แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1050 ฉีฟางโดนแก้เผ็ด
ตอนที่ 1050 ฉีฟางโดนแก้เผ็ด
ตอนที่ 1050 ฉีฟางโดนแก้เผ็ด
หลินม่ายยอมรับทันที เธอหยิบเอกสารทั้งหมดขึ้นมาก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการจู
หลังจากมาถึงหน้าประตู เธอเอื้อมมือคว้าลูกบิดก่อนจะหมุน
ขณะจะผลักให้ประตูเปิดออก เธอกลับได้ยินเสียงครวญครางของผู้หญิงดังขึ้นจากด้านใน
มือของเธอที่จับลูกบิดราวกับถูกไฟฟ้าช็อต
เธอคือหญิงที่แต่งงานแล้ว และยังมีลูกชายอายุ 2 ขวบ เมื่อได้ยินเสียงครวญครางนี้เธอจึงเข้าใจชัดเจนว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นภายในนั้น
ดูเหมือนว่าจะมีการเล่นชู้เกิดขึ้นในออฟฟิศ แต่การกระทำตัวต่ำ ๆ แบบนี้มันสมควรงั้นหรือที่จะส่งเสียงร้องโจ่งแจ้งให้ทุกคนทราบ? ช่วยมีสำนึกหน่อยได้หรือไม่ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ถูกต้อง
หลินม่ายคิดจะเดินหนีไป แต่เธอก็แง้มประตูไว้อย่างนั้นเพื่อสั่งสอนบทเรียนให้ชายโฉดหญิงชั่ว แน่นอนว่าลมในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็พัดให้ประตูเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย
หลินม่ายอยู่ด้านนอกของสำนักงาน ขณะผู้อำนวยการจูกับไช่หานปิงที่กำลังเล่นท่ายากกำลังจ้องมองมาอย่างดุเดือด
หลินม่ายปิดประตูลงให้อีกครั้งอย่างใจเย็น เธอรอสักครู่และคาดหวังว่าคนข้างในจะรีบใส่เสื้อผ้าก่อนจะเปิดประตูอีกครั้ง
ใบหน้าของไช่หานปิงแดงก่ำ หล่อนก้มศีรษะลงและอยากหนีให้ไกล
“จะรีบไปไหน?” หลินม่ายเหยียดแขนขวางทางของไช่หานปิง
จากนั้นเธอเดินเข้าไปก่อนจะกล่าวกับทั้งสองคน “ที่ฉันจะบอกก็คือฉากที่ฉันได้เห็นเมื่อกี้นี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีคนจัดฉากให้ฉันมาเห็นมัน”
ผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย
หลินม่ายพูดต่อ “ฉีฟางบอกให้ฉันมาส่งเอกสารพวกนี้ เพราะหล่อนบอกว่าตัวเองขี้อายไม่กล้ามาที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการจู ถ้ามีข่าวลือเกี่ยวกับคุณสองคนในอนาคต แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉัน เพราะฉะนั้นอย่าคิดกล่าวโทษฉันเด็ดขาด”
หลังจากนั้น เธอวางเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะของผู้อำนวยการจูแล้วหันหลังเดินออกไป
ทันทีที่หลินม่ายมาถึงห้องทำงานของผู้อำนวยการจู และได้ยินเสียงอนาจารดังขึ้นจากในห้อง เธอก็รู้ทันทีว่าตกเป็นเครื่องมือของผู้อื่นเสียแล้ว
แม้ฉีฟางจะเงียบและไม่ก่อปัญหาใดซึ่งหน้า แต่หล่อนคือคนที่ร้ายกาจมากที่สุดในบรรดากลุ่มโก่วเวินและไช่หานปิง
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉีฟางที่ส่งโก่วเวินกลับไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อค้นคว้าข้อมูลสำหรับโครงการวิจัยวิทยาศาสตร์ของพวกเขา
หลินม่ายเชื่อว่าฉีฟางจะไม่ให้เธอมาส่งเอกสารพวกนี้ให้กับผู้อำนวยการจูโดยไม่มีเหตุผลแน่นอน
หล่อนคงต้องการให้เธอเข้าไปเห็นเรื่องอื้อฉาวของไช่หานปิงและผู้อำนวยการจู และให้ทั้งคู่เกลียดเธอ
และคงจะใช้โอกาสนี้ลอบเผยแพร่เรื่องอื้อฉาวระหว่างไช่หานปิงกับผู้อำนวยการจู
ไม่เพียงแต่พวกเขาสองคนจะถูกทำลาย ผู้อำนวยการจูจะสูญเสียตำแหน่ง และทุนการเรียนต่อของไช่หานปิงก็จะถูกยกเลิก
ในช่วงทศวรรษ 1980 สุดท้ายแล้วในระบบรัฐวิสาหกิจยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องส่วนตัวนี้มาก
หลินม่ายจะตกเป็นเป้าหมายแห่งความเกลียดชังจากผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงแน่นอน
หากพวกเขาลงมือกับหลินม่าย ฉีฟางก็จะถือว่ายิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกหลายตัว
หล่อนไม่เพียงแต่จะสามารถจัดการกับหลินม่าย ไช่หานปิง และผู้อำนวยการจูเท่านั้น แต่ยังทำให้ไช่หานปิงหมดสิทธิ์รับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย
และการแข่งขันทุนนั้นจะเหลือเพียงหล่อนกับโก่วเวินเท่านั้น
ในบรรดาสามคน ไช่หานปิงเก่งที่สุด หากไม่มีไช่หานปิงสักคนแล้ว คงเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการโก่วเวิน และความเป็นไปได้ในการรับทุนเรียนต่อต่างประเทศของฉีฟางก็จะยิ่งมากขึ้นแน่นอน
เพราะเหตุผลนี้จึงเป็นฉีฟางที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเธอ!
สิ่งที่หลินม่ายพูดกับผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงนั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และสุดท้ายจะไม่มีใครตกเป็นเหยื่อ
ผู้อำนวยการจูมองหลินม่ายที่เดินออกจากประตูไป ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
เขาหันไปหาไช่หานปิงแล้วถามว่า “หลินม่ายเป็นคนยังไง? หล่อนจะรักษาคำพูดและเก็บความลับให้พวกเราไหม?”
“แน่นอนค่ะ” ไช่หานปิงตอบอย่างมั่นใจ “ตราบใดที่เราไม่ทำให้หล่อนขุ่นเคือง หล่อนจะไม่สนใจและใช้ชีวิตของตัวเอง แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกกังวลตอนนี้คือฉีฟางจะเผยแพร่เรื่องของเราและโยนความผิดทั้งหมดให้กับหลินม่าย”
ผู้อำนวยการจูเย้ยหยัน “ปล่อยให้หล่อนเผยแพร่เรื่องนั้นไปเถอะ ตราบใดที่หลินม่ายแสร้งว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เหตุการณ์เหล่านี้จะถูกสอบสวนโดยหน่วยงานระดับสูง คุณก็แค่ปฏิเสธหนักแน่นเท่านั้นก็พอ บอกไปว่าเป็นฉีฟางที่จงใจใส่ร้ายเราสองคน เพราะอิจฉาที่คุณได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ และต้องการทำให้คุณดูแย่ในสายตาคนอื่น สุดท้ายแล้วใครจะทำอะไรเราได้? เท่านี้เราสองคนก็รอดแล้ว”
ไช่หานปิงพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป
ทันทีที่หลินม่ายกลับมาถึงสำนักงาน ฉีฟางก็ลอบมองเธอบ่อยครั้ง
หลินม่ายหันกลับมาถาม “ทำไมมองฉันอย่างนั้นล่ะ?”
“เปล่า… เปล่าเลย ฉันคิดว่าชุดของเธอค่อนข้างสวยน่ะ เลยมองนิดหน่อย” ฉีฟางกล่าวด้วยน้ำเสียงแสร้งทำหวาดกลัว
หลินม่ายกล่าวเหน็บแนมเล็กน้อย “เราพูดคุยกันอย่างเพื่อนร่วมงานทั่วไปไม่ได้เหรอ ทำไมชอบทำหน้าแบบนี้? มันทำให้คนอื่นคิดว่าฉันรังแกเธอ”
“ฉัน… ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉีฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงติดขัด
เวลานี้ไช่หานปิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูง ก่อนจะหันมองฉีฟางด้วยความเหยียดหยามแล้วนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง
ฉีฟางไม่รู้เลยว่าหลินม่ายและไช่หานปิงคิดอะไรอยู่ และหล่อนก็ไม่กล้าที่จะถามเพราะกลัวความลับจะรั่วไหล
หลังจากผ่านไปสองสามวัน หล่อนก็ลอบเผยแพร่ข่าวว่าผู้อำนวยการจูกับไช่หานปิงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
เพราะหลินม่ายกลับมาที่ห้องทำงานโดยไม่มีเอกสารอยู่ในมือ นั่นหมายความว่าเธอจะต้องไปที่ห้องของผู้อำนวยการจูแล้ว
ทุกครั้งที่ไช่หานปิงบอกว่าไปฝึกฝนภาษาอังกฤษ นั่นคือการไปหยอกล้อกับผู้อำนวยการจูในออฟฟิศ
เป็นไปไม่ได้ที่หลินม่ายจะไม่เห็นเรื่องอื้อฉาวในห้องของผู้อำนวยการจู
ตราบใดที่หลินม่ายพบเรื่องอื้อฉาวระหว่างทั้งสอง ผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงจะต้องคิดว่าหลินม่ายบอกกล่าวเรื่องเหล่านี้ให้หล่อนฟังแน่นอน
หล่อนแค่รอให้ผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงจบสิ้นเสียก่อน แล้วค่อยจัดการหลินม่ายภายหลัง
ในบรรดาทั้งสามคนนี้ หลินม่ายเลวร้ายที่สุด หากอีกฝ่ายยอมลงคะแนนให้หล่อน หล่อนน่าจะเป็นคนที่ได้รับทุนไปเรียนต่อแล้ว
ภายในไม่กี่วัน ข่าวเรื่องความสัมพันธ์ของผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงก็แพร่กระจายไปทั่วโรงงาน
หลังจากนั้น ผู้อำนวยการโรงงานก็เรียกผู้อำนวยการจูเข้าพบ
ตำรวจเข้ามาสอบสวนภายใน และไม่นานก็พบว่าข่าวลือของผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงแพร่มาจากฉีฟาง
ฉีฟางตกตะลึง หล่อนไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะถูกสาวไส้
หล่อนยังคงดำเนินการตามแผน โดยบอกว่าเป็นหลินม่ายที่บอกกล่าวกับหล่อน
หลินม่ายบอกว่าเธอกับฉีฟางไม่ใช่เพื่อนสนิทกัน และเธอจะไม่มีวันพูดอะไรกับหล่อนแน่นอน
เวลานี้ไช่หานปิงได้ลุกขึ้นยืน และบอกว่าหลินม่ายไม่มีวันทำอย่างนั้น มีแค่ฉีฟางที่เผยแพร่ข่าวลือพวกนี้ได้
เพราะฉีฟางมีแรงจูงใจที่จะจัดการพวกเขาทั้งสามคน และยังต้องการรับทุนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย
ฉีฟางเพิ่งกระทำผิดครั้งแรก และผลกระทบต่อเหยื่อไม่ได้ร้ายแรงมากนัก
ท้ายที่สุด ตำรวจจึงปรับฉีฟางเพื่อจ่ายชดเชยให้กับเหยื่อทั้งสองคน จำนวนคนละ 1,000 หยวน
ทั้งโรงงานวิทยุหย่งเชิงและมหาวิทยาลัยชิงหวาเองก็ส่งข่าวถึงกัน
ตอนนี้เองโรงงานวิทยุหย่งเชิงไล่ฉีฟางออกจากการฝึกงานทันที
ส่วนมหาวิทยาลัยชิงหวาได้รับความเสื่อมเสียอย่างรุนแรงจากเรื่องดังกล่าว จึงยกเลิกภาระผูกพันที่จะหางานให้หล่อนในอนาคตด้วย
ขณะฉีฟางต้องออกจากโรงงานหย่งเชิง หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะถามหลินม่ายว่าทำไมเธอถึงแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด เห็นชัดอยู่แล้วว่าผู้อำนวยการจูและไช่หานปิงเล่นชู้กัน?
หลินม่ายจึงตะโกนเสียงดังเป็นการจงใจดึงดูดผู้คนรอบข้าง
เธอแสร้งทำเป็นสับสนก่อนจะหันมาถามฉีฟางว่า “ฉันไม่เคยเห็นผู้อำนวยการจูกับไช่หานปิงทำเรื่องแบบนั้นเลยนะ ทำไมเธอถึงยืนกรานว่าฉันเห็นล่ะ?”
ตอนนี้สถานการณ์ดำเนินการไปกว่าที่จะควบคุมแล้ว ฉีฟางจึงไม่มีอะไรต้องหลบซ่อน เธอยังคงถามต่อว่า “แล้วที่ฉันให้เธอไปส่งเอกสารให้ผู้อำนวยการจูน่ะ เธอไม่เห็นฉากอื้อฉาวของผู้อำนวยการจูกับไช่หานปิงเลยเหรอ?”
หลินม่ายกล่าวว่า “ผู้อำนวยการจูเดินออกมาจากห้องก่อนฉันจะไปถึงเสียอีก แล้วเขาก็ถามฉันว่ามาที่นี่ทำไม แล้วฉันก็บอกว่ามาส่งเอกสาร จากนั้นฉันก็ส่งเอกสารให้เขา ไม่ได้เข้าไปในห้องทำงานของเขาด้วยซ้ำ แล้วฉันจะเห็นอะไรเหรอ?”
ฉีฟางไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างนี้ หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บของออกไปจากที่นี่อย่างหดหู่
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
งูพิษบางชนิดอาจไว้ชีวิตมันได้ แต่ยัยฉีฟางนี่เก็บไว้ไม่ได้ค่ะ ต้องทุบให้หัวแบะอย่างเดียวเท่านั้น เป็นไงล่ะ เหลี่ยมใส่เขาเจอเขาเหลี่ยมกลับแบบคูณสาม ทีนี้ก็อยู่อย่างไร้ตัวตนไปสิ แล้วการอยู่แบบไร้ตัวตนในประเทศจีนนี่ร้ายแรงยิ่งกว่าตายอีก