แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1042 โก่วเวินแจกใบปลิว
ตอนที่ 1042 โก่วเวินแจกใบปลิว
ตอนที่ 1042 โก่วเวินแจกใบปลิว
วันรุ่งขึ้น โก่วเวินตื่นแต่เช้าและยืนรออยู่ในบริเวณที่พลุกพล่านใกล้สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนเพื่อแจกใบปลิว
หล่อนต้องการให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนรู้ว่าหลินม่ายปฏิเสธให้การช่วยเหลือผู้คน
หากสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนดำเนินการ หลินม่ายจะต้องได้รับความอับอาย
ทว่าสิ่งที่โก่วเวินไม่รู้คือ ในวันนั้นหนังสือพิมพ์ที่น่าเชื่อถือหลายฉบับในเมืองหลวงได้ตีพิมพ์เนื้อหาของการสัมภาษณ์หลินม่ายเมื่อวานนี้
ในตอนท้ายของบทความ มีการประณามการขู่กรรโชกทางศีลธรรมอย่างรุนแรง
การมีคนช่วยเหลือถือเป็นพร แต่เมื่อไม่มีใครช่วยเหลือกลับกลายเป็นเรื่องอยุติธรรม
แม้ว่าหลินม่ายจะเป็นคนใจบุญที่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ทุกคนย่อมมีสิทธิ์เลือกที่จะช่วยเหลือหรือไม่ก็ได้ มันไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาขู่กรรโชกคนอื่นให้มาช่วยเหลือแบบนี้
นอกจากบทความนี้แล้ว หนังสือพิมพ์รายใหญ่ยังตีพิมพ์ข่าวที่ว่านทงกรุ๊ปของหลินม่ายบริจาคเงินให้กับเด็กยากจนและป่วยหนัก 100 คน คนละ 10,000 หยวน
ดังนั้นเมื่อโก่วเวินพยายามยัดใบปลิวใส่มือผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา หลายคนจึงโกรธหลังจากอ่านเนื้อหาในใบปลิว ก่อนจะขยำทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ไยดี
โก่วเวินโกรธมากพลางสาปแช่งในใจ ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่มีความยุติธรรมเสียเลย?
ไม่ใช่ว่าผู้คนที่สัญจรไปมาเหล่านั้นไม่มีความยุติธรรม แต่พวกมีศีลธรรมในฐานะมนุษย์ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงไม่ยอมรับกลวิธีบิดเบือนข้อมูลของโก่วเวินในใบปลิวได้
เหตุใดถึงกล้ากล่าวหาหลินม่ายว่าไม่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่? เธอบริจาคเงินนับล้านหยวนในนามของว่านทงกรุ๊ปเชียวนะ!
เวลานี้เอง รถยนต์คันหนึ่งก็ขับมาถึงหน้าประตูสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน
โก่วเวินคิดว่าเป็นโอกาสสำคัญ
หล่อนรีบวิ่งไปยัดใบปลิวขนาดเล็กเข้าไปในหน้าต่างรถทันที
ผู้ที่ได้รับใบปลิวนั้นคือผู้อำนวยการอิ่น แต่ตอนนี้เขาเป็นรองผู้อำนวยการของสถานี
รองผู้อำนวยการอิ่นอ่านเนื้อหาในใบปลิวอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสีหน้าพลันดำคล้ำ
หล่อนเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพิมพ์บทความโจมตีหลินม่ายด้วยความมุ่งร้าย เช่นนี้จะต้องถูกลงโทษ!
เมื่อมาถึงสำนักงาน เขาสั่งให้เลขาต่อสายไปยังสำนักงานบริหารจัดการเมือง
ให้พวกเขาสอบถามหญิงสาวที่แจกใบปลิวว่าหล่อนได้ส่งคำขอเพื่อแจกใบปลิวบนถนนแล้วหรือยัง
หากไม่ได้ส่งคำขอ ใบปลิวทั้งหมดจะถูกยึด พร้อมกับหล่อนที่ถูกปรับเงินและถูกวิพากษ์วิจารณ์
นี่คือเมืองหลวง ไม่ว่าใครก็ไม่ได้รับอนุญาตให้แจกใบปลิวตามอำเภอใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมือง
รองผู้อำนวยการอิ่นมีเหตุผลมากมายที่จะจัดการกับโก่วเวิน
ขณะที่โก่วเวินกำลังจินตนาการถึงความโกรธของรองผู้อำนวยการ CCTV ที่มีต่อหลินม่ายหลังจากได้รับใบปลิวนั้น
เย็นวันนั้น ทีมงานช่วง “ข่าวสังคม” ออกอากาศเกี่ยวกับบทความสั้น ๆ บนใบปลิว ผู้คนที่ได้รับชมต่างก็วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมหลินม่ายอย่างรุนแรง โก่วเวินอดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ผู้ชายหลายคนในเครื่องแบบสำนักงานบริหารจัดการเมืองเดินเข้ามาหาเธอ หนึ่งในนั้นถามเสียงเคร่งขรึม “คุณได้ส่งคำขอมายังสำนักงานบริหารจัดการเมืองเพื่อขอแจกใบปลิวที่นี่แล้วหรือยัง?”
โก่วเวินตกตะลึง “อันนี้ ต้องขอด้วยเหรอคะ?”
หล่อนมักจะเห็นใบปลิวโฆษณาทุกประเภทแจกตามท้องถนน และนึกว่าสามารถทำได้โดยไม่ต้องขอทางการ แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะแจ้งเจ้าหน้าที่!
“คุณส่งคำขอแล้วหรือยัง?” เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเมืองถามหล่อนอีกครั้ง
“ยะ… ยังค่ะ…”
“เนื่องจากไม่มีการส่งคำขอ นั่นแสดงว่าไม่ได้รับอนุมัติ เราจึงจำเป็นต้องยึดใบปลิวทั้งหมดของคุณ”
เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเมืองคว้าใบปลิวทั้งหมดจากมือของหล่อน และส่งมอบให้เพื่อนร่วมงานด้านข้าง
“นอกจากนี้ ยังมีบทลงโทษปรับทางกฎหมาย 100 หยวน และเก็บกวาดถนน 1 วันเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สุขาภิบาล”
เจ้าหน้าที่บริหารจัดการเมืองอธิบายว่า “ใครบอกให้คุณแจกจ่ายใบปลิว แล้วยังโยนมันไปทั่วถนนจนทำให้เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลทำงานหนักขึ้นแบบนี้?”
โก่วเวินอยากจะร้องไห้ทว่าไม่มีน้ำตาออกมากับความโชคร้ายที่ถูกปรับหนักขนาดนี้ หล่อนเป็นนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาอันทรงเกียรติของมหาวิทยาลัยชิงหวา แต่กลับต้องมากวาดถนนทั้งวัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอายอย่างยิ่ง
วีรกรรมของโก่วเวินแพร่งพรายไปทั่วโรงงานอย่างรวดเร็ว หล่อนถูกเพื่อนร่วมงานแอบเยาะเย้ยมานาน โดยบอกว่าหล่อนลงเอยด้วยการทำร้ายตัวเองแทนที่จะเป็นคนอื่น
ไม่มีใครชอบคนใจแคบ อิจฉาริษยา และชอบแทงข้างหลังคนอื่น หลังจากนั้นเพื่อนร่วมงานก็แทบไม่อยากสุงสิงกับโก่วเวิน
แต่โก่วเวินมีจิตใจเข้มแข็ง และไม่สนใจทัศนคติของทุกคนที่มีต่อหล่อน
หลินม่ายไม่ยอมถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นเธอจึงขอให้คนรู้จักตรวจสอบครอบครัวของหยางหยาง ว่าพวกเขายากจนอย่างที่แม่หยางหยางกล่าวอ้างจนไม่สามารถจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลได้จริงหรือ?
พ่อของหยางหยางเป็นผู้จัดการระดับกลางในองค์กรของรัฐ และครอบครัวของพวกเขามีบ้านพักสวัสดิการขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ หากพวกเขาขายมัน คงได้รับเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลหยางหยาง
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีเงินออมจำนวนมากในธนาคาร หากกู้ยืมอีกจำนวนหนึ่ง พวกเขาสามารถรวบรวมเงินได้เพียงพอสำหรับการผ่าตัดของหยางหยางได้ง่ายดาย
แต่แม่ของหยางหยางลังเลที่จะขายบ้านรวมถึงการกู้ยืมเงิน หล่อนจึงหวังจะได้รับเงินจากหลินม่านสำหรับค่ารักษาพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล
หลินม่ายว่าจ้างใครคนหนึ่งเขียนบทความสั้น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาการสอบสวน และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่น่าเชื่อถือของเมืองหลวง โดยใช้หัวข้อว่า เหตุใดคนใจบุญสุนทานมักถูกเอาเปรียบ?
บทความนี้จงใจอ้างถึงองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่พิมพ์บนใบปลิวของโก่วเวิน
นักเขียนถามย้ำในบทความว่า เหตุใดครอบครัวหยางหยางถึงบังคับให้หลินม่ายควักเงินตัวเองออกมาเพื่อช่วยเหลือหยางหยาง ในเมื่อครอบครัวหยางหยางมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด?
เมื่อหลินม่ายปฏิเสธ อีกฝ่ายก็วิพากษ์วิจารณ์และประณามหลินม่าย ครอบครัวนี้มีเจตนาใดกันแน่?
ตอนนี้ทุกคนในเมืองหลวงรู้แล้วว่าครอบครัวของหยางหยางมีเงินเพียงพอสำหรับการผ่าตัด แต่พวกเขายังมาขอให้หลินม่ายช่วยเหลือ และยังรู้อีกว่าโก่วเวินทำใบปลิวออกมาด้วยเจตนาร้าย
จดหมายด่าทอและสาปแช่งโก่วเวินจากทั่วประเทศถูกส่งมายังโรงงานวิทยุหย่งเชิง
ไม่ว่าจิตใจของโก่วเวินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่หลังจากถูกด่าทอตลอดเวลา หล่อนก็ถึงกับซึมเศร้าเหม่อลอยไปชั่วขณะ
วันหนึ่งขณะกำลังลงบันได หล่อนก้าวเหยียบพื้นผิด ล้มหน้าทิ่มจนจมูกช้ำและใบหน้าบวม ทำให้ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราวสามวัน
นอกจากไช่หานปิงและแฟนหนุ่มที่มาเยี่ยมหล่อนในโรงพยาบาล ก็ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนมาเยี่ยมอีกเลย
หลินม่ายพ่นลมหายใจเย็นชา โชคดีแล้วที่ในยุคสมัยนี้ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า โก่วเวินคงถูกนักเลงคีย์บอร์ดพ่นพิษใส่จนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!
นี่เธอใจดีมากแล้ว!
บทความเล็ก ๆ ที่หลินม่ายสั่งให้ตีพิมพ์ มีอิทธิพลอย่างมากต่อครอบครัวของหยางหยาง
แทบไม่ต้องพูดถึงแม่ของหยางหยาง หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์ทุกครั้งที่ก้าวออกจากบ้าน แม้แต่พ่อของหยางหยางก็ถูกหัวหน้าเรียกตัวไปสอบถาม และมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกไล่ออกจากตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ บางคนคิดว่าหลินม่ายเป็นคนใจแคบ แม้ว่าแม่ของหยางหยางจะทำผิด แต่หยางหยางก็ยังเป็นเพียงเด็กไร้เดียงสา เมื่อหลินม่ายไร้คุณธรรมและไม่ยอมช่วยเหลือ พวกเขาจึงไปที่โรงพยาบาลเพื่อบริจาคเงินให้หยางหยางด้วยความสมัครใจ
ในเมืองหลวงอันใหญ่โตเช่นนี้ ยังมีผู้คนจำนวนมากที่เชื่อมั่นว่าตัวเองมีศีลธรรมในจิตใจและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ด้วยการหยิบยื่นจากผู้ใจบุญทั้งหลาย ทำให้สามารถรวบรวมค่ารักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว
แต่ทันทีที่บทความของหลินม่ายได้รับการตีพิมพ์ ผู้ใจบุญเหล่านั้นไม่สามารถนั่งเฉย
สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวหยางหยางแซงหน้าครอบครัวผู้ใจบุญไปกว่า 90% แต่กลับยังคงรับเงินบริจาค ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!
เหล่าผู้ใจบุญแห่กันไปยังโรงพยาบาลเพื่อขอเงินบริจาคคืนจากแม่ของหยางหยาง
แม่ของหยางหยางตอบว่า “พวกคุณบริจาคมันด้วยความสมัครใจ ฉันไม่ได้ไปขโมยมาสักหน่อย!” สิ่งนี้ยิ่งทำให้เหล่าผู้ใจบุญโกรธมากขึ้น
เหล่าผู้ใจบุญเริ่มขาดสติและทุบตีแม่หยางหยาง ขณะเดียวกันก็โทรแจ้งตำรวจ
จากการไกล่เกลี่ยของตำรวจ ด้วยเพราะทำให้แม่หยางหยางได้รับบาดเจ็บ เหล่าผู้ใจบุญเหล่านั้นต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หล่อนทั้งหมด 500 หยวน
เงินบริจาคที่แม่หยางหยางได้รับมาอย่างผิดจรรยาบรรณจะต้องถูกส่งคืนให้กับผู้บริจาคทั้งหมด
เมื่อแม่ของหยางหยางคืนเงิน พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายได้รับเงินบริจาคไม่ต่ำกว่า 50,000 หยวน!
ด้วยเงินบริจาคจำนวนมากเช่นนี้ แม้ว่าครอบครัวสามคนของหยางหยางจะป่วยหนักทุกคน แต่มันก็เพียงพอสำหรับค่ารักษาพยาบาล!
แม้ว่าแม่ของหยางหยางจะส่งคืนเงินบริจาค แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ คราวนี้พ่อของหยางหยางที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกไล่ออกรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างสิ้นเชิง ในที่สุดเขาถูกหัวหน้าไล่ออกจากตำแหน่งและกลายเป็นคนงานธรรมดา
พ่อของหยางหยางโกรธมากจนต้องการหย่าร้างกับแม่ของหยางหยาง
แม่หยางหยางมาหาหลินม่ายและร้องไห้โฮ ถามว่าทำไมเธอต้องเขียนบทความนั้นเพื่อโจมตีกันด้วย
หลินม่ายหันเหปัญหาและตอบกลับไปว่า เพราะโก่วเวินเขียนบทความและตีพิมพ์บนใบปลิวเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอก่อน ถ้าเธอไม่เขียนบทความเพื่อตอบโต้ เธอจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการใส่ร้ายของโก่วเวิน
หลินม่ายขอให้แม่ของหยางหยางตามหาโก่วเวิน ทุกสิ่งอย่างเริ่มต้นขึ้นเพราะโก่วเวิน ดังนั้นอย่ามารบกวนเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะจัดการให้ถึงที่สุด
แม่ของหยางหยางไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลินม่ายโดยตรง หล่อนรู้ซึ้งถึงวิธีจัดการคนอื่นของหลินม่ายมาแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจไประบายความคับข้องใจกับโก่วเวินแทน
แม่ของหยางหยางแทบจะทุบตีโก่วเวินทันทีที่เห็น หากแฟนหนุ่มของโก่วเวินไม่ได้เข้ามาปกป้อง โก่วเวินที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลอาจต้องกลับไปนอนรักษาตัวอีกครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………………..