แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1022 อาหารติดคอถังถัง
ตอนที่ 1022 อาหารติดคอถังถัง
ตอนที่ 1022 อาหารติดคอถังถัง
เกิดความวุ่นวายในทันที แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
แม้ฟางเว่ยกั๋วจะใช้ร่างกายตัวเองปกป้องหลานชายคนโตจากน้ำซุปร้อน แต่ยังโชคดีที่เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตผ้าไนลอน
ทำให้น้ำซุปพระกระโดดกำแพงหม้อใหญ่ที่สาดตัวเขาไหลไปตามผ้าไนลอน และไม่ทะลุเนื้อผ้าเข้าไปด้านใน เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย เพราะน้ำซุปพระกระโดดกำแพงที่ราดลงบนหลังของฟางเว่ยกั๋วส่วนหนึ่งกระเซ็นไปลวกผิวหน้าของโต้วโต้ว
พวกผู้ใหญ่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเห็นชิ้นส่วนผลไม้แช่อิ่มที่เถาจืออวิ๋นเหยียบจนทำให้ลื่นล้ม
ทุกคนจึงสั่งสอนเด็ก ๆ ที่บ้านว่าอย่าทิ้งสิ่งของลงพื้น หากหญิงมีครรภ์เผลอเหยียบจนลื่นล้ม ผลที่ตามมาอาจร้ายแรงเกินกว่าจะคาดถึง
โชคดีที่หลินม่ายเตรียมอาหารไว้ค่อนข้างมาก แม้จะต้องทิ้งอาหารทั้งสามจาน แต่เธอก็สามารถเติมอาหารอื่นได้ทันที
ขณะที่ทุกคนกำลังจะนั่งรับประทานอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่า โต้วโต้วพูดขึ้นว่า “หน้าของหนูโดนลวกด้วย”
ฟางจั๋วหรานเดินเข้าไปหาและเห็นตุ่มน้ำเล็ก ๆ สองถึงสามจุด ซึ่งไม่ถือว่าร้ายแรง
เขาทายารักษาแผลไหม้บนหน้าของหล่อน กำชับว่าอย่าให้แผลพุพองแตก และปล่อยให้หล่อนไปร่วมรับประทานอาหารค่ำ
โต้วโต้วเดินไปที่โต๊ะของบรรดาเหลน
ผู้คนทั้งสี่รุ่นกำลังกินอาหารและหัวเราะอย่างมีความสุข ทันใดนั้นฮ่าวเฟยก็อุทานขึ้น “อ๊ะ แย่แล้ว อาหารติดคอถังถัง!”
ทุกคนรีบหันไปมองถังถังเป็นตาเดียว
ฟางจั๋วหรานรีบถลาเข้าไปและใช้วิธีการรัดอัดท้องเพื่อปฐมพยาบาล
เขาออกแรงอยู่สองครั้ง ทำให้ถังถังไอออกมาอย่างแรงและคายตับหมูทอดชิ้นใหญ่ออกมา
ใบหน้าเล็กของเด็กน้อยที่เปลี่ยนเป็นสีม่วงจากการขาดอากาศหายใจก็ได้กลับไปเป็นสีแดงก่ำ
เสี่ยวเหวินเหลือบมองโต้วโต้ว แววหวาดกลัวในดวงตาของหล่อนยังฉายชัด แต่ไม่นานหล่อนก็แสดงสีหน้าโล่งใจ
ฟางถิงหวาดกลัวแทบหัวใจวายตาย รีบวิ่งเข้าไปหาลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขนฟางจั๋วหรานและถามว่า “ถังถังปลอดภัยแล้วใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรแล้ว” ฟางจั๋วหรานส่งถังถังคืนให้ฟางถิง
ฟางถิงแนบหน้าของหล่อนกับใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกสาวขณะน้ำตาไหลอาบแก้ม “แม่กลัวแทบแย่ว่าลูกจะเป็นอะไรไป…”
จนถึงตอนนี้ หัวใจของหล่อนยังคงสับสนวุ่นวาย ราวกับว่ากำลังตกอยู่ในความฝัน และทุกสิ่งไม่ใช่ความจริง
หลินม่ายเทน้ำอุ่นให้ฟางถิงดื่ม และสามีของหล่อนก็เข้ามาปลอบใจ หลังจากนั้นไม่นานอารมณ์ของหล่อนก็กลับมาคงที่ ส่วนถังถังก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
อาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าที่หรูหราถูกเงามืดจากอุบัติเหตุที่เกิดกับถังถังครอบงำ จนทุกคนไม่สามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างเต็มที่
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่าเสร็จ พวกเขาช่วยหลินม่ายเก็บจานและลากลับบ้าน
ในวันส่งท้ายปีเก่าพวกเขาควรจะนอนดึก ผู้ใหญ่ เสี่ยวเหวิน และโต้วโต้วทนง่วงได้ แต่เสี่ยวมู่ตงและถังถังต่างก็เริ่มนั่งสัปหงกหลังจากเวลาสี่ทุ่ม
คุณปู่ฟางคิดว่าทุกคนต้องตื่นเช้าเพื่อไปเยี่ยมหลุมศพของบรรพบุรุษ จึงตัดสินใจมอบหน้าที่เฝ้าบ้านให้หวางไฉ หลังจากโบกมือลา ทุกคนก็กลับเข้าห้องของตัวเอง
หลินม่ายเตรียมอาหารวันส่งท้ายปีเก่าตั้งแต่กลางวัน หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน เธอก็รู้สึกเหนื่อยมาก เมื่ออาบน้ำเสร็จ เธอก็นอนกอดลูกชายและหลับไปทันที
ทั้งคู่ไม่ได้นอนเตียงเดียวกันเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาพบกันอีกครั้งในคืนนี้ ฟางจั๋วหรานต้องการทำกิจกรรมอื่นต่อ แต่ภรรยาของเขาหลับไปแล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
โต้วโต้วกลับไปยังห้องที่เคยอาศัยก่อนหน้าและอาบน้ำ แต่เพราะไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน หล่อนจึงต้องสวมเสื้อผ้าชุดเดิม
เสื้อผ้าชุดนี้ตั้งแต่ชั้นในถึงชั้นนอกล้วนเป็นชุดเก่าของจิงจิง มันเป็นเสื้อผ้าฤดูใบไม้ร่วงที่ถูกเย็บซ่อมหลายครั้ง
โต้วโต้วหลั่งน้ำตาด้วยความคับข้องใจขณะสวมมัน
ถึงแม้ว่าแม่หลินจะมีเงิน แต่ก็ไม่ได้ซื้อชุดใหม่สำหรับวันส่งท้ายปีเก่าให้หล่อน
เด็ก ๆ ทุกคนในครอบครัวสวมเสื้อผ้าชุดใหม่และเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข แต่หล่อนเป็นคนเดียวที่สวมเสื้อผ้าเก่าทรุดโทรมและไม่พอดีตัว
ก่อนรับประทานอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่า เธอมีแผลพุพองบนใบหน้าและจงใจแสดงความเจ็บปวดต่อหน้าแม่หลิน แต่แม่หลินกลับไม่แม้จะหันมองหล่อนเลย
หลังพ่อฟางรักษาแผลพุพองให้ แม่หลินก็ไม่ได้พูดสิ่งใดที่แสดงถึงความเป็นห่วง
ยิ่งโต้วโต้วคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใด หล่อนก็ยิ่งเศร้าโศกเสียใจ หลังจากร้องไห้อยู่นาน หล่อนก็เดินออกจากห้องน้ำ ก่อนพบว่าเสี่ยวเหวินรออยู่ในห้อง
โต้วโต้วเช็ดน้ำตาและถามเขาว่า “ดึกมากแล้ว ทำไมถึงมาที่ห้องฉันล่ะ?”
เสี่ยวเหวินแสดงท่าทางจริงจังมาก “เธอป้อนตับหมูทอดชิ้นนั้นให้ถังถังใช่หรือเปล่า”
เมื่อโต้วโต้วได้ยิน หล่อนก็ตกใจมากจนแทบทรุดตัวลงกับพื้น
หล่อนแอบทำด้วยความรอบคอบและมั่นใจว่าไม่มีใครเห็น แต่ไม่คาดคิดเลยว่าเสี่ยวเหวินจะเห็นเข้า
โต้วโต้วกัดฟันและปฏิเสธข้อกล่าวหา “ไม่ใช่ฉัน อย่ามาโยนความผิดให้ฉันนะ! ถังถังกินมันเข้าไปเอง!”
“ฉันเห็นมันกับตาตัวเอง แต่เธอยังไม่ยอมรับอีก!”
แท้จริงเสี่ยวเหวินไม่ได้เห็นโต้วโต้วป้อนตับหมูให้ถังถังด้วยตาตัวเอง ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาของเขา
เพราะหลังจากอุบัติเหตุของถังถัง โต้วโต้วเป็นคนที่ดูมีพิรุธมากที่สุด
และโต้วโต้วก็บังเอิญนั่งข้างถังถัง มันจึงเป็นเรื่องง่ายหากหล่อนจะป้อนตับหมูทอดให้ถังถังโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
โต้วโต้วหน้าซีด ก่อนพูดด้วยท่าทางน่าสงสาร “ฉะ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก็แค่คิดว่าตับหมูทอดของน้าหลินอร่อยมาก เลยหยิบมันป้อนให้ถังถังกิน ฉันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พี่เสี่ยวเหวิน โปรดอย่าบอกแม่หลินเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะ ขอร้องล่ะ~”
เสี่ยวเหวินไม่เชื่อว่าหล่อนมีเจตนาดี จึงถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ?”
ทั้งสองมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่โต้วโต้วจะยอมรับด้วยความรู้สึกผิด
หล่อนหันหน้าหนีไปทางอื่นและพูดด้วยความขุ่นเคือง “ก็ใครใช้ให้แม่ของถังถังเรียกฉันว่าเจ้าเด็กตัวปัญหา ฉันแค่คิดว่าจะทำให้ถังถังเจ็บตัวเล็กน้อย แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
“เธอไม่คาดคิดงั้นเหรอ?” เสี่ยวเหวินพูด “เธอเองก็เคยกินเนื้อแล้วติดคอมาก่อน ถ้าคุณอาไม่ได้ใช้วิธีปฐมพยาบาลแบบรัดอัดท้อง เธอตอนนั้นอาจตายไปแล้วก็ได้ ตอนนี้เธอกลับมาบอกฉันว่าไม่ได้คาดคิดถึงความร้ายแรงของผลที่ตามมา เธอคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ?”
โต้วโต้วก้มศีรษะลง
เสี่ยวเหวินไม่คิดเลยว่าโต้วโต้วจะเก็บความแค้นเคืองในใจมากมายขนาดนี้ คุณอาฟางถิงเรียกหล่อนว่าเจ้าเด็กตัวปัญหา หล่อนถึงขั้นไม่พอใจจนลงมือแก้แค้นกับถังถัง
หล่อนต้องการกลับมาที่นี่ แต่อาหญิงไม่ยอมรับหล่อนอีกต่อไป หล่อนจึงเกลียดอาหญิงและทุกคนในครอบครัว
หากให้หล่อนกลับมาอยู่บ้านอีกครั้ง ใครจะรู้ได้ว่าหล่อนอาจกลายเป็นปีศาจร้ายแบบไหนอีก?
เพื่อความปลอดภัยของทั้งครอบครัว หล่อนจะต้องออกไปจากบ้านอาหญิง
เสี่ยวเหวินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน “เช้าวันพรุ่งนี้ เธอต้องออกจากบ้านของเราไปโดยดี ไม่เช่นนั้นฉันจะบอกความจริงให้ทราบกันทั้งครอบครัวว่าเธอเป็นคนป้อนตับหมูทอดให้ถังถังจนติดคอหล่อน!”
โต้วโต้วพูดทั้งน้ำตาที่ไหลอาบหน้า “พี่เสี่ยวเหวิน ฉันยังไม่หายจากไข้หวัดเลย ปล่อยให้ฉันหายป่วยก่อนแล้วค่อยจากไปได้ไหม?”
เสี่ยวเหวินส่งเสียงคำรามต่ำ “ไม่ใช่ว่าเธอควรไปหาแม่แท้ ๆ ตอนที่ป่วยหรือยังไง ทำไมถึงต้องมาพักที่บ้านของเราด้วย? ตอนที่เรากลับชนบทช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่แล้ว เธอแอบใส่ยาถ่ายลงในน้ำของน้องชาย คิดหรือว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้? อาหญิงใจดีกับเธอมาก แต่เธอกลับต้องการทำร้ายลูกชายคนเดียวของอาหญิง เธอมีความกล้าหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไง พอป่วยทีไรก็วิ่งแจ้นมาหาอาหญิงทุกครั้งแบบนี้?”
ใบหน้าของโต้วโต้วซีดลง
หล่อนนึกว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่เสี่ยวเหวินกลับรู้ทุกสิ่งอย่างที่หล่อนทำ
หล่อนพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง “ฉะ… ฉันก็ไม่ได้ยอมให้น้องชายดื่มน้ำแก้วนั้นในภายหลังไม่ใช่หรือไง~”
“แต่ถ้าเธอมีความคิดแบบนั้น มันก็ไม่ต่างจากการทรยศต่อความรักและห่วงใยที่อาหญิงมอบให้!”
โต้วโต้วอยากเถียงกลับไปว่าถ้าหลินม่ายรักหล่อนจริงก็คงไม่อยากมีลูกอีก เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะทั้งสองมีลูกของตัวเองระหว่างที่รับเลี้ยงหล่อนไม่ใช่หรือไง?
แต่เมื่อเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของเสี่ยวเหวิน หล่อนก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอด้วยความกลัว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เตะโด่งยัยถั่วเน่านี่ออกไปด่วนๆ ค่ะ ยิ่งอยู่นานยิ่งอันตราย วัยแค่นี้ถึงขั้นคิดจะฆ่าน้องๆ แล้ว ถ้าโตกว่านี้จะไม่ฆ่ายกครัวเลยเหรอ
สงสัยจริงว่าคนเขียนไม่มีเรื่องอื่นมาเล่นแล้วใช่ไหม ถึงเขียนให้ยัยน้องถั่วกลายเป็นชั่วได้ขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)