เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 90 บิลของคุณชำระเรียบร้อยแล้วครับ
- Home
- All Mangas
- เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง
- ตอนที่ 90 บิลของคุณชำระเรียบร้อยแล้วครับ
ตอนที่ 90 บิลของคุณชำระเรียบร้อยแล้วครับ
อ่าวชิงหลง เมืองตู้เหมิน ถึงขนาดเป็นเขตพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดที่ใหญ่ที่สุดของจีนแผ่นดินใหญ่
ถึงจะบอกว่าพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุด แต่ค่าใช้จ่ายราคาแพงกลับไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะรับได้ ดังนั้นคนที่มาที่นี่จะเป็นคนที่มีอำนาจและอิทธิพลกันทั้งนั้น วันหยุดของครอบครัวธรรมดาคงไม่มีทางเลือกที่นี่
เขตเมืองตู้เหมินไม่ขาดแคลนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิงระดับสูงพวกนี้ แต่เนื่องจากเป็นในเมือง ที่ดินทุกตารางนิ้วล้วนเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น ทรัพยากรน้อยลงเรื่อยๆ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยก็สอดส่องชานเมืองที่อยู่ใกล้ๆ แทน
ถึงหลายปีมานี้สิ่งก่อสร้างตามชานเมืองที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีมาก แต่อย่างไรก็ยังมีที่ว่าง สี่ปีก่อน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สี่คนใช้พื้นที่นี้สร้างเป็นอ่าวชิงหลงด้วยการอนุมัติของภาครัฐ นับว่าเป็นทัศนียภาพที่มนุษย์สร้างขึ้นแห่งหนึ่งของเมืองตู้เหมิน
และโครงการอ่าวชิงหลงก็เป็นโครงการกึ่งเอกชนกึ่งรัฐบาล และเพราะเหตุนี้ สี่ปีมานี้จึงยังไม่เคยเกิดข้อพิพาทอะไรใหญ่โต ถึงอย่างไรรัฐบาลก็อยู่เบื้องหลัง นั่นคือการควบคุมได้อยู่หมัดมาก
เพราะวัฒนธรรมตะวันตกสมัยใหม่แพร่หลายในเมืองตู้เหมิน โดยเฉพาะหลังจากช่วงมีขบวนการเลียนแบบตะวันตก วัฒนธรรมยุโรปจึงยิ่งแพร่หลายในเมืองตู้เหมินนี้เข้าไปอีก นอกจากพวกย่านเก่าบางย่านที่รักษาสไตล์จีนเอาไว้ สถานที่อื่นส่วนใหญ่ก็ถูกลดค่าเช่าลง สิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรปก็ปรากฏขึ้นราวกับสายลมฤดูใบผลิพัดผ่านชั่วข้ามคืน
ไม่ว่าจะเป็นถนนสไตล์ยุโรปในเขตเมืองหรือว่าอ่าวชิงหลงก็มีสิ่งปลูกสร้างสไตล์ยุโรปเต็มไปหมด อาคาร ที่พักตากอากาศ หอคอย ล้วนแฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมตะวันตกในยุคศตวรรษที่สิบเก้าไว้ทั้งสิ้น
ในที่สุดรถก็จอดที่ทางเข้าสิ่งปลูกสร้างสามชั้นสีขาวแห่งหนึ่ง ถังหย่าฉีพูดว่า “ถึงแล้ว จื่อเซวียน พวกเราลงจากรถกันเถอะ”
ซ่งจื่อเซวียนมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งปลูกสร้างสามชั้นนี้สูงมาก ด้านในแต่ละชั้นน่าจะสูงกว่าห้องธรรมดาสักหน่อย ประกอบกับการตกแต่งด้านนอกที่หรูหรา ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือ…พระราชวัง!
“ใหญ่จริงๆ หย่าฉี ที่นี่คือที่ไหนเนี่ย”
“สโมสรพักผ่อนมั่งคั่ง ในเมืองตู้เหมินนับว่าเป็นชั้นแนวหน้าเรื่องความหรูหราเชียวนะ” ขณะที่ลงจากรถ ถังหย่าฉีก็สวมเสื้อโค้ตไปพลางพูดไปพลาง
ซ่งจื่อเซวียนเงยหน้ามอง ภายนอกอาคารเป็นสีขาวทั้งหมดราวกับหยก หน้าประตูฝั่งขวาและซ้ายเป็นรูปปั้นผู้ชายชาวตะวันตกเปลือยครึ่งลำตัว นี่ก็เป็นหินสลักประเภทหนึ่งที่แพร่หลายมากที่สุดในยุโรปยุคศตวรรษที่สิบเก้า
แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจคือ ที่อื่นที่เขาเคยเห็นมาทั้งหมด อย่างน้อยที่สุดก็จะมีของอย่างพวกป้ายคำขวัญหรือป้ายกล่องไฟเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อสถานที่เขียนไว้ แต่ที่นี่…แม้แต่ชื่อก็ไม่มี
ถังหย่าฉีกำชับให้ไต้ทงไปจอดรถ จากนั้นคอยรอรับที่ชั้นหนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปกับซ่งจื่อเซวียน
เดินเข้าไปในสโมสรพักผ่อนมั่งคั่ง ซ่งจื่อเซวียนถูกความหรูหราของที่นี่ทำให้ตกตะลึงอีกครั้ง ลวดลายของกระเบื้องหินอ่อนนั้นขัดจนเงา ผนังรอบด้านทั้งหมดปูด้วยหยกสีขาว ยิ่งสิ่งของที่ประดับประดาเป็นพวกของที่มีลวดลายสีทองและฝังทอง บ้างกระทั่งสร้างด้วยทองคำแท้ ดูหรูหราและสูงส่ง
มีพนักงานคอยนำทางให้ตลอดทาง กระทั่งเดินออกจากลิฟต์จนถึงห้อง พนักงานถึงโค้งคำนับแล้วจากไป ซ่งจื่อเซวียนก็เพิ่งเคยได้รับการบริการประเภทนี้เป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านี้การบริการที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นโรงอาบน้ำที่พบหน้ากับเคอซาน มีชายสองคนพาไปที่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง จากนั้นสาวสวยก็เข้ามา ตอนนี้คิดๆ ดูแล้ว ซ่งจื่อเซวียนรู้สึกขนลุกไปหมด
ห้องส่วนตัวชื่อว่า VIP888 มองแค่ป้ายชื่อก็คิดได้ว่าห้องส่วนตัวห้องนี้น่าจะเป็นห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดห้องหนึ่ง ถังหย่าฉีผลักประตูเดินเข้าไป ซ่งจื่อเซวียนรู้สึกแค่ว่าความหรูหราและความสง่างามปะทะเข้ามาที่หน้า
ตู้คาราโอเกะขนาดประมาณร้อยกว่าตารางเมตร หน้าจอขนาดใหญ่แทบจะครองพื้นที่ไปครึ่งผนัง ขณะเดียวกันรอบด้านก็มีหน้าจอขนาดเล็กไม่รู้กี่ตัวซิงค์ภาพเดียวกันหมด จัดวางโซฟาหนังแท้ล้อมที่ว่างสำหรับร้องเพลงได้พอเหมาพอเจาะ แม้แต่โต๊ะน้ำชาก็ยังใช้ไม้มะฮอกกานีคุณภาพสูง
และอีกด้าน จอขนาดใหญ่กั้นระหว่างห้อง ด้านในมีโซฟาสามตัวกับโต๊ะน้ำชา มีทั้งหมดสามชุด ตู้เครื่องดื่มด้านข้างสามารถดื่มได้ฟรีตามอัธยาศัย น่าจะเป็นพื้นที่สำหรับพูดคุยกัน
ที่มุมผนังมีประตูบานหนึ่งกว้างประมาณหนึ่งเมตร เป็นห้องน้ำอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ประตูห้องน้ำแง้มอยู่ครึ่งหนึ่ง จากช่องประตูซ่งจื่อเซวียนก็เห็นความหรูหราสีทองด้านในได้ แม้แต่ห้องน้ำยังตกแต่งแบบนี้ ต้องยอมรับประโยคนั้นของถังหย่าฉีจริงๆ ที่ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและความบันเทิงระดับสูงที่สุดของเมืองตู้เหมิน…
ไม่ใช่เพียงแค่นี้ เกรงว่าสถานที่ในอ่าวชิงหลงนั้นจะหรูหราและคุณภาพสูงทั้งหมด ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางจัดตั้งในอ่าวชิงหลงนี้ได้ คิดถึงตรงนี้ ซ่งจื่อเซวียนก็อดเคลิบเคลิ้มไม่ได้
ที่เคลิบเคลิ้มแน่นอนว่าไม่ใช่การเพลิดเพลินไปกับความหรูหรา แต่เป็นการที่ถ้าสักวันหนึ่งตนเองมีอำนาจแล้วจริงๆ สามารถพัฒนาสายอาชีพในสถานที่แบบนี้ให้ดียิ่งกว่าเดิมได้ ทำให้แม่กับพี่สาวมีชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กับตนเองได้
พอถังหย่าฉีเขาไปก็โบกมือทักทายทุกคน คนที่นั่งอยู่มีสิบกว่าคน บ้างก็อยู่กันเป็นคู่ๆ เด็กสาวหนึ่งในนั้นหยุดเสียงเพลงทันที เข้ามาดึงมือถังหย่าฉี “หย่าฉี เธอมาสายนะ พวกเราร้องเพลงกันไปได้สองเพลงแล้ว”
ถังหย่าฉีเอ่ยยิ้มๆ “ที่ไหนกัน เธอดูเวลาสิ ฉันมาถึงก่อนตั้งสองนาทีนะ”
“พอเลย รีบเข้ามานั่งเร็ว” เด็กสาวพูดพลางมองซ่งจื่อเซวียน “หืม เขาเป็นใครน่ะ”
ความจริงแล้วขณะที่เด็กสาวพูดอยู่ คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ก็มองมาที่ซ่งจื่อเซวียนกันไม่น้อย อย่างไรคนเหล่านี้ก็เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกันทั้งนั้น วันนี้พวกเขาไม่ได้จัดให้คนนอกมาด้วย
ถังหย่าฉีหันหน้าไปมองซ่งจื่อเซวียนพลางยิ้ม “เพื่อนฉันเอง มาเป็นเพื่อนฉันน่ะ จื่อเซวียน พวกเราไปนั่งกันเถอะ”
ถังหย่าฉีพูดพลางลากซ่งจื่อเซวียนไปนั่งลงตรงที่นั่งริมสุด
และที่นั่งตรงกลางโซฟาตอนนี้คนที่นั่งอยู่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง อายุยี่สิบต้นๆ รูปร่างกลางๆ ผมปาดเสยไปด้านหลังอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผมสองด้านโกนจนติดหนังศีรษะ สวมชุดลำลองสีดำ มีสไตล์มากอย่างชัดเจน
ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลากลับไม่มีรอยยิ้มประดับอยู่เลย ดวงตาจดจ้องที่ถังหย่ากับซ่งจื่อเซวียนอย่างเอาเป็นเอาตาย แฝงความเป็นอริอย่างชัดเจน
ผู้ชายคนหนึ่งข้างๆ เขาพูดว่า “พี่ข่าย ถังหย่าฉีเธอ…”
ชายที่ถูกเรียกว่าพี่ข่ายยกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้เขาไม่ต้องพูดอะไรอีก หยิบแก้วสุราด้านหน้าขึ้นจิบทันที พิงโซฟาจดจ้องซ่งจื่อเซวียนดังเดิม
และซ่งจื่อเซวียนก็รู้สึกถึงสายตาไม่เป็นมิตรนี้ได้ในขณะเดียวกัน เขามองพี่ข่าย สายตาไม่ยอมถอยเลยสักนิด ขณะเดียวกันก็หัวเราะเบาๆ เล็กน้อย
เห็นบรรยากาศไม่สมานฉันกันอยู่บ้าง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนขึ้นเดินไปหยุดเบื้องหน้าถังหย่าฉี “หย่าฉี เธออย่านั่งริมสิ ไปนั่งกับเฮ่อเหยียนข่ายนู่น”
“ทำไมล่ะ ฉันนั่งนี่แหละ นั่งกับเพื่อนฉันไง” ถังหย่าฉีพูด
พูดประโยคนี้จบ บรรยากาศในห้องส่วนตัวก็อึดอัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนมองไปที่เฮ่อเหยียนข่าย
ความจริงแล้วงานเลี้ยงคราวนี้ไม่ใช่แค่นักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยหนานกวนเท่านั้น ยังมีรุ่นพี่ปีสามบางคนด้วย และเฮ่อเหยียนข่ายก็เป็นนักศึกษาปีสาม
ในมหาวิทยาลัยหนานกวน เฮ่อเหยียนข่ายเป็นท่านชายที่มีชื่อเสียง เฮ่อเหว่ยผู้เป็นพ่อไม่ใช่แค่ถือหุ้นส่วนของตลาดอาหารทะเลหลายแห่งเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีความเกี่ยวข้องกับภาครัฐอยู่บ้าง บวกกับตัวเฮ่อเหยียนข่ายเองก็เรียนเก่ง เขาจึงเป็นเทพบุตรของทั้งมหาวิทยาลัยไปโดยปริยาย
และเทพบุตรตอนอยู่ปีหนึ่งปีสองไม่ได้คบกับผู้หญิงในมหาวิทยาลัย มีคนรู้มาว่าเขามีแฟนสาวนอกมหาวิทยาลัย จนถึงปีสาม ถังหย่าฉีก็เข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ในรุ่นนี้ เฮ่อเหยียนข่ายก็หลงใหลรุ่นน้องคนนี้ทันที
ข่าวเฮ่อเหยียนข่ายจีบสาวก็รับรู้กันทั่วมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว และถังหย่าฉีก็ถูกยอมรับว่าเป็นแฟนของเขาไปเสียอย่างนั้น
นับตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมนี้ เฮ่อเหยียนข่ายแทบจะตามจีบไม่หยุด ไม่เพียงแค่ขอช่องทางติดต่อของถังหย่าฉีผ่านนักศึกษาหญิงเท่านั้น ยังมักจะมารับที่หน้าประตูห้องเรียนหลังเลิกเรียนด้วย แสดงให้เห็นว่าจะไปส่งเธอกลับบ้าน ทว่าถังหย่าฉีมีคนขับรถของตนเอง จึงปฏิเสธทุกครั้งไป
จากนั้นเขาก็ซื้อใจคนรอบตัวถังหย่าฉี ไม่ใช่แค่แนะนำนักศึกษาทายาทเศรษฐีรุ่นสองกับผู้หญิงเหล่านี้ให้เป็นแฟนของพวกเธอ ยังให้พวกเธอช่วยจีบถังหย่าฉีอีกด้วย ความจริงก็เพราะแบบนี้ถึงทำให้ถังหย่าฉีเอือมระอาเหนื่อยหน่าย
ได้ยินถังหย่าฉีปฏิเสธ เฮ่อเหยียนข่ายก็นั่งไม่ติดที่แล้ว เขาลุกขึ้นพูดด้วยรอยยิ้มบาง “หย่าฉี มานี่เถอะ พวกเราไม่ได้ตกลงกันแล้วเหรอว่าเลี้ยงกันแค่ในมหา’ลัยน่ะ ไม่ทราบว่าคุณคนนี้มาจากมหา’ลัยไหนเหรอ”
“เพื่อนของฉันไม่ใช่คนในมหา’ลัยเรา แค่มาเป็นเพื่อนค่ะ พอกินเลี้ยงกันเสร็จ พวกเรายังมีธุระอื่นต้องไปทำอีกค่ะ” ถังหย่าฉีตอบ
เฮ่อเหยียนข่ายเริ่มหงุดหงิด เขาพยักหน้า พูดฝืนยิ้ม “เหอะๆ งั้นเหรอ พวกเธอต้องไปทำอะไรกันล่ะ”
“เรื่องนี้เหมือนจะไม่เกี่ยวกับคุณนะคะ รุ่นพี่!” ถังหย่าฉีกวาดตามองเฮ่อเหยียนข่าย
“เธอ…ก็ได้ เธอมานี่ก่อนโอเคไหม ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เฮ่อเหยียนข่ายไม่เคยต้องอดทนอดกลั้นขนาดนี้มาก่อน ที่ทำกับถังหย่าฉีแบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ยากสักครั้ง
ซ่งจื่อเซวียนยิ้มบางๆ “พี่ชาย มีเรื่องอะไรที่พูดไม่ได้ถึงต้องให้เธอไปนั่งตรงนั้นเหรอ”
เฮ่อเหยียนข่ายมองซ่งจื่อเซวียน อดแค่นหัวเราะออกมาไม่ได้ “นายเป็นอะไรกับหย่าฉีล่ะ เธอจะนั่งตรงไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย งานเลี้ยงวันนี้ฉันจัดให้รุ่นน้องเด็กใหม่ของพวกเรา ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใคร แต่ฉันจะบอกนายให้นะว่าฉันจะรับผิดชอบแค่ค่าใช้จ่ายส่วนของคนในมหา’ลัยเราเท่านั้น ส่วนนาย…ต้องจัดการเอาเอง”
ผู้ชายข้างๆ เฮ่อเหยียนข่ายพูด “ฮ่าๆๆ พี่ชาย ที่นี่ไม่ใช่เคทีวีเล็กๆ แบบในเมืองพวกนั้นนะ ที่นี่คืออ่าวชิงหลงนายรู้หรือเปล่า ค่าใช้จ่ายของพวกเราครั้งนี้ยังไงก็ต้องเจ็ดแปดหมื่นหยวนแหละ นายมีหนึ่งหมื่นก็พอแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นพูดจบ เฮ่อเหยียนข่ายก็หัวเราะ มองซ่งจื่อเซวียนรอเขาตอบกลับ
คนอื่นๆ ก็หัวเราะเช่นกัน ซ่งจื่อเซวียนยังคงสวมเสื้อผ้าปกติเหมือนเคย แวบเดียวก็มองออกว่ามาจากแผงลอยตามถนนราคาสิบกว่าหยวน คนแบบนี้ควักเงินหนึ่งหมื่นหยวนออกมาได้…ก็ไร้สาระอยู่บ้างจริงๆ
ถังหย่าฉีพูด “หนึ่งหมื่นเหรอ ฉันออกให้เขาก็ได้ เรื่องจะใหญ่แค่ไหนกันเชียว”
“เหอะๆ หย่าฉี เธอนี่มีคุณธรรมจริงๆ เลยนะ ช่วงนี้ฉันทำดีกับเธอขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นเธอจะทำอย่างนี้กับฉันบ้างเลย แต่ว่า…” เฮ่อเหยียนข่ายพูดพลางมองซ่งจื่อเซวียน “ไอ้หนู ถ้าแกเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ก็อย่าให้ผู้หญิงจ่ายเงินแทนนายสิ ไม่มีเงินแล้วยังจะรู้จักจีบสาวอย่างคนอื่นเขาด้วยเหรอ”
“หนึ่งหมื่นเหรอ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันไปกดให้!” ซ่งจื่อเซวียนไม่ได้พูดโกหก เมื่อครู่เขาก็เพิ่งถอนมาสามพัน แล้วก็ซื้ออู่เหลียงเย่ขวดหนึ่งให้ชายชรา ตอนนี้เหลือแค่สองพัน แน่นอนว่าไม่พอจ่าย แต่ในบัตรของเขายังมีอยู่อีกหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าหยวน เงินแค่นี้เรื่องเล็กน้อย
แต่ทันทีที่ซ่งจื่อเซวียนพูด ทุกคนในที่แห่งนั้นก็ขำขันกันสุดๆ เฮ่อเหยียนข่ายหัวเราะจนน้ำตาไหล “กดเงินเหรอ พี่ชายล้อฉันเล่นหรือไง ตลกเป็นบ้า นี่เป็นมุกที่ลิงส่งนายมาเล่นตลกที่นี่หรือไง ตอนนี้ยังใช้เงินสดกันที่ไหนเล่า บ้านนอก!”
“ฉันเดาว่าเขาน่าจะเอาสมุดบัญชีของที่บ้านไปถอนเงินล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ จีบสาวใช้เงินมรดกล่ะ ไอ้หนู นายนี่พยายามดีนะเนี่ย!”
ผู้ชายอีกคนพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะกันยิ่งกว่าเดิม
ถึงซ่งจื่อเซวียนจะค่อนข้างสงบนิ่ง แต่ถังหย่าฉีโกรธแล้วจริงๆ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนพาซ่งจื่อเซวียนมา ปล่อยให้คนพวกนี้สบประมาทขนาดนี้ เธอย่อมรับไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ตอนที่เธอคิดจะลุกขึ้นพูด จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออก พนักงานผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสูทผูกโบหูกระต่ายเดินเข้ามา
“รบกวนทุกท่านแล้ว ไม่ทราบว่าท่านไหนคือคุณซ่งเหรอครับ”
ซ่งจื่อเซวียนมองปฏิกิริยาในห้องก็มั่นใจว่าคนพวกนี้ไม่มีใครแซ่ซ่งสักคน ยืนขึ้นทันที “ผมเอง มีเรื่องอะไรครับ”
“คือผมจะมาเรียนคุณสักหน่อยว่า บิลของห้องส่วนตัวมีคนชำระแทนคุณแล้ว เมื่อคุณพักผ่อนหย่อนใจเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถออกจากที่นี่ได้เลยครับ”
เสียงหัวเราะทั้งหมดหยุดชะงักทันที…
………………………………………….