แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1064 ปิดฉาก
ตอนที่ 1064 ปิดฉาก
ตอนที่ 1064 ปิดฉาก
ทั้งสองคนมายังห้องทำงานของหลินม่าย
โต้วโต้วคุกเข่าลงกับพื้น “คุณน้าหลิน หนูโกหกคุณค่ะ”
หลินม่ายแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวขณะช่วยพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น ถามอย่างสงสัย “เธอโกหกฉันเรื่องอะไร?”
โต้วโต้วสารภาพผิดด้วยความอับอายทั้งน้ำตา “ครั้งก่อนที่หนูช่วยน้องชายไว้ มันเป็นแค่การจัดฉาก หนูไม่ได้มาเมืองหลวงตามลำพัง”
หลินม่ายแสร้งทำเป็นสับสน “เกิดอะไรขึ้น อย่าเพิ่งร้องไห้นะ ค่อย ๆ บอกฉันมา”
โต้วโต้วเล่าให้ฟังทุกอย่างเกี่ยวกับแผนการที่จะทำให้หล่อนได้รับความรักและความไว้วางใจจากหลินม่ายกับตงตงเหมือนกับตอนที่ถูกสะกดจิต และบอกว่ามันเป็นแผนการเพื่อลักพาตัวตงตงไปขาย
หลินม่ายสวมบทบาทอย่างแนบเนียนและแสร้งทำเป็นตกใจ “พ่อแม่ของเธอชั่วร้ายขนาดนี้ได้ยังไง?”
เธอถามด้วยความสงสัย “แล้วทำไมเธอถึงมาบอกฉันล่ะ?”
โต้วโต้วกล่าวคำเบา “น้องชายดีกับหนูมาก หนูไม่อยากให้เขาถูกขาย…”
หล่อนเหลือบมองนาฬิกาบนผนังแล้วตกใจ “แย่แล้ว สายมากแล้ว หนูต้องกลับไปทำอาหาร ไม่อย่างนั้นพ่อเลี้ยงจะต้องทุบหนู” จากนั้นหล่อนก็เตรียมจากไป
หลินม่ายคว้าหล่อนไว้และพูดว่า “เธอยังไม่ได้บอกเลยว่า พ่อแม่ของเธอจะดำเนินการเมื่อไหร่”
“ในอีกสองวันค่ะ หนูไม่รู้เวลาที่แน่นอน แต่น้าหลินต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ” สิ้นเสียง โต้วโต้วก็วิ่งจากไป
หลินม่ายมองดูแผ่นหลังเด็กน้อยที่ค่อย ๆ ห่างออกไป
หากเธอไม่ได้สะกดจิตโต้วโต้วล่วงหน้า หลินม่ายคงเกือบเชื่อแล้วว่าโต้วโต้วคิดได้และกลับมารักเสี่ยวมู่ตง
หล่อนสมควรได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากงานออสการ์จริง ๆ
แต่สิ่งที่โต้วโต้วพูดในครั้งนี้แตกต่างจากเนื้อหาของการสะกดจิตครั้งก่อน
ในระหว่างการสะกดจิตครั้งก่อน โต้วโต้วพูดว่าหลังจากขายตงตงแล้ว เธอจึงจะมาบอกหลินม่ายเกี่ยวกับแม่ผู้ให้กำเนิดและพ่อเลี้ยง
ทว่าครั้งนี้ หลินม่ายกลับได้การเตือนล่วงหน้าให้เตรียมรับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ตงตงถูกลักพาตัวไปขาย
หลินม่ายอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เป็นไปได้ไหมว่า… โต้วโต้วจะคิดได้แล้วจริง ๆ?
ในตอนเย็น หลินม่ายเรียกทั้งครอบครัวมาประชุม ยกเว้นเพียงเสี่ยวมู่ตง
เหตุผลที่เสี่ยวมู่ตงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม ก็เพราะว่าเขายังเด็กเกินไปและไม่สามารถหยุดปากได้ตามต้องการ มันอาจผิดแผนถ้าเขาเผลอพูดออกไป
หลินม่ายบอกทุกคนถึงสิ่งที่โต้วโต้วพูดกับเธอเมื่อเช้านี้ ก่อนกำชับให้เสี่ยวจินและเสี่ยวถังคอยปกป้องตงตงในช่วงนี้ จนกว่าโต้วโต้วและครอบครัวของเธอจะถูกจับกุม
คนอื่นเองก็ต้องระมัดระวัง และอย่าให้อะไรเกิดขึ้นกับตงตง
ทั้งครอบครัวแสร้งทำเป็นไม่สนใจเป็นเวลาหลายวัน และในที่สุดก็รอให้โต้วโต้วมา “ลักพาตัว” เสี่ยวมู่ตง
เสี่ยวมู่ตงได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี ก่อนที่จะตามโต้วโต้วออกไป เขาวิ่งมาถามหลินม่ายว่า “หม่าม้า พี่สาวโต้วโต้วบอกว่าอยากพาผมออกไปเล่น ได้ไหมครับ?”
หลินม่ายแสร้งทำเป็นพยักหน้าตอบรับ “ได้สิลูก”
เสี่ยวตงตงจึงก้าวขาสั้น ๆ ของเขาติดตามโต้วโต้วออกไป
ด้านหลังพวกเขา เสี่ยวจินแอบเดินตามในระยะไม่ห่างมาก ขณะที่เสี่ยวถังเดินตามเสี่ยวจิน เพื่อสร้างการป้องกันเป็นสองเท่า
ในความจริงยังมีเหมาฉงอีกคน ซึ่งซ่อนตัวได้แนบเนียนยิ่งกว่าสองคนนั้นด้วยซ้ำ
เสี่ยวเหวินเฝ้าดูเด็กน้อยเดินตามโต้วโต้วอย่างมีความสุข แม้จะรู้ว่าเขาได้รับความคุ้มครองถึงสามเท่า แต่เสี่ยวเหวินก็ยังไม่สบายใจนัก
เสี่ยวเหวินเดินมาหาหลินม่ายและถามด้วยความกังวล “น้องชายของผมจะตกอยู่ในอันตรายไหมครับ?”
หลินม่ายส่ายหัว “ไม่หรอกจ้ะ”
ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยวจิน เสี่ยวถัง หรือเหมาฉง พวกเขาล้วนไม่ใช่คนธรรมดา การจัดการกับหรงจี้เหมยและสามีของหล่อนจะเป็นการปอกกล้วยเข้าปากเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้นหลินม่ายยังใช้เครือข่ายของตัวเองเพื่อติดต่อและรายงานเรื่องนี้กับผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงสาธารณะตั้งแต่เนิ่น ๆ
ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงสาธารณะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่น่าเชื่อถือสองนายมาคอยปกป้องเสี่ยวมู่ตงอย่างลับ ๆ
ด้านหนึ่งก็เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าตัวน้อยประสบเหตุไม่คาดฝัน ในทางกลับกันพวกเขาพร้อมเสมอที่จะรวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมคนร้าย
ด้วยการป้องกันหลายชั้น ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องร้ายกับเสี่ยวมู่ตงจึงเป็นศูนย์
โต้วโต้วพาเสี่ยวตงตงไปเดินเล่นเป็นระยะทางไกล และยังนั่งรถบัสไปด้วย
เสี่ยวจิน เสี่ยวถัง และเหมาฉงติดตามพวกเขาไปอย่างใกล้ชิด
กว่าหนึ่งชั่วโมงต่อมา โต้วโต้วพาตงตงมายังสถานที่เงียบสงบของสวนสาธารณะ
หล่อนรู้สึกกังวลและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
เมื่อใดที่ตงตงถูกส่งมอบให้กับหลี่กวงจื้อ หลี่กวงจื้อจะถูกจับในข้อหาค้ามนุษย์ และหรงจี้เหมยจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จากนั้นทั้งคู่จะถูกจับกุม
ด้วยความดีความชอบที่มาเตือนก่อนหน้า แม่หลินจะรับเลี้ยงหล่อนอีกครั้ง และหล่อนจะกลับไปมีชีวิตที่ดีเหมือนเดิม
โต้วโต้วมองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นใครเลย
หล่อนรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
แม่หลินไม่ได้เตรียมคนมาปกป้องตงตง หรือว่าพวกเขาจะตามหล่อนไม่ทันและพลัดหลงระหว่างทาง?
หากเป็นเช่นนั้น หล่อนควรทำอย่างไรดี?
ในเวลานี้ ชายหญิงวัยกลางคนและหลี่กวงจื้อก็เดินเข้ามาหาโต้วโต้ว
หลี่กวงจื้อชี้ไปที่เสี่ยวมู่ตงและพูดกับชายหญิงคู่นั้นว่า “ดูเด็กคนนี้สิว่าผิวพรรณดีขนาดไหน แล้วยังหน้าตาดีมากด้วย เขายังเป็นเด็กอยู่ ราคาหนึ่งหมื่นห้าพันหยวนคงไม่มากเกินไป”
หญิงวัยกลางคนตรวจดูเสี่ยวมู่ตงอย่างละเอียด ก่อนลุกขึ้นยืน “ฉันจ่ายให้ได้แค่หนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้นสำหรับเด็กในวัยนี้ ลูกคุณแก่มากแล้ว ยังจะเรียกร้องหมื่นห้าพันอีกเหรอ? สูงสุดแค่หนึ่งหมื่นหนึ่งพันหยวน แต่เป็นเพราะเด็กคนนี้หน้าตาดีหรอกนะ”
พวกเขาต่อรองราคากันและตกลงกันที่หนึ่งหมื่นสองพันหยวน
ตงตงชี้ไปที่หลี่กวงจื้อและถามโต้วโต้วว่า “พี่สาว เขาจะขายผมเหรอ?”
โต้วโต้วบีบมือเล็กของเขา “ไม่ใช่”
เสี่ยวมู่ตงจึงเงียบไปทันที
ความไว้วางใจของเสี่ยวตงตงทำให้โต้วโต้วรู้สึกละอายใจ เพราะหล่อนมีเจตนาไม่ดีต่อเขา
หลี่กวงจื้อและผู้ค้ามนุษย์ทั้งสองเริ่มจ่ายเงินด้วยมือข้างหนึ่งและส่งมอบสินค้าด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
โต้วโต้วมองไปรอบ ๆ ด้วยความกังวล แต่ก็ไม่เห็นตำรวจปรากฏตัวออกมาเลยกระทั่งถึงตอนนี้
หากตำรวจไม่ปรากฏตัว พวกเขาจะไม่สามารถจับผู้ค้ามนุษย์และหลี่กวงจื้อพร้อมกับหลักฐานในมือที่แน่นหนานี้
ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายออกมาจากตรงไหนก็ไม่ทราบ พวกเขาชี้นิ้วไปทางหลี่กวงจื้อและผู้ค้ามนุษย์ทั้งสองพร้อมตะโกนขึ้น “ก้มหัวลง! หมอบลงไป!”
เมื่อหลี่กวงจื้อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาไม่สนใจที่จะนับเงินด้วยซ้ำ ก่อนรีบยัดลงกระเป๋าและวิ่งหนีไป
เมื่อผู้ค้ามนุษย์ทั้งสองเห็นดังนั้น พวกเขาก็เริ่มวิ่งไปคนละทาง
สามคน สามทิศทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจตามไปจับกุมผู้ค้ามนุษย์คนละราย
พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับผู้ค้ามนุษย์ทั้งสองราย หากหลบหนีไปได้ มันจะตามจับได้ยากมาก
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับหลี่กวงจื้อบ้างแล้ว ต่อให้หลี่กวงจื้อหนีไป ก็ยังมีโอกาสตามจับเขาและนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
โต้วโต้วจับมือตงตงและยืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวครึ่งนาที ก่อนจะหันหลังและจากไปพร้อมกับเด็กน้อย
เสี่ยวจินและคนอื่น ๆ รีบติดตามไปอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวว่าจะคลาดสายตา
โต้วโต้วไม่ได้พาตงตงกลับไปยังบ้านของเขา พวกเหมาฉงเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น หล่อนจะพาตงตงไปที่ไหน?
โต้วโต้วพาตงตงมาที่ทะเลสาบ ขณะที่มองทะเลสาบสะท้อนแสงแวววาวตรงหน้า หล่อนก็มีความคิดที่จะผลักตงตงลงไปในน้ำหลายครั้ง
ตราบใดที่ตงตงจมน้ำตาย หล่อนจะกลายเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวของหลินม่ายนับจากนี้ไป พ่อฟางและแม่หลินจะรักหล่อนเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้งอย่างแน่นอน
แต่ทุกครั้งที่หล่อนยื่นมือออกไปเพื่อหวังผลักตงตงลงน้ำ ภาพฉากที่ตงตงนำอาหารอร่อย ๆ มาให้พลันปรากฏขึ้นในหัวใจของหล่อนเสมอ
ท้ายที่สุด โต้วโต้วก็ไม่สามารถก้าวข้ามเส้นศีลธรรมในใจได้ หล่อนปล่อยมือตงตงและรีบวิ่งหนีไป
เสี่ยวตงตงพยายามวิ่งไล่ตาม “พี่สาวโต้วโต้ว รอผมด้วย!”
คนทั้งสามที่คอยคุ้มครองตงตงต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เสี่ยวจินรอให้โต้วโต้ววิ่งหายไปก่อน จากนั้นเขาจึงออกจากที่ซ่อนและเข้าไปอุ้มเสี่ยวมู่ตงที่กำลังร้องไห้เพราะสะดุดล้มระหว่างที่วิ่งไล่ตาม “ตงตง ไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวคุณอาพาเธอกลับบ้านเอง”
เสี่ยวถังยังคงซ่อนตัวอยู่ในความมืด ขณะที่ติดตามเสี่ยวจินและตงตงกลับไปยังบ้าน
เหมาฉงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจตามโต้วโต้วออกไป
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นับว่ายัยถั่วยังไม่เลวสุดขั้ว ยังมีทางกลับเนื้อกลับตัวได้อยู่ แต่ก็อย่ามาอยู่กับแม่หลินอีกเลย เธอต้องเดินไปตามทางของตัวเองแล้ว
ไหหม่า(海馬)