แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1033 หรงจี้เหมยต้องการหลบหนี
ตอนที่ 1033 หรงจี้เหมยต้องการหลบหนี
ตอนที่ 1033 หรงจี้เหมยต้องการหลบหนี
ก่อนจะกลับถึงบ้าน โทรศัพท์มือถือของหลินม่ายก็ดังขึ้น
ขณะขับรถไม่ควรรับโทรศัพท์ เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจราจร หลินม่ายจึงยังไม่สามารถรับสายได้
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นหลายครั้งบนถนน แต่เมื่อหลินม่ายกลับถึงบ้านและต้องการจะรับสาย มันกลับเงียบไป
โทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่รุ่นนี้ไม่มีแม้กระทั่งหน้าจอแสดงผล จึงไม่ต้องพูดถึงหมายเลขผู้โทร เธอไม่รู้เลยว่าใครโทรมา
หลินม่ายทำได้เพียงอดทนรออย่างช่วยไม่ได้ เผื่อว่าปลายสายจะโทรกลับมาอีกครั้ง
คนที่มีเรื่องด่วนจะคุยกับเธอจะไม่ยอมโทรหา นอกจากจะหาตัวเธอไม่เจอ
หลังจากนั้น โทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ก็ส่งเสียงร้องดังอีกครั้ง
หลินม่ายวางชาร้อนที่กำลังดื่ม แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อกดรับ
มันเป็นสายจากเสิ่นเสี่ยวผิง โดยบอกว่าหล่อนไม่ได้รับค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายล่วงหน้าให้เสี่ยวเฉิง
หลินม่ายถามว่าทำไม
เสิ่นเสี่ยวผิงถอนหายใจ “เขาและภรรยามักสร้างความยุ่งยากไปทั่ว ทั้งคู่ยืนกรานที่จะไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณ คุณอาจากเมืองเล็กๆ ที่ไม่เคยพบกันมาก่อน ได้มาอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินของหลี่เม่า แต่คำกล่าวอ้างของเขาถูกศาลปฏิเสธ เมื่อหวังย่าหลิงหย่าร้างกับสามีเก่า หล่อนได้รับเงิน 5,000 หยวน แต่หล่อนมอบเงินให้พ่อแม่ของหล่อนไปหมดแล้ว ฉันคิดว่าตราบใดที่หวังย่าหลิงไม่มีเงินในบัญชีชื่อของหล่อน หล่อนก็ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณ ฉันเลยนำพวกเขาทั้งสองขึ้นฟ้องศาลในนามของคุณ หลังจากการสอบสวน ศาลทราบว่าทรัพย์สินของหวังย่าหลิงถูกโอนไปบัญชีพ่อแม่ จึงสั่งอายัดบัญชีของพ่อแม่ของหล่อน สำหรับบ้านพักสวัสดิการของหลี่เม่า ศาลก็สั่งอายัดเหมือนกัน คุณสามารถเรียกค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายไปล่วงหน้าคืนได้ แต่ต้องรอจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น ซึ่งอาจใช้เวลาหนึ่งหรือสองเดือน”
เสิ่นเสี่ยวผิงอธิบาย “ตอนนี้เราจ้างทนายความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่ามาก กว่าที่คดีจะบรรลุผล”
หลินม่ายไม่ได้รีบร้อนใช้เงินจำนวนเล็กน้อยนั้น เธอไม่ได้สนใจว่าจะได้รับช้าหรือเร็ว ตราบใดที่ได้รับมันคืนมาในที่สุด
เธอถามกลับไป “แล้วเรื่องการฟ้องร้องหรงจี้เหมยล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?”
เสิ่นเสี่ยวผิงกล่าว “เมื่อวานศาลดำเนินการไกล่เกลี่ยและขอให้หรงจี้เหมยขอโทษคุณทางหนังสือพิมพ์ จากนั้นหล่อนต้องชดเชยให้คุณ 5,000 หยวนสำหรับความเสียหายต่อชื่อเสียง แต่ทนายความที่ฉันจ้างมากลับปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ทนายกล่าวว่าคุณหลินเป็นคนดัง และชื่อเสียงที่เสียหายของคุณมาพร้อมผลกระทบที่ร้ายแรง เขามีน้ำใจมากแล้วที่ขอเงินชดเชยความเสียหายชื่อเสียงเพียง 50,000 หยวน หากอีกฝ่ายจ่ายเพียง 5,000 หยวน หล่อนจะต้องขึ้นศาล”
“แล้วปฏิกิริยาของหรงจี้เหมยเป็นอย่างไร?”
“แน่นอนว่าหล่อนแสร้งทำเป็นยากจนพลางร้องไห้ โดยบอกว่าค่าเลี้ยงดูทั้งหมดที่คุณให้โต้วโต้วนั้นน้อยกว่า 30,000 หยวนด้วยซ้ำ และตอนนี้คุณกำลังขอเงินมากมายในคราวเดียว ซึ่งเหมือนกำลังผลักหล่อนไปสู่ขอบเหว”
หลินม่ายเผยยิ้มเหยียดหยาม “แล้วทนายพูดว่าอย่างไร?”
“ทนายบอกหล่อนว่าค่าชดเชยความเสียหายต่อชื่อเสียงเกี่ยวอะไรกับค่าเลี้ยงดูของโต้วโต้ว? หมายความว่าถ้าคุณหลินไม่ให้ค่าเลี้ยงดูโต้วโต้ว หล่อนก็จะไม่จ่ายค่าชดเชยสำหรับความเสียหายทางชื่อเสียงใช่ไหม? ทนายความยังตักเตือนหรงจี้เหมยด้วยว่า หากหล่อนกล้ายักยอกค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองคำของโต้วโต้วในทางที่ผิด แล้วนำเงินนั้นมาจ่ายชดเชยความเสียหายต่อชื่อเสียง เขาจะฟ้องร้องหล่อนในข้อหายักยอกทรัพย์สินของผู้อื่นและส่งหล่อนเข้าคุก ฉันคิดว่า คดีนี้จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองเดือนค่ะ”
หลินม่ายกล่าว “มันไม่สำคัญหรอก”
เธอถาม “เหมาฉงขโมยค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองที่ฉันให้โต้วโต้วมาแล้วหรือยัง?”
“เขาขโมยเครื่องประดับทองมาแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้รับค่าเลี้ยงดู เหมาฉงบอกว่าหรงจี้เหมยได้ฝากค่าเลี้ยงดูไว้ในธนาคารแล้ว และเป็นการเสี่ยงเกินไปที่จะขโมยสมุดบัญชีเพื่อถอนเงินออกจากธนาคาร ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ากระทำการหุนหันพลันแล่น”
หลินม่ายพยักหน้า “ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า”
นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ศาลพาเสิ่นเสี่ยวผิงและทนายความเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ หัวใจของหรงจี้เหมยก็สับสนอลหม่าน
หลินม่ายจ้างทนายความอีกคน และหรงจี้เหมยจะต้องแพ้คดีนี้อย่างแน่นอน
หากหล่อนไม่สามารถจ่ายค่าชดเชย 50,000 หยวนได้ หล่อนจะต้องติดคุกใช่หรือไม่?
แม้จะถือค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองคำของโต้วโต้วไว้ในมือ แต่ทนายความของหลินม่ายเตือนหล่อนแล้วว่า หากหล่อนกล้ายักยอกทรัพย์สินของโต้วโต้วในทางที่ผิด หล่อนจะต้องติดคุก
หล่อนไม่สามารถใช้ค่าเลี้ยงดูและเครื่องประดับทองของโต้วโต้วมาเป็นทรัพย์สินฉุกเฉินได้
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว หรงจี้เหมยก็ตัดสินใจไปหากู่ต้าเหวย
กู่ต้าเหวยเป็นคนขอให้หล่อนใส่ร้ายหลินม่าย ดังนั้นกู่ต้าเหวยจึงควรจ่ายเงินชดเชยให้หลินม่ายจำนวน 50,000 หยวนสำหรับความเสียหายต่อชื่อเสียง
ถ้าเขาไม่ยอมตกลง หล่อนจะลากเขาลงเหวไปด้วยกัน!
หล่อนไปที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของกู่ต้าเหวยตามที่อยู่ในนามบัตร
เมื่อเข้าไปในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และเห็นว่าสินค้าที่ผลิตทั้งหมดเป็นเสื้อผ้าผู้ชาย หล่อนก็รู้สึกสังหรณ์ขึ้นมาว่าตนอาจถูกหลอก
ร้านเสื้อผ้าจิ่นซิ่วของหลินม่ายผลิตเสื้อผ้าผู้หญิง ส่วนโรงงานเสื้อผ้าต้าเหวยผลิตเสื้อผ้าผู้ชาย แล้วพวกเขาจะมีเรื่องขัดแย้งทางธุรกิจระหว่างทั้งสองโรงงานได้อย่างไร?
ในเวลานี้ ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนเสมียนเดินเข้ามาหา
ชายคนนั้นมองหรงจี้เหมยและถามว่า “สวัสดีครับ คุณมาที่นี่เพื่อสั่งการผลิตกับเราหรือเปล่า?”
หรงจี้เหมยส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก “ไม่ค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคนคนนี้”
เธอยื่นนามบัตรให้เขาซึ่งมีชื่อ “กู่ต้าเหวย” ให้กับชายที่ดูเหมือนเสมียน
เมื่อเห็นรายละเอียด เขาก็ถามว่า “คุณมาหาผู้อำนวยการโรงงานของเราหรือครับ? ผมจะหาคุณไปพบเขาทันที”
หรงจี้เหมยเดินตามเขาไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงงาน หัวใจของหล่อนพลันเย็นเยียบเมื่อเห็นชายร่างท้วมพุงพลุ้ยในวัยสี่สิบปีนั่งอยู่ด้านใน
ความรู้สึกคลุมเครือถูกไขกระจ่าง มั่นใจในสิบส่วนแล้วว่าตัวเองถูกหลอก
เสมียนพูดกับชายร่างท้วมว่า “ผู้อำนวยการกู่ มีคนขอพบครับ”
ผู้อำนวยการกู่เงยหน้าขึ้นมองหรงจี้เหมยด้วยความสับสน “คุณเป็นใคร? แล้วมีธุระอะไรกับผมหรือ?”
หรงจี้เหมยถามด้วยความหวังอันริบหรี่ “ขอโทษค่ะ โรงงานของคุณยังมีคนชื่อกู่ต้าเหวยอีกคนไหม? คนที่เป็นผู้จัดการ”
ผู้อำนวยการกู่ขมวดคิ้ว “ไม่มีครับ มีแค่ผมที่ชื่อกู่ต้าเหวย ผมไม่ใช่ผู้จัดการ แต่เป็นผู้อำนวยการโรงงาน แล้วคุณเป็นใคร?”
หรงจี้เหมยหน้าแดงและโกหกไปว่า “ฉันถูกกู่ต้าเหวยตัวปลอมหลอก กู่ต้าเหวยคนนั้นยืมเงินฉันและขอให้ฉันมาพบเขาที่นี่ บอกว่าเขาจะคืนเงินให้ฉันค่ะ”
เมื่อเห็นว่าหล่อนสวมเสื้อผ้าซอมซ่อและถูกฉ้อโกงเงิน ผู้อำนวยการกู่จึงไม่อยากทำให้เรื่องบานปลาย โบกมือไล่ให้หล่อนออกไป
หากไม่พบคนที่แอบอ้างเป็นกู่ต้าเหวย นั่นหมายความว่าหรงจี้เหมยต้องรับผิดชอบค่าชดเชยเอง
เป็นไปไม่ได้ที่หรงจี้เหมยจะจ่ายค่าชดเชยทั้งหมด 50,000 หยวนด้วยตัวเอง หล่อนกัดฟันแน่นและวางแผนที่จะหลบหนี
ในยุคนี้ ธนาคารไม่มีบริการธนาคารแบบรวมศูนย์ หรือบริการฝากและถอนเงินระยะไกล
หากหรงจี้เหมยต้องการหนี หล่อนจะต้องถอนค่าเลี้ยงดูของโต้วโต้วออกจากธนาคาร ไม่เช่นนั้นหล่อนจะต้องเดินทางกลับมาถอนเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายภายหลัง ซึ่งยากลำบากเกินไป
เมื่อเธอกลับจากโรงงานเสื้อผ้าต้าเหวย หล่อนก็หยิบสมุดบัญชีธนาคารเพื่อถอนค่าเลี้ยงดูของโต้วโต้วทั้งหมดออกมา รวมถึงเงินที่กู่ต้าเหวยตัวปลอมมอบให้
หล่อนเช่าบ้านส่วนตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป แล้วยังมีขโมยอยู่มาก
เป็นเรื่องยากที่จะซ่อนเงินสดจำนวนมากไว้ในบ้าน และอาจถูกขโมยไปง่ายดาย ดังนั้นจึงควรเก็บไว้ในธนาคารโดยพกตราประทับไว้ด้วยเสมอ เพื่อป้องกันการโจรกรรม
หลังจากที่กลับมาพร้อมกับเงินสด หรงจี้เหมยก็เริ่มเก็บข้าวของ
อย่านำของไร้ค่าหรือถือยากไปด้วย อย่าลืมนำเสื้อผ้าดี ๆ และเครื่องประดับทอง
หล่อนก้าวขึ้นไปบนเก้าอี้ จากนั้นหยิบกุญแจแล้วเปิดกล่องที่อยู่ด้านบนตู้เสื้อผ้า
หล่อนหยิบกล่องไม้ขนาดเล็กที่เก็บไว้ในกล่องออกมาเปิดดู แต่มันกลับว่างเปล่า เครื่องประดับทองของโต้วโต้วทั้งหมดหายไปแล้ว
กล่องไม้เล็กไม่มีร่องรอยของความเสียหายใด ๆ เลย ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าหัวขโมยเป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้วิธีสะเดาะกุญแจ
หรงจี้เหมยกัดฟันด้วยความคับแค้นใจ คงเป็นหัวขโมยจากหมู่บ้านในเมืองแห่งนี้ที่มาขโมยเครื่องประดับทองของโต้วโต้วไป
นับตั้งแต่หลินม่ายจัดงานแถลงข่าว ผู้เช่าทุกคนในหมู่บ้านในเมืองนี้ก็รู้ว่าโต้วโต้วมีเครื่องประดับทองคำที่แม่บุญธรรมของหล่อนมอบให้
แม้จะอยากแจ้งความ แต่เกรงว่าหัวขโมยอาจหนีไปไกลแล้ว และเมื่อตำรวจหาตัวไม่เจอ หล่อนก็กลัวว่าตำรวจจะเข้าใจผิดหาว่าหล่อนแจ้งความเท็จ
มันคงไม่ใช่เรื่องดีนักหากหล่อนทำผิดพลาดและส่งตัวเองเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยตัวเอง
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว หรงจี้เหมยก็ทำได้เพียงยอมรับว่าตนโชคไม่ดี จากนั้นก็แอบหนีไปพร้อมกับลูก ๆ ทั้งสี่ในกลางดึก
แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวเท้าลงจากหลังคาสู่ชั้นหนึ่ง เจ้าของตึกเช่าและคนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาขวางทางไว้
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะหนีไปไหนคะคุณแม๊ มารับผลการกระทำของตัวเองก่อน
ไหหม่า(海馬)