แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1087 ความเป็นผู้ใหญ่ของเสี่ยวเหวิน
ตอนที่ 1087 ความเป็นผู้ใหญ่ของเสี่ยวเหวิน
ตอนที่ 1087 ความเป็นผู้ใหญ่ของเสี่ยวเหวิน
ทั้งครอบครัวมาถึงสหรัฐอเมริกานานแล้ว แต่ยังไม่ได้เชิญครอบครัวของเคอจื่อฉิงมาเยี่ยมที่บ้านเลยสักครั้ง
หลินม่ายจึงพูดคุยกับครอบครัวและวางแผนที่จะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำร่วมกับครอบครัวของเคอจื่อฉิงในวันพรุ่งนี้ ทั้งครอบครัวต่างก็เห็นด้วย
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางกระตือรือร้นที่จะมีแขกมาที่บ้าน ซึ่งทำให้ครอบครัวมีชีวิตชีวา
ตั้งแต่มาอเมริกา พวกเขาไม่มีแขกมาที่บ้านเลย ซึ่งค่อนข้างหงอยเหงา
หลินม่ายยังแนะนำให้ทั้งครอบครัวไปเที่ยวนิวยอร์กในวันพรุ่งนี้ และข้อเสนอแนะของเธอก็ได้รับอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์
แม้ว่าเสี่ยวเหวินจะยกมือขึ้น แต่เขาก็ลังเลและบอกว่าเพื่อนร่วมชั้นได้นัดหมายให้ไปเที่ยวด้วยกันในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเขาไม่สามารถเข้าร่วมทริปวันครอบครัวได้
หลินม่ายไม่เพียงเห็นด้วย แต่ยังชื่นชมเขาอย่างมาก
เสี่ยวเหวินเป็นเด็กผู้ชาย การที่เขามีกลุ่มเพื่อนเป็นของตัวเองหลังจากมาอเมริกาได้ไม่นานนับว่าเป็นเรื่องดีมาก
หลินม่ายบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดีเมื่อต้องอยู่ไกลบ้าน เธอให้เงินกับเขาส่วนหนึ่งเพื่อนำไปใช้กับเพื่อนร่วมชั้น
เสี่ยวเหวินไม่ต้องการเงิน โดยบอกว่าเขามีเงินค่าขนมเพียงพอที่จะจ่ายค่าไปเที่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นในวันพรุ่งนี้ และหลินม่ายไม่จำเป็นต้องให้เงินพิเศษใด ๆ แก่เขา
เช้าวันรุ่งขึ้น ฟางจั๋วหรานที่ได้รับใบขับขี่อเมริกันแล้ว เขาขับรถมินิบัสและพาครอบครัวไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด เช่น วอลสตรีท ตึกเอ็มไพร์สเตต และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทน
ฟางจั๋วหรานเคยมานิวยอร์กเพื่อแลกเปลี่ยนทางวิชาการหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับสถานที่ในเมืองนี้ และได้เตรียมการมากมายสำหรับทริปครอบครัว
ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมชมจุดชมวิวเขาจะอธิบายให้ทุกคนในครอบครัวฟัง เขาอธิบายได้ชัดเจนและทั้งครอบครัวก็ฟังด้วยความสนใจ
หลินม่ายพูดติดตลกว่าในอนาคตเขาอาจไม่อยากเป็นหมอแล้ว แต่มาเป็นไกด์นำเที่ยวแทน
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ครอบครัวยังไปเยี่ยมชมห้างสรรพสินค้าอีกด้วย
คุณปู่ฟางและภรรยาไม่เคยไปห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตเลยตั้งแต่พวกเขามาที่สหรัฐอเมริกา
คู่สามีภรรยาสูงอายุมีความรู้ค่อนข้างดี แต่พวกเขายังคงตกใจกับพัฒนาการที่สะท้อนให้เห็นในทุกมุมของมหานครในอเมริกา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คุณเลือกสิ่งที่คุณต้องการซื้อและใส่ไว้ในรถเข็น จากนั้นผลักรถเข็นไปที่เคาน์เตอร์ชำระเงินและแคชเชียร์จะสแกนด้วยวัตถุคล้ายปืนเพื่อทราบราคาของผลิตภัณฑ์ มันน่าทึ่งมากจริง ๆ
หลินม่ายโอบไหล่คุณย่าฟางและพูดว่า “ใกล้แล้วค่ะ ถ้าเรารออีกสักสิบปี ประเทศของเราก็จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตที่พัฒนาแล้วเหมือนกัน”
คุณย่าฟางรู้ว่าหลินม่ายมีพลังพิเศษ ดังนั้นจึงเชื่อในคำพูดของเธอ
คุณย่าฟางจับมือของคุณปู่ฟาง “ตาเฒ่า เราต้องดูแลสุขภาพของเราให้ดีและใช้ชีวิตให้ดี เพื่อรอดูวันที่มาตุภูมิของเราจะเจริญรุ่งเรือง”
คุณปู่ฟางตอบรับอย่างร่าเริง
ครอบครัวเดินเล่นไปตามสถานที่ต่าง ๆ และเวลาก็ผ่านไปเร็วมาก ในพริบตาเดียวก็เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว
คุณปู่และคุณย่ารู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย นอกจากนี้พวกเขาต้องสร้างความบันเทิงให้ครอบครัวของเฉินเฟิงคืนนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องกลับไปเตรียมอาหารเย็น และไม่ต้องพูดถึงการเดินเล่นอีกต่อไป
จากนั้นฟางจั๋วหรานก็ขับรถพาครอบครัวกลับบ้าน
แม้ว่าเสี่ยวมู่ตงจะยังเด็ก แต่เขาขี้สงสัยและชี้ไปที่ทิวทัศน์นอกหน้าต่างพลางถามคำถาม
ขณะขับผ่านชุมชนวิลล่าขนาดเล็กซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขา หนูน้อยชี้ออกนอกหน้าต่างรถและตะโกนอย่างตื่นเต้น “พี่ชาย นั่นพี่ชาย!”
หลินม่ายนำมือเล็กของเขากลับเข้ามาในรถ เพราะมันไม่ค่อยปลอดภัย จากนั้นก็มองไปยังทิศทางที่เสี่ยวตงตงชี้
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็น และดวงอาทิตย์อัสดงย้อมทุกสิ่งให้เป็นสีทองอันอบอุ่น
บนสนามหญ้าของวิลล่าหลังเล็กดูธรรมดา เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังตัดหญ้าอย่างอดทน
เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเสี่ยวเหวิน
หลินม่ายตกใจ ที่จริงเสี่ยวเหวินไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนร่วมชั้น แต่กำลังตัดหญ้าในบ้านใครบางคน
ฟางจั๋วหรานขับรถไปจอดข้างถนน
ทั้งครอบครัวลงจากรถและมาที่รั้ววิลล่าหลังเล็กเพื่อทักทายเสี่ยวเหวิน
เสี่ยวเหวินได้ยินเสียงจึงหันกลับไป เมื่อเขาเห็นหลินม่ายและคนอื่น ๆ เขาก็ยิ้มอย่างเขินอายแล้วดูนาฬิกา “ผมยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการทำงานให้เสร็จ คุณปู่กับคุณย่ากลับเข้าบ้านก่อนเถอะครับ”
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางมีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เมื่อเสี่ยวเหวินบอกว่าเขากำลังทำงานอยู่ พวกเขาจึงไม่กล้ารบกวนเด็กหนุ่มต่อ
ในใจของผู้สูงอายุ ทุกคนควรทำงานอย่างขยันขันแข็ง
ครอบครัวกลับขึ้นรถ คุณย่าฟางถามฟางจั๋วหรานว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเหวิน ทำไมเขาถึงมาตัดหญ้าให้คนอื่นแบบนี้
ฟางจั๋วหรานคาดเดา “เสี่ยวเหวินอาจจะรับงานตัดหญ้าให้คนอื่นเพื่อหารายได้เสริม”
เขายังให้การศึกษาในเรื่องค่านิยมของคนที่นี่แก่คุณย่าและคุณปู่
ในสหรัฐอเมริกา เด็กจำนวนมากทำงานพิเศษเพื่อหาเงินค่าขนม
การตัดหญ้าให้ผู้คนและทำความสะอาดสระว่ายน้ำเป็นงานแปลก ๆ ที่เด็กหนุ่มสาวชื่นชอบ และหลายครอบครัวก็เต็มใจที่จะจ้างเยาวชนให้ทำงานเหล่านี้
คุณปู่ฟางปรบมือซ้ำแล้วซ้ำอีก “ถึงปู่จะไม่ชอบสถานที่หลายแห่งในอเมริกา แต่ค่านิยมนี้ดีต่อเด็ก ๆ มาก!”
คุณย่าฟางสัมผัสเสี่ยวมู่ตงในอ้อมแขนของหลินม่าย “ตั้งแต่นี้ไปเมื่อหนูน้อยทำงานบ้าน พ่อของเหลนจะจ่ายเงินให้นะ”
หลินม่ายกล่าว “เราไม่ควรให้เงินลูกหลานที่ช่วยทำงานบ้านค่ะ บ้านเป็นของทุกคน และเราควรช่วยเหลือกัน หากการที่ลูกทำงานบ้านและได้รับเงินค่าจ้าง เมื่อเวลาผ่านไป ลูกจะไม่รู้จักการช่วยเหลือครอบครัวครอบครัวโดยไม่หวังสิ่งใด”
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต่างพยักหน้าเห็นด้วย
ทันทีที่กลับถึงบ้าน หลินม่ายก็เปลี่ยนชุดที่สวมใส่สบาย พับแขนเสื้อขึ้น และเริ่มเตรียมอาหารเย็น โดยมีฟางจั๋วหรานค่อยเป็นลูกมือ
หลังจากนั้นไม่นาน เสี่ยวเหวินก็กลับมาอย่างมีความสุขและแสดงเงินที่เขาได้รับในวันนี้ให้คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางดู
วันนี้เขาตัดหญ้าให้กับสามครัวเรือนและมีรายได้รวม 15 ดอลลาร์
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต่างก็มีความสุขกับเขา
คุณปู่ฟางคิดคำนวณในใจ เด็กหนุ่มมีเวลา 2 วันทุกสุดสัปดาห์และหาเงินได้มากมายเพียงหนึ่งวัน เท่ากับว่าในเวลาหนึ่งเดือน เขาสามารถหาเงินได้มากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ดี
เสี่ยวเหวินกินส้มลูกเล็กที่เสี่ยวมู่ตงเกือบจะยัดเข้าไปในปากของเขา และพูดว่า “การหางานทำเช่นการตัดหญ้าให้คนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย เด็ก ๆ หลายคนต่างแย่งกันทำงานนี้ วันนี้ผมออกไปถามบ้านทุกหลัง และพบว่ามีเพียงสามหลังเท่านั้นที่ต้องการให้ตัดหญ้า พรุ่งนี้ถ้ายังอยากทำงานนี้ ผมต้องไปถามชุมชนที่อยู่ไกลออกไป และหาเงินไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
คุณย่าฟางได้ยินเสี่ยวเหวินพูดว่าพรุ่งนี้จะออกไปหางานพิเศษทำอีก เธอจึงพูดว่า “วันนี้ทั้งครอบครัวไปเที่ยวเล่น มีเธอคนเดียวที่หายไป มันทำให้ย่ารู้สึกว่างเปล่าในใจเสมอ วันนี้เรายังไม่ได้ไปสวนเซ็นทรัลพาร์คเลย อาชายของเธอบอกว่าจะพาเราไปพรุ่งนี้ งั้นพรุ่งนี้เธออย่าออกไปทำงานเลย แล้วไปเที่ยวเล่นที่เซ็นทรัลพาร์คกับเราแทน”
สิ้นเสียง ชายชรากล่าวเสริม “ในอนาคตยังมีโอกาสหางานอีกมากมาย แต่โอกาสใช้เวลากับครอบครัวอย่างสนุกสนานไม่ได้มีบ่อยนัก”
เสี่ยวเหวินคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพยักหน้าเห็นด้วย
เขาได้ยินจากเพื่อนร่วมชั้นบอกว่า พวกเขาจะออกไปทำงานแปลก ๆ ในช่วงวันหยุดเพื่อหาค่าขนม
เขาอิจฉามากที่เด็กเหล่านั้นจากครอบครัวที่ร่ำรวยสามารถหาเงินค่าขนมได้ด้วยมือของพวกเขาเอง แล้วทำไมเขาทำไม่ได้ เขาไม่ได้แย่ไปกว่าคนอื่น!
ดังนั้นเมื่อเขากลับมาในสุดสัปดาห์นี้ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะลองดูว่าตนเองมีความกล้าและความสามารถหรือไม่
วันนี้เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีทั้งความกล้าหาญและความสามารถ เขาจึงสบายใจ พรุ่งนี้ออกไปเที่ยวเล่นกับครอบครัวบ้างก็ไม่เป็นไร
สิ่งที่คุณย่าพูดนั้นฟังมีเหตุผล ครอบครัวมีโอกาสไม่มากที่จะออกไปข้างนอกด้วยกัน เขาจึงควรถนอมไว้
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เสี่ยวเหวินเติบโตมาอย่างดีมากเลยค่ะ คุณยายเถียนที่จากไปนานคงหมดห่วงแล้ว
ไหหม่า(海馬)