แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1070 กระดาษแผ่นเล็ก
ตอนที่ 1070 กระดาษแผ่นเล็ก
ตอนที่ 1070 กระดาษแผ่นเล็ก
เดิมทีมีการวางแผนไว้ว่าทั้งครอบครัวจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในวันที่ 1 กันยายน แต่ก็ต้องเปลี่ยนแผนอย่างกะทันหัน
ลุงหลี่อี้หนานหนึ่งในหัวหน้าแผนกในบริษัทของคุณป้าฟางจั๋วหราน และเป็นผู้บริหารคนที่สามของบริษัทได้เสียชีวิตด้วยอาการป่วย
หลินม่ายไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาทั้งครอบครัวและน้าถูไปร่วมงานศพที่สหรัฐอเมริกาล่วงหน้า
ต่อให้เธอไม่ไปมันก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร แต่ลุงหลี่อี้หนานคือคนสนิทของป้าสามี ซึ่งเขาทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อดูแลธุรกิจบริษัทมาโดยตลอด
หากหลินม่ายและสามีไม่ได้ไปร่วมงานศพด้วยตัวเอง พวกเขาคงทำให้ผู้เฒ่าคนอื่น ๆ รู้สึกไม่ดี
การลาออกของฟางจั๋วหรานยังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะช่วงเวลานี้สำคัญมาก การลางานไปงานศพนั้นไม่คุ้มค่า หลินม่ายจึงต้องไปแทนเขา
ในวันออกเดินทาง ผู้คนมากมายมาที่สนามบินเพื่อไปส่งครอบครัวของเธอ แม้แต่เถาจืออวิ๋นก็ยังหอบท้องป่องโย้มาส่งด้วย
เผิงอันน่ามาส่งเธอด้วยเช่นกัน หญิงสาวมีสีหน้าซีดเซียว คล้ายกับมีเรื่องมากมายต้องการพูดกับหลินม่าย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสนั้น
แม่ไป๋เองก็มาส่งที่สนามบิน แต่ไม่ได้เข้ามาคุยกับหลินม่าย เนื่องจากมีคนมากมายรอพูดคุยกับหญิงสาวมากเกินไป แม่ไป๋จึงทำได้เพียงแค่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนลึกซึ้ง
เมื่อหลินม่ายเดินผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยและมองย้อนกลับไป เธอก็เห็นแม่ไป๋แอบเช็ดน้ำตาตัวเอง
ไม่กี่วันต่อมา ครอบครัวก็มาถึงสนามบินในนิวยอร์ก
ในช่วงไม่กี่วันก่อนเดินทาง หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเสี่ยวเหวิน หลินม่ายคงไม่สามารถรับมือได้ตามลำพัง
มีคนแก่และเด็กที่ต้องดูแล กระเป๋าเดินทางมากมายและเอกสารสำหรับสุนัขหมาป่าทั้งสอง
พวกเขาจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 3 ปี ทั้งครอบครัวจึงโหวตและตัดสินใจพาสุนัขหมาป่าสองตัวไปด้วย เธอจึงต้องพาอาหวงและหวางไฉไปด้วยกัน
แต่ในยุคสมัยนี้ไม่ง่ายเลยที่จะส่งสัตว์เลี้ยงไปต่างประเทศ และสุนัขหมาป่าทั้งสองตัวก็ได้สร้างปัญหาให้หลินม่ายอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีพี่เลี้ยงสองคนที่อดหลับอดนอนจนใต้ตาคล้ำ เนื่องจากต้องดูแลทุกคนในครอบครัว
เนื่องจากได้แจ้งลุงฝูพ่อบ้านที่นั่นไว้ล่วงหน้า หลังจากลงเครื่องและผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยแล้ว หลินม่ายเห็นว่าลุงฝูได้มารับครอบครัวเธอพร้อมกับคนรับใช้ชายผิวขาวร่างสูงหลายคน
เมื่อลุงฝูเห็นเสี่ยวมู่ตง เขาก็ถามว่า “นี่คือนายน้อยตงตงใช่ไหมครับ”
หลินม่ายพยักหน้า และขอให้เสี่ยวตงตงเรียกเขาว่าคุณปู่
ลุงฝูอยู่คนเดียวและไม่มีลูกหลาน เมื่อได้ยินเสี่ยวตงตงเรียกเขาว่าคุณปู่ เขาจึงมีความสุขมากจนไม่ต้องการปล่อยมือจากเด็กน้อย
คนกลุ่มหนึ่งขึ้นรถหรูและมาถึงวิลล่าที่มีลักษณะเหมือนปราสาท ซึ่งเป็นวิลล่าที่ป้าของฟางจั๋วหรานทิ้งไว้ให้
วิลล่าของฟางจั๋วหรานในเมืองเจียงเฉิงนับว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว แต่วิลล่าในนิวยอร์กแห่งนี้ทำให้คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต้องประหลาดใจ
หลังจากวางสัมภาระลง ผู้เฒ่าทั้งสองก็พาเสี่ยวเหวินและเสี่ยวมู่ตงไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง
เมื่อกลับเข้ามา พวกเขาก็บอกหลินม่ายอย่างอารมณ์ดีว่าสวนหลังบ้านมีขนาดใหญ่มาก พวกเขาต้องการที่ดินบางส่วนมาทำแปลงปลูกผัก
คนจีนชอบปลูกผัก และเป็นเรื่องที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ในชีวิตที่แล้วของหลินม่าย เธออ่านบทความบนออนไลน์ว่ามีแม่ชาวจีนคนหนึ่งที่พาลูกชายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเยลและยังคงทำสวนอยู่ที่นั่น
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางอยากปลูกผัก หลินม่ายจึงตกลงเห็นด้วย
ก่อนถึงเวลาอาหารกลางวัน หลังจากดื่มน้ำต้มแก้วหนึ่ง หลินม่ายตามลุงฝูไปงานศพเพื่อพบลุงหลี่อี้หนานเป็นครั้งสุดท้าย
ขณะที่คุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ กำลังเดินเล่นรอบสวนหลังบ้าน หลินม่ายก็ถามลุงฝูเกี่ยวกับสถานการณ์ของลุงหลี่อี้หนาน
หลี่อี้หนานไม่มีญาติมากนัก โดยในครอบครัวมีเพียงภรรยา ลูกสาว และหลานชาย
ลูกสาวของเขาแต่งงานกับทันตแพทย์ชาวผิวขาวและมีชีวิตที่ค่อนข้างดี
หลานชายของเขายังโสด และเป็นผู้บริหารบริษัท
ตอนที่หลินม่ายและลุงฝูไปร่วมงานศพ ญาติของหลี่อี้หนานล้วนอยู่ที่นั่นด้วย
ลุงฝูแนะนำหลินม่ายให้กับทุกคนรู้จัก และบอกว่าหลินม่ายต้องการมาแสดงความเสียใจกับหลี่อี้หนานทันทีที่เธอลงจากเครื่องบิน
หลินม่ายแสดงความเสียใจกับครอบครัวของลุงหลี่อย่างสุดซึ้ง และถามด้วยความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การตายของลุงหลี่
ขณะที่ป้าหลี่กำลังจะพูด หลี่ตงซินหลานชายของลุงหลี่ก็รีบวิ่งเข้ามาและพูดว่า “คุณลุงหลี่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จู่ ๆ เขาก็มีอาการกำเริบและเสียชีวิตไป”
หลินม่ายจ้องมองหลี่ตงซินสองถึงสามวินาที รู้สึกเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่งมาก่อน
ขณะที่ออกจากงานศพ เด็กซนจากที่ไหนไม่ทราบวิ่งเข้ามาชนกับหลินม่าย
หลินม่ายรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งถูกยัดเข้ามาในมือของเธอ รู้สึกได้ว่ามันเป็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ
จากนั้นจึงกำหมัดของตัวเองตามสัญชาตญาณ
ลุงฝูดุเด็กซนคนนั้นเล็กน้อย แล้วหันกลับมาถามหลินม่าย “คุณหนู ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหมครับ”
หลินม่ายส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ค่ะ…”
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองจากด้านหลัง แต่เมื่อหันกลับไปกลับไม่เห็นใครเลย
เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเที่ยงวัน วัตถุดิบสำหรับมื้อกลางวันถูกเตรียมไว้ในห้องครัว หลินม่ายจึงเริ่มลงมือทำอาหารทันที
ในไม่ช้า อาหารตะวันตกรสเลิศจำนวนมากก็ถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ
หลินม่ายนึกถึงกระดาษแผ่นเล็กที่เด็กซนยัดเข้ามาในมือ เธอจึงรับประทานอาหารด้วยอาการเหม่อลอย
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ หลินม่ายก็อ้างว่าเดินทางมาเหนื่อยล้าเพื่อขอตัวขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่ลุงฝูจัดเตรียมไว้ให้
มันเป็นห้องสวีทที่มีห้องนั่งเล่น เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน ซึ่งสะดวกสบายมาก
หลังจากปิดประตูห้อง หลินม่ายหยิบกระดาษแผ่นเล็กที่เด็กซนคนนั้นทิ้งไว้ให้เธอ
หลังคลี่ออกดู มีประโยคหนึ่งถูกเขียนไว้ด้วยภาษาจีน… หลี่อี้หนานถูกฆาตกรรม
หลินม่ายพลันตะลึงงัน
พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับเธอ?
เหตุการณ์การเสียชีวิตกลายเป็นคดีฆาตกรรม ปัญหาคือ เธอจัดการเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมไม่เก่ง
ต้องโทรหาตำรวจเหรอ?
ถ้าการแจ้งตำรวจมีประโยชน์ เกรงว่าคนเขียนจดหมายคงจะแจ้งตำรวจไปแล้ว
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโทรหาฟางจั๋วหรานเพื่อบอกกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฟางจั๋วหรานบอกเธอว่าอย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม และรอจนกว่าเขาจะไปถึง
หลินม่ายจึงถามว่าเขาจะมาเมื่อไร ฟางจั๋วหรานตอบว่า “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
แต่ก่อนที่ฟางจั๋วหรานจะเดินทางมาถึง การฆาตกรรมครั้งที่สองพลันเกิดขึ้น
เช้าวันต่อมา หลินม่ายอาบน้ำและลงไปชั้นล่างเพื่อทานอาหารเช้า
อ่านน้อยลง
น้าถูเคยเดินทางไปมาเก๊ากับหลินม่ายตอนที่มีการถ่ายภาพยนตร์ หล่อนเคยขึ้นเครื่องบินแล้วและไม่มีอาการเมาเครื่องบิน
แต่ครั้งนี้ที่เดินทางมาสหรัฐอเมริกา หล่อนกลับเมาเครื่องบินจนแทบทนไม่ไหว กระทั่งเป็นลมหมดสติทันทีที่มาถึงวิลล่า
แม้หลินม่ายจะบอกน้าถูเมื่อคืนว่าอยากกินบะหมี่ทำมือในมื้อเช้า แต่น้าถูที่พักผ่อนมาทั้งคืนกลับยังไม่หายดี ดังนั้นอาหารมื้อเช้าจึงยังคงเป็นอาหารตะวันตกเหมือนเมื่อวาน
หลินม่ายไม่ค่อยชอบอาหารตะวันตก แต่คุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ ต่างชอบมากจนกินหมดจาน
ขณะที่หลินม่ายกำลังกินอาหารเช้า เธอขอให้ลุงฝูติดต่อโรงเรียนมัธยมต้นและโรงเรียนอนุบาลให้เสี่ยวเหวินและเสี่ยวมู่ตงได้เข้าเรียน
ระบบภาคการศึกษาสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในสหรัฐอเมริกาเป็นแบบเดียวกับในประเทศจีน โดยภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มในเดือนกันยายน
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะเป็นเดือนกันยายน ดังนั้นจึงต้องติดต่อโรงเรียนให้เสี่ยวเหวินและเสี่ยวมู่ตงโดยเร็ว
ลุงฝูตอบด้วยรอยยิ้ม “ผมได้ติดต่อกับโรงเรียนประถมของนายน้อยเหวินและโรงเรียนอนุบาลของนายน้อยตงตงก่อนที่คุณหนูจะมาแล้วครับ โรงเรียนสำหรับนายน้อยเหวินเสนอทางเลือกทั้งแบบอยู่ประจำและแบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่ทราบว่าคุณหนูต้องการเลือกโรงเรียนประเภทไหนให้นายน้อยเหวินดีครับ?”
เสี่ยวเหวินพูดอย่างสุภาพ “คุณปู่ฝู โปรดเรียกผมว่าเสี่ยวเหวินเถอะครับ”
ลุงฝูหันมองทางหลินม่าย
หลินม่ายกล่าว “ทำตามที่เขาบอกเถอะค่ะ”
ลุงฝูจึงพยักหน้าตกลง
หลินม่ายจิบซุปหางวัวแล้วตัดสินใจ “งั้นให้เสี่ยวเหวินอยู่โรงเรียนประจำแล้วกันค่ะ”
คุณย่าฟางขมวดคิ้วทันที “เสี่ยวเหวินยังเด็กมาก คงไม่เหมาะที่จะอยู่ในโรงเรียนประจำ”
เสี่ยวเหวินยิ้มให้คุณย่าฟาง “คุณย่าครับ ไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ในโรงเรียนประจำครับ”
หลินม่ายพูดกับคุณย่าฟางว่า “โรงเรียนประจำค่อนข้างเข้มงวด”
คุณปู่ฟางพูดเสริม “เด็กผู้ชายต้องอดทนต่อความยากลำบาก อย่าตามใจเด็ก ๆ หน่อยเลย”
คุณย่าฟางจ้องมองคุณปู่ฟางและแสร้งทำเป็นโกรธ “ฉันรู้น่า!”
หลินม่ายถามอีกครั้ง “แล้วโรงเรียนอนุบาลของตงตงเป็นแบบไหนคะ?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นโรงเรียนอนุบาลชนชั้นสูงครับ”
คุณย่าฟางพูดขึ้น “ทำไมต้องไปโรงเรียนอนุบาลชนชั้นสูงด้วยเล่า แพงจะตายไป แค่โรงเรียนอนุบาลธรรมดาก็พอแล้ว”
ครั้งนี้คุณปู่ฟางเห็นด้วยกับคุณย่าฟาง
หลินม่ายครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “ฉันคิดว่าไปโรงเรียนอนุบาลชนชั้นสูงดีกว่าค่ะ เขาจะได้รับประสบการณ์ที่ดี”
หลังอาหารเช้า หลินม่ายขอให้ลุงฝูจัดรถให้เธอ เพราะเธอต้องการไปที่บริษัทของฟางจั๋วหรานเพื่อประชุมและตรวจสอบบัญชีโดยละเอียด
เมื่อคืนเธอคิดอยู่นานว่าเด็กซนคนนั้นคงไม่มีทางยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่มือเธอโดยไม่มีเหตุผล เขาคงได้รับคำสั่งจากคนอื่นอีกทีหนึ่ง
หากการตายของลุงหลี่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ทิ้งกระดาษแผ่นเล็กไว้ให้เธอ
เธอสงสัยว่ามีคนยักยอกเงินของบริษัท แต่ลุงหลี่ค้นพบโดยบังเอิญและถูกสังหารเพื่อปิดปาก
เนื่องจากการฆาตกรรมนั้นสมบูรณ์แบบมาก จึงไม่มีใครรู้ว่าลุงหลี่เสียชีวิตกะทันหันด้วยสาเหตุอื่น
คนวงในแอบส่งข้อความให้เธอรู้ความจริง
เมื่อเสี่ยวจินและเสี่ยวถังเห็นว่าหลินม่ายกำลังจะออกไป พวกเขาจึงต้องการติดตามเธอไปด้วย
หลินม่ายขอให้ทั้งสองอยู่ที่บ้าน เพื่อปกป้องคุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ
ขณะนี้มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น หลินม่ายค่อนข้างเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของปู่ฟางและทุกคนในครอบครัว บอดี้การ์ดที่เธอพามาด้วยนั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่า จึงปล่อยให้ดูแลสมาชิกในครอบครัว
ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่ง
คนรับใช้พูดว่า “ลุงฝู คุณนายหลี่ส่งคนรับใช้มารายงานเรื่องสำคัญกับคุณครับ”
ลุงฝูถาม “เรื่องสำคัญอะไร?”
ชายคนนั้นเหลือบมองทางครอบครัวของหลินม่ายและไม่พูดอะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาต่างประเทศก็มีเหตุสะเทือนขวัญทันทีเลย มีคลื่นใต้น้ำอะไรในบริษัทป้าคุณหมอฟางหรือเปล่านะ?
ไหหม่า(海馬)