แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1084 คู่รักออกเดท
ตอนที่ 1084 คู่รักออกเดท
ตอนที่ 1084 คู่รักออกเดท
เมื่อกลับบ้านหลังจากเลิกงานในตอนเย็น ฟางจั๋วหรานก็กอดหลินม่ายไว้ในอ้อมแขนเป็นเวลานาน
หลินม่ายรู้สึกสับสนเล็กน้อย ทั้งเธอและฟางจั๋วหรานไม่ใช่คนที่มีอารมณ์รุนแรง เว้นแต่จะอยู่ด้วยกันเพียงสองคนเท่านั้น
วันนี้ทันทีที่ฟางจั๋วหรานกลับมา เขาก็เข้ามากอดเธอแน่น หรือว่าในที่ทำงานอาจมีเรื่องไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น?
เมื่อฟางจั๋วหรานคลายอ้อมแขน เธอจึงถามด้วยความสงสัย
ฟางจั๋วหรานส่ายหัว “ไม่ใช่ ผมแค่รู้สึกแย่กับคุณ มันไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่จะจัดการบริษัทใหญ่ขนาดนี้”
หลินม่ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันเป็นแม่คนแล้ว คุณยังจะเรียกฉันว่าเป็นเด็กผู้หญิงอีก! อย่าคิดว่าฉันมีความกดดันมากมายในการจัดการกับเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องง่ายกว่าปอกกล้วยอีก”
แม้จะเป็นการพูดเกินจริงที่จะบอกว่ามันง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอย่างที่ฟางจั๋วหรานกังวล
ในชีวิตก่อนหน้านี้สามีของเธอเคยผ่านประสบสถานการณ์ที่อำนาจถูกบ่อนทำลายลง ในเวลานั้นหลินม่ายได้ทำการคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงสามารถจัดการกับผู้บริหารของบริษัทที่นัดหยุดงานได้โดยไม่รู้สึกสับสน
ตอนนั้นอำนาจของเขาหมดลง และคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้ถือหุ้น
ไม่ว่าป้าของฟางจั๋วหรานจะใจดีกับเหล่าผู้อาวุโสเหล่านั้นมากแค่ไหน หล่อนก็ไม่มีวันแบ่งหุ้นให้พวกเขา
หากเหล่าผู้อาวุโสถือหุ้นในมือ หลินม่ายคงไม่สามารถพลิกกระแสได้ในครั้งนี้ เพราะสิทธิ์ในการพูดไม่ได้อยู่ในมือของเธอ 100%
ด้วยความรอบคอบของคุณป้านี่เอง ที่ทำให้การประท้วงครั้งนี้คลี่คลายได้อย่างปลอดภัย
ในชั่วพริบตา ก็เป็นวันพักผ่อนของฟางจั๋วหราน
ในตอนเช้า ฟางจั๋วหรานลุกขึ้นมาทำนวดแป้งเพื่อเตรียมทำบะหมี่ให้หลินม่ายและทุกคนในครอบครัว
คุณปู่และคุณย่าบอกว่าหลินม่ายชอบบะหมี่ส่านซีที่เขาทำครั้งก่อนมาก เขาจึงคิดจะทำให้เธออีก
ภรรยาของเขาทำงานหนักมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยใช้เวลาอยู่ในบริษัทในการสรรหาผู้บริหารระดับสูงด้วยตัวเอง
เธอบอกว่าต้องการฝึกอบรมกลุ่มผู้ปฏิบัติงานของเธอเอง เพื่อที่เธอจะได้บริหารบริษัทได้ง่ายขึ้น
สองคืนที่ผ่านมาเขาไม่กล้ารบกวนหลินม่ายด้วยเรื่องบนเตียง เพราะกลัวว่าเธอเหนื่อยเกินไป เขาทำได้เพียงแค่จูบและกอดเธอเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถดับกระหายความต้องการในใจ
นอกจากทำบะหมี่แล้ว เขายังวางแผนที่จะทำเซี่ยนปิ่ง*อีกด้วย เพื่อให้อาหารเช้ามีปริมาณเพียงพอ
*馅饼 พายไส้เนื้อแบบจีน
หลินม่ายตื่นขึ้นมาล้างหน้าและลงไปยังชั้นล่างขณะยังสวมชุดนอน
เมื่อมาลงด้านล่าง เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นฟางจั๋วหรานสวมผ้ากันเปื้อนและนำอาหารมาวางบนโต๊ะพร้อมกับน้าถู
การเป็นหมอนั้นค่อนข้างยุ่ง ทำให้ในอดีตฟางจั๋วหรานแทบไม่ค่อยได้เข้าครัวทำอาหารจีนนัก
หลังจากมาอเมริกาได้ไม่นาน ฟางจั๋วหรานก็ทำอาหารให้เธอถึงสองครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก!
หลินม่ายเตือนอย่างจริงจัง “ฉันรู้ว่าคุณต้องการดูแลครอบครัวเรา แต่คุณต้องให้ความสำคัญของคุณก่อน คุณบอกว่าตื่นเช้าเพื่อเตรียมอาหารเช้า แล้วถ้าคุณทำงานหนักจนลุกไปทำงานไม่ได้ล่ะ? คุณยังอยู่ในช่วงทดลองงานนะคะ”
ฟางจั๋วหรานยื่นตะเกียบให้เธอและพูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมไม่ทำงาน”
หลังจากคิดอยู่สักพัก เขาก็กล่าวเสริม “ผมหยุดสามวัน”
ทั้งครอบครัวยกเว้นเสี่ยวมู่ตงต่างมองฟางจั๋วหรานด้วยความประหลาดใจ
พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าศัลยแพทย์สามารถลาหยุดยาวได้นานขนาดนี้ ผู้อำนวยการส่วนใหญ่แทบไม่อยากให้พวกเขาลาพักร้อนเลยด้วยซ้ำ
คุณย่าฟางถาม “ทำไมถึงได้หยุดยาวขนาดนั้นล่ะ?”
ฟางจั๋วหรานแจกตะเกียบให้ทุกคนในครอบครัว ก่อนนั่งลงด้านข้างหลินม่ายและอธิบายว่า “ในฐานะหมอที่อเมริกา หมอสามารถทำงานสามวันและหยุดพักสามวัน ตราบใดที่เปิดโทรศัพท์มือถือและโทรได้ตลอดเวลาในช่วงวันหยุด แม้จะไม่มีงานทำก็ยังมีค่าล่วงเวลา”
เขายื่นเซี่ยนปิ่งให้หลินม่าย “ต่อจากนี้ไปผมจะมีเวลาเยอะและทำอาหารให้กินบ่อย ๆ”
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต่างก็ตกตะลึงทั้งคู่
คุณย่าฟางถามอย่างสงสัย “โรงพยาบาลให้วันหยุดหลายวัน สวัสดิการดีมาก แถมให้เงินเดือนสูงขนาดนี้ แสดงว่าการพบหมอในโรงพยาบาลคงแพงมากใช่ไหม?”
ฟางจั๋วหรานพยักหน้า “นั่นก็จริงครับ โรงพยาบาลรัฐในอเมริกามีน้อยเกินไป ผู้คนจึงต้องไปโรงพยาบาลเอกชนเพื่อรับการรักษาพยาบาล”
หลินม่ายคิดว่าปัญหาการรักษาพยาบาลเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ
หลังอาหารเช้า น้าถูก็เก็บจานของทุกคน
หลินม่ายขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าเบา ๆ และกำลังจะไปทำงาน
เธอมีผิวพรรณดี ปากสีชมพู ฟันขาว และแทบไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลย
แต่เธอไม่มีทางเลือก ในยุคสมัยนี้การไปทำงานโดยไม่แต่งหน้าในสหรัฐอเมริกาถือเป็นเรื่องหยาบคาย จึงต้องไปตามกระแส
เมื่อเธอลงไปชั้นล่าง ฟางจั๋วหรานก็กำลังจะส่งเสี่ยวมู่ตงขึ้นรถโรงเรียน
เขาเห็นหลินม่ายและพูดขึ้นว่า “มีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงชวนผมไปรับประทานอาหารเย็น ผมอยากพาคุณไปด้วย แล้วผมจะไปรับคุณที่บริษัทตอนบ่าย”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ คุณย่าฟางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและถามอย่างจริงจัง “มีคนไล่ตามเธออยู่หรือ?”
ฟางจั๋วหรานพยักหน้ารับ
คุณย่าฟางเตือน “เธอต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดี ไม่อย่างนั้นย่าจะให้ปู่เฆี่ยนตีเธอ!”
ฟางจั๋วหรานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการพาม่ายจื่อไปด้วย เพื่อให้อีกฝ่ายยอมแพ้น่ะครับ”
ใบหน้าของคุณย่าฟางผ่อนคลายลงและพึมพำ “ผู้หญิงพวกนั้นหาผู้ชายคนอื่นไม่ได้เลยหรือไง ทำไมพวกหล่อนถึงต้องมาไล่ตามเธอด้วย?”
หลินม่ายตอบอยู่ในใจ ก็เพราะเขาทั้งหล่อและรวยมาก
แม้ว่าฟางจั๋วหรานจะซ่อนตัวตนของเขาในฐานะเศรษฐี แต่เพียงเพราะเขาเป็นหมอ เขาก็สามารถตกเป็นเป้าหมายของเด็กสาวหลายคนได้
หลินม่ายพูดหยอกล้อ “เฮ้อ จะต้องไปพบผู้หญิงคนอื่นทั้งที ฉันคงต้องแต่งตัวให้ดีกว่านี้”
แต่หลังจากกล่าวเช่นนั้น เธอไม่ได้กลับไปห้องเพื่อเปลี่ยนชุด แต่ขับรถมายบัคตรงไปยังบริษัท
เธอเป็นเหมือนราชินี เปล่งประกายด้วยความมั่นใจตนเอง และไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโอ่อ่า
หลินม่ายเอามือข้างหนึ่งจับขอบหน้าต่างรถแล้วมองออกไปข้างนอก เพลิดเพลินกับสายลมเย็นในฤดูใบไม้ร่วงพลางรู้สึกสบายอารมณ์
ทันใดนั้น เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
แจ็คร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านข้างสังเกตเห็นความผิดปกติได้ทันที เขาจึงถามว่า “คุณหนู มีอะไรผิดปกติหรือครับ?”
หลินม่ายกวักมือให้เขามองกระจกหลัง “ดูสิ มีรถขับตามเรามา”
แจ็คพลันแสดงสีหน้าเคร่งขรึม เขามองกระจกหลังและเห็นว่ารถคันหนึ่งกำลังขับตามพวกเขามาจริง ๆ
เขาสังเกตอยู่พักหนึ่งและผ่อนคลาย “คุณหนู อย่ากังวลมากเกินไปเลยครับ รถคันนี้คงจะไปทางเดียวกับเรา”
หลินม่ายยังคงขมวดคิ้วเล็กน้อยและส่ายหัว “ฉันไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น เมื่อสองวันที่ผ่านมา ฉันสังเกตได้ว่ามีรถตามมา”
แจ็คเริ่มจริงจังอีกครั้ง “รถคันเดียวกันหรือเปล่าครับ?”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”
แจ็คกล่าว “คุณหนู ผ่อนคลายลงเถอะครับ หลี่ตงซินยังไม่ถูกจับกุมและถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คุณจึงรู้สึกกังวลและสงสัย”
แต่หลินม่ายไม่เชื่อและเต็มไปด้วยความสงสัย
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและบอกแจ็คว่าอย่าเพิ่งขับรถไปที่บริษัท แต่ให้ขับรถไปตามถนนเรื่อย ๆ เพื่อดูว่ารถที่อยู่ข้างหลังจะตามทันหรือไม่
ผลก็คือ ทันทีที่รถมายบัคเปลี่ยนทิศทาง รถที่อยู่ข้างหลังก็หยุดตามไป
แจ็คยักไหล่ให้หลินม่าย “ดูสิครับ รถคันนั้นแค่ไปทางเดียวกับเรา พอเราเปลี่ยนเส้นทาง พวกเขาก็ไม่ได้ตามเราอีก และยังคงขับเส้นทางเดิม”
คิ้วของหลินม่ายขมวดแน่นขึ้น หรือว่าเธอจะคิดมากไปจริง ๆ?
รถที่คันนั้นที่ติดตามรถมายบัคขับออกไปไกล ก่อนจะจอดบนถนนร้าง
มีคนขับคนหนึ่งและหลี่ตงซินนั่งอยู่ข้างใน
หลี่ตงซินพ่นคำสาปแช่งออกมาสองถึงสามคำ เขาชกหมัดลงที่คอนโซลรถ ส่งผลให้คนขับด้านข้างตกใจ
เขาติดตามหลินม่ายมาสองวันแล้ว เพื่อมองหาโอกาสดี ๆ ที่จะลงมือฆ่าหลินม่ายและหลบหนีออกไป
แต่ก่อนที่จะพบโอกาสนั้น ดูเหมือนหลินม่ายจะระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว แล้วเขาจะยังกำจัดหลินม่ายได้อยู่อีกหรือ?
เวลา 12.00 น. หลินม่ายเก็บกระเป๋าและเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องสัมภาษณ์
หลังจากสัมภาษณ์คนสี่สิบถึงห้าสิบคนในเช้าวันนี้ หลินม่ายก็รู้สึกเวียนหัว
เธอไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้า โดยต้องการตรวจร่างกายให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดและแต่งหน้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนัดหมาย
เมื่อเธอมาถึงลิฟต์และกดเปิดประตูลิฟต์ เธอเห็นฟางจั๋วหรานยืนอยู่ในลิฟต์พร้อมถือช่อดอกลิลลี่
หลินม่ายรู้ว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อมารับเธอ เธอจึงเดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยรอยยิ้มและถือดอกลิลลี่ไว้ในมือ “ทำเหมือนคู่แต่งงานสูงอายุเลยนะคะ ที่มอบดอกไม้ให้กันแม้จะไม่ได้เป็นวันครบรอบก็ตาม~”
ฟางจั๋วหรานจับมือเล็ก ๆ ของเธอแล้วพูดว่า “เพราะว่าเราเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุ จึงควรมอบดอกไม้ให้กันเพื่อทำให้คนอื่นอิจฉาเรา”
พวกเขาทั้งสองมาถึงภัตตาคารตงชุ่นด้วยรถมายบัค ซึ่งโคอิซึมิ คานาโกะรอพวกเขาอยู่แล้ว
ในจินตนาการของโคอิซึมิ คานาโกะ ภรรยาที่ทำอาหารเก่งของฟางจั๋วหรานคงเป็นหญิงแก่หน้าเหลืองที่มีกลิ่นควันน้ำมันคลุ้ง
เพื่อที่จะครอบงำแม่บ้านอย่างหลินม่ายและทำให้เธอละอายใจ โคอิซึมิ คานาโกะจึงแต่งตัวอย่างดี
หล่อนสวมเสื้อที่ค่อนข้างเปิดเผยท่อนบน ใส่เครื่องประดับงดงาม และตบแต่งใบหน้าอย่างประณีตยิ่งขึ้น
หลังจากรอเพียงสิบนาที ผู้ชายหลายคนต้องการเชิญหล่อนไปรับประทานอาหารเย็น แต่หล่อนปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด
ทันทีที่ฟางจั๋วหรานปรากฏตัวที่ประตูภัตตาคาร โคอิซึมิ คานาโกะก็สังเกตเห็นเขาทันที
ขณะที่หล่อนกำลังจะยกมืออย่างตื่นเต้นเพื่อบอกเขาว่าหล่อนอยู่ตรงนี่ หล่อนก็เห็นเขาเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวสวยที่มีรูปลักษณ์อ่อนโยนและอ่อนเยาว์
มือของโคอิซึมิ คานาโกะหยุดค้างกลางอากาศ
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหมอฟางถึงจับมือกับคุณหลินประธานบริษัทกุยตัน และยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนี้?
เดี๋ยวนะ เขาบอกว่าจะพาภรรยามาตามนัดหมายไม่ใช่เหรอ
เป็นไปได้ไหมว่า… ประธานหลินแห่งบริษัทกุยตันคือภรรยาของเขา?
ฟางจั๋วหรานยังเห็นโคอิซึมิ คานาโกะแล้วเช่นกัน เขาเดินเข้ามาหาและแนะนำหลินม่าย “นี่คือภรรยาของผม หลินม่าย”
โคอิซึมิ คานาโกะไม่เชื่อและถามเสียงตะกุกตะกัก “หล่อนคือผู้บริหารสูงสุดของบริษัทกุยตันไม่ใช่เหรอคะ?”
หล่อนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงผู้หญิงที่ดูเหมือนประธานหลิน
อย่างไรก็ตาม หล่อนก็ต้องผิดหวังเมื่อฟางจั๋วหรานพยักหน้ารับ “ใช่ครับ”
มุมปากของโคอิซึมิ คานาโกะกระตุก หล่อนต้องการเปรียบเทียบภรรยาของฟางจั๋วหราน เพื่อทำให้อีกฝ่ายอับอาย สุดท้ายแล้วกลายเป็นหล่อนเองที่ต้องอับอาย
ฟางจั๋วหรานเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของโคอิซึมิ คานาโกะ จึงถามอย่างมีน้ำใจ “สั่งอาหารเย็นเลยดีไหมครับ?”
เขาหวังอยู่ในใจเป็นอย่างยิ่งว่าโคอิซึมิ คานาโกะจะขอตัวจากไปโดยสมัครใจ เพื่อที่เขาและภรรยาจะได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารสองคน
แต่โคอิซึมิ คานาโกะยืนกรานที่จะอยู่เป็นก้างขวางคอและร่วมมื้ออาหาร
ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าเขาหยาบคาย ฟางจั๋วหรานจึงเลือกเฉพาะอาหารราคาแพง และเป็นอาหารที่หลินม่ายชอบกิน
ทุกครั้งที่เขาสั่งอาหาร เขาจะถามเธอตลอดว่า “ที่รัก คุณชอบกินอาหารจานนี้ไหม?”
สำหรับโคอิซึมิ คานาโกะ เขาไม่เคยถามความคิดเห็นจากหล่อนเลยสักครั้ง
โคอิซึมิ คานาโกะอดไม่ได้ที่จะถาม “หมอฟางคะ ทำไมถึงไม่ถามฉันเลยว่าฉันชอบกินอะไร”
ฟางจั๋วหรานถามด้วยความงุนงง “ทำไมผมต้องสนใจสิ่งที่คุณชอบกินด้วยครับ? นี่ไม่ใช่สิ่งที่แฟนของคุณควรต้องสนใจเหรอ?”
โคอิซึมิ คานาโกะรู้สึกอับอายอีกครั้ง
หล่อนต้องเฝ้าดูฟางจั๋วหรานและภรรยาแสดงความรักต่อหน้าหล่อนอย่างเปิดเผย อดทนต่อช่วงเวลาถูกยัดเยียด ‘อาหารสุนัข’ แม้กระทั่งตอนจ่ายเงิน พวกเขาก็ทำราวกับว่าหล่อนเป็นคนแปลกหน้า มีใครในโลกนี้ที่ปฏิบัติต่อหล่อนได้แย่กว่านี้อีกไหม?
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
แสบมากพี่หมอ พาภรรยามาเปิดตัวแล้วแจกอาหารหมาต่อหน้าแม่ดอกท้อเน่าไปเลย
ไหหม่า(海馬)