แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1065 เสี่ยวตงตงกลับมาอย่างปลอดภัย
ตอนที่ 1065 เสี่ยวตงตงกลับมาอย่างปลอดภัย
ตอนที่ 1065 เสี่ยวตงตงกลับมาอย่างปลอดภัย
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว แต่ตงตงก็ยังไม่ถูกตำรวจพากลับมา
เสี่ยวเหวินเริ่มกระวนกระวายและเดินออกจากลานบ้าน สายตาจับจ้องยังถนนไปจนสุดสาย
เขาเดินวนไปมาไม่รู้กี่รอบ จนกระทั่งเห็นคุณอาจินกลับมาพร้อมกับเสี่ยวมู่ตงที่อยู่ในอ้อมแขน
หัวใจของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่น “น้องชายกลับมาแล้ว!”
ทันทีที่เสี่ยวจินเดินเข้ามาในลานโดยอุ้มตงตงไว้ในอ้อมแขน เขาก็ถูกคุณปู่ฟางกับคุณย่าฟางเข้ามาล้อม
ผู้อาวุโสทั้งสองรีบตรวจสอบว่าเสี่ยวตงตงได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่
เมื่อเห็นว่าเข่าของตงตงแดงและบวมแล้ว คุณย่าฟางรีบถามด้วยความกังวล “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เสี่ยวจินจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาฟัง
เมื่อตงตงได้ยินเสี่ยวจินพูดถึงโต้วโต้ว ดวงตาของเขาก็เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาก่อนจะร้องออกมาด้วยความเสียใจ “พี่สาวหนีไป พี่สาวไม่ต้องการตงตงแล้ว…”
เสี่ยวเหวินดึงตงตงออกมาจากอ้อมแขนของเสี่ยวจิน “แล้วนายไม่มีพี่ชายเหรอ? พี่ชายอย่างฉันต้องการตงตงนะ”
หลินม่ายและคนอื่น ๆ เข้ามาปลอบใจเสี่ยวมู่ตง จนกระทั่งอารมณ์ของเขาดีขึ้น
คุณย่าฟางถามเสี่ยวจินเรื่องผู้ค้ามนุษย์ และถามว่าแม่กับพ่อเลี้ยงของโต้วโต้วถูกจับกุมหรือยัง ทำไมโต้วโต้วถึงไม่ได้กลับมา
เสี่ยวจินส่ายหัว “แม่ผู้ให้กำเนิดโต้วโต้วไม่ปรากฏตัวเลย มีแต่พ่อเลี้ยงของหล่อนที่ชื่อหลี่กวงจื้อและผู้ค้ามนุษย์อีกสองคนเท่านั้นตอนตำรวจเข้าจับกุมพวกเขา ผู้ค้ามนุษย์ทั้งสองและหลี่กวงจื้อแยกกันหนีไปคนละทิศทาง ตำรวจตามไปแล้ว แต่พวกเขายังไม่ได้แจ้งมาว่าจับกุมได้หรือไม่ ส่วนโต้วโต้ว…”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เสี่ยวจินก็ลังเลเล็กน้อย
คุณย่าฟางถึงกับร้อนใจ “รีบบอกมาเร็ว ๆ เป็นผู้ใหญ่ทั้งทีทำไมถึงเอาแต่อึกอักแบบนี้เล่า?”
เสี่ยวจินพูดต่อ “โต้วโต้วพาตงตงไปที่ทะเลสาบใกล้ ๆ ผมเดาว่า…หล่อนน่าจะอยากผลักตงตงลงน้ำ แต่… สุดท้ายหล่อนก็ไม่ได้ทำ ดูเหมือนว่าหล่อนจะมีสำนึกดีอยู่บ้าง…”
ทุกคนฟัง และเงียบงันไปเนิ่นนาน
……
โต้วโต้ววิ่งกลับไปที่ห้องเล็กที่หลินม่ายเช่าให้
หล่อนรู้ดีว่าตอนนี้ตนพลาดโอกาสที่จะกำจัดเสี่ยวมู่ตงไปตลอดกาลแล้ว… แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หล่อนกลับรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
หล่อนไม่อยากเห็นภาพน้องชายจมน้ำ นอกจากนี้ยังเห็นภาพที่เสี่ยวตงตงถืออาหารอร่อย ๆ มาให้หล่อนทันทีที่ได้พบกัน ทั้งกล่าวออกมาอย่างไร้เดียงสาว่า “พี่สาว นี่”
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หล่อนต้องทุกข์ทรมานมากมาย มีแค่ความใจดีอันไร้เดียงสาของตงตงทำให้หล่อนสัมผัสถึงคุณค่าของตัวเองได้บ้าง
แต่หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อก่อนจึงเกลียดชังน้องชายของตัวเองได้ขนาดนั้น
แม่หลินเคยบอกหล่อนไว้ว่าการมีพี่น้องมากขึ้นหมายถึงเรามีญาติมากขึ้น และยังมีคนที่รักหล่อนมากขึ้นด้วย
เมื่อก่อนหล่อนโง่เง่าขนาดไหนถึงไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของแม่หลิน?
ขณะโต้วโต้วไตร่ตรองถึงความผิดของตัวเองอยู่ ประตูที่ปิดอยู่พลันเปิดออกกะทันหันพร้อมกับหลี่กวงจื้อเดินเข้ามา
โต้วโต้วเผยสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะวิ่งหลบไปที่มุมห้อง ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “พ่อ…”
หลี่กวงจื้อเดินเข้าหาหล่อนอย่างรวดเร็ว แล้วตบหน้าหล่อนอย่างแรง
หลี่กวงจื้อจ้องมองเธอจนดวงตาแทบถลน “แกไปบอกให้นังหลินแจ้งตำรวจมาจับพวกเราเหรอ?”
มุมปากของโต้วโต้วมีเลือดซึม หล่อนร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว “ฉันไม่ได้ทำ น้าหลินฉลาดมาก หล่อนน่าจะ… หล่อนน่าจะระแวงฉันอยู่แล้ว พอเห็นว่าฉันพาน้องชายออกมา หล่อนเลยเรียกตำรวจ”
ความโกรธบนใบหน้าของหลีกวงจื้อหายไป เขาคว้าแขนของโต้วโต้วก่อนจะลากหล่อนออกไป
โต้วโต้วถามด้วยความหวาดกลัว “คุณ… จะพาฉันไปไหน?”
“อีกเดี๋ยวแกก็รู้”
แม้โต้วโต้วจะพยายามดิ้นรนมากแค่ไหน มันก็ไม่เกิดประโยชน์ หล่อนถูกหลี่กวงจื้อลากออกจากบ้าน
เหมาฉงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกเห็นหลี่กวงจื้อโผล่ออกมา จึงทุบศีรษะเขาอย่างแรง
หลีกวงจื้อหมดสติล้มพับไป
โต้วโต้วกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เหมงฉงขมวดคิ้วด้วยความสับสน “หยุดร้องได้แล้ว ไปหาเชือกมาให้ฉันมัดผู้ชายคนนี้เร็วเข้า”
โต้วโต้วจ้องเหมาฉงตรงหน้า ก่อนจะจดจำเขาได้ ถามเสียงแผ่ว “คุณเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?”
“ฉันเป็นคนของคุณหลิน และคุณหลินเห็นว่าพ่อเลี้ยงของเธอมีเจตนาร้ายกับเธอ เลยให้ฉันมาปกป้องเธอ หมดเรื่องแล้ว เลิกถาม ไปหาเชือกมาซะ”
โต้วโต้วอดไม่ได้ที่จะมีความสุข สุดท้ายแม่หลินก็ยังมีความห่วงใยหล่อน เลยส่งคนมาปกป้องหล่อนด้วย
โต้วโต้วค้นกล่องก่อนจะพบเชือก เหมาฉงใช้เชือกผูกมือและเท้าของหลี่กวงจื้อไว้แน่นก่อนจะบอกให้โต้วโต้วโทรหาตำรวจ
หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจก็พาตัวหลี่กวงจื้อออกไป
เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ หลี่กวงจื้อสารภาพว่าตัวเขา หรงจี้เหมย และโต้วโต้วร่วมมือกันลักพาตัวเสี่ยวตงตงเพื่อนำไปขาย และคิดยึดทรัพย์สมบัติทั้งหมดของหลินม่ายจริง
อย่างไรก็ตาม เขาได้โยนความผิดทั้งหมดให้กับหรงจี้เหมย
โดยบอกว่าเป็นหรงจี้เหมยที่สั่งการให้เขาทำ เขาเป็นเพียงเครื่องมือของหล่อนเท่านั้น
ตำรวจจึงถามว่าเขาคิดจะลากโต้วโต้วไปที่ไหน
หลี่กวงจื้อไม่ต้องการตอบ เพราะกลัวว่าโทษจะรุนแรงยิ่งขึ้น
เขาอธิบายว่าเขากับหรงจี้เหมยปรึกษากันว่าให้โต้วโต้ววางยาพิษหลินม่ายและสามีของเธอ ก่อนจะรับมรดกทั้งหมดไป
จากนั้นค่อยบังคับให้โต้วโต้วโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับพวกเขา เสร็จสิ้นแผนการจึงจะขายโต้วโต้วต่อไป
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือแผนการทั้งหมดล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น
หลี่กวงจื้อต้องการขายโต้วโต้วให้กับซ่องโสเภณีเพื่อแลกกับเงินสำหรับหลบหนี แต่เขากลับถูกไม้ฟาดจนหมดสติไป
ตอนนี้เองที่เหมาฉงเข้าใจว่าทำไมหลี่กวงจื้อถึงมองโต้วโต้วด้วยแววตาละโมบอยู่เสมอ เป็นเพราะเขาต้องการขายหล่อนให้เป็นโสเภณีตัวน้อย
และโต้วโต้วยังเด็กมาก การที่หลี่กวงจื้อจะขายหล่อนในที่แบบนั้นมันเป็นเรื่องที่บัดซบเกินไป!
จากคำสารภาพของหลี่กวงจื้อ ตำรวจจึงจับกุมหรงจี้เหมยได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อปกป้องตัวเอง หรงจี้เหมยจึงบอกว่าเป็นหลี่กวงจื้อบงการเรื่องทั้งหมด
แม้ทั้งสองจะซัดทอดกันไปมา แต่ผู้พิพากษาก็ยังตัดสินว่าพวกเขาคือผู้กระทำผิดร่วมกัน ทำให้หรงจี้เหมยกับหลี่กวงจื้อรีบหยุดปากทันที
ท้ายที่สุด ทั้งคู่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักพาตัวเด็ก และเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า คนหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 15 ปี และอีกคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุก 18 ปี
หลี่กวงจื้อถูกตัดสินให้จำคุกนานกว่า 3 ปีเพราะเขาต้องการขายโต้วโต้ว
ทั้งคู่ไม่ยินยอม จึงพยายามยื่นอุทธรณ์
ไม่มีใครเป็นเด็กอีกต่อไป พวกเขามีอายุมากกว่า 30 ปีแล้ว หากอยู่ในคุกนานเกินไป เมื่อออกมาสู่โลกภายนอก ทั้งสองจะกลายเป็นคนแก่…มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
ในสายตาของพวกเขา คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด แต่ในสายตาของหลินม่ายกับคนอื่น ๆ ทุกอย่างจบลงแล้ว
เรื่องที่เหลือของหรงจี้เหมยกับหลี่กวงจื้อเกี่ยวอะไรกับเธอกัน?
แม้โต้วโต้วจะมีแรงจูงใจที่เลวร้ายจนต้องการผลักเสี่ยวมู่ตงตกทะเลสาบ แต่สุดท้ายหล่อนก็ควบคุมอารมณ์ได้และปล่อยเสี่ยวมู่ตงไป
คุณย่าฟางรู้สึกประทับใจในตัวโต้วโต้ว และอยากเชิญโต้วโต้วมารับประทานอาหารที่บ้าน
หลินม่ายคิดว่าไม่จำเป็น แม้สุดท้ายแล้วโต้วโต้วจะยอมปล่อยตงตง แต่หล่อนก็ไม่ได้ช่วยเหลือตงตงสักหน่อย
แต่คุณย่าฟางกลับต้องการเลี้ยงข้าวหล่อน และบอกว่ามันก็แค่อาหารมื้อหนึ่ง
โต้วโต้วมาที่บ้านของหลินม่ายตามคำเชิญ แต่ทันทีที่เสี่ยวมู่ตงเห็นหล่อน เขาก็วิ่งไปหาพร้อมร้องตะโกนอย่างมีความสุข “พี่สาว พี่สาวโต้วโต้ว!”
เขากระโดดเข้าหาหล่อนก่อนจะถามด้วยความเสียใจ “ทำไมวันนั้นพี่ถึงวิ่งหนีไป?”
โต้วโต้วประหลาดใจเล็กน้อย ทั้งที่เวลาผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว แต่เสี่ยวมู่ตงกลับจดจำเหตุการณ์นั้นได้
โชคดีที่เขายังเด็กและไม่รู้ว่าหล่อนมีความคิดชั่วร้าย เขาจึงถามหล่อนว่าทำไมถึงพาเขาไปที่ทะเลสาบ
หากเขารู้จุดประสงค์ของหล่อน เขาคงจะบอกกล่าวกับน้าหลิน และน้าหลินก็คงจะเกลียดหล่อนมากจนไม่เชิญหล่อนมาที่บ้านในวันนี้
โต้วโต้วบีบแก้มน้อย ๆ ของเสี่ยวตงแล้วพูดว่า “พี่ขอโทษนะ ตอนนั้นพี่สาววิ่งหนีไปเพราะมีเรื่องด่วนต้องไปทำน่ะ”
เสี่ยวมู่ตงถูกหลอกง่าย เมื่อเห็นว่าโต้วโต้ววิ่งไปอย่างนั้น เขานึกว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการเขาแล้ว ตอนนี้เขาจึงยิ้มแย้มออกมาก่อนจะพาโต้วโต้วเข้ามาในห้องนั่งเล่นเพื่อกินลิ้นจี่ด้วยกัน
หลังกินมื้อกลางวันเสร็จ หลินม่ายก็จะไปส่งโต้วโต้วกลับ
คราวแรกโต้วโต้วคิดว่าหลินม่ายเรียกหล่อนมาเพราะวางแผนจะรับเลี้ยงหล่อนอีกครั้ง แต่ไม่คิดมาก่อนว่าพวกเขาเพียงแค่เลี้ยงอาหารหล่อนเท่านั้น
ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะ หล่อนตกตะลึงอยู่นานก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “น้าหลิน หนูขออยู่ที่นี่ด้วยได้ไหมคะ?”
หลินม่ายพาหล่อนไปนั่งบนม้านั่งหินในสวน โดยไม่ให้ใครได้ยินสิ่งที่กำลังจะพูดคุย ก่อนจะหันมาถามโต้วโต้ว “ทำไมถึงอยากอยู่ที่บ้านของฉันล่ะ? ถ้าสิ่งที่เธอพูดมันฟังดูดี ฉันอาจจะเก็บเธอไว้ได้?”
โต้วโต้วกล่าวติดขัด “หนู… หนูเป็นคนบอกคุณว่าพ่อแม่ของหนูต้องการทำร้ายครอบครัวของคุณไม่ใช่เหรอ?”
หลินม่ายตอบ “เธอบอกฉันอย่างนั้นก็จริง แต่เธอก็มีจุดประสงค์ของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ก็คือใช้มือของฉันเพื่อกำจัดหรงจี้เหมยกับหลี่กวงจื้อ ตอนนี้เธอทำสำเร็จแล้ว และใช้มือของฉันกำจัดมารดาผู้ให้กำเนิดกับพ่อเลี้ยงของเธอสำเร็จ เราได้รับประโยชน์จากกันและกัน และฉันไม่ได้ติดค้างหนี้บุญคุณอะไรเลย ยังไงซะฉันก็ต้องขอบคุณเธอด้วย”
ใบหน้าของโต้วโต้วซีดลงเล็ก
น้อยหลังได้ยินอย่างนั้น เพราะน้าหลินรู้ว่าหล่อนคิดจะทำอะไร ไม่แปลกใจเลยที่หล่อนจะไม่อยากรับเลี้ยงตนอีกครั้ง
หลินม่ายกล่าวต่อว่า “ต่อให้เราจะไม่ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ความมีน้ำใจของเธิก็พอจะสามารถชดเชยความชั่วร้ายที่เธอเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ ฉันก็ส่งคนไปปกป้องเธออย่างลับ ๆ แล้วนี่ แล้วตอนนี้เธอก็นั่งคุยกับฉันได้ด้วย ทำไมไม่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยล่ะ?”
โต้วโต้วเผยสีหน้าละอายใจ
หล่อนไม่เคยคิดถึงเรื่องเลวร้ายที่เคยทำและความช่วยเหลือที่คนอื่นมอบให้ สิ่งที่จดจำได้คือเรื่องที่ใครบางคนทำเรื่องเลวร้ายกับหล่อน
เมื่อหลินม่ายพูดถึงเรื่องนี้ หล่อนจึงไม่สามารถโต้เถียงได้
หลินม่ายกล่าวต่อ “แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลหลักว่าทำไมฉันถึงปฏิเสธไม่ให้เธออาศัยอยู่ในบ้านของฉัน สิ่งสำคัญที่สุดคือฉันกลัวว่าเธอจะคิดทำเรื่องเลวร้ายอีกครั้ง และฉันจะไม่อาจป้องกันได้อีกต่อไป เหมือนกับวันนั้นที่เธออยากจะผลักเสี่ยวตงตงลงทะเลสาบถ้าฉันไม่ได้เตรียมพร้อมและจัดให้สามคนลอบปกป้องเสี่ยวมู่ตงอย่างลับ ๆ และเธอทำแบบนั้นลงไปจริง ๆ เสี่ยวมู่ตงจะยืนอยู่ตรงนี้ไหม?”
หยาดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงจากหน้าผากของโต้วโต้ว หล่อนไม่คิดว่าหลินม่ายจะรู้เรื่องนี้…
หล่อนโชคดีมากที่หยุดมือเอาไว้ และไม่ได้ผลักเสี่ยวตงตงลงน้ำไป
หากเสี่ยวตงตงถูกผลักลงน้ำ บอดี้การ์ดทั้งสามคนที่น้าหลินตระเตรียมไว้จะต้องลอบช่วยเหลือเขาอย่างรวดเร็วแน่นอน
สุดท้ายน้องชายของหล่อนจะปลอดภัย แต่หล่อนจะโดนข้อหาก่อเหตุอาชญากรรม และไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
แม้จะรอดพ้นจากการติดคุกตามกฎหมายของผู้เยาว์ แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีจากการลงโทษจากหลินม่ายได้
แต่โต้วโต้วก็ยังอยากจะโต้งแย้ง หล่อนร้องไห้ออกมาเบา ๆ “แต่หนูก็ยังไม่ได้ผลักน้องชายลงน้ำไม่ใช่เหรอ?”
หลินม่ายยกยิ้มเย็นชา และรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของโต้วโต้วมากขึ้น
“เธอคิดว่าการที่ยอมปล่อยตงตงไปคราวนี้ ฉันควรจะขอบคุณและยอมรับเธอกลับเข้ามาอีกครั้งงั้นเหรอ?”
นั่นคือสิ่งที่โต้วโต้วคิด
หลินม่ายขมวดคิ้ว “เมื่อไหร่กันที่การไม่ทันได้ทำความชั่วและไม่ทำร้ายผู้อื่นกลายเป็นคุณงามความดี? นั่นคือสามัญสำนึกพื้นฐานต่อการเป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอไง? เคยเห็นคนไม่ทำความชั่วได้รับรางวัลไหม? หากเป็นอย่างนั้น คงมีคนนับหมื่นแสนบนโลกนี้ที่ไม่ทันได้ทำเรื่องเลวร้ายแต่ได้รับรางวัล!”
โต้วโต้วก้มหน้าลง “เพราะฉันไม่ได้ผลักน้องชายตกน้ำนี่ หมายความว่าฉันต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้น น้าหลินไม่อยากให้โอกาสฉันอีกแล้วเหรอ?”
“อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ ฉันไม่อาจใช้ครอบครัวของฉันเป็นเดิมพันได้ ถ้าเธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง นั่นก็เป็นเรื่องของเธอ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมรับเธอกลับมาอีกครั้ง”
หลินม่ายส่งโต้วโต้วไปยังห้องเดี่ยวเล็ก ๆ ที่เช่าไว้ให้ ก่อนจะต่ออายุค่าเช่าให้อีกหนึ่งปี
ขณะที่จะกลับออกไป หลินม่ายพูดต่อว่า “นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำให้เธอ หวังว่าหลังจากนี้เธอจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้น และไม่ทำตัวเป็นภัยต่อสังคม ไม่ใช่แค่กับฉัน ต่อให้เธอจะดีหรือเลวมันก็ไม่กระทบกับฉันหรอก ทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อตัวเธอเอง”
โต้วโต้วคิดอย่างลึกซึ้งหลังจากได้รับคำสอนนั้น
………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ยังไม่ทันทำชั่วก็ไม่ได้หมายความว่าทำดีสักหน่อย เธอแค่ไม่อยากถูกจับได้ว่าทำชั่วต่างหาก
ชีวิตต่อจากนี้เป็นของเธอแล้ว หวังว่าจะเดินในเส้นทางที่ถูกต้องนะ
ไหหม่า(海馬)