แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1093 แอบวางยา
ตอนที่ 1093 แอบวางยา
ตอนที่ 1093 แอบวางยา
ในวันเสาร์ หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่บ้าน หลินม่ายและฟางจั๋วหรานไปร่วมงานเลี้ยงที่หยางจื้อกังจัดขึ้นเพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่
ตามที่อยู่ที่ได้รับแจ้ง ทั้งสองคนมาถึงหน้าบ้านพักด้วยรถมายบัค
ทั้งคู่ลงจากรถแล้วมองดูวิลล่าด้วยกัน
แม้ว่ามันจะสวยงามน้อยกว่าวิลล่าที่ป้าของฟางจั๋วหรานทิ้งไว้ให้ แต่ก็ยังถือว่าหรูหรามาก
หลินม่ายไม่คาดคิดว่า ประธานสหภาพนักศึกษาซึ่งมีครอบครัวร่ำรวยมากจะใช้เงินของตัวเองเพื่อเช่าวิลล่าสุดหรูสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับครั้งนี้
ทั้งคู่เดินเข้าไปด้วยกัน ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเข้ามาขวางทางและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง กรุณาลงทะเบียนและชำระค่าสมาชิกยี่สิบเหรียญดอลลาร์สหรัฐด้วยค่ะ”
หลินม่ายและฟางจั๋วหรานมองหน้ากันทันที “เรายังต้องจ่ายเงินด้วยเหรอ”
ก่อนจะมางานเลี้ยง พวกเขาคิดว่ามันเป็นงานเลี้ยงที่เข้าร่วมฟรี แต่ที่ไหนได้มันกลับต้องเสียเงินค่าเข้า
เด็กสาวกลอกตาและพูดว่า “แน่นอนค่ะว่าคุณต้องจ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นเราจะจัดงานเลี้ยงได้อย่างไร สิบดอลลาร์ต่อคน ยี่สิบดอลลาร์สำหรับคุณสองคน”
มันเป็นเพียงเหรียญเล็ก ๆ สองเหรียญเท่านั้น ฟางจั๋วหรานจึงควักเงินออกมาและลงทะเบียน
จากนั้นหญิงสาวสวมแว่นก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าไป
แสงไฟในสถานที่จัดงานสลัวจนแทบมองเห็นใบหน้าผู้คนไม่ชัดเจน
หลินม่ายคิดว่าจะไม่มีใครจำเธอได้ แต่ทันทีที่ทั้งคู่เข้าไปในวิลล่า หยางจื้อกังจากสหภาพนักศึกษาก็ทักทายพวกเขา “ไม่คาดคิดเลยว่าประธานหลินจะมาด้วย ยินดีต้อนรับครับ!”
โก่วเวินซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลพลันหน้าซีดเมื่อเห็นภาพฉากนี้
ตอนที่กลุ่มนักศึกษาในต่างประเทศเดินเข้ามาในงาน หยางจื้อกังไม่ได้ต้อนรับใครเป็นการส่วนตัวเลย นอกจากหลินม่าย!
ประธานสหภาพนักศึกษาอะไรกัน นี่ก็แค่คนขี้ประจบ!
แต่เมื่อคิดว่าอีกไม่นานหลินม่ายก็ต้องร่วงหล่นลงเหว สีหน้าของหล่อนก็กลับมาพึงพอใจอีกครั้ง
ดวงตาของโก่วเวินจ้องมองไปที่ใบหน้าของฟางจั๋วหราน และสงสัยว่าชายหนุ่มรูปงามคนนี้จะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นด้านที่น่าขยะแขยงของภรรยากับผู้ชายอีกคน
น่าเสียดายที่รุ่นพี่จ้าวไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเพราะขาหัก ไม่เช่นนั้นเขาคงได้เห็นฉากน่าเกลียดของหลินม่ายกำลังมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่น
แต่ไม่สำคัญว่าเขาจะเห็นหรือไม่ ตราบใดที่รุ่นพี่จ้าวรู้เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของเธอ เขาจะไม่ชอบเธออีกต่อไป ใครจะอยากชอบผู้หญิงที่มอบร่างกายกับผู้ชายทุกคน?
สิ่งที่โก่วเวินไม่รู้คือ ที่จ้าวซั่วหยางไม่ได้มางานเลี้ยงไม่ใช่เพียงเพราะขาหัก แต่ยังเพราะเขาพยายามหาเงินมาใช้หนี้ด้วย
ในสหรัฐอเมริกา ถ้าคุณไม่ได้จ่ายหนี้ของรัฐบาลตรงเวลา คุณอาจถูกจำคุก และโทษจำคุกก็ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นน้อยคนมากในสหรัฐอเมริกาที่กล้าที่จะหลบเลี่ยงหนี้ของทางรัฐ
จ้าวซั่วหยางยังไม่ได้รับกรีนการ์ดของสหรัฐอเมริกา เขาจึงรู้สึกกลัวอย่างมาก
ด้วยเงินมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเขาจะขายทั้งครอบครัว แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาเงินได้มากขนาดนั้น
เขาพูดต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นว่า พ่อแม่ของเขามีเงินมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะเขากลัวเพื่อนร่วมชั้นจะตั้งคำถามถึงภูมิหลังของครอบครัว
หากพวกเขารู้ว่าภูมิหลังทางครอบครัวของเขาไม่แข็งแกร่งเท่าที่เขาอวด ผู้หญิงไร้สาระเหล่านั้นจะยังเข้ามาล้อมรอบเขาหรือไม่?
ในช่วงเวลานี้ เขายืมเงินจากเพื่อน ๆ ทุกคน แต่ก็ยังไม่สามารถยืมเงินได้ถึงสามพันเหรียญสหรัฐได้ด้วยซ้ำ
คืนนี้เขาจะเข้าพบกับองค์กร โดยหวังว่าองค์กรจะช่วยให้เขาผ่านพ้นความยากลำบากไปได้
ในฤดูใบไม้ร่วงที่นิวยอร์ก ลมหนาวที่พัดผ่านย่ำค่ำคืนค่อนข้างหนาวเหน็บ
แต่คนที่เขารอไม่เคยมา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องห่อเสื้อแจ็คเก็ตและรอต่อไป
การขอความช่วยเหลือจากองค์กรคือความหวังเดียวของเขาในตอนนี้
ในงานเลี้ยงสำหรับนักศึกษาในต่างประเทศ หยางจื้อกังพาหลินม่ายมาที่โต๊ะกลมอย่างกระตือรือร้นและเชิญให้นั่งด้วยกัน ก่อนจะโบกมือเรียกบริกรผมสั้น
บริกรผมสั้นเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วและถามว่า “ประธานหยางคือต้องการสิ่งใดครับ?”
หยางจื้อกังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คุณไม่ต้องสุภาพมาก แค่เรียกชื่อผมก็พอ ไวน์แดงสามแก้วมาให้เราด้วย”
หลินม่ายขัดขึ้นทันที “ฉันกับสามีไม่ดื่มค่ะ”
หยางจื้อกังหันไปพูดกับบริกรผมสั้นด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นนำน้ำส้มสองแก้วและไวน์แดงหนึ่งแก้วครับ”
บริกรผมสั้นกล่าวตอบรับและเดินกลับไปที่บาร์
เมื่อเห็นเช่นนี้ โก่วเวินรีบเดินไปที่บาร์ก่อนและสั่งไวน์แดงหนึ่งแก้ว หล่อนยกขึ้นดื่มช้า ๆ พลางจ้องมองบริกรผมสั้นจากหางตา
ทันทีที่บริกรผมสั้นถึงบาร์เครื่องดื่ม เขาพูดว่า “น้ำส้มสองแก้วและไวน์แดงหนึ่งแก้ว”
บริกรที่บาร์เครื่องดื่มรีบเตรียมน้ำส้มสองแก้วและไวน์แดงหนึ่งแก้วมาวางบนถาดอย่างรวดเร็ว
ขณะที่บริกรผมสั้นกำลังจะถือถาด เด็กสาวคนหนึ่งทักทายเขาจากระยะเจ็ดหรือแปดเมตร
“สือฉงจวิน? นายคือสือฉงจวินหรือเปล่า?” น้ำเสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
สือฉงจวินหันไปมองและพูดด้วยความประหลาดใจ “ฉันเอง ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? ไม่ใช่เธอกำลังศึกษาอยู่ที่เมืองซีแอตเทิลเหรอ?”
โก่วเวินคว้าโอกาสนี้โรยผงยาลงในน้ำผลไม้สองแก้วและไวน์หนึ่งแก้วอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็จากไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หล่อนแอบมองไปรอบ ๆ ก่อนจะรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าทุกคนมุ่งความสนใจไปที่การสร้างความสัมพันธ์เท่านั้นและไม่มีใครสนใจหล่อน โดยไม่รู้ว่าเฉินเย่าหัวซึ่งอยู่ด้านหลังบาร์และรับผิดชอบในการทำน้ำผลไม้สามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของโก่วเวินผ่านช่องว่างในชั้นวางไวน์ได้
หญิงสาวเดินเข้ามาหาสือฉงจวินและชี้มือของเธอไปยังทิศทางที่อยู่ด้านหลังเขา “รุ่นพี่ที่ฉันรู้จักพาฉันมาที่นี่”
“อ้าว หายไปไหนแล้ว?” หญิงสาวพูดด้วยความสับสน
เขาแค่อยากใช้เด็กผู้หญิงคนนั้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสือฉงจวิน เพื่อที่โก่วเวินจะได้วางยาเขาโดยไม่เปิดเผยตัวเองเลย
สือฉงจวินพยักพเยิดไปทางโต๊ะของหลินม่าย “ฉันต้องทำงานแล้ว เดี๋ยวฉันแวะมาคุยด้วยทีหลังตอนที่ว่าง”
หญิงสาวกล่าวสวัสดีและไปพูดคุยกับคนอื่น ๆ
พวกเขาทั้งหมดเป็นนักศึกษาที่มาเรียนต่างประเทศ ทุกคนต้องการรู้จักเพื่อนใหม่และขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ หญิงสาวจึงเริ่มพูดคุยกับพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อสือฉงจวินออกจากบาร์เครื่องดื่มพร้อมน้ำผลไม้สองแก้วและไวน์แดงหนึ่งแก้ว เฉินเย่าหัวก็จ้องมองเขาอย่างลับ ๆ
เมื่อพิจารณาจากโต๊ะที่เขาจะส่งน้ำผลไม้สองแก้วและไวน์แดงหนึ่งแก้ว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายที่โก่วเวินต้องการทำร้ายคือใคร
เมื่อเห็นสือฉงจวินยกเครื่องดื่มไปทางโต๊ะของหลินม่าย หัวใจของเขาก็เต้นโครมคราม
เฉินเย่าหัวสามารถเพิกเฉยต่อโก่วเวินนังตัวเมียที่ทำร้ายผู้อื่นได้ แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้หลินม่ายเป็นอันตรายได้!
หลินม่ายเป็นผู้มีพระคุณของเขา ถ้าไม่มีเธอ เขาอาจไม่มีโอกาสมาเรียนต่อที่ต่างประเทศในครั้งนี้!
ในมุมมองเห็นแก่ตัว หากเกิดอะไรขึ้นกับหลินม่าย ใครจะสนับสนุนเขาขณะที่เรียนต่อในอเมริกา?
ในวันลงทะเบียน หลินม่ายได้กล่าวเช่นนี้เมื่อเธอเชิญนักเรียนทุกคนที่เธอสนับสนุนให้รับประทานอาหารตะวันตก
เธอไม่เพียงสนับสนุนพวกเขาให้ไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งปีเท่านั้น แต่หากพวกเขาได้เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาโทในสถาบันปกติของอเมริกาหลังจากผ่านไปหนึ่งปี เธอจะสนับสนุนพวกเขาให้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้วย
หากเกิดอะไรขึ้นกับหลินม่าย คำสัญญานี้อาจกลายเป็นโมฆะ และเขายังคงต้องการเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา
เฉินเย่าหัววิ่งออกมาจากด้านหลังบาร์น้ำทันทีและตะโกนบอกสือฉงจวิน “อย่าเพิ่งเสิร์ฟ น้ำส้มและไวน์แดงในถาดนั้นมีบางอย่างผิดปกติ!”
คำพูดของเขาทำให้ฉากรอบข้างเงียบลงทันใด
สือฉงจวินถามด้วยสีหน้าสับสน “มีปัญหาอะไรเหรอ?”
เฉินเย่าหัวจับแขนโก่วเวินที่กำลังจะแอบหนีไป “หล่อนใส่ผงอะไรก็ไม่รู้ลงในน้ำส้มสองแก้วและไวน์แดงแก้วนั้น”
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปที่โก่วเวินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงเข้าใจได้ทันทีว่าการใส่ผงยาในเครื่องดื่มหมายถึงอะไร
โก่วเวินตื่นตระหนก หล่อนชี้หน้าเฉินเย่าหัวและโพล่งคำด้วยความโกรธ “แกใส่ร้ายฉัน!”
“ผมใส่ร้ายงั้นเหรอ?” เฉินเย่าหัวมองหล่อนและพูดว่า “แล้วคุณกล้าดื่มน้ำผลไม้ทั้งสองแก้วและไวน์แดงแก้วนี้ไหมล่ะ!”
หลายคนส่งเสียงร้อง “ใช่ ถ้าคุณกล้าดื่มน้ำผลไม้ทั้งสองและไวน์แดงแก้วนั้น เราจะเชื่อว่าคุณถูกใส่ร้ายอย่างไม่ยุติธรรม”
ใบหน้าโก่วเวินซีดเผือดลง
หล่อนพยายามกวาดสายตาหาสยงจินหรงในฝูงชน โดยหวังว่าเขาจะสามารถช่วยหล่อนให้รอดพ้นจากปัญหาได้ แต่ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็ไม่เห็นวี่แววของเขาเลย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นึกว่ารอดล่ะสิโก่วเวิน แต่จะบอกว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันเกิดขึ้นได้เสมอแหละ
ไหหม่า(海馬)