แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 1006 บทสนทนากลางดึก
ตอนที่ 1006 บทสนทนากลางดึก
ตอนที่ 1006 บทสนทนากลางดึก
เป็นเวลาดึกแล้ว ขณะที่หลินม่ายกำลังจะเข้านอน สวี่เมิ่งก็เข้ามาในห้องของเธออย่างกะทันหัน
หลินม่ายปิดปากหาว ก่อนกระซิบว่า “เธอเพิ่งแท้งลูกและตอนนี้เธออยู่ในช่วงพักฟื้น ทำไมเธอไม่ดูแลตัวเองและแอบย่องเข้ามาในห้องของฉันกลางดึกแบบนี้?”
สวี่เมิ่งปิดประตู หล่อนเดินไปที่เตียงของหลินม่าย หลังจากนั่งลงแล้วจึงพูดคำเบา “ขอบคุณมากนะ”
“เธออยากขอบคุณที่ฉันช่วยปิดบังเรื่องที่เธอท้องเหรอ?” หลินม่ายโบกมือ “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันแค่กลัวว่าอาหญิงกับอาเขยจะตกใจเมื่อได้ยินข่าวนี้ต่างหาก”
สวี่เมิ่งพูดติดตลกว่า “พ่อแม่ของฉันจะไม่ตกใจเหรอเมื่อได้ยินว่าฉันป่วยหนัก?”
หลินม่ายกะพริบตา “อาการป่วยระยะสุดท้ายควรจะดีขึ้นในหนึ่งเดือนไม่ใช่หรือ? แล้วฉันพูดไปแบบนั้นก็เพื่อช่วยเธอเก็บความลับไม่ใช่หรือไง? หรือเธออยากให้พ่อแม่รู้ว่าเธอกำลังท้อง?”
“ฉันไม่อยาก” สวี่เมิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “หลินม่าย คุณไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมฉันถึงอยากเก็บเด็กในท้องไว้?”
หลินม่ายยิ้ม “ฉันไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็น แต่ถ้าคุณอยากบอก ฉันก็จะเป็นผู้ฟังที่ดี”
“ฉันต้องการเก็บเด็กคนนั้นไว้ เพราะเด็กคนนั้นเป็นลูกของคนรักฉันเอง”
ขณะที่สวี่เมิ่งกำลังพูด หล่อนก็หยิบรูปถ่ายออกจากกระเป๋าและแสดงให้หลินม่ายเห็น “นี่คือคนรักของฉันเอง เขาดูธรรมดามากเลยใช่ไหม? แต่ฉันรักเขามาก มากเสียจนไม่สามารถถอนตัวได้”
หลินม่ายกะพริบตารับฟัง เหตุใดโครงเรื่องนี้ถึงได้คล้ายคลึงกับประสบการณ์ในชีวิตก่อนของเธอเลย?
“ก่อนหน้านี้ ฉันขอเงินพ่อแม่เยอะมาก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเขา ฉันซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัวให้เขา และยังให้ค่าครองชีพแก่เขา ฉันอยู่ที่อเมริกามาหลายปีแล้ว แต่ฉันไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองเลย ซื้อแต่ขนมปังสีน้ำตาลที่ลดราคาในซูเปอร์มาร์เก็ตกินเท่านั้น ฉันดีกับเขามาก แต่เขากลับดีกับผู้หญิงทุกคน แน่นอนว่าเขาดีกับหญิงสาวเหล่านั้นเพียงเพื่อโกงเงินและสิ่งของต่าง ๆ จากพวกเธอเท่านั้น ต่อให้เขาโกงเงินฉัน ฉันก็ทนได้ และต่อให้เขาทำเหมือนฉันเป็นของเล่น ฉันก็ทนได้ แต่เขาเตะลูกของเราเพียงเพราะไม่ต้องการ ฉันทนไม่ได้อีกแล้ว!”
จู่ ๆ สวี่เมิ่งก็หัวเราะ จากนั้นหลั่งน้ำตาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเด็กจากไปแล้ว ฉันควรจะยอมแพ้”
สวี่เมิ่งมองดูผู้ชายในรูปเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นหยิบไฟแช็กออกมาและเผารูปนั้น
หลินม่ายถาม “เธอแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเจ้าสวะนั่น?”
สวี่เมิ่งทำงานเป็นโสเภณี และหล่อนอาจรับงานสองถึงสามคนต่อวัน หลินม่ายงุนงงมากที่อีกฝ่ายแน่ใจว่าเด็กในท้องคือลูกของผู้ชายคนนั้น
สวี่เมิ่งเลิกคิ้วมองหลินม่าย “เพราะคุณคิดว่าฉันมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคนตั้งแต่ฉันกลายเป็นโสเภณีงั้นหรือ?”
จากนั้นหล่อนก็พยักหน้า “นั่นก็จริงอยู่ แต่ฉันป้องกันอย่างดีกับผู้ชายทุกคนที่ฉันมีเพศสัมพันธ์ด้วย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะท้องกับผู้ชายคนอื่น เด็กคนนั้นเป็นของชายชั่วคนนี้แน่นอน”
หลินม่ายลูบหลังอีกฝ่าย “อย่าคิดมากเลย ลืมเรื่องเด็กซะเถอะ เธอเป็นโรคหัวใจที่ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกอยู่แล้ว ต่อให้เขาเกิดมาก็ไม่แข็งแรง ต้องทนทุกข์ทรมานตลอดชีวิต มันจึงดีกว่าที่จะไม่มี”
สวี่เมิ่งก้มหน้าลงพลางร้องไห้ “ฉันได้ฉีดวัคซีนป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกแล้ว ลูกจะไม่เป็นอะไร…”
หลินม่ายไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถามขึ้นว่า “วันนี้เธอไม่ปล่อยคนเลวนั่นไป เพราะเธออยากอยู่กับเขาเหรอ?”
สวี่เมิ่งส่ายหัว “ไม่ใช่ ฉันอยากให้เขาคืนเงินครึ่งหนึ่งของเงินที่เขาโกงไป คุณไม่เห็นหรือว่าพ่อแม่ของฉันแก่ตัวลงมากเพราะเรื่องของฉัน ผมของพวกเขายังกลายเป็นสีขาวอีกด้วย? พวกเขาติดหนี้มากมายเพราะฉัน ฉันต้องคืนเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อชดเชย”
แม้ว่าสวี่เมิ่งจะสร้างปัญหามากมายให้กับพ่อแม่ของเธอ แต่จิตสำนึกที่ยังคงอยู่สามารถนำไปสู่การแก้ไขสถานการณ์ได้
หลินม่ายถาม “คนสารเลวไม่เพียงแค่ปฏิเสธที่จะให้เงินเธอคืน แต่ยังพยายามตีตัวออกห่างจากเธอด้วย เขารู้หรือเปล่าว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา?”
สวี่เมิ่งพยักหน้า “แน่นอนว่าเขารู้ แต่กลับยังปฏิบัติต่อฉันแบบนั้น ฉันจึงหมดกำลังใจ”
หลินม่ายถามต่อ “เธอเสพยาเพราะเขาด้วยหรือเปล่า?”
“ทำนองนั้นแหละ ไอ้สารเลวนั่นก็เหมือนวิญญาณตะขาบที่ย่ำอยู่บนเรือนับไม่ถ้วน หัวใจฉันเจ็บปวด พอมีคนชวนให้เสพยา ฉันก็ยอมทำตาม มีเพียงยาเท่านั้นที่ฉันจะลืมความเจ็บปวดทั้งหมดได้”
หลินม่ายพูด “อีกสองวันเธอจะกลับจีนพร้อมเรา และเสพยาไม่ได้อีกแล้ว เธอจะเอาชนะอาการขาดยาได้ไหม?”
สวี่เมิ่งยิ้มอย่างขมขื่น “ต่อให้เอาชนะไม่ได้ ก็ต้องพยายามเอาชนะ หลังจากกลับจีนแล้ว ฉันก็จะไม่มียาเสพติดหรือบุหรี่ให้เสพอีกต่อไป”
สวี่เมิ่งจะยังคงอยู่ในช่วงพักฟื้น มันจึงไม่เหมาะนักที่จะต้องเดินทาง
แต่หลินม่ายอยากตีดาบขณะที่เหล็กยังร้อนอยู่ เธออยากรีบพาสวี่เมิ่งกลับจีน ก่อนที่สวี่เมิ่งจะเปลี่ยนใจและไม่รับฟังเธออีก
เมื่อความรู้สึกผิดของสวี่เมิ่งที่มีต่อพ่อแม่และความซาบซึ้งในต่อหลินม่ายลดน้อยลง และหากหล่อนไม่ต้องการเลิกยาเสพติดอีกต่อไป มันจะกลายเป็นเรื่องยากที่จะพาหล่อนกลับประเทศ
หลินม่ายใช้เวลาหนึ่งวันในการกว้านซื้อยาล้างพิษจำนวนมากด้วยความช่วยเหลือจากลุงฝู
หลังจากเตรียมการทั้งหมดเสร็จสิ้น ช่วงรับประทานอาหารมื้อเย็น เธอประกาศว่าจะพาครอบครัวทั้งสามของฟางจิ้งเสียนกลับไปประเทศจีนในวันพรุ่งนี้ และขอให้พวกเขาเก็บสัมภาระในคืนนี้
ฟางจิ้งเสียนและสามีค่อนข้างประหลาดใจ
ฟางจิ้งเสียนกล่าวด้วยความลังเล “เมิ่งเมิ่งอ่อนแอมาก ฉันเกรงว่าหล่อนจะทนการเดินทางยาวนานไม่ไหว แล้วถ้าอาการของหล่อนแย่ลงล่ะ? เราเลื่อนเวลากลับจีนไปอีกหนึ่งเดือนได้ไหม?”
อาเขยสวี่มองหลินม่ายด้วยสายตาอ้อนวอนเช่นกัน
หลินม่ายกล่าว “เมื่อคืนฉันคุยกับจั๋วหรานทางโทรศัพท์ จั๋วหรานบอกว่าถ้าโรคโลหิตจางจากการอุดกั้นเฉียบพลันของสวี่เมิ่งไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งเดือน แม้แต่การแพทย์แผนตะวันตกก็ช่วยไม่ได้ ทว่าการแพทย์แผนจีนยังคงมีความหวังอยู่บ้าง จั๋วหรานเป็นคนขอให้ฉันพาสวี่เมิ่งกลับประเทศจีนโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนจีนอาวุโสของเขาสามารถรักษาสวี่เมิ่งได้ทันเวลา แพทย์อาวุโสด้านการแพทย์แผนจีนประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยหลายรายที่มีอาการคล้ายคลึงกับสวี่เมิ่ง ถ้าเรากลับจีนเร็วขึ้นหนึ่งวัน โอกาสรอดของสวี่เมิ่งจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”
คำพูดของฟางจั๋วหรานมีน้ำหนักมากสำหรับฟางจิ้งเสียนและสามี พวกเขาหวังว่าจะสามารถเดินทางในคืนนั้นเลยด้วยซ้ำ
วันรุ่งขึ้น ครอบครัวทั้งสามคนก็ติดตามหลินม่ายกลับประเทศจีน
เมื่อผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน ยาล้างพิษกองใหญ่ที่หลินม่ายซื้อให้สวี่เมิ่งก็ได้รับความสนใจจากศุลกากร
ศุลกากรได้ตรวจสอบหลินม่ายและทุกคนอย่างละเอียด และในที่สุดก็ปล่อยพวกเขาไป
สภาพร่างกายของสวี่เมิ่งไม่ดีนัก และการเดินทางก็ค่อนข้างลำบากมาก
หลินม่ายพูดคุยกับฟางจิ้งเสียนและสามีระหว่างทาง เพื่อขอให้สวี่เมิ่งอาศัยในบ้านของเธอเมื่อกลับไปจีน
เมื่อหล่อนเอาชนะการเสพติดและหายจากอาการป่วยได้แล้ว หล่อนจะถูกพาไปยังสถานที่ห่างไกลเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
ครอบครัวของเธอมีบ้านหลายหลังและมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ เธอสามารถซ่อนสวี่เมิ่งไว้เพื่อพักฟื้นจากการเจ็บป่วยและการล้างพิษยาเสพติด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่บุคคลภายนอกจะตรวจพบ
ฟางจิ้งเสียนและสามีรู้สึกประทับใจมากจนแทบจะก้มหัวให้หลินม่าย
เมื่อกลับมาที่บ้านสวนของหลินม่ายในเมืองหลวง คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางเห็นว่าสวี่เมิ่งผ่ายผอมเกินไปและไม่สะสวยเหมือนก่อน
แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่พวกเขาก็ไม่แสดงออกมาและตำหนิหล่อนอย่างเข้มงวดแทน
หลังจากที่สวี่เมิ่งฟังคำดุด่าพักหนึ่ง หล่อนก็ทรุดตัวล้มลงพื้น
ฟางจิ้งเสียนกังวลมากและต้องการส่งสวี่เมิ่งไปโรงพยาบาลทันที
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางยังขอให้หลินม่ายรีบส่งสวี่เมิ่งไปโรงพยาบาลด้วย
เมื่อเห็นว่าความจริงกำลังจะถูกเปิดเผย ฟางจั๋วหรานจึงนำหมออาวุโสเหรินมาที่นี่ทันเวลา
ฟางจั๋วหรานได้แจ้งสถานการณ์ที่แท้จริงกับหมออาวุโสเหรินล่วงหน้าแล้ว และขอให้เขาช่วยปกปิดมัน
หมออาวุโสเหรินเป็นคนดี และรู้ว่าชื่อเสียงของหญิงสาวสำคัญแค่ไหน
ดังนั้นเขาจึงตรวจชีพจรของสวี่เมิ่งและจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ โดยไม่ได้บอกว่าสวี่เมิ่งเป็นลมเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่บอกว่าหล่อนเป็นโรคโลหิตจางชนิดอุดกั้นเฉียบพลัน
คุณย่าฟางถามอย่างกังวล “แล้วจะรักษาหายไหมคะ มันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตไหม?”
หมออาวุโสเหรินตอบกลับด้วยรอยยิ้มมั่นใจ “ไม่ต้องกังวลครับ อาการของหลานสาวของคุณเป็นอาการที่ไม่ถือว่าร้ายแรงที่สุดเหมือนที่ผมเคยเจอ ผมรับประกันได้ว่าจะสามารถรักษาให้หายขาดอย่างแน่นอน”
ฟางจิ้งเสียนและคุณย่าฟางรู้สึกโล่งใจ
ระหว่างเดินทางกลับประเทศจีน สวี่เมิ่งเริ่มเกิดอาการลงแดง หลินม่ายจึงให้หล่อนกินยากล่อมประสาทเพื่อนอนหลับ
ตอนนี้กลับมาถึงประเทศจีนแล้ว หล่อนไม่สามารถรับประทานยากล่อมประสาทได้อีกต่อไป ซึ่งหล่อนต้องพึ่งยาและกำลังใจในการเลิกยา
ยาล้างพิษเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น และขึ้นอยู่กับกำลังใจเป็นหลัก
อาการลงแดงของสวี่เมิ่งจะปะทุขึ้นหลายครั้งต่อวัน ทุกครั้งที่อดทนฝ่าฟัน หล่อนจะเจ็บปวดมากจนอยากจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง
แทบไม่ต้องพูดถึงหลินม่ายและคนอื่น ๆ ที่กลัวเสียงกรีดร้อง แม้แต่อาหวงเองยังกลัวเกินกว่าจะขยับไปไหน
โชคดีที่มันเป็นบ้านสวนพื้นที่กว้างขวาง เสียงของหล่อนแทบไม่ได้เล็ดลอดออกไป และไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนสังเกตเห็นความผิดปกติ
ฟางจิ้งเสียนและสามีผลัดกันมาดูแลลูกสาวของตน โดยกลัวว่าหากวันใดที่พวกเขาไม่ใส่ใจ สวี่เมิ่งอาจฆ่าตัวตายสำเร็จ แล้วความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะสูญเปล่า
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน สวี่เมิ่งก็พักฟื้นจากอาการแท้งจนหายดี
ฟางจิ้งเสียนและสามีไม่รู้ความจริงข้อนี้ เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ลูกสาวของเขาสุขภาพดีขึ้นและอาการลงแดงก็บรรเทาลง พวกเขาทุกคนต่างก็มีความสุขมาก โดยซื้อของขวัญมากมายเพื่อขอบคุณหมออาวุโสเหริน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ถือว่ากำลังใจแข็งแกร่งอยู่นะที่เลิกยาได้ สู้ๆ นะคะ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้นะ
ไหหม่า(海馬)