แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1083 ของฟรีไม่มีในโลก
ตอนที่ 1083 ของฟรีไม่มีในโลก
ตอนที่ 1083 ของฟรีไม่มีในโลก
ไม่นานนักก็ถึงช่วงพักกลางวันของโรงพยาบาลที่ฟางจั๋วหรานทำงานอยู่
เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเข้ามาและตบไหล่ฟางจั๋วหราน “มิสเตอร์ฟาง คุณจะเป็นกลุ่มแรกที่ไปรับประทานอาหารกลางวันหรือกลุ่มที่สอง?”
ฟางจั๋วหรานตอบด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมเอากล่องอาหารกลางวันมาด้วย จึงไม่ต้องออกไปกินข้าวข้างนอก พวกคุณไปกันเลยครับ”
เพื่อนร่วมงานตอบตกลงและออกไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ
แม้ว่าคนอเมริกันไม่มีนิสัยชอบนำอาหารกลางวันมา แต่ก็ยังมีพนักงานชาวเอเชียบางส่วนอยู่ในโรงพยาบาล
โดยเฉพาะชาวประเทศเกาะที่ชอบทำเบนโตะเองจากบ้านและนำมารับประทานตอนพักกลางวัน
ทางโรงพยาบาลเข้าใจเรื่องนั้นดี จึงได้จัดห้องพร้อมกล่องอาหารกลางวันแช่แข็งและเครื่องอุ่นร้อนสำหรับเจ้าหน้าที่ชาวเอเชียทุกคน
ฟางจั๋วหรานกำลังจะไปที่ห้องอาหารกลางวันเพื่ออุ่นอาหารกลางวัน ทันใดนั้นโคอิซึมิ คานาโกะก็เดินเข้ามาหา “มีคำสุภาษิตในประเทศจีนของคุณที่ว่าเลือกวันก็สู้วันที่เหมาะสมไม่ได้ ทำไมไม่ให้ฉันเลี้ยงอาหารกลางวันคุณล่ะคะ?”
ฟางจั๋วหรานจงใจยกมือขึ้นปรับเนกไท และเขย่าแหวนแต่งงานบนนิ้วมือ ราวกับกลัวว่าโคอิซึมิ คานาโกะจะมองไม่เห็น
สิ่งที่เขาต้องทำคือบอกหล่อนอย่างชัดเจนว่า ผมสวมแหวนแต่งงานอยู่ ดังนั้นอย่าพยายามมาโน้มน้าวผมเลย ภรรยาของผมสวยกว่าคุณมาก
โคอิซึมิ คานาโกะจ้องมองแหวนแต่งงานธรรมดา ๆ บนมือของเขา มุมปากของหล่อนพลันกระตุกอย่างรุนแรง
ตอนที่หล่อนมาทำงานในตอนเช้าแล้วเห็นแหวนแต่งงานอยู่บนมือของฟางจั๋วหราน มันทำให้หล่อนรู้สึกอึดอัดมาก
ตอนนี้เขายังจงใจอวดแหวนกับหล่อนอีก นี่เขาอยากให้หล่อนโกรธหรืออย่างไร
หล่อนอยากจะคว้าแหวนแต่งงานนั้นแล้วโยนทิ้งไปให้ไกล จึงตั้งใจเมินเฉยต่อภาพที่เห็น
ฟางจั๋วหรานกล่าวอย่างขอโทษ “วันนี้ภรรยาของผมทำกล่องข้าวอาหารกลางวันมาให้ ผมมีอาหารกลางวันสำหรับมื้อเที่ยงนี้แล้ว ไม่ต้องลำบากให้คุณเลี้ยงข้าวผมหรอกครับ”
โคอิซึมิ คานาโกะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “จะทำแบบนั้นได้ยังไง? ฉันเป็นคนรักษาสัญญา คุณแหกกฎของฉันไม่ได้หรอกค่ะ”
ขณะที่กล่าว หล่อนก็เงยหน้าขึ้นมองฟางจั๋วหรานด้วยความหลงใหล ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ทำให้หัวใจของหล่อนสั่นไหว
ฟางจั๋วหรานคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เราไปกินมื้อเที่ยงวันมะรืนแล้วกันครับ ให้คุณตัดสินใจเรื่องสถานที่”
โคอิซึมิ คานาโกะยิ้มออกมาทันที “ได้ค่ะ คุณชอบอาหารตะวันตก อาหารญี่ปุ่น หรืออาหารจีนมากกว่ากันคะ?”
ฟางจั๋วหรานคิดว่าหลินม่ายไม่ชอบอาหารตะวันตกและอาหารญี่ปุ่นมากนัก เขาจึงตอบไปว่า “อาหารจีนครับ”
โคอิซึมิ คานาโกะพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “สถานที่เอาเป็นภัตตาคารตงชุ่นตรงหน้าโรงพยาบาลแล้วกัน อาหารที่นั่นรสชาติดี แถมยังราคาไม่แพง”
โคอิซึมิ คานาโกะไม่รู้ว่าฟางจั๋วหรานเป็นทายาทนักธุรกิจผู้ร่ำรวย หล่อนจึงเลือกร้านอาหารที่ไม่ทำให้เขารู้สึกกดดันจนเกินไป
ฟางจั๋วหรานพยักหน้าเห็นด้วย แล้วถามว่า “ผมพาภรรยาของผมไปด้วยได้ไหมครับ?”
รอยยิ้มแข็งทื่อปรากฏบนใบหน้าโคอิซึมิ คานาโกะ “นั่น… คงไม่ดีเท่าไหร่”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ช่วยลืมไปเถอะครับ ผมไม่เคยกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นตามลำพัง” ฟางจั๋วหรานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
โคอิซึมิ คานาโกะพลันพูดประชด “ภรรยาของคุณควบคุมชีวิตของคุณขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณกลัวหล่อนมากหรือยังไง?”
ฟางจั๋วหรานจ้องมองเข้าไปในดวงตาของหล่อนและพูดว่า “คุณคงไม่เคยรักหรือได้รับความรักจากใครอย่างแท้จริง ระหว่างคู่รักแล้วจะไม่มีความกลัวต่ออีกฝ่าย มีเพียงความใส่ใจซึ่งกันและกัน ผมรักภรรยามากและใส่ความรู้สึกของหล่อนอย่างลึกซึ้ง ผมไม่อยากให้หล่อนรู้สึกไม่สบายใจ จึงไม่ต้องการกินข้าวกับผู้หญิงอื่นตามลำพัง”
หลังพูดเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและพูดกับหล่อนอีกครั้ง “ทำไมผมถึงมาบอกเรื่องนี้กับคุณกันนะ เพราะอย่างไรคุณก็ไม่มีทางเข้าใจอยู่แล้ว!”
เมื่อเห็นว่าฟางจั๋วหรานกำลังจะจากไป โคอิซึมิ คานาโกะตกตะลึงเล็กน้อยและรีบพูดอย่างเร่งรีบ “ก็ได้ ฉันให้คุณพาภรรยาของคุณไปด้วย”
หล่อนบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับภรรยาของฟางจั๋วหรานขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแบบไหน ถึงทำให้ผู้ชายสมบูรณ์เช่นฟางจั๋วหรานรักภรรยาถึงขนาดนี้
หล่อนต้องการแข่งขันกับผู้หญิงคนนั้น
ฟางจั๋วหรานพยักหน้าและเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร
โคอิซึมิ คานาโกะอยากรู้ว่าฟางจั๋วหรานนำข้าวกล่องมาจริง ๆ หรือไม่
หล่อนแสดงความรักต่อเขาหลายครั้ง แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ
หล่อนสงสัยอย่างยิ่งว่าฟางจั๋วหรานอาจไม่ได้นำกล่องข้าวมาด้วย และเพียงใช้มันเป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงหล่อน ดังนั้นหล่อนจึงต้องการตามไปดู
เมื่อเขามาถึงห้องอาหารกลางวัน ฟางจั๋วหรานหยิบกล่องอาหารกลางวันของเขาออกมาจากตู้แช่เย็นขนาดเล็ก และนำไปใส่ในเครื่องอุ่นอาหาร
ไม่ถึงสิบนาที กล่องข้าวก็อุ่นพร้อมรับประทาน
ฟางจั๋วหรานจงใจเปิดฝากล่องอาหารกลางวัน ทันใดนั้นกลิ่นหอมของอาหารก็ลอยอบอวลในอากาศ
โคอิซึมิ คานาโกะอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
ฟางจั๋วหรานจงใจถามหล่อน “คุณอยากลองชิมอาหารฝีมือภรรยาของผมไหม?”
อาหารที่หลินม่ายปรุงให้เขาวันนี้ได้แก่ หมูผัด สเต๊กย่าง และกุ้งแดงสองถึงสามตัว ซึ่งล้วนน่ากินมาก
ไม่ว่าโคอิซึมิ คานาโกะจะอยากกินมากแค่ไหน หล่อนก็ต้องอดทน เพราะไม่ต้องการถูกเปรียบเทียบกับภรรยาของฟางจั๋วหรานที่ยังไม่เคยเจอ
หล่อนจึงปฏิเสธและวิ่งหนีไป
ฟางจั๋วหรานมองตามร่างที่วิ่งหนีออกไปโดยไม่มีร่องรอยของความสงสาร
เขานั่งรอคนไข้อยู่นอกห้องฉุกเฉิน ขณะกินข้าวกล่องอาหารกลางวันที่ภรรยาทำไว้ให้อย่างมีความสุข
บอกตามตรงว่าหลังจากอุ่นกล่องข้าวแล้ว มันจะอร่อยน้อยกว่าหลังจากทำสดใหม่ แต่เนื่องจากเป็นอาหารที่ภรรยาทำ ฟางจั๋วหรานจึงคิดว่ามันอร่อยมากจนไม่มีอาหารอะไรเทียบได้
ในเวลานี้ ฉู่ฟู่สือกลับถึงบ้านด้วยความสิ้นหวัง
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขา ทุกคนในบ้านแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
วันนี้ข่าวที่มาแรงที่สุดคือข่าวการนัดหยุดงานของผู้บริหารบริษัทกุยตัน
ไม่ว่าจะดูจากช่องโทรทัศน์ไหนก็เห็นหลินม่ายจัดการกับนักข่าวได้อย่างใจเย็นและมั่นใจ
ฉู่ฟู่สือผู้พ่ายแพ้ให้แก่หลินม่ายโกรธเคืองหนักเมื่อเห็นใบหน้าเล็กในจอโทรทัศน์
เขาโยนถ้วยชาในมือไปที่โทรทัศน์ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
เขาครุ่นคิดด้วยความโกรธเคืองอยู่พักหนึ่ง ก่อนเชิญพนักงานเก่าแก่และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านวันนี้
แม้ว่าเขาจะถูกหลินม่ายไล่ออกจากบริษัท แต่เขาก็สามารถปลุกปั่นความเกลียดชังของผู้บริหารและผู้อาวุโสที่มีต่อหลินม่ายได้ เพื่อใช้คนเหล่านี้โค่นล้มบริษัท
อย่างไรก็ตามพนักงานเก่าแก่และผู้บริหารระดับสูงเกือบทุกคนที่ได้รับโทรศัพท์ล้วนมีข้ออ้างที่จะไม่เข้าร่วมคำเชิญ
ฉู่ฟู่สือโกรธมากจนโยนโทรศัพท์ลงพื้น เขาสาปแช่งพนักงานเก่าแก่และผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นว่าสนใจแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น พวกเขาปฏิเสธที่ร่วมมื้ออาหารเมื่อเห็นว่าเขาถูกไล่ออก ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนพวกนี้เป็นได้แค่ลูกจ้างทำงานให้คนอื่น!
ฉู่ฟู่สือพ่นคำสาปแช่งพักหนึ่งก่อนจะหยุด เขานั่งลงบนโซฟาพลางครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปยังสถานที่ห่างไกลเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยนำบอดี้การ์ดสองคนไปด้วย
ฉู่ฟู่สือลงจากรถแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในสายตา เขาจึงรีบไปที่บ้านไม้หลังหนึ่งอย่างกล้าหาญ
เขาเคาะประตูเป็นรหัสลับ เคาะสามครั้ง หยุดชั่วคราว และเคาะอีกสามครั้ง
ไม่นานประตูก็เปิดออกพร้อมใบหน้าครึ่งหนึ่งของชายหนุ่มที่โผล่ออกมา ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลี่ตงซินที่ตำรวจพยายามจับกุมมาหลายวัน และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี
หลี่ตงซินตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าเป็นฉู่ฟู่สือ
นับตั้งแต่ฉู่ฟู่สือให้ที่หลบภัยเขาที่นี่ คนที่นำอาหารและของใช้ประจำวันอื่น ๆ มาให้เขาต่างก็เป็นคนของฉู่ฟู่สือมาตลอด โดยที่ฉู่ฟู่สือไม่เคยมาที่นี่ด้วยตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว
ทำไมวันนี้เขาถึงมาที่นี่? เป็นไปได้ไหมที่เขานำอะไรบางอย่างมาให้?
หลี่ตงซินมองดูมือของฉู่ฟู่สือโดยไม่รู้ตัว
มือของฉู่ฟู่สือว่างเปล่า เขาไม่ได้นำอะไรมาด้วยเลย
แม้ว่าหลี่ตงซินจะรู้สึกแปลก แต่เขาก็ยังเชิญอีกฝ่ายให้เข้ามาด้านใน
ฉู่ฟู่สือเดินเข้าไปในบ้าน และเห็นว่าทั่วทั้งห้องนั่งเล่นสกปรกอย่างมาก กระป๋องเบียร์และถุงขนมวางเกลื่อนกลาดทั่วทุกหนแห่ง จนเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
หลี่ตงซินเตะกระป๋องเบียร์อะลูมิเนียมเปล่าออกไปและบ่นว่าไม่พอใจ “ผมจะชินกับการอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไม่มีแม้แต่ทีวีสักเครื่อง! ลุงฉู่ เมื่อไหร่จะช่วยพาผมหนีออกไปสักที? ผมไม่อยากอยู่ที่อเมริกาอีกต่อไปแล้ว ผมวิตกกังวลทุกวันว่าตำรวจจะบุกมาจับผมที่หน้าประตู…”
ฉู่ฟู่สือถามเขา “นายจะจากไปทั้งแบบนี้เหรอ?”
หลี่ตงซินถามด้วยสีหน้าสับสน “หมายความว่ายังไงครับ?”
ฉู่ฟู่สือหรี่ตาลงด้วยเจตนาซ่อนเร้น “นายจะปล่อยหลินม่ายไปแบบนี้เหรอ?”
หลี่ตงซินเข้าใจความหมายได้ทันที ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉู่ฟู่สือยอมเสี่ยงเก็บเขาไว้ เพราะฉู่ฟู่สือต้องการใช้เขาเพื่อจัดการกับหลินม่าย
หลี่ตงซินรู้อยู่แก่ใจว่า มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะออกจากที่นี่โดยไม่ช่วยฉู่ฟู่สือจัดการกับหลินม่ายก่อน
ของฟรีไม่มีในโลก และฉู่ฟู่สือจะไม่ช่วยเขาโดยไม่หวังผลประโยชน์
หลี่ตงซินถามออกไปอย่างเถรตรง “คุณต้องการให้ผมทำอะไร?”
ความแค้นเคืองฉายผ่านดวงตาของฉู่ฟู่สือ “ฉันต้องการให้นายฆ่าหลินม่าย นายกล้าไหม?”
หลี่ตงซินตกตะลึง
ตำรวจกำลังค้นหาตัวเขาทั่วทุกหนแห่ง หากเขาลงมือฆ่าคนตอนนี้ นั่นจะไม่เสี่ยงเกินไปเหรอ?
เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบ ฉู่ฟู่สือพูดว่า “ตราบใดที่นายฆ่าหลินม่ายได้ ฉันจะช่วยนายหลบหนีออกจากอเมริกา”
ดวงตาของหลี่ตงซินเป็นประกาย “จริงหรือครับ?”
ฉู่ฟู่สือรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม เขาตอบไปด้วยความไม่พอใจ “อย่างน้อยนายก็ให้เกียรติเรียกฉันว่าลุง แล้วฉันจะกลับคำพูดของตัวเองได้อย่างไร?”
หลี่ตงซินแอบเยาะเย้ยในใจ ชายคนนี้พูดอย่างกับตัวเองเป็นสุภาพบุรุษที่ชอบธรรมเสียอย่างนั้น
เขากล่าวตกลงด้วยรอยยิ้ม “ตราบใดที่ลุงฉู่รักษาคำพูด ผมเต็มใจยอมลุยน้ำลุยไฟเพื่อลุงฉู่ครับ!”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
แนะนำว่าให้ถอนตัวออกจากพี่หมอก่อนได้เจอฤทธิ์เดชภรรยาของเขานะคะ
หลี่ตงซินมากบดานอยู่นี่เอง จะโดนจับได้ตอนไหนนะ
ไหหม่า(海馬)