แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1060 โต้วโต้วมาเมืองหลวง
ตอนที่ 1060 โต้วโต้วมาเมืองหลวง
ตอนที่ 1060 โต้วโต้วมาเมืองหลวง
ฟางจั๋วหรานรู้สึกเป็นทุกข์ ในช่วงเวลานี้พ่อไป๋ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไป๋เหยียนและสามีประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษา และหลินม่ายยุ่งกับการทำงานหนัก ดังนั้นเขาจึงอยากพาเธอและทั้งครอบครัวออกไปเที่ยวหนึ่งวัน
หลินม่ายแค่อยากผ่อนคลายและพูดคุยกับฟางจั๋วหราน
ในวันอาทิตย์ ทุกคนในครอบครัวจึงไปพักผ่อนที่สวนฉือชาไห่
สวนฉือชาไห่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนมีอุณหภูมิพอเหมาะ ดอกไม้เริ่มผลิบาน และต้นหลิวเป็นสีเขียว บรรยากาศดีและเหมาะสมกับการพักผ่อนอย่างมาก
หากไม่ใช่เพราะคุณปู่ฟางและคุณย่าฟางแก่มากแล้วและพวกเขาค่อนข้างเหนื่อยง่าย หลินม่ายคงอยากเล่นสนุกจนพระอาทิตย์ตกแล้วค่อยกลับบ้าน
ประมาณบ่ายสามโมง ฟางจั๋วหรานขับรถตู้พาทุกคนกลับบ้าน หลินม่ายนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารโดยมีเสี่ยวมู่ตงอยู่ในอ้อมแขน
เมื่อขับผ่านถนนคนเดินหนานหลัวกู่เซี่ยง หลินม่ายสังเกตเห็นด้านหลังของร่างเล็กที่คุ้นเคย
เมื่อมองอีกครั้งให้แน่ใจ ร่างนั้นก็หายตัวไปในฝูงชนมากมายแล้ว
หลินม่ายสงสัยว่าเธออาจตาฝาดไปเอง
คนใจดีรับเลี้ยงโต้วโต้วแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมหล่อนถึงยังมาปรากฏตัวในเมืองหลวงล่ะ?
บางทีเธออาจจะตาฝาดไปจริง ๆ
เสี่ยวมู่ตงอายุเกินสองขวบแล้ว หลินม่ายจึงจัดห้องส่วนตัวและปล่อยให้เขานอนคนเดียว
เวลานั้นเสี่ยวเหวินเรียกหลินม่ายจากด้านหลัง
หลินม่ายหยุดชะงักและถามว่า “มีอะไรหรือ?”
เสี่ยวเหวินกล่าวด้วยท่าทางลังเล “ระหว่างทางกลับบ้านวันนี้ ดูเหมือนว่าผมจะเห็นโต้วโต้ว”
ทันใดนั้นท่าทางของหลินม่ายเปลี่ยนเป็นจริงจัง “เธอเห็นที่ไหน?”
“ถนนคนเดินหนานหลัวกู่เซี่ยง”
ที่แท้เธอก็ไม่ได้ตาฝาดไป
หลินม่ายพยักหน้ารับ “ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “บอกปู่ย่าและน้าถูเกี่ยวกับเรื่องนี้ และขอให้พวกเขาใช้ความระมัดระวัง แต่อย่าให้พวกเขาบอกคนนอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นแจ้งเตือน หากโต้วโต้วกล้าทำชั่ว เราจะถือโอกาสจับหล่อน แล้วส่งหล่อนไปยังสถานกักกันเด็กและเยาวชน”
เสี่ยวเหวินทำตามคำแนะนำของเธอทันที
หลังจากพาลูกชายไปนอนแล้ว หลินม่ายกลับมายังห้องของตัวเองและต่อสายถึงเสิ่นเสี่ยวผิง เธอถามอีกฝ่ายว่ารู้ข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของโต้วโต้วหรือไม่
เสิ่นเสี่ยวผิงบอกว่าหล่อนไม่เคยสนใจโต้วโต้วเลยตั้งแต่ที่เด็กน้อยถูกคนใจดีรับเลี้ยง จึงไม่รู้สถานการณ์ปัจจุบันของเด็กคนนั้น อย่างไรก็ตามหล่อนสามารถตรวจสอบได้
สองวันต่อมา เสิ่นเสี่ยวผิงโทรหาหลินม่ายและบอกสถานการณ์ปัจจุบันของโต้วโต้ว
หลังจากที่โต้วโต้วถูก “คนใจดี” รับเลี้ยงไว้ หล่อนก็ไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการ
คุณแม่คนใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับหล่อนมากนัก ความจริงก็คือไม่ได้ปฏิบัติต่อหล่อนและลูก ๆ อย่างเท่าเทียมด้วยซ้ำ
ลูกสองคนของแม่ใหม่เป็นเช่นเดียวกับมารดาผู้ให้กำเนิด พวกเขามีทักษะในการมีศีลธรรมอันสูงส่งในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาขาดความเห็นอกเห็นใจอย่างมาก
บ้านของคุณแม่คนใหม่มีขนาดเล็กอยู่แล้ว ลูกทั้งสองคนต้องอยู่ในห้องเดียวกัน
เมื่อโต้วโต้วเข้ามาพักร่วมกับพวกเขา ทั้งพี่สาวและน้องชายต่างก็ไม่พอใจอย่างมาก
พวกเขามักจะสร้างเรื่องโกหกโดยบอกว่าโต้วโต้วเป็นคนใจร้าย และทำร้ายพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาใส่เกลือลงในยาสีฟัน และโยนความผิดทั้งหมดให้โต้วโต้ว
อีกตัวอย่างหนึ่งคือพี่น้องสองคนกินบิสกิตที่บ้านอย่างลับ ๆ แต่พวกเขาโทษว่าเป็นโต้วโต้วที่กินเข้าไป
พวกเขาแค่อยากให้แม่เกลียดโต้วโต้ว และไล่หล่อนออกไป
น่าเสียดายที่แม่ใหม่เลี้ยงลูกแบบลำเอียงและยังเชื่อคนง่าย ตราบใดที่ลูกสองคนของเธอกล่าวหาโต้วโต้วอย่างไม่ยุติธรรม เธอไม่คิดฟังคำอธิบายใด ๆ และดุด่าโต้วโต้วอยู่เสมอ
นอกจากนี้แม่ใหม่ยังดูแลโต้วโต้วได้ไม่ถึงครึ่งเดือน หล่อนก็ไม่ต้องการดูแลเด็กคนนี้อีกต่อไป
เดิมทีหล่อนมีลูกสองคนที่ต้องดูแล และมันยากมากที่จะรับเลี้ยงเด็กอีกคนหล่อนยังต้องซักเสื้อผ้าและทำอาหารให้โต้วโต้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระมากกว่าเดิม
ไม่นานแม่คนใหม่ของโต้วโต้วก็ยอมแพ้ และรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลามากที่รับโต้วโต้วมาเลี้ยง
เพื่อที่จะเป็นลูกคนโปรดเพียงคนเดียว หล่อนมักจะใส่ร้ายพี่น้องตัวเองเสมอ โดยหวังว่าจะทำให้ผู้เป็นแม่เกลียดชังลูกคนอื่น ๆ
จากนั้นการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมก็สิ้นสุดลงอย่างเปิดเผย โต้วโต้วถูกส่งกลับไปยังบ้านของหรงจี้เหมยแม่ผู้ให้กำเนิด
หรงจี้เหมยไม่ต้องการเลี้ยงดูโต้วโต้ว นอกจากนี้พ่อผู้ให้กำเนิดของโต้วโต้วยังทิ้งหล่อนไป หล่อนจึงเรียกร้องค่าชดใช้จากเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะให้
เขาใจดีกับภรรยาและลูกสาวมาก ครอบครัวของเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่หรงจี้เหมยกลับใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้นกับลูกสามคน
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หรงจี้เหมยยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ และจงใจส่งโต้วโต้วไปยังบ้านของซุนเยว่อู่
บอกภรรยาคนปัจจุบันของเขาว่าโต้วโต้วเป็นลูกสาวนอกสมรสของซุนเยว่อู่ หากไม่เชื่อหล่อนสามารถไปโรงพยาบาลผู่จี้เพื่อตรวจดีเอ็นเอทดสอบความเป็นพ่อลูกได้
ภรรยาคนปัจจุบันของซุนเยว่อู่ได้ทำการทดสอบดีเอ็นเอ และพบพวกเขาเป็นพ่อลูกกันจริง
แม้ซุนเยว่อู่จะไม่ถูกขอหย่า แต่ก็ไม่ได้ไล่โต้วโต้วออกจากบ้าน
ท่าทางของเขาที่มีต่อโต้วโต้วนั้นเย็นชามาก เขาแค่ให้อาหารหล่อนกิน และไม่เคยสนใจเธออีกเลย
ลูกสาวสองคนของเขายังถือว่าโต้วโต้วเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำลายครอบครัวของพวกเขา พวกเธอจึงมักรังแกโต้วโต้วอยู่เสมอ ทั้งพ่อผู้ให้กำเนิดและแม่เลี้ยงต่างก็เมินเฉยหล่อน
โต้วโต้วทนไม่ไหว หล่อนจึงต้องไปที่สหพันธ์สตรีและสมัครไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
แม้ว่าสถานภาพของหล่อนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่หล่อนจะได้รับค่าเลี้ยงดูบุตร และจะไม่สร้างแรงกดดันทางการเงินใด ๆ ต่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
สหพันธ์สตรีใช้มาตรการพิเศษ และจัดให้โต้วโต้วเข้าพักอาศัยในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
โต้วโต้วคิดว่าหลังจากเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว อย่างน้อยก็ไม่มีใครรังแกเธออีกต่อไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้
มันเป็นเรื่องจริงในตอนแรก
ไม่เพียงหล่อนสามารถมีชีวิตที่สงบสุขได้เท่านั้น สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายังเป็นมิตรกับเธอตั้งแต่เบื้องบนลงมาถึงเหล่าเด็ก ๆ
แต่ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็รู้ว่าโต้วโต้วมีแม่บุญธรรมที่เคยออกข่าวดังบนสื่อเมื่อนานมาแล้ว เพื่อเห็นแก่แม่ผู้ให้กำเนิด หล่อนจึงขอค่าเลี้ยงดูบุตรและเครื่องประดับทองจากแม่บุญธรรม ในท้ายที่สุดก็หันกลับมาต่อต้านแม่บุญธรรมที่ปฏิบัติต่อเธอด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ ราวกับหมาป่าในคราบแกะ
จู่ ๆ ท่าทางของทุกคนที่มีต่อหล่อนก็เปลี่ยนไป พวกเขาต่างเบือนหน้าหนีเมื่อพบหล่อน โดยกลัวว่าหากทำดีด้วย หล่อนอาจจะแว้งกัดในภายหลัง
เด็กโตบางคนถึงกับรังแกหล่อน โดยคิดว่าตนเองกำลังส่งเสริมความชอบธรรม
โต้วโต้วโดดเดี่ยว ถูกปฏิเสธ และถูกรังแก หล่อนไม่สามารถอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้อีกต่อไป ก่อนจากไปทั้งน้ำตา
สหพันธ์สตรีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งหล่อนกลับไปหาหรงจี้เหมย
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โต้วโต้วได้แอบขโมยเงินของครอบครัวและหายตัวไป จู่ ๆ หล่อนก็มาปรากฏตัวที่เมืองหลวง
หลังจากเรื่องราวจบลง เสิ่นเสี่ยวผิงถามด้วยความกังวล “คุณหลิน โต้วโต้วไปที่เมืองหลวง บางทีหล่อนอาจจะวางแผนเล่นงานเกี่ยวกับคุณก็ได้”
หล่อนกล่าวต่อด้วยความสงสัย “แปลกนะคะ ที่แม่ของหล่อนไม่ได้ทำร้ายหล่อนอีกตอนที่กลับไป แต่ทำไมหล่อนถึงต้องพยายามมาวุ่นวายกับคุณอีกด้วย? ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน โต้วโต้วก็ทนทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว ทำไมเธอถึงไม่สนใจปัจจุบันและใช้ชีวิตอยู่ต่อไป?”
หลินม่ายตกอยู่ในห้วงความคิด
มันเป็นเรื่องผิดปกติเล็กน้อยที่แม่ของโต้วโต้วไม่ทำร้ายหล่อน
สิ่งที่เสิ่นเสี่ยวผิงไม่รู้คือ การที่โต้วโต้วสามารถมีอาหารกิน มีเสื้อผ้าใส่ และไม่ถูกกลั่นแกล้งที่บ้านของหรงจี้เหมย ทั้งหมดเป็นเพราะความพยายามและเงื่อนไขของเด็กคนนี้
เมื่อกลับมาหาแม่ผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง โต้วโต้วต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นในบ้านหลังนี้ และเพื่ออนาคตของหล่อนเอง
หล่อนเสนอที่จะร่วมมือกับแม่และพ่อเลี้ยงเพื่อกำจัดตงตงและยึดทรัพย์สินของหลินม่าย จากนั้นพวกเขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้
หลินม่ายเรียกเหมาฉงกลับมาและขอให้เขาสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับโต้วโต้ว เพื่อดูว่าหล่อนมาที่เมืองหลวงตามลำพังหรือไม่
แล้วหล่อนอาศัยอยู่ในเมืองหลวงตามลำพังหรืออยู่กับใคร
ถ้าหล่อนอาศัยอยู่กับคนอื่น แล้วคนนั้นคือใคร
ถ้าหล่อนอยู่คนเดียว หล่อนใช้ชีวิตอยู่อย่างไร
ไม่กี่วันต่อมา เหมาฉงก็รายงานผลการสืบหาข้อมูลให้หลินม่ายทราบ
ข้อมูลของโต้วโต้วไม่ได้เหมือนกับที่เสิ่นเสี่ยวเผิงได้รับ หล่อนไม่ได้หนีออกจากบ้านและมาที่เมืองหลวงตามลำพัง
ในความเป็นจริง หล่อนได้รับการปกป้องหรือติดตามอย่างลับ ๆ จากพ่อเลี้ยง ผู้ซึ่งได้รับการปล่อยตัวจากคุกก่อนกำหนดเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ดี และทั้งสองคนก็อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านส่วนตัวอันห่างไกลในเมืองหลวง
เหมาฉงแอบสังเกตว่าโต้วโต้วไม่ได้สนิทกับพ่อเลี้ยงมากนัก แต่พ่อเลี้ยงใจดีกับหล่อนเป็นพิเศษ
หลินม่ายขอให้เหมาฉงตามดูโต้วโต้วต่อไป หากพ่อเลี้ยงกล้าทำเรื่องไม่ดีกับโต้วโต้ว ให้จับเขาทันที
แม้จะมีความเกลียดชังต่อโต้วโต้ว แต่หล่อนก็ไม่ควรถูกคนเลวทรมานตั้งแต่อายุยังน้อย
ถึงแม้ว่าหลินม่ายจะไม่ใช่คนใจดี แต่เธอก็ยังหลักพื้นฐานในการเป็นคนดี
เธอแค่ไม่มีความอดทนต่อบางสิ่ง
ดวงตาของเหมาฉงเบิกกว้างด้วยความตกใจ “คุณหมายความว่า… เป็นไปไม่ได้…”
“มันไม่เกี่ยวกับว่าเป็นไปได้หรือไม่ แต่คุณต้องทำตามที่ฉันสั่ง จับตาดูโต้วโต้วและพ่อเลี้ยงของหล่อนให้ดี และปกป้องหล่อนจากอันตราย”
เหมาฉงพยักหน้ารับ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ดูแลห่างๆ อย่างห่วงๆ หนึ่งคือไม่ให้วางแผนชั่วกับตงตง สองคือเซฟยัยถั่วจากพ่อเลี้ยง
ไหหม่า(海馬)