แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1062 แผนการของหลินม่าย
ตอนที่ 1062 แผนการของหลินม่าย
ตอนที่ 1062 แผนการของหลินม่าย
หลังจากการสะกดจิตช่วงหนึ่ง หลินม่ายรู้สึกสูญเสียพลังงานอย่างมาก
เธอลากขาอันหนักอึ้งลงไปยังห้องนั่งเล่น คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางลดเสียงลงพลางถามว่า เธอรู้ข้อมูลอะไรจากโต้วโต้วบ้าง
สามีภรรยาสูงอายุไม่รู้ว่าหลินม่ายรู้จักการสะกดจิต และคิดเพียงว่าเธอหลอกถามโต้วโต้วเท่านั้น
แน่นอนว่าหลินม่ายไม่ได้บอกใคร เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้แม้กระทั่งกับฟางจั๋วหรานด้วยซ้ำ
เธอบอกข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับรู้จากการสะกดจิตโต้วโต้วให้ผู้อาวุโสทั้งสองฟัง
สีหน้าคู่สามีภรรยาสูงอายุพลันเคร่งขรึม
คุณย่าฟางพูดขึ้นด้วยความกังวล “โต้วโต้วเลยเถิดไปมากแล้ว เราไม่อาจเก็บหล่อนไว้ที่บ้านได้ แล้วเราจะหาเหตุผลส่งหล่อนออกจากบ้านยังไงดี?”
หลินม่ายกล่าว “ฉันจะรับบทผู้ร้ายและส่งเธอออกไปเองค่ะ”
คุณปู่ฟางพูด “ให้ปู่ทำเถอะ โต้วโต้วเด็กคนนี้อาฆาตพยาบาทเกินไป ถ้าหลานรับบทคนร้ายแล้วหล่อนกลับมาแก้แค้นตงตงจะทำยังไง?”
หลินม่ายกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณปู่ฟางรับบทผู้ร้าย โต้วโต้วก็ยังคงมาแก้แค้นกับตงตงอยู่ดีค่ะ ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่รู้สักหน่อยว่าคุณปู่กับคุณย่ารักตงตงมากที่สุด”
คู่สามีภรรยาสูงอายุและหลินม่ายโต้เถียงไปมา สุดท้ายหลินม่ายก็โน้มน้าวพวกเขาสำเร็จ และจะเป็นคนรับบทผู้ร้ายเอง
เธอยังได้หารือกับคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางวางแผนการจับสมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวของโต้วโต้วและส่งพวกเขาเข้าคุก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
ไม่นานก็เป็นเวลาห้าโมงเย็น เสี่ยวเหวินขี่จักรยานกลับบ้านจากโรงเรียน
ทันทีที่เขาเข้ามาในลานบ้าน เขาก็เห็นโต้วโต้วสวมใส่กระโปรงตัวใหม่ ใบหน้าของเขาพลันหมองหม่นทันใด
เขาแอบถามหลินม่ายว่า ทำไมโต้วโต้วถึงมาอยู่ในบ้านของพวกเขา
หลินม่ายเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังพลางตบไหล่เขา “ไม่ต้องห่วงนะ อาจะส่งหล่อนออกไปหลังอาหารเย็น”
ทันใดนั้น เธอก็ตระหนักว่าเด็กชายคนนี้สูงกว่าเธอแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน~
เนื่องจากมีโต้วโต้วในบ้าน เสี่ยวเหวินจึงไม่ยอมอยู่ห่างจากตงตงแม้แต่ก้าวเดียว
ระหว่างกินอาหารเย็น หลินม่ายจงใจถามโต้วโต้วว่าเธออาศัยอยู่ที่ไหนในเมืองหลวง
โต้วโต้วหลั่งน้ำตา “นอนในสวนสาธารณะค่ะ~”
หลินม่ายพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เป็นเด็กผู้หญิงแล้วมานอนในสวนสาธารณะได้อย่างไร? หลังอาหารเย็น ฉันจะพาเธอไปที่โรงแรม”
ดวงตาโต้วโต้วเต็มไปด้วยความผิดหวัง เนื้อพะโล้ในชามไม่ได้น่ากินอีกต่อไป
หล่อนมองหลินม่ายด้วยท่าทางน่าสงสาร “คุณน้าหลิน หนูอยากอยู่ที่บ้านนี้ด้วย ได้ไหมคะ?”
หลินม่ายปฏิเสธ “ไม่ได้หรอก เธอก็รู้ว่าตัวเองเคยทำอะไรมาก่อน เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวของฉัน ฉันไม่สามารถให้เธอมาอยู่ที่บ้านได้”
โต้วโต้วถามอย่างเศร้าใจ “คุณน้าหลินจะไม่ให้โอกาสหนูได้แก้ตัวหน่อยเหรอคะ?”
หลินม่ายยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นพิเศษ “ได้สิ ได้อยู่แล้ว แต่ฉันจะไม่เอาความปลอดภัยของครอบครัวฉันมาเสี่ยง เธอเข้าใจไหม?”
โต้วโต้วไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับ ขณะที่แอบเหลือบมองเสี่ยวเหวิน
หล่อนสงสัยว่าที่หลินม่ายรู้เรื่องต่าง ๆ ที่ตนเคยทำอาจเป็นเพราะเสี่ยวเหวินนำไปบอกหลินม่าย เพราะมีเพียงเสี่ยวเหวินเท่านั้นที่รู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
หล่อนคิดว่าตนเองทำตามแผนอย่างแนบเนียน แต่หลินม่ายกลับรู้เห็นทั้งหมด
หลินม่ายตักลูกชิ้นเนื้อใส่ในจานของตงตงและเสี่ยวเหวิน ซึ่งเป็นของโปรดของพวกเขา แต่ไม่ได้ตักให้โต้วโต้ว
เธอเหลือบมองโต้วโต้วและพูดว่า “เธออย่ามองเสี่ยวเหวินด้วยความเกลียดชังแบบนั้น เขาไม่ได้บอกอะไรกับฉัน เธอไม่ควรคิดว่าฉันโง่เขลาขนาดที่ไม่รู้ว่าเธอแอบทำอะไรลับหลัง”
จากนั้นโต้วโต้วก็นั่งกินอย่างเงียบงัน
หลังอาหารเย็น หลินม่ายพาหล่อนออกไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
ฟางจั๋วหรานต้องการอาสาพาหล่อนไปแทน แต่หลินม่ายปฏิเสธ
โต้วโต้วนิสัยแย่ลงเรื่อย ๆ และฟางจั๋วหรานเป็นผู้ชาย หากโต้วโต้วโจมตีเขาในทางล่อแหลม ฟางจั๋วหรานอาจจะเดือดร้อน
หลินม่ายจัดให้โต้วโต้วพักในโรงแรมของรัฐและถามอย่างจริงจังว่า “เธอวางแผนที่จะอยู่ในเมืองหลวงไปเรื่อย ๆ หรือแค่ระยะสั้น? หากเธอต้องการอยู่ในเมืองหลวงเป็นเวลานาน ฉันจะเช่าบ้านส่วนตัวให้เธอระยะหนึ่ง”
โต้วโต้ว แม่ผู้ให้กำเนิด และพ่อเลี้ยงต่างคิดว่าการแสดงอันยอดเยี่ยมในวันนี้จะต้องทำให้หลินม่ายซาบซึ้ง และตัดสินใจรับเลี้ยงหล่อนอีกครั้ง
ถึงแม้จะไม่ได้รับเลี้ยง แต่อย่างน้อยก็คงให้พักอาศัยอยู่ในบ้าน เพราะอย่างก็เป็นแค่เรื่องการเพิ่มชุดอาหารอีกหนึ่งชุด ซึ่งไม่ได้สำคัญนักสำหรับหลินม่าย
แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่เป็นไปตามที่พวกเขาวางแผนไว้ โต้วโต้วจำเป็นต้องรายงานพ่อเลี้ยงและขอคำแนะนำของเขา ก่อนที่จะกล้าตัดสินใจทำสิ่งใด
โต้วโต้วตอบกลับคำเบา “หนูยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยค่ะ”
หลินม่ายพูด “ไม่เป็นไร ค่อย ๆ คิดไปก็ได้ แล้วฉันจะขอคำตอบจากเธออีกทีในวันหลัง”
ไม่นานหลังจากที่หลินม่ายจากไป โต้วโต้วก็เปิดประตูและมองออกไปข้างนอก
เมื่อไม่เห็นหลินม่ายหรือคนอื่น หล่อนก็รีบออกจากโรงแรมและตรงไปยังบ้านพักของหลี่กวงจื้อ
เหมาฉงที่กำลังสอดแนมแอบบ่นอยู่ในใจ หลินม่ายกังวลว่าหล่อนจะถูกละเมิดทางเพศ แต่ตัวเด็กคนนี้ไม่ได้สนใจความปลอดภัยของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
กลางคืนดึกดื่น หล่อนยังกล้ากลับไปหาหลีกวงจื้อ ต้องผ่านพื้นที่ห่างไกลหลายแห่ง หากพบคนไม่ดีระหว่างทาง หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ร้องไห้ด้วยซ้ำ
ในบ้านส่วนตัวที่ทรุดโทรม หลี่กวงจื้อกำลังยกจอกขนาดใหญ่ขึ้นดื่มพร้อมกับแกล้มเนื้อสัตว์
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงของโต้วโต้วที่เรียกเขาว่าพ่อ เขาห่อหัวหมูตุ๋นบนโต๊ะอาหารด้วยหนังสือพิมพ์และนำไปซ่อนไว้ก่อนที่จะเปิดประตู
เขาคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าซ่อนเนื้อหัวหมูตุ๋น แต่หลังจากโต้วโต้วเข้ามาในบ้าน หล่อนไม่เพียงได้กลิ่นเหล้าเท่านั้น แต่ยังได้กลิ่นของเนื้อหัวหมูตุ๋นอีกด้วย
หล่อนกลืนน้ำลายโดยไม่ได้ตั้งใจ กระนั้นก็ไม่กล้าถามอะไรอีกฝ่าย
แม้ว่าหลี่กวงจื้อมักจะทำตัวเหมือนไม่สนใจสิ่งใด ๆ แต่หากใครพยายามแย่งอาหารจากเขา เขาจะทุบตีอีกฝ่ายให้ตาย ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกในไส้ก็ตาม
โต้วโต้วเคยเห็นเขาทุบตีพี่ชายและน้องชายหลายครั้ง แล้วหล่อนจะกล้าถามได้อย่างไรว่าเขาได้ขโมยพวกมันมาหรือเปล่า?
หลี่กวงจื้อนั่งลงบนเก้าอี้และหยิบเหล้าคุณภาพต่ำขึ้นมาจิบพลางถามว่า “ทำไมเธอถึงกลับมาที่นี่ แทนที่จะพักอยู่ในบ้านตระกูลของหลินม่ายล่ะ?”
โต้วโต้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง
แต่เหตุผลที่หลินม่ายปฏิเสธที่จะให้หล่อนอยู่ที่บ้านนั้นถูกเก็บงำไว้ เพราะหล่อนเคยทำเรื่องเลวร้ายกับถังถัง ตงตง และเถาจืออวิ๋นมาก่อน
หลี่กวงจื้อครุ่นคิดอยู่นานและพูดว่า “ในเมื่อคนแซ่หลินจะมาพบเธออีกครั้งในอีกไม่กี่วัน งั้นเธอก็บอกไปว่าเธอคิดเรื่องนี้แล้ว และต้องการอยู่ในเมืองหลวงถาวร ถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปเยี่ยมหล่อนและพัฒนาความสัมพันธ์กับตงตง จากนั้นเธอจะได้หลอกตงตงเพื่อนำเขาไปขายได้ง่ายขึ้น”
โต้วโต้วพยักหน้ารับและจากไป
เหมาฉงแจ้งหลินม่ายให้ทราบถึงสิ่งที่เขาได้ยินทันที
หลินม่ายจึงรีบเตรียมแผนการรับมือ
เสี่ยวถังและเสี่ยวจินทำงานที่บ้านของหลินม่ายตั้งแต่พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากเธอ เช่นเดียวกับที่พวกเขาเคยปกป้องเจ้านายคนเก่า พวกเขาแอบปกป้องคุณปู่ฟาง คุณย่าฟาง และเสี่ยวมู่ตงอยู่เงียบๆ
เด็กและผู้ใหญ่ทั้งสามไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เมื่อตกอยู่ในอันตราย
ตอนนี้หลินม่ายได้เตรียมการรับมือครั้งใหม่แล้ว โดยให้เสี่ยงจินคอยคุ้มครองคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนเสี่ยวถังให้แอบปกป้องเสี่ยวมู่ตงตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน
แต่อย่าลืมจับตาดูเสี่ยวมู่ตงให้ดี อย่าปล่อยให้เขากินหรือดื่มอะไรก็ตามที่โต้วโต้วยื่นให้
เธอต้องการล่องูออกจากรูและจับครอบครัวของโต้วโต้วในคราวเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต
สองวันต่อมา โต้วโต้วมาเยี่ยมพวกเขาที่บ้าน
วันนั้นที่บ้านมีเพียงเสี่ยวมู่ตงและพวกคุณปู่ฟาง รวมถึงพี่เลี้ยงเด็กอีกสองคน
อากาศร้อนอบอ้าวมาก จนคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางออกกำลังกายในสวนสาธารณะเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะพาตงตงกลับบ้าน
แม้จะมีพี่เลี้ยงเด็กและคู่สามีภรรยาสูงอายุจะคอยเล่นกับตงตง แต่พวกเขาแก่เกินกว่าจะวิ่งตามตงตงได้ทัน ดังนั้นตงตงจึงไม่ค่อยรู้สึกสนุกเท่าใด
เมื่อกลับมาบ้าน ตงตงดีใจมากที่เห็นโต้วโต้ว เขาดึงหล่อนเพื่อให้มาเล่นด้วยกัน
เขายังให้ผลไม้และโซดาแก่โต้วโต้วด้วย แต่ถ้าโต้วโต้วปฏิเสธที่จะกิน เขาจะยืนเขย่งเท้าแล้วยัดมันเข้าไปในปากของหล่อน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาติดหล่อนมาก
เวลาผ่านไปจนเกือบเที่ยง โต้วโต้วไม่ต้องการเจอกับหลินม่ายที่กำลังกลับบ้านมารับประทานอาหารกลางวัน
หล่อนรู้สึกผิด และรู้สึกอยู่เสมอว่าดวงตาหลินม่ายที่มองมานั้นทะลุทะลวงถึงจิตใจ ดังนั้นหล่อนจึงไม่กล้าแม้แต่จะรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านของหลินม่ายและรีบจากไป
ในภาควิชาวิศวกรรมเคมีมีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่ต้องการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ แต่ภาควิชามีโควตาให้เพียง 5 ที่เท่านั้น และเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นได้อันดับที่ 6
เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นได้ฉีดธาตุแทลเลียมให้เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ จนตอนนี้เพื่อนร่วมชั้นที่ถูกวางยายังคงนอนอยู่ในห้อง ICU เพื่อรอรับความช่วยเหลือ
เพียงไม่กี่วันครอบครัวนั้นเป็นหนี้ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลหลายแสนหยวน
พ่อแม่ของเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกวางยาพิษสิ้นหวังมากจนต้องขายบ้านและไม่สามารถจ่ายค่าโรงพยาบาลได้
จากนั้นสหภาพนักศึกษาได้จัดงานระดมทุนเพื่อช่วยครอบครัวของเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกวางยาพิษให้ผ่านพ้นความยากลำบากของพวกเขา
ในฐานะเศรษฐีในโรงเรียน หลินม่ายได้รับความสนใจจากสหภาพนักศึกษาและถูกเชิญชวนให้ระดมทุน
หลินม่ายอยู่โรงเรียนทั้งเช้า นอกจากจะบริจาคเงินแล้ว เธอยังไปเยี่ยมเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกวางยาพิษกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นอีกด้วย
หล่อนเป็นเด็กสาวที่สวยมาก แต่ตอนนี้กลับนอนเป็นผักอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล
พ่อแม่ของหล่อนร้องไห้ตลอดเวลา โดยเฉพาะแม่ของหล่อนที่ร้องไห้ตาบวมจนแทบตาบอด
แพทย์ที่ดูแลเด็กสาวผู้ถูกวางยาบอกกับทุกคนว่า ขณะนี้ยังไม่มีวิธีรักษาสำหรับพิษแทลเลียมที่หายากในร่างกายของหล่อน
แม้จะได้รับการช่วยเหลือและช่วยชีวิตไว้ได้ แต่สติปัญญาในอนาคตของหล่อนอาจเป็นเพียงเด็กอายุหกหรือเจ็ดขวบเท่านั้น
เมื่อคิดว่าพ่อแม่ของเด็กสาวที่ถูกวางยาพิษจะต้องเลี้ยงดูลูกสาวที่พิการทางสติปัญญาไปตลอดชีวิตและต้องรักษาอาการของเธอให้คงที่ หลินม่ายจึงวางแผนที่จะมอบเงินสงเคราะห์รายเดือน 100 หยวนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่โชคร้ายนี้
เด็กหนุ่มจากโรงเรียนเดียวกันกับเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายก้าวออกมาข้างหน้า โดยบอกว่าเขาจะดูแลเด็กสาวและพ่อแม่ของหล่อนไปตลอดชีวิต
หลินม่ายเดาว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นแฟนหนุ่ม เธอจึงไม่ได้เถียงกับเขา และกลับบ้านด้วยจิตใจที่ค่อนข้างหนักอึ้ง
ผู้คนถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยผลกำไร และพวกเขาก็แยกย้ายกันไปเพื่อแสวงหามัน
ถ้าไม่ใช่เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ เด็กสาวที่ถูกวางยาพิษจะประสบภัยพิบัติที่ไม่จำเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?
โลกมนุษย์ไม่คู่ควรกับการมีชีวิตอยู่เลย
โชคดีที่ในชีวิตนี้ คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางผู้ใจดีทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว และฟางจั๋วหรานผู้อนุญาตให้เธอได้สัมผัสกับความงดงามของความรัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้มีค่าควรแก่การมีชีวิตอยู่
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หลินม่ายเปิดประตูเมืองโล่งสี่ทิศแล้วดีดฉินรอบนกำแพงเมืองแล้ว ขืนเดินหน้าตามแผนต่อก็โดนรวบอะ
สงสารเด็กสาวคนนั้นจังเลย อยู่ๆ กลายเป็นผักในตอนที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์เพราะความอิจฉาของคนอื่น ไอ้คนกระทำผิดมันต้องไม่ตายดี
ไหหม่า(海馬)