เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 312 การไลฟ์สด
ตอนที่ 312 การไลฟ์สด
……….
ประโยคของซ่งจื่อเซวียนทำให้ทุกคนรอบตัวตื่นตกใจ
แค่ประชันฝีมือการทำอาหารเท่านั้น ยังต้องเดิมพันด้วยชีวิต ต้องถึงขั้นนั้นเลยเหรอ…
เลคริเซียสก็เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าในใจของเขาคิดไม่ถึงว่าซ่งจื่อเซวียนจะสู้เต็มที่ขนาดนี้ ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อการแข่งขันครั้งนี้
“ซ่ง นายล้อเล่นอะไรน่ะ”
“เปล่าสักหน่อย กล้าเอาชีวิตเดิมพันไหมล่ะ วันนี้ใครแพ้ จะฆ่าตัวตายหน้างานทันที เลคริเซียส นายคงไม่กลัวใช่ไหม”
“นาย…”
พูดตามตรง เดิมทีเลคริเซียสก็แอบไม่มั่นใจอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งใจฝ่อเข้าไปอีก
เขาสงสัยมาตลอดว่าซ่งจื่อเซวียนมีความสามารถที่จะเอาชนะเขาได้ ตอนนั้นที่เห็นซ่งจื่อเซวียนนอนหลับจึงไม่กล้าปลุกเขา
ต่อมาภายหลังเมื่อได้สติ ก็มีความคิดสงสัยผุดขึ้นมาจริงๆ
หรือพูดให้ถูกต้องคือ หลังจากเห็นซ่งจื่อเซวียนแล้ว เขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้!
“เหอะๆ อยากให้แฟนคลับพวกนั้นของนายเห็นสภาพของนายในตอนนี้จริงๆ กลัวแล้วใช่ไหม”
ขณะพูด ซ่งจื่อเซวียนก็มองไปรอบๆ “ใครมีแฟนคลับค่อนข้างเยอะบ้าง มาไลฟ์สดหน่อย คงจะดังน่าดูเลยแหละ เลคริเซียสผู้ที่แข็งแกร่งมาตลอด ก็มีด้านที่ขี้กลัวกับเขาด้วย!”
เลคริเซียสกำหมัดแน่น พลางพูดในใจว่าไอ้หนุ่มคนนี้ แข่งก็แข่ง ทำไมต้องเพิ่มของอะไรมากมาย
และที่พูดไม่ออกยิ่งกว่านั้นคือ ไอ้หมอนี่เล่นเอาชีวิตเป็นเดิมพัน!
ไม่ว่าอย่างไรเลคริเซียสจะไม่ยอมตกลงแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนมากมาย จึงยากที่จะเอ่ยปากจริงๆ
แต่ในเวลานี้เอง มีเสียงหนึ่งดังมาจากกลุ่มฝูงชน
“ฉันมีๆ ฉันจะไลฟ์สดเอง พวกคุณเริ่มกันได้เลย”
คนที่พูดเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบปีต้นๆ ตอนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเมื่อครู่กลับไม่มีใครสังเกต แต่พอเดินออกมาตอนนี้กลับดึงดูดสายตาของทุกคนทันที
หญิงสาวหน้าตาสะสวย ใบหน้าขาวผ่อง ผิวพรรณนวลดูขาวอมชมพู ดูราวกับผู้หญิงในภาพวาดหมึกจีน
เธอใส่ชุดสีดำทั้งตัว ดูเรียบร้อยและเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่ออยู่คู่กับใบหน้าที่เรียวเล็กไร้ที่ติ กลับดูเป็นทางการอยู่เล็กน้อย ไม่ค่อยเข้ากัน
ประโยคนี้ทำให้เลคริเซียสงุนงงอย่างสิ้นเชิง ใครโผล่มาจากไหนอีกวะ แถมยังอยากไลฟ์สดด้วย
ซ่งจื่อเซวียนก็ตกตะลึงเช่นกัน ความจริงเขาพูดเช่นนี้เพื่อสร้างบาดแผลรุนแรงทางจิตใจให้เลคริเซียสก่อนแข่งขัน
แต่ใครจะรู้ว่า…จะมีอยู่คนหนึ่งจริงๆ
ทั้งยังเป็นผู้หญิงสวยอีกด้วย
ผู้หญิงสวยคนนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นการล้มล้างนิยามความงามของผู้หญิงสวยของคนส่วนใหญ่ก็ว่าได้ แบบนี้…จึงจะเรียกว่าผู้หญิงสวย
แม้แต่ซ่งจื่อเซวียนก็ยังแอบชื่นชม ผู้หญิงคนนี้สวยจนคนพูดไม่ออก กระทั่งยากที่จะหาคำมาบรรยาย
เมื่อเทียบกับถังหย่าฉีแล้ว สูสีพอๆ กัน อย่างไรทั้งสองคนก็มีสไตล์ไม่เหมือนกัน ดูจากอายุ เธอน่าจะอายุมากกว่าถังหย่าฉีสองสามปี ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้าง
“คุณ…จะไลฟ์สดเหรอ” ซ่งจื่อเซวียนถามด้วยสีหน้างุนงง
“ค่ะ คุณบอกว่าอยากให้คนไลฟ์สดไม่ใช่เหรอคะ ฉันมีแฟนคลับสองล้านคน น่าจะพออยู่ใช่ไหมคะ”
ผู้หญิงคนนี้พูดช้าและนิ่งมาก สีหน้านิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ มีความเย็นชาอย่างชัดเจน
และยิ่งเป็นแบบนี้ ผู้ชายที่อยู่โดยรอบก็ยิ่งสนใจผู้หญิงสวยจอมเย็นชาคนนี้มากยิ่งขึ้น
แต่ความเย็นชาแบบนี้ ให้ความรู้สึกว่ามองได้แต่จับต้องไม่ได้จริงๆ
“เอ่อ พอ พอครับ”
ซ่งจื่อเซวียนพูดจบก็หันหน้ามองไปทางเลคริเซียส “มาเลย ตรงนั้นไลฟ์สดอยู่ คงจะมีคนดูนายหลักพันเป็นอย่างน้อย พวกเรามาพูดถึงการเดิมพันกันเถอะ”
เป็นดังคาด จำนวนคนดูออนไลน์ในหน้าจอไลฟ์สดของผู้หญิงคนนั้นพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เธอเล่นบัญชีนี้มาช่วงหนึ่งแล้ว เนื่องจากหน้าตาที่สะสวย แฟนคลับจึงเพิ่มขึ้นไวมาก
แต่เธอไม่เคยไลฟ์สดมาก่อน พอเปิดการไลฟ์สด จึงดึงดูดแฟนคลับมาเข้าชมได้เยอะมาก
และที่สำคัญที่สุดคือ ภาพหน้าปกการไลฟ์สดของเธอก็คือซ่งจื่อเซวียนปะทะเลคริเซียส ภาพแบบนี้ยิ่งดึงดูดผู้คนได้มากมายจากอินเทอร์เฟซเดียวกัน
ในตู้เหมิน ตอนนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเลคริเซียส และวิดีโอสั้นของเขาได้เผยแพร่ไปทั่วประเทศ แฟนคลับทะลุแปดล้านคนแล้ว ตอนนี้ขอแค่มีคนถ่ายคลิปเขาก็สามารถกลายเป็นประเด็นร้อนได้
เพราะฉะนั้นด้วยการตั้งภาพหน้าปกไลฟ์สดของผู้หญิงคนนี้ จำนวนแฟนคลับจึงเพิ่มขึ้นภายในพริบตา
เมื่อได้ยินดังนั้น เม็ดเหงื่อก็หยดลงจากหน้าผากของเลคริเซียส
“ซ่ง จำเป็นต้องเดิมพันด้วยชีวิตเหรอ”
ซ่งจื่อเซวียนเชิดหน้าเล็กน้อยแล้วหัวเราะพูดว่า “มาเลย เป็นผู้ชายก็ต้องเดิมพันด้วยชีวิต นายจะกลัวอะไร”
เลคริเซียสหายใจหอบ เงียบไปพักหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกโกรธอยู่ในใจ และไฟโกรธนั้นรุนแรงมาก
บวกกับแต่ละประโยคที่ซ่งจื่อเซวียนพูดติดต่อกัน ตอนนี้เขาทนรับไม่ไหวแล้วจริงๆ
หลังจากสองสามนาทีผ่านไป เลคริเซียสก็ถลึงตาทั้งสองข้าง “เดิมพัน ฉันขอเดิมพันชีวิตกับนาย!”
“โอเค หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ เพิ่มเดิมพันด้วยชีวิต พวกเราเริ่มกันเถอะ!”
เลคริเซียสไม่พูดอะไรอีก เดินไปที่เตาไฟทันที
เวลานี้ ในใจของเขารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะนี่คือการแข่งขันที่เดิมพันด้วยชีวิตเป็นครั้งแรก
ประเด็นสำคัญที่สุดคือ นี่คือการแข่งขันทำอาหารกับคนอื่นที่ไม่มีความมั่นใจเป็นครั้งแรก…
ชั่วเวลาหนึ่ง ความโหดอำมหิตในใจและความมั่นใจก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงความกระสับกระส่ายและความหวาดกลัวเท่านั้น
ตอนนี้ ไลฟ์สดก็ระเบิดเหมือนกัน ยากที่จะอ่านความคิดเห็นทัน ข้อความถล่มมาอย่างรวดเร็ว
‘โอ้พระเจ้า คนนั้นใช่ไหม เขาท้าทายพ่อครัวที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองตู้เหมินของพวกเรา’
‘ว้าว เลคริเซียสนี่นา ยังหล่อเหมือนเดิม เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครน่ะ’
‘ไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้เป็นไอ้ตัวซวยคนไหนที่ได้แข่งกับเลคริเซียส ฉันพนันว่ามือไหม้ภายในสามนาทีแน่’
‘ไม่ถูกสิ วันนี้สภาพของเลคริเซียสดูไม่ค่อยดีเลย ดูสิ เหงื่อออกเยอะมาก เส้นผมก็พันกันแล้ว!’
‘นั่นคือซ่งจื่อเซวียนใช่ไหม ฉันเคยเห็นเขาแข่งกันท่านเป้ยเล่อมาก่อน สู้ๆ นะ พ่อครัวตู้เหมินของพวกเรา!’
พอดูความคิดเห็นไปสักพักหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ดูแล้ว แต่มองไปที่ซ่งจื่อเซวียนกับเลคริเซียส
ใบหน้าของเธอจากเมื่อครู่จนถึงตอนนี้แทบจะเหมือนเดิม หน้านิ่งไร้อารมณ์ ถึงขนาดพูดได้ว่าเย็นชา
การเลือกวัตถุดิบในครั้งนี้ซ่งจื่อเซวียนเลือกตามความคิดของหวังเฉิงยง โดยพื้นฐานแล้วขอเพียงเป็นคนที่เข้าใจอาหารจีน มองปราดเดียวก็รู้ว่าเหมาะกับการตุ๋น
ซ่งจื่อเซวียนเห็นเลคริเซียสหยิบหม้อเซรามิกมาวางบนเตาก็แอบหัวเราะในใจ ตาแก่หวังเก่งจริง เลคริเซียสจะตุ๋นจริงๆ ด้วย
นึกถึงตรงนี้ ซ่งจื่อเซวียนก็วางกระทะเหล็กเขียวบนเตาไฟทันที
พอเห็นฉากนี้ หลายคนจึงตกตะลึง รวมถึงหูเจิ้นและคนอื่นที่อยู่ข้างๆ ต่างไม่เข้าใจความหมายของซ่งจื่อเซวียน
หูเจิ้นโวยวายเบาๆ “นายท่านรอง นี่คือวัตถุดิบที่ใช้ตุ๋นนะ…”
แทแรนติโนได้ยินก็พูดขึ้นว่า “หุบปากซะ ไม่งั้นฉันจะต่อยนาย…”
ยังพูดไม่ทันจบ ฟางรุ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็ขึงตาใส่เขาหนึ่งที “ลองต่อยดูสิ วันนี้ฉันจะทำให้ชีวิตของนายโดนทิ้งไว้ที่นี่!”
“หึ อย่างน้อยก็เท่าเทียมกันนี่ จะพูดเตือนทำไม” แทแรนติโนพูด
ฟางรุ่ยกลอกตาใส่เขาหนึ่งที ไม่สนใจอีก
แต่หูเจิ้นกลับตะโกนอีก “นายท่านรอง ใช้หม้อดิน…”
ซ่งจื่อเซวียนไม่สนใจ แล้วเริ่มตั้งไฟต่อ…
การผัดไฟแดงพิถีพิถันเรื่องให้กระทะและน้ำมันร้อน ซึ่งก็คือการผัดให้กระทะร้อนก่อน แล้วค่อยเทน้ำมันลงไป
อย่าดูถูกขั้นตอนที่ละเอียดพวกนี้ เทน้ำมันก่อนแล้วให้กระทะกับน้ำมันร้อนพร้อมกัน กับผัดให้กระทะร้อนก่อนแล้วค่อยเทน้ำมันลงไป ดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และตอนนี้ เมื่อเลคริเซียสเห็นฉากนี้หัวเราะเบาๆ
“โง่มาก ฉันคิดว่าจะเก่งแค่ไหน แม้แต่ความรู้พื้นฐานของอาหารจีนก็ไม่เข้าใจ วัตถุดิบพวกนี้จะลงผัดไปเลยเรอะ ถ้าสุกได้ก็คงแปลก!”
เขาหยิบมันฝรั่งลูกหนึ่งมาหั่นเป็นเส้น ด้วยความสามารถในการหั่นของเขาในตอนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องเด็กๆ ไปแล้ว
เวลาประมาณหนึ่งนาทีก็สามารถหั่นมันฝรั่งได้หนึ่งจาน
เห็นขั้นตอนนี้ หูเจิ้นจึงไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ถอนหายใจอย่างจนใจหนึ่งที
“นายท่านรองหนอนายท่านรอง ตอนนี้จะผัดมันฝรั่งทำไม…”
หลี่เหยียนที่อยู่ข้างๆ กลับพูดว่า “เหอะๆ นายท่านรองเก่งกว่าจริงๆ!”
“หืม นายหมายความว่ายังไง”
หลี่เหยียนยิ้มเล็กน้อย “หูเจิ้น วิธีที่ฉันชนะชนะเลคริเซียสเมื่อกี้นายยังจำได้ไหม”
“นาย…ใช้ไฟไง”
“ฉันหมายถึงอาหาร!” หลี่เหยียนเหลือบตามองเขาหนึ่งที
“อาหารเหรอ นายไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
“ถูกต้อง เพราะว่าฉันไม่ได้ทำอะไร ฉันถึงได้ชนะ แต่วิธีของนายท่านรอง…ดูเหมือนจะสูงกว่าฉัน!”
เมื่อพูดจบ หลี่เหยียนก็มองซ่งจื่อเซวียนตรงๆ แววตาแฝงไปด้วยความชื่นชมและเลื่อมใสอย่างชัดเจน
เวลานี้ ภายในไลฟ์สดก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างสนุกสนาน
‘เล่นอะไรน่ะ เขาจะผัดมันฝรั่งเส้นเหรอ ฮ่าๆๆ ไม่ตลกหรือไง’
‘การท้าดวลขั้นสูงแบบนี้ ซ่งจื่อเซวียนจะผัดมันฝรั่งเส้นอะนะ เขาบ้าหรือเปล่า’
‘นี่มันคืออาหารตุ๋นชัดๆ เขาคิดอะไรอยู่ จะหั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นแล้วเอาไปผัดงั้นเหรอ’
‘ฉันว่าเลคริเซียสชนะแน่นอน เฮ้อ จริงๆ แล้วทำอะไรก็เหมือนกัน ขอแค่เขาเล่นไฟ ทุกอย่างก็จบ’
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่เข้าใจคือ ทุกครั้งที่แข่งขัน เลคริเซียสจะลงมือก่อนเสมอ กระทั่งบางครั้งยังไม่รอทำอาหารก็โจมตีแล้ว
แต่วันนี้ไม่ใช่แบบนั้น เลคริเซียสจัดการวัตถุดิบอย่างนิ่งเงียบ แล้วค่อยๆ ใส่หม้อเซรามิก
จากนั้น ก็เปิดไฟเริ่มตุ๋น
อีกด้านหนึ่ง ซ่งจื่อเซวียนหั่นมันฝรั่งเส้นเสร็จเรียบร้อย วางไว้ข้างๆ เพื่อเตรียมทำอาหาร
ต่อจากนั้น เขาจึงผัดน้ำมัน แล้วใส่หัวหอมลงไปในกระทะ
คนที่สายตาเฉียบแหลมจะรู้ว่านี่คือการผัด เลคริเซียสก็เข้าใจเหมือนกัน เขาจึงหัวเราะเล็กน้อย
“ซ่ง ตอนนี้ฉันเอาอยู่แล้ว ต้องดูว่านายจะตั้งรับไหวไหม!”
ขณะพูด เขาใช้สองมือตบไปที่หม้อเซรามิก เปลวไฟสายหนึ่งพุ่งออกมาในทันใด
พอเห็นเปลวไฟ ทุกคนก็เบิกตาโตทั้งสองข้าง พวกหูเจิ้นกลับยิ่งตื่นเต้นขึ้นมา
มีเพียงซ่งจื่อเซวียนคนเดียวที่ยังมั่นคง ไม่มองแม้แต่น้อย ยังผัดหัวหอมต่อไป
‘ออกโรงแล้ว เขาออกโรงแล้ว!’
‘เลคริเซียสเริ่มเล่นไฟแล้ว หล่อมาก!’
‘ซ่งจื่อเซวียนระวังนะ!’
‘ฮ่าๆๆ ยอดเยี่ยม ชอบดูตอนนี้มาก แม่งหล่อจริงๆ ว่ะ!’
เวลานี้เอง จู่ๆ ซ่งจื่อเซวียนก็เบิกตาโตทั้งสองข้าง เหวี่ยงตะหลิวในมือไปหาเลคริเซียสทันที
เปลวไฟที่โจมตีเข้ามา ดับเปลวไฟของเลคริเซียสในพริบตา
ขณะเดียวกัน น้ำมันร้อนที่อยู่ในตะหลิวเหล็กเขียว ก็สะบัดออกไปตามมือของเขาเช่นกัน
‘แม่งเอ๊ย สุดยอดจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าคนคนนั้นจะเล่นไฟเป็นเหมือนกัน!’
‘หล่อมาก ไลฟ์สดวันนี้เท่มากเลย เอ๊ะ แอคนี้เป็นของสาวสวยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไลฟ์สดการแข่งขันการทำอาหารล่ะ’
‘ซ่งจื่อเซวียน สู้ๆ นะ เพื่อชิงเกียรติยศของตู้เหมิน!’
ไม่ใช่แค่ในไลฟ์สดเท่านั้น คนที่อยู่ในงานตื่นเต้นยิ่งกว่า และในตอนนี้…
“อ๊าก…”
เสียงร้องโอดโอยของเลคริเซียสดังเข้ามา เห็นเพียงน้ำมันร้อนที่สะบัดไปโดนใบหน้าของเขา จนเกิดตุ่มพองขึ้นมาทันที…
เลคริเซียสจำเป็นต้องหยุดการโจมตี สองมือป้องใบหน้า “เร็ว รีบเอายาทาแผลลวกมาให้ฉัน!”
……………………………………………
……….