แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1091 เรียกเก็บเงินมหาศาล
ตอนที่ 1091 เรียกเก็บเงินมหาศาล
ตอนที่ 1091 เรียกเก็บเงินมหาศาล
หลินม่ายไม่รีบร้อน เธออยากรู้ว่าทำไมตำรวจหญิงชาวผิวขาวถึงตามหาจ้าวซั่วหยาง
บางทีอาจถึงเวลาเรียกเก็บเงินแล้ว นั่นคงจะเป็นการแสดงที่ดี
จ้าวซั่วหยางยกมือขึ้นสูงและกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ผมเอง”
เขากล่าวกับเพื่อนร่วมชั้นร่วมโต๊ะเดียวกัน “ตำรวจมาถึงที่นี่ พวกเขาคงต้องการถามฉันเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ ตำรวจอเมริกันมีมนุษยธรรมมากจริง ๆ”
ตำรวจหญิงผิวขาวเดินเข้ามาหาเขาแล้วยื่นกระดาษจำนวนหนึ่งให้ “มิสเตอร์จ้าว นี่เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทำการช่วยเหลือคุณ โปรดอย่าลืมชำระให้เต็มจำนวนตามวันที่กำหนด” จากนั้นตำรวจหญิงก็เดินจากไป
ตำรวจมาส่งบิลจริง ๆ มุมปากของหลินม่ายพลันยกยิ้มเล็กน้อย
ทุกคนรอบบริเวณนิ่งเงียบและมองดูจ้าวซั่วหยางด้วยสายตาซับซ้อน
จ้าวซั่วหยางฝืนยิ้มและพูดกับเพื่อนร่วมชั้นที่ยกย่องอเมริกาว่า “พวกเขาใช้เฮลิคอปเตอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงควรคิดค่าธรรมเนียม”
จ้าวซั่วหยางเปิดดูบิล ก่อนหลายคนจะรวมหัวกันมองดู
ค่าธรรมเนียมรวมมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ นี่ไม่ใช่ “การเรียกเก็บเงิน” หรอกหรือ?
นี่เป็นเงินจำนวนมาก!
ทุกคนสูดหายใจเข้า
เขาโอ้อวดเกี่ยวกับสวัสดิการและระบบที่ยอดเยี่ยมของอเมริกา แต่ตอนนี้กลับได้รับบิลหนี้ก้อนโต
การตบหน้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนแม้ว่าจ้าวซั่วหยางจะเป็นคนผิวหน้าหนาเหมือนกำแพงเมือง แต่เขาก็ยังรู้สึกละอายใจในขณะนี้
เขาแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างผ่อนคลาย “เงิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐไม่ได้มากมายอะไร แค่ขอให้ครอบครัวช่วยเหลือ ปัญหาก็จบลงแล้ว”
เขาพยายามปั้นยิ้ม ขณะพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ “ก่อนที่จะมาต่างประเทศ ฉันทะเยอทะยานมากและจะไม่ขอเงินจากครอบครัวอีกเลย แต่ตอนนี้ฉันคงต้องยืมเงินจากพ่อแม่สักเล็กน้อย แม้จะเป็นการช่วยเหลือ แต่ก็ยังน่าอายเกินไป”
เขาพับบิลและใส่มันลงในกระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับมันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
เงินมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แปลงเป็นสกุลเงินจีน อย่างน้อยก็มีมูลค่ามากกว่า 400,000 หยวน
พ่อแม่ของจ้าวซั่วหยางสามารถหาเงินจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย ครอบครัวของเขาต้องรวยขนาดไหน!
โก่วเวินแอบกำหมัดแน่น โดยคิดว่าหล่อนจะต้องจับจ้าวซั่วหยางมาเป็นแฟนให้ได้ เพื่อที่หล่อนจะได้มีชีวิตที่ดีอย่างที่ใฝ่ฝัน
ที่หล่อนเรียนหนัก ก็เพียงเพื่อมีชีวิตที่ดีเหนือกว่าคนอื่นไม่ใช่หรือไง?
และหากจับจ้าวซั่วหยางได้ หล่อนก็ไม่ต้องกลัวหลินม่ายอีกต่อไป
ตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร หล่อนก็ไม่กลัว
หลังจากดูละครสักครู่หนึ่ง หลินม่ายก็ออกจากโรงอาหารและไปยังห้องสมุด
โก่วเวินและคนอื่น ๆ เดินออกจากโรงอาหารเช่นกัน
จ้าวซั่วหยางอารมณ์ไม่ดีหลังจากได้รับบิลหนี้ก้อนโต เขาไม่ได้พูดเสียงดังหรือดุด่าคนอื่นเหมือนที่ทำกับฟางฉิวในอดีต แต่เพียงนิ่งเงียบจนเวลาอาหารกลางวันจบลง
หลังจากออกจากโรงอาหาร จ้าวซั่วหยางก็กล่าวลาทุกคนและขับรถออกไป
โก่วเวินจ้องมองรถของเขาขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านออกไปเรื่อย ๆ โดยคิดในใจว่าเมื่อใดจะมีโอกาสได้นั่งรถคันนั้น
เมื่อหันกลับมา ทันใดนั้นหล่อนก็เห็นเยว่จื้อเกายืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งทำให้ตกใจอย่างมาก
โก่วเวินทุบหน้าอกของเขาและโพล่งคำออก “ทำไมต้องมาแอบยืนอยู่ข้างหลังไม่ให้สุ้มให้เสียง? นายทำให้ฉันตกใจจะตายอยู่แล้ว!”
เยว่จื้อเกาพูดอย่างเย็นชา “รักษาระยะห่างจากคนแซ่จ้าวหน่อย ถ้าเธอกล้านอกใจพี่ชาย ก็อย่าหาว่าผมหยาบคาย!” จากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไป
โก่วเวินมองดูแผ่นหลังของเขาพลางตะคอกอย่างเย็นชา
หยาบคายกับหล่อนงั้นเหรอ?
ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แม้ว่าเยว่จื้อเกาจะมีพ่อที่เป็นผู้อำนวยการโรงงาน แต่ภูเขาสูงและจักรพรรดิอยู่ห่างไกล แล้วเขาจะทำอะไรเธอได้?
สำหรับเยว่จื้อเกา เขาไม่มีทางทำอะไรหล่อนได้
และคำด่าทอหยาบคายก็ไร้ประโยชน์
ตอนบ่ายไม่มีเรียน หลินม่ายจึงใช้เวลาช่วงบ่ายทั้งหมดในห้องสมุด
หลินม่ายเก็บข้าวของและออกจากห้องสมุด ก่อนตรงไปยังลานจอดรถ
จู่ ๆ แฟนเก่าของสวี่เมิ่งก็วิ่งเข้ามายัดจดหมายใส่มือของเธอและวิ่งหนีไปทันที
หลินม่ายเปิดจดหมายดูและเห็นว่ามันเป็นจดหมายรัก
ใบหน้าของเธอซีดลงด้วยความโกรธ
เมื่อเธอมาสหรัฐอเมริกาครั้งแรก บริษัทของฟางจั๋วหรานประสบปัญหาบ่อยครั้ง และเธอก็ปรากฏตัวทางทีวีนับครั้งไม่ถ้วน
ตอนนี้ไม่มีใครในโรงเรียนรู้ว่าเธอเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทกุยตันอันโด่งดัง และเป็นไปไม่ได้ที่ชายคนนี้จะไม่รู้
ถ้ารู้แล้วยังกล้าไล่ตาม นี่เขากินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไง?
ในตอนนั้นสวี่เมิ่งเพียงแสดงรูปถ่ายของแฟนเก่าให้หลินม่ายดูเท่านั้น แต่ไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของชายหนุ่ม และหลินม่ายเองก็ไม่เคยถาม
ใครจะอยากสนใจว่าคนชั่วช้าชื่ออะไร
ตอนนี้หลินม่ายได้เห็นลายเซ็นกำกับท้ายซองจดหมายและรู้ว่าแฟนเก่าของสวี่เมิ่งชื่อว่าสยงจินหรง
เธอสอบถามเกี่ยวกับสยงจินหรงจากคนวงใน และได้รู้ว่าเขาเกิดมาในครอบครัวยากจน และความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาคือการร่ำรวย
ตั้งแต่เด็ก เขาสามารถสังเกตอารมณ์ของผู้คนได้ดีเป็นพิเศษ
เมื่อโตขึ้นและเริ่มทำงาน เขาเก่งในการชมเชยและเกลี้ยกล่อมเด็กผู้หญิงเป็นอย่างดี
ไม่อย่างนั้น ในฐานะนักศึกษา เขาจะมีคุณสมบัติมาศึกษาต่อต่างประเทศด้วยทุนรัฐบาลได้อย่างไร?
หากไม่ใช่เพราะเขาเกลี้ยกล่อมลูกสาวของผู้อำนวยการโรงงาน จากนั้นก็เป็นผู้อำนวยการโรงงานที่ทำให้เขาได้รับโควตาการศึกษาต่อต่างประเทศโดยผิดกฎระเบียบ
จนถึงขณะนี้ลูกสาวของผู้อำนวยการโรงงานยังอยู่ในประเทศจีนและตั้งตารอที่จะให้เขากลับไปแต่งงาน
ตั้งแต่มาที่สหรัฐอเมริกา สยงจินหรงไม่ตั้งใจเรียน แต่เขาเก่งในการเกลี้ยกล่อมเด็กผู้หญิง
ไม่ว่านักเรียนหญิงที่กำลังศึกษาต่อในต่างประเทศด้วยทุนรัฐบาลจะเป็นอย่างไรก็ตาม เกือบทั้งหมดล้วนเป็นผู้ลากมากดี
อย่างไรก็ตามหลายคนเก่งเฉพาะในอาชีพการงานของตนเท่านั้น และค่อนข้างไร้เดียงสาเมื่อพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์
ตราบใดที่เขาพูดคำหวานและให้ความอบอุ่น เก้าในสิบของหญิงสาวที่อยู่ต่างประเทศซึ่งรู้สึกเหงาจะต้องหลงเสน่ห์เขา
ถ้าไม่ใช่เพราะเงินที่เขาฉ้อโกงจากเด็กผู้หญิงเหล่านั้น โดยเฉพาะสวี่เมิ่ง ผู้ชายโง่เขลาอย่างสยงจินหรงคงไม่สามารถใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาได้ดีขนาดนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
น่าเสียดายที่เด็กสาวรุ่นใหม่ ๆ หลอกยากกว่ารุ่นอื่น และตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขายังไม่เคยเจอใครที่ร่ำรวยอย่างแท้จริงเลย
ในบรรดากลุ่มนักศึกษาต่างชาติในปีนี้ หลินม่ายผู้เป็นเศรษฐีก็มาในที่สุด
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นหลินม่าย สยงจินหรงแอบสาบานว่าจะแต่งงานกับเธอให้ได้ เพื่อมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองโดยไม่ต้องดิ้นรน
แล้วถ้าหลินม่ายอยู่ไกลเกินเอื้อมล่ะ?
ตราบใดที่ผู้หญิงมีจุดอ่อนทางอารมณ์ เขาก็สามารถชนะใจเธอได้ และหากเธอชอบ เขาก็จะลองซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพียงแต่ว่าหลินม่ายมีความท้าทายมากกว่าผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
โชคชะตาเป็นสิ่งที่พูดยาก ถ้ามันสำเร็จจะเป็นยังไง ถ้าไม่สำเร็จ ก็ไม่สูญเสียอะไร มากสุดก็โดนปฏิเสธ
สิ่งที่สยงจินหรงกังวลในตอนนี้ไม่ใช่การถูกหลินม่ายปฏิเสธเขา แต่กลัวว่าหลินม่ายอาจเกลียดเขาจนเขาไม่มีโอกาสให้ได้เข้าใกล้เธอด้วยซ้ำ
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขียนจดหมายรักถึงหลินม่าย โดยหวังว่าจะทำให้เธอประทับใจ
สยงจินหรงนอนอยู่ในอพาร์ตเมนต์อันสะดวกสบายที่เขาเช่าขณะกำลังฝันหวาน
ในความฝัน หลินม่ายรู้สึกหลงใหลในตัวเขาและตกลงที่จะแต่งงานด้วย รอบตัวเขาเต็มไปด้วยเงินกองโต ก่อนที่จะมีคนมาตะโกนอยู่นอกประตูปลุกเขาตื่นจากความฝัน “สยงจินหรงอยู่บ้านหรือเปล่า?”
เสียงนั้นฟังดูคุ้นเคยมาก นั่นไม่ใช่เสียงของหลินม่ายหรอกเหรอ?
สยงจินหรงเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงและตะโกนตอบกลับด้วยความตื่นเต้น “ครับ ผมอยู่นี่!”
เกิดความปีติยินดีในหัวใจ เขาไม่คาดคิดว่าความฝันจะกลายเป็นจริง
เขาทำให้หลินม่ายประทับใจด้วยจดหมายรักจริง ๆ และเพียงวันต่อมา เธอก็มาหาเขาถึงหน้าประตูบ้าน
การพัฒนานี้เร็วเกินไป
เขารีบแต่งตัวแล้วเปิดประตูอพาร์ทเมนท์ ก่อนเห็นหลินม่ายนั่งอยู่ในรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของเธอและโบกมือให้เขา
สยงจินหรงวิ่งเข้าไปหาราวกับสุนัขรับใช้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนเรียกเก็บเงินตั้งห้าหมื่นดอลลาร์ ในใจคงหน้าซีดแล้วล่ะมั้ง แต่ต้องทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กล้าเกินไปแล้วไอ้หนุ่ม คนอย่างม่ายจื่อจะจีบได้ง่ายๆ หรือไง ยังไม่นับว่ามีคดีเก่ากับลูกพี่ลูกน้องเขาอีกนะ
ไหหม่า(海馬)