียอีก
โดยไม่คาดคิด มันกลายเป็นแหวนเพชร และเพชรก็ดูใหญ่โตอย่างมาก!
โก่วเวินมองดูจ้าวซั่วหยางสวมแหวนเพชรให้หล่อนแล้วถามว่า “เพชรเม็ดนี้ใหญ่ขนาดไหนคะ?”
“หนึ่งกะรัต” จ้าวซั่วหยางพูด “หากเราแต่งงานกัน และผมมีเงินมากพอ ผมจะซื้อแหวนเพชรเท่าไข่นกพิราบให้คุณ แล้วคุณจะสวมมันตลอดไป”
หลังจากสวมแหวนเพชรให้โก่วเวินแล้ว เขาพูดต่อว่า “ตอนนี้ผมไม่มีเงินซื้อแหวนเพชรเม็ดใหญ่ และไม่มีเงินจะจัดงานหมั้น อีกไม่กี่วันเราควรไปจดทะเบียนสมรสกัน รอสักหนึ่งปีก่อนค่อยกลับไปประเทศจีนเพื่อจัดงานเลี้ยงแต่งงาน คุณเห็นด้วยไหม?”
โก่วเวินพยักหน้ารับอย่างมีความสุข
แต่ทันใดนั้นหล่อนก็ต้องหยุดความดีใจไว้ก่อน
หล่อนยังไม่ได้หย่ากับสามีปัญญาอ่อน แล้วจะแต่งงานกับจ้าวซั่วหยางได้อย่างไร?
“ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสหรอกค่ะ อีกหนึ่งปีฉันก็กลับไปจีนและแต่งงานได้เลย”
แต่แน่นอนว่าเธอต้องการจดทะเบียนสมรสตอนนี้
มีเพียงการจดทะเบียนสมรสกับจ้าวซั่วหยางเท่านั้นที่จะทำให้หล่อนจับเขาไว้ได้อย่างอยู่หมัด แต่ก็กลัวว่าความจริงเรื่องการแต่งงานจะถูกเปิดเผย
ถ้าหล่อนแต่งงานในหนึ่งปี หล่อนก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
ในเวลานั้น หล่อนคงหย่าร้างกับลูกชายคนโตที่ปัญญาอ่อนของผู้อำนวยการเยว่แล้ว และมันจะไม่มีปัญหาใด ๆ อีกหากหล่อนแต่งงานกับจ้าวซั่วหยาง
จ้าวซั่วหยางจูบหล่อนที่ใบหน้า “ก็ได้ ผมตามใจคุณ”
จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมว่า “ที่ผมอยากจดทะเบียนสมรสก่อน เพื่อที่คุณจะได้สบายใจ”
โก่วเวินยิ้มให้เขา “ทำไมฉันต้องกังวลด้วยคะ?”
จ้าวซั่วหยางกล่าว “บางทีผมอาจจะกังวลเกินไป ผมมักรู้สึกว่าคุณคอยระแวงผม บอกตามตรงว่า ผมซื้อแหวนวงนี้เมื่อสองวันก่อน และผมลังเลว่าจะมอบมันให้กับคุณดีหรือไม่ ผมคิดหลายตลบ ก่อนตัดสินใจสวมมันให้คุณ ผมหวังว่าตัวเองจะจะปฏิบัติต่อคุณอย่างจริงใจ และคุณจะปฏิบัติต่อฉันอย่างจริงใจเช่นกัน”
หลังจากพูดอย่างนั้น จ้าวซั่วหยางก็มองโก่วเวินด้วยสายตาคาดหวัง
โก่วเหวินเข้าใจความหมายในถ้อยคำของชายหนุ่ม จึงตอบรับด้วยใบหน้าแดงก่ำ
หลังอาหารเย็น จ้าวซั่วหยางใช้โทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นสองถึงสามครั้ง จากนั้นเขาเข้ามาในห้องและบอกโก่วเวินว่า เขาช่วยหล่อนหางานเป็นพนักงานล้างจานในร้านอาหารแห่งหนึ่งได้แล้ว และหล่อนสามารถไปทำงานได้พรุ่งนี้
โก่วเวินที่กำลังตั้งใจเรียนหนังสืออยู่ในห้องตกตะลึง
หล่อนไม่คิดว่าจ้าวซั่วหยางจะกระตือรือร้นที่จะหางานให้หล่อนขนาดนี้!
หล่อนถึงกับบ่น “พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน แล้วต้องทำตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงทุกวัน?”
“ตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม” จ้าวซั่วหยางกอดหล่อนไว้ในอ้อมแขน
“โครงการของผมเพิ่งเริ่ม และมีที่ให้ใช้จ่ายเงินมากเกินไป จึงทำได้เพียงพึ่งพาคุณในการหาเลี้ยงครอบครัวของเราในเวลานี้ เมื่อผมหาเงินได้ ผมจะจ้างคนรับใช้ให้คุณแน่นอน สิ่งที่คุณต้องทำคือเรียนให้หนัก และผมจะทำงานหนักเพื่อคุณเช่นกัน”
โก่วเวินไม่สามารถปฏิเสธได้แม้ว่าเขาจะพูดถึงเรื่องนี้ก็ตาม
นอกจากนี้หล่อนยังไม่กล้าที่จะปฏิเสธ โดยกลัวว่าจ้าวซั่วหยางจะไม่ชอบหล่อนที่ไม่สามารถแบ่งปันความสุขและความทุกข์ร่วมกัน และจะขอเลิกกับตน
หล่อนมองดูแหวนเพชรบนนิ้วกลางข้างซ้ายพลางพยักหน้ารับ
อย่างไรก็ตามโก่วเวินมีแผนการในใจ ในวันรุ่งขึ้นหล่อนแอบนำแหวนเพชรหนึ่งกะรัตที่จ้าวซั่วหยางมอบให้ไปยังสถาบันที่เชื่อถือได้ เพื่อทำการทดสอบดูว่ามันเป็นแหวนเพชรจริงหรือไม่
โก่วเวินสามารถทำสิ่งที่น่าขยะแขยงได้อย่างเก็บช่อดอกกุหลาบขาวจากถังขยะแล้วมอบให้จ้าวซั่วหยาง ดังนั้นหล่อนจึงสงสัยว่าจ้าวซั่วหยางจะมอบแหวนเพชรปลอมให้หล่อน
แหวนเพชรหนึ่งกะรัตมีราคาหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐ คนส่วนใหญ่จะมอบให้กันง่ายดายได้อย่างไร?
โดยไม่คาดคิด หลังจากทำการตรวจสอบกับหลายสถาบันและร้านค้าที่เชื่อถือได้ติดต่อกัน การประเมินของพวกเขาทุกคนกล่าวว่ามันเป็นเพชรแท้ และไม่ใช่เพียงเพชรธรรมดา แต่เป็นเพชรสีขาวเกรด D ซึ่งเป็นระดับคุณภาพสูงสุดในบรรดาเพชรสีขาว
แหวนเพชรสีขาวเกรด D หนึ่งกะรัตมีราคาหลายแสนดอลลาร์
โก่วเหวินรู้สึกประทับใจมาก จึงยอมไปทำงานในร้านอาหารที่จ้าวซั่วหยางติดต่องานไว้ให้
เช่นเดียวกับที่จ้าวซั่วหยางพูด ถ้าเขาจริงใจต่อหล่อน หล่อนก็จะตอบแทนความรักของเขา
สิ่งที่โก่วเวินไม่รู้ก็คือ แหวนเพชรที่หล่อนเอาไปตรวจสอบนั้นเป็นแหวนเพชรแท้คุณภาพสูงจริง ๆ
แต่จ้าวซั่วหยางเช่ามาจากร้านเครื่องประดับที่น่าเชื่อถือ
เขาแค่กลัวว่าโก่วเวินจะสงสัยมากเกินไป และนำแหวนไปตรวจสอบ
หลังจากที่โก่วเวินนำมันไปตรวจสอบแล้ว เขาจะแอบนำแหวนเพชรปลอมมาสลับกับของจริงภายหลัง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าเขาล่ะสิ คิดผิดแล้วยัยลูกหมา คนอย่างปีศาจหมูมันซับซ้อนกว่านั้น
ไหหม่า(海馬)