แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1061 สะกดจิตโต้วโต้ว
ตอนที่ 1061 สะกดจิตโต้วโต้ว
ตอนที่ 1061 สะกดจิตโต้วโต้ว
พริบตาเดียววันเสาร์ก็มาถึง คุณปู่ฟางนัดกับเพื่อนหลายคนไปตกปลาที่ทะเลสาบที่ชานเมือง
สหายเหล่านั้นเหมารถบัสพร้อมพาภรรยาและหลาน ๆ ออกไปตกปลาตอนหกโมงเช้า ทุกคนต่างก็กระตือรือร้นมาก
หลินม่ายจะไปเข้าร่วมพิธีรับปริญญาในวันนั้น
ทันทีที่พิธีรับปริญญาจบลง เธอขับรถกลับบ้านโดยไม่แวะที่ไหนอีก ในวันที่อากาศร้อน ไม่มีที่ไหนจะเย็นสบายเท่าบ้านอีกแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้าน มันเป็นเวลาราวเที่ยงวัน
หลินม่ายกำลังคิดว่าจะขอให้น้าถูทำบะหมี่เย็น ๆ มากินเป็นอาหารกลางวัน
แต่เห็นน้าถูเดินไปที่ห้องนั่งเล่น โดยถือจานหลายใบใส่ถาดอาหาร
เธอถามด้วยความประหลาดใจ “มื้อเที่ยงมีแค่เราสองคน ทำอาหารไปเยอะเดี๋ยวก็กินไม่หมดหรอกค่ะ”
ตงตงไปตกปลากับปู่ทวดและย่าทวดของเขา หลินม่ายจึงให้วันหยุดน้าทังหนึ่งวัน ตอนเที่ยงจึงเหลือเพียงหลินม่าย น้าถู และอาหวงเท่านั้น
น้าถูกตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “ผู้อาวุโสทั้งสองกลับมาแล้วค่ะ พวกเขาพาโต้วโต้วและแขกกลับมาด้วย แล้วจะไม่ทำอาหารเพิ่มได้อย่างไร? ไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่หมดหรอกค่ะ กลัวว่าจะไม่พอมากกว่า…”
หลินม่ายขมวดคิ้วและรีบเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น ไม่เพียงเห็นโต้วโต้ว เธอยังเห็นเหมาฉงนั่งอยู่ด้วย
เธอเต็มไปด้วยคำถาม แต่ไม่กล้าแสดงออกไปตรงๆ และทำเป็นไม่รู้จักเหมาฉงด้วยซ้ำ
เมื่อโต้วโต้วเห็นหลินม่าย หล่อนรีบลุกขึ้นและกล่าวทักทายด้วยความเขินอาย “สวัสดีค่ะน้าหลิน”
หลินม่ายเมินหล่อน ก่อนหันไปถามคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางด้วยความสับสน “น้าถูบอกว่าคุณปู่กับคุณย่าพาโต้วโต้วกลับมา ทำไมถึงพาหล่อนกลับมาล่ะคะ?”
เธอขอให้เสี่ยวเหวินบอกผู้เฒ่าสองคนอย่างชัดเจนแล้วว่า โต้วโต้วมาถึงเมืองหลวง และบอกให้ทั้งสองระวังตัวให้ดี
ผู้เฒ่าทั้งสองพาเสี่ยวมู่ตงออกไปตกปลา แต่ทำไมพวกเขาถึงพาโต้วโต้วกลับมาด้วย?
คุณย่าฟางเห็นน้าถูกำลังเตรียมอาหารกลางวันจึงพูดว่า “กินข้าวก่อนค่อยคุยกันเถอะ”
ทุกคนไปนั่งที่โต๊ะรับประทานอาหาร หลินม่ายวางเสี่ยวมู่ตงให้นั่งระหว่างเธอและคุณย่าฟางด้วยความหวาดระแวง
คุณย่าฟางแนะนำเหมาฉงให้กับหลินม่าย “นี่คือสหายเหมาฉง เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวเรา และแน่นอนว่าโต้วโต้วด้วย หล่อนเองก็เป็นผู้มีพระคุณของครอบครัวเรา”
หล่อนมองโต้วโต้วและเหมาฉง จากนั้นจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ทั้งสองต้องกินข้าวให้มากกว่านี้นะ กินเยอะ ๆ เลยค่ะ”
จากนั้นพูดคุยเกี่ยวกับเหตุผลที่พาโต้วโต้วกลับบ้าน
วันนี้ขณะที่ไปตกปลาในเขตชานเมือง เสี่ยวตงตงมองดูการตกปลาอยู่พักหนึ่งและพบว่ามันน่าเบื่อ
บังเอิญมีผีเสื้อตัวหนึ่งดึงดูดความสนใจ เขาจึงวิ่งตามผีเสื้อตัวนั้นไป กระทั่งวิ่งหายออกจากสายตาของผู้ใหญ่
เด็กคนอื่นๆ ต่างมุ่งความสนใจไปที่การขุดทรายและเล่นสนุกกันอย่างเต็มที่ พวกเขาไม่ใส่ใจกับที่อยู่ของเสี่ยวตงตงด้วยซ้ำ
หากพวกเขาไม่ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขึ้นว่า “พวกค้ามนุษย์กำลังลักพาตัวเด็กไป!” คุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ คงไม่สังเกตเห็นว่าเสี่ยวมู่ตงได้หายตัวไปแล้ว
เหล่าชายชราหยุดตกปลา และหญิงชราหยุดพูดคุยกันทันที พวกเขาทั้งหมดวิ่งตามเสียงนั้นไปเพื่อตามหาเสี่ยวตงตง
เมื่อวิ่งตามออกไปจนเหนื่อยหอบ พวกเขาก็เห็นตงตงถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนเหมาฉง ขณะที่โต้วโต้วงอตัวด้วยความเจ็บปวด
คุณย่าฟางรีบดึงตงตงออกจากอ้อมแขนของเหมาฉง แล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่าเกิดอะไรขึ้น?
ตงตงอายุมากกว่าสองขวบแล้ว แม้ความสามารถในการแสดงออกของเขาจะไม่ดีนัก แต่ก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ โดยทั่วไปได้
ตงตงบอกคุณย่าฟางและทุกคนว่า ขณะที่เขาไล่ตามผีเสื้อ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นขวางด้านหน้า เธอคนนั้นพุ่งเข้ามาปิดปากและอุ้มเขาขึ้นเพื่อจากไป
เขาดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง กระทั่งโต้วโต้วมาเห็นโดยบังเอิญ
โต้วโต้วตะโกนขอความช่วยเหลือและกอดต้นขาของผู้หญิงคนนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหนีไป เว้นแต่จะวางเสี่ยวมู่ตงลง
ผู้หญิงคนนั้นเตะโต้วโต้วหลายครั้ง แต่โต้วโต้วยังคงฝืนทนความเจ็บปวดและไม่ยอมปล่อยมือ
ขณะนั้นเหมาฉงที่ได้ยินเสียงเอะอะวิ่งเข้ามา เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว หล่อนจึงวางตงตงลงและวิ่งหนีไป
หลังจากฟังคำพูดตะกุกตะกักของเสี่ยวตงตง คุณย่าฟางและคนอื่น ๆ ก็ตระหนักว่าเหมาฉงและโต้วโต้วคือผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเสี่ยวมู่ตง
คุณปู่ฟางและภรรยาชักชวนพวกเขามารับประทานอาหารที่บ้าน
ขณะที่คุณย่าฟางกำลังเล่าเรื่อง นางก็เตะขาหลินม่ายใต้โต๊ะเงียบ ๆ สามครั้ง ทำให้หลินม่ายเข้าใจทุกอย่างทันที
หลังรับฟังเรื่องราวเสร็จ เธอรีบหันไปขอบคุณเหมาฉง
เหมาฉงโบกมือด้วยท่าทางนอบน้อม “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ”
เขาชี้ไปทางโต้วโต้วด้วยสายตา “ทั้งหมดต้องขอบคุณเด็กสาวคนนี้”
โต้วโต้วและเขาต่างชมเชยกัน “คุณอามีส่วนช่วยมากเลยค่ะ ถ้าคุณอาไม่ปรากฏตัว น้องชายของหนูคงโดนผู้หญิงคนนั้นพาตัวไปแล้ว”
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เหมาฉงก็ขอตัวกลับไป
หลินม่ายมอบไวน์ชั้นดีสองขวดพร้อมกับบุหรี่คุณภาพดีสองซอง คุณปู่ฟางถึงกับขอให้เขาเอาปลากะพงสีดำตัวใหญ่ที่สุดที่เขาจับได้ขณะตกปลากลับไปด้วย
ความมีน้ำใจนี้ยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเหมาฉงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับมัน
หลังจากส่งเหมาฉงออกไป หลินม่ายก็พาโต้วโต้วไปตรวจร่างกาย
ท้ายที่สุดหล่อนก็เป็นเด็กที่เป็นโรคหัวใจ การถูกเตะหลายครั้งอาจมีความเสี่ยง และจะมีใครให้ความมั่นใจกับหล่อนได้อย่างไรหากไม่ไปตรวจ?
ตามคำที่ว่า หากจะแสดงก็ต้องทำให้เต็มที่
โต้วโต้วขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง ขณะที่หลินม่ายเหลือบมองกระจกหลังด้วยดวงตาซับซ้อน
การเตะขาใต้โต๊ะสามครั้งของคุณย่าฟางเป็นการเตือนว่า การช่วยตงตงอาจเป็นการหลอกลวง
แต่ทำไมโต้วโต้วถึงอยากเล่นละครเรื่องนี้ หล่อนไม่รู้ว่าตงตงมีบอดี้การ์ดสามคนคอยปกป้องอย่างลับ ๆ หรือ?
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว เนื่องจากหล่อนเกลียดตงตงมาก หล่อนจึงควรจะช่วยเหลือพวกค้ามนุษย์เพื่อลักพาตัวเสี่ยวตงตงไปต่างหาก
เป็นไปได้ไหมที่ว่าโต้วโต้วค้นพบว่าเหมาฉงกำลังสอดแนมหล่อน จึงใช้วิธีดังกล่าวเพื่อบังคับให้เหมาฉงปรากฏตัวออกมา?
เมื่อพวกเขามาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้ตรวจดูร่างกายของโต้วโต้วอย่างละเอียด แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บตามร่างกาย แต่ก็ไม่ร้ายแรง และจะหายเป็นปกติหลังจากพักฟื้นสักพัก
แพทย์สั่งยาโดยมีน้ำมันดอกคำฝอย 1 ขวดและครีมทารอยช้ำ 1 กล่องเท่านั้น
หลังจากออกจากโรงพยาบาล หลินม่ายพาโต้วโต้วไปซื้อเสื้อผ้าใหม่
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลินม่ายขอให้โต้วโต้วไปอาบน้ำ
เสื้อผ้าของหล่อนทั้งขาดรุ่งริ่งและสกปรก ซึ่งให้ความรู้สึกอึดอัดมากที่จะสวมใส่ในวันที่อากาศร้อน
หล่อนนำเสื้อผ้าใหม่ไปยังห้องเดิมของตัวเองอย่างเชื่อฟัง
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้แต่กลิ่นในห้องก็ยังคุ้นเคยสำหรับหล่อน
หล่อนแช่ตัวในอ่างอาบน้ำที่หลินม่ายเตรียมไว้ให้
ด้วยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม กลิ่นหอมแสนผ่อนคลาย…
ไม่นานโต้วโต้วก็ผล็อยหลับไป
หลินม่ายเคาะประตูนอกห้องน้ำ “โต้วโต้ว ฉันเข้าไปส่งสบู่ให้ได้ไหม?”
“ได้ค่ะ” โต้วโต้วเพิ่งตระหนักได้ว่าในห้องน้ำไม่มีสบู่
หลินม่ายเปิดประตูห้องน้ำและเดินเข้าไป ขณะยื่นสบู่ให้โต้วโต้ว เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเด็กน้อย
โต้วโต้วรู้สึกง่วงนอนมาก แต่เมื่อสบตากับหลินม่าย หล่อนก็สับสนมากยิ่งขึ้น และดวงตาเริ่มเหม่อลอย
หลังจากยื่นสบู่ให้ หลินม่ายออกคำสั่ง “เอาสบู่ไปแช่น้ำในอ่าง แล้วเอาเข้าปาก”
โต้วโต้วทำตามคำสั่งของหลินม่ายทุกประการราวกับหุ่นยนต์
ไม่กี่วินาทีก่อนที่หล่อนจะหยิบสบู่เข้าปาก หลินม่ายตะโกนบอกให้หยุด
เธอแน่ใจแล้วว่าการสะกดจิตประสบความสำเร็จ
เธอขอให้โต้วโต้ววางสบู่ลงและถามคำเบาว่า ทำไมถึงมายังเมืองหลวง
โต้วโต้วพึมพำ “ลักพาตัวน้องชาย”
หลินม่ายสับสน “แต่เธอไม่ได้ลักพาตัวน้องชาย แล้วยังช่วยเขาไว้อีก”
“นี่เป็นกลอุบาย แม่บอกให้ฉันทำตัวให้ได้รับความไว้วางใจจากคุณก่อน แล้วจึงลักพาตัวน้องชายไป เพื่อที่จะได้ไม่มีใครสงสัย”
“แล้วจะลักพาตัวน้องชายไปทำไม? ถึงเอาไปขายก็ได้ไม่มากนัก”
แม้ว่าเด็กน้อยจะถูกลักพาตัวไป ก็สามารถขายในราคาหลักหมื่นเท่านั้น
แต่การขายลูกชายของเธอในราคา 10,000 หยวนก็ยังเสี่ยงเกินไป
หลินม่ายสงสัยว่าอาจมีคนอยู่เบื้องหลังที่ผลักดันโต้วโต้วและครอบครัวเธอให้เสี่ยงลักพาตัวเสี่ยวมู่คงไปขาย
โต้วโต้วตอบกลับอย่างเชื่องช้า “แม่บอกว่าถ้าขายน้องชาย คุณจะไม่มีลูก เมื่อฉันขอกลับไปอยู่ด้วย คุณจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
“แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อหลังจากกลับมาแล้ว?”
“วางยาพิษคุณและสามีจนตาย ฉันที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวจะได้รับทรัพย์สินทั้งหมดของพวกคุณ เพื่อนำไปให้พ่อแม่”
หลินม่ายไม่คาดคิดว่าครอบครัวของโต้วโต้วจะชั่วร้ายขนาดนี้
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ แม้เธอและสามีจะถูกวางยาพิษจนตาย โต้วโต้วก็ไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียว เพราะต้องแบ่งทรัพย์สินให้คุณปู่ฟางและคนอื่น ๆ ด้วย
โต้วโต้วคงไม่ได้คิดจะวางยาพิษทุกคนจนตายหรอกใช่ไหม?
ทันใดนั้นรอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของโต้วโต้ว “ฉันจะไม่ช่วยพวกเขาทำสิ่งเลวร้าย ตราบใดที่พวกเขาแจ้งให้ฉันทราบเกี่ยวกับลักพาตัวหรือนำน้องชายไปขาย ฉันจะแจ้งให้คุณทราบทันที เพื่อให้คุณสามารถจับกุมและส่งพวกมันทุกคนเข้าคุก!”
โต้วโต้วตะโกนอย่างบ้าคลั่งด้วยสายตาดุร้าย
หลินม่ายเข้าใจว่าโต้วโต้วเกลียดแม่และพ่อเลี้ยง จึงต้องการยืมมือเธอในการกำจัดพวกเขา
เธอถาม “หลังกำจัดแม่และพ่อเลี้ยง เธอจะทำอย่างไรต่อ?”
แม้จะอยู่ในสภาพถูกสะกดจิต ท่าทางของโต้วโต้วก็ยังคงเป็นธรรมชาติ “แน่นอนว่าอยู่กับคุณและพ่อฟาง พวกเราจะเป็นครอบครัวที่มีความสุข”
“แล้วน้องชายล่ะ เธอไม่ต้องการตามหาน้องชายเหรอ?”
โต้วโต้วมีท่าทางดุร้ายเล็กน้อย “ทำไมถึงต้องอยากตามหาเขาด้วย? เขาคือคนที่ฉันเกลียดที่สุด!”
หลินม่ายไม่ประหลาดใจที่ได้รับคำตอบนี้
จากพฤติกรรมของโต้วโต้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่หล่อนจะมีความคิดเช่นนี้ แต่หลินม่ายยังคงแอบมีความหวังริบหรี่ตอนที่ถามว่าเธอจะตามหาน้องชายไหม โดยหวังว่าอาจยังมีส่วนดีในตัวเด็กหญิงอยู่บ้าง ทว่าน่าเสียดายที่หล่อนไม่มีเลย
หลินม่ายถามคำถามสุดท้าย “คุณอาเหมาฉงคนนั้นเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอหรือเปล่า?”
เธอถามเพราะอยากรู้ว่า โต้วโต้วจะสงสัยในตัวเหมาฉงหรือไม่
หากหล่อนเริ่มสงสัยเหมาฉง เช่นนั้นเหมาฉงจะไม่สามารถสอดแนมหล่อนได้อีกต่อไป
โต้วโต้วส่ายหัว “ไม่ใช่ เขาเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านมา”
หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ เธอคลายการสะกดจิตของโต้วโต้วและเดินออกจากห้อง
โต้วโต้วไม่รู้ว่าเพิ่งถูกสะกดจิต ก่อนจะอาบน้ำต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะทำยังไงดีหนอที่จะยัดครอบครัวพ่อแม่ยัยถั่วเข้าคุก ความคิดเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมมาก
ไหหม่า(海馬)