เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 307 ไม่สบายใจ
ตอนที่ 307 ไม่สบายใจ
……….
ด้านหน้าสวนสวินเฟิง
รถดอดจ์อเนกประสงค์สีดำจอดแล้ว จากนั้นเลคริเซียสและฮันเตอร์ก็เดินลงมา
เลคริเซียสหยิบบุหรี่ออกมาจุด จากนั้นก็เงยหน้ามองป้ายสวนสวินเฟิง
“ฮันเตอร์ บางทีนายอาจจะพูดถูก สิ่งที่โจวพูดก็เหมือนกัน ฉันคิดมากเกินไป วันนี้ฉันอยากเห็นว่าความแข็งแกร่งของซ่งจื่อเซวียนคืออะไรกันแน่”
ฮันเตอร์ไม่พูดไม่จา สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือเชื่อฟัง
ทันทีที่ทั้งสองไปถึงประตูหลักของสวนสวินเฟิง พวกเขาก็เห็นประตูเปิดแล้ว
มีสองคนเดินออกมา หนึ่งในนั้นเลคริเซียสรู้จัก นั่นคือฟางรุ่ยที่ต้อนรับเขาในวันนั้น
แต่อีกคนยังไม่เคยเห็น
ฮันเตอร์มองดูทั้งสองคน แต่ดวงตาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
การมองหน้ากันระหว่างยอดฝีมือ แม้ว่าจะเป็นการแสดงออกทางสายตาก็ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายได้
“ซ่งจื่อเซวียนให้นายมารับฉันอีกแล้วเหรอ เหอะๆ เป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ แต่วิธีนี้ใช้แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว ฉันไม่หลงกลอีกหรอก”
เมื่อเห็นฟางรุ่ย เลคริเซียสก็ดูเหมือนจะนึกขึ้นได้ทันที
การนอนหลับลึกในวันนั้นเป็นเพียงการแกล้งทำ จุดประสงค์ของเขาคือทำให้เลคริเซียสเชื่อว่าเขาไม่สนใจการแข่งขันครั้งนี้
แต่สิ่งที่เขาทำจริงๆ คือซื้อเวลาและฝึกฝนมากขึ้นในตอนกลางคืน
เมื่อพูดจบ เลคริเซียสก็เดินเข้ามาใกล้อีกก้าว “นำทางไป”
ฟางรุ่ยส่ายหัว “ไม่ วันนี้นายท่านรองให้เรามาห้ามพวกนายไม่ให้เข้าไป”
ได้ยินเช่นนี้ เลคริเซียสก็ขมวดคิ้ว “หืม?”
แต่ไม่ช้าเขาก็เข้าใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “เหอะๆ ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ ซ่งจื่อเซวียนคงกลัว”
ฟางรุ่ยและอวี่เหวินเซี่ยวไม่ได้สนใจเขา
พวกเขาทั้งสองคนมีนิสัยคล้ายกัน พวกเขาลงมาก็แค่ทำตามคำสั่งของซ่งจื่อเซวียน จึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับเลคริเซียสแม้แต่คำเดียว
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนเงียบไป เลคริเซียสก็หัวเราะเยาะ “เขาคิดว่าพวกนายจะหยุดฉันได้เหรอ”
ทั้งสองยังคงไม่มีปฏิกิริยา เพียงแต่ใบหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความไม่แยแสและการปฏิเสธ
“ไม่ว่ายังไงฉันก็จะเจอซ่งจื่อเซวียน ฮันเตอร์!”
แม้ว่าฮันเตอร์จะยังไม่ได้ลงไม้ลงมือกับอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงรัศมีที่ไม่ธรรมดาของสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น คำสั่งของเลคริเซียสถือเป็นที่สุด เขาก้าวเข้ามาแล้วคว้าคอเสื้ออวี่เหวินเซี่ยวไว้
ฝ่ามือใหญ่ยังไม่ได้แตะอวี่เหวินเซี่ยว เขาก็เห็นอีกฝ่ายหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นท่าหมุนตัว ยากที่จะจับไว้ได้
เห็นเช่นนี้ดวงตาของฮันเตอร์ก็เบิกกว้าง อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมืออย่างที่คิดไว้จริงๆ
“เหอะๆ คนใกล้ชิดของซ่งจื่อเซวียนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แต่…ฉันจะเข้าไปอยู่ดี!”
เมื่อสิ้นเสียง เลคริเซียสก็เบิกตากว้างอย่างฉุนเฉียวทันที จากนั้นก็ง้างมือไปจับฟางรุ่ย
ทันใดนั้นฝ่ามือก็กลายเป็นกรงเล็บและคว้าไปที่คอของฟางรุ่ย
ฟางรุ่ยพลันถอยไปครึ่งก้าว ก้มตัวไปข้างหลังเพื่อหลบการโจมตี ขณะเดียวกันก็ยกเท้าเตะเลคริเซียส
ระดับความแข็งแกร่งสามารถตัดสินได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ในขณะที่เลคริเซียสหลบฟางรุ่ย เขาก็ไม่กล้าประเมินอีกฝ่ายไว้ต่ำอีก
“ฮันเตอร์ เราเจอคู่ต่อสู้แล้ว”
อีกด้านหนึ่ง ฮันเตอร์ก็ติดพันกับอวี่เหวินเซี่ยวเช่นกัน
“ใช่ แล้วก็ลำบากมากด้วยครับ”
ในเวลานี้ ฟางรุ่ยและอวี่เหวินเซี่ยวดูเหมือนจะมีสัญญาณลับสื่อถึงกัน จึงเข้าไปโจมตีพวกเขาพร้อมกัน
การโจมตีนั้นรวดเร็วและทรงพลังมาก เลคริเซียสและฮันเตอร์จำเป็นต้องถอย
“ถอย!”
เลคริเซียสตะโกน ทั้งสองคนพลันถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็วถึงจะรอดพ้นการโจมตีของฟางรุ่ยและอวี่เหวินเซี่ยว
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ต้องการถอย พวกฟางรุ่ยก็ไม่ได้ไล่ตามพวกเขาอีก แต่ยืนอยู่ที่เดิมและมองดูพวกเขาอย่างเยือกเย็น
ท่าทางแบบฉันจะมองนายออกไป
เลคริเซียสและฮันเตอร์ก็มองหน้ากัน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินกลับไปที่รถ
รถสตาร์ทและขับออกไปจากหน้าร้านสวนสวินเฟิง ฟางรุ่ยและอวี่เหวินเซี่ยวจึงหันหลังเดินกลับเข้าไป
ภายในรถ เลคริเซียสปรับการหายใจแล้วเอ่ย “ทำไมไม่มีใครให้ข้อมูลนี้กับฉันล่ะ นึกไม่ถึงว่าซ่งจื่อเซวียนจะมียอดฝีมือดีถึงสองคน”
ฮันเตอร์พยักหน้า “นั่นสิครับ ความแข็งแกร่งของพวกมัน แม้แต่ในค่ายกองกำลังพิเศษของอเมริกา พวกมันก็คงถูกเรียกว่าเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งได้”
เลคริเซียสกัดฟัน “มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ คนแบบนี้ทำได้แค่ต่อยตีเท่านั้น ค่ายกองกำลังพิเศษต้องการคุณสมบัติครบถ้วน พวกมันยังตามหลังอยู่เยอะ”
ฮันเตอร์ส่ายหัวอย่างจนใจและครุ่นคิดกับตัวเอง ‘คุณรู้ได้ยังไงว่ามันยังขาดคุณสมบัติที่ครบถ้วน…’
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของแทแรนติโน ฉันต้องเจอเขาตอนนี้ เดี๋ยวนี้!”
ฮันเตอร์ได้แต่ถอนหายใจ ติดต่อหาแทแรนติโนให้เขามาพบเลคริเซียสที่วิลล่าทันที
…
ในสวนสวินเฟิง ซ่งจื่อเซวียนยังกำลังนั่งอ่านหนังสือสูตรอาหารราชวงศ์ชิงที่โต๊ะโดยไม่สะทกสะท้าน
ถึงขนาดที่ว่าเมื่อครู่นี้ที่เขาได้ยินเสียงการต่อสู้จากชั้นล่าง เขาไม่แม้แต่จะลุกขึ้นมาดูด้วยซ้ำ
ในความคิดของเขา หากอวี่เหวินเซี่ยวและฟางรุ่ยหยุดเลคริเซียสไม่ได้ เขาดูไปก็ไม่มีประโยชน์
สู้นั่งอ่านหนังสือสูตรอาหารแล้วรอผลลัพธ์จะดีกว่า
ในไม่ช้า พวกฟางรุ่ยทั้งสองคนก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน
ซ่งจื่อเซวียนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าพวกเขาปลอดภัยดีก็คลี่ยิ้มเล็กน้อย “ไปแล้วเหรอ”
“ครับ นายท่านรอง แต่เกรงว่าฝีมือของพวกมันจะไม่ธรรมดาเลย อวี่เหวินเซี่ยวกับผมรู้สึกว่าสองคนนี้อาจจะมีภูมิหลังพิเศษ”
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้าช้าๆ “แบบนี้นี่เอง ไม่แปลกใจที่หยิ่งขนาดนี้ มีพื้นฐานไหม”
อวี่เหวินเซี่ยวก้าวเข้ามาใกล้ “มีครับนายท่านรอง แม้ว่ากังฟูของพวกมันจะต่างออกไป แต่ก็เห็นได้ว่าพวกมันทั้งคู่เริ่มฝึกพื้นฐานจากมวยทหาร เพราะงั้นสองคนนี้ต้องเคยเป็นทหาร แถมการโจมตีของพวกมันยังว่องไวและโหดเหี้ยม เป็นไปได้สูงว่าจะมาจากค่ายกองกำลังพิเศษ”
“อาศัยเล่ห์เหลี่ยมพวกนี้บังคับให้เชฟแข่งกับพวกมัน แล้วก็ใช้การควบคุมไฟมาทำร้ายเชฟ…”
ขณะที่ซ่งจื่อเซวียนพูดก็ถอนหายใจ “ครั้งนี้เป็นหายนะของวงการอาหารตู้เหมินจริงๆ ดูเหมือนว่า…การกำจัดเลคริเซียสตั้งแต่เนิ่นๆ คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเหมือนกัน”
“นายท่านรอง คุณอยากอยู่อย่างสงบสุขไม่ใช่เหรอ…” ฟางรุ่ยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
ซ่งจื่อเซวียนคลี่ยิ้ม “เพราะงั้นวันนี้ฉันถึงได้ไล่พวกมันออกไป แต่นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว ฉันเอาแต่รู้สึกว่า…มีบางอย่างที่ไม่สบายใจ”
“ไม่สบายใจเหรอ”
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้า “ใช่ ฉันก็บอกได้ไม่ชัดว่ามันคืออะไร เอาล่ะ พวกนายออกไปพักผ่อนกันก่อน ฉันจะพักอีกสักหน่อย”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จากไป
เมื่อครู่นี้ซ่งจื่อเซวียนยังไม่ได้เป็นอะไร ทว่าคราวนี้เขาพลันรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่เขาไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน…
…
ช่วงบ่าย วิลล่าของเลคริเซียส
แทแรนติโนสวมเสื้อกันลมเดินเข้ามาแล้วเอ่ย “ฮันเตอร์ ขอน้ำเย็นให้ฉันสักแก้ว อากาศที่ตู้เหมินร้อนจะตายแล้วเนี่ย”
ขณะที่พูด เขาก็ปลดเสื้อกันลมและเสื้อเชิ้ตออก เผยให้เห็นเสื้อกั๊กสีเทาเข้มและกล้ามเนื้อด้านใน
หลังจากดื่มน้ำเย็นแก้วใหญ่แล้ว เขาก็เดินไปด้านหน้าเลคริเซียสและนั่งลงบนโซฟา “มีอะไรเหรอเลคริเซียส ทำไมถึงรีบร้อนเรียกฉันมา”
เลคริเซียสมองแทแรนติโนโดยไม่พูดอะไร แต่แววตาของเขากลับมีความเย็นชา
“นี่ พี่ชาย ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะ แบบนี้มันทำให้ฉันอึดอัดนะ”
เลคริเซียสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และวางไวน์แดงในมือไว้บนโต๊ะกาแฟ
“แทแรนติโน นายช่วยให้ข้อมูลที่แม่นยำกับฉันได้ไหม”
“หืม นายหมายความว่าไง ข้อมูลฉันแม่นมากนะ!” แทแรนติโนพูดอย่างมั่นใจ
เลคริเซียสได้ยินก็พูดอย่างเย็นชา “งั้นเหรอ สิ่งที่นายให้ฉันมันเป็นขยะ เมื่อวานฉันเจอซ่งจื่อเซวียนแล้ว”
“จริงเหรอ พวกนายตัดสินใจดวลกันแล้วเหรอ อ๋อไม่สิ มันเป็นการแข่งขัน พระเจ้าช่วย มีแค่ผีเท่านั้นที่ยอมใช้วิธีนี้ ถ้าเป็นฉันคงซัดมันให้กระจุย!”
เลคริเซียสเหลือบมองฮันเตอร์แวบหนึ่ง อีกฝ่ายก็มีสีหน้าดูจนใจเช่นกัน
“ซัดกระจุยเหรอ นายไปลองดูสิ!” เลคริเซียสกล่าว
เห็นได้ชัดว่าแทแรนติโนไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรจึงพูดว่า “นาย…พูดถึงอะไร”
“เมื่อวานฉันวางแผนว่าจะแข่งกับซ่งล่วงหน้า แต่ดันถูกมันหลอก วันนี้ฉันไปอีกรอบก็มีผู้ติดตามสองคนที่ใกล้ชิดกับมันมาห้ามไม่ให้เราเข้าไป!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แทแรนติโนก็หัวเราะ “ฮ่าๆๆ ฉันขอบอกหน่อยนะเลคริเซียส นายยังใจดีเกินไป ถ้าเป็นฉัน ฉันจะใช้หมัดของฉันแก้ปัญหาเลย”
“หึ หมัดของนายเหรอ นายก็พอๆ กับฮันเตอร์นั่นแหละ”
แทแรนติโนดูเหมือนจะตระหนักบางอย่างได้จากประโยคนี้ เขาจึงเก็บรอยยิ้มแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกนายสู้กันเหรอ”
“ใช่ แล้วเราก็แพ้พวกมัน แทแรนติโน นายนึกภาพไม่ออกหรอก ถ้าอยู่ในพื้นที่ปิด ฉันกล้ารับประกันได้เลยว่าเราจะถูกกระทืบถึงตาย!”
คำพูดนี้ทำให้แทแรนติโนและลูกน้องของเขาอึ้งไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ความแข็งแกร่งของฮันเตอร์ถือว่าอยู่ในระดับท็อปของกองกำลังพิเศษ ถูกเรียกตัวมาก่อนที่เขาจะปลดประจำการจากกองทัพด้วยซ้ำ
สามารถพูดได้ว่า ฮันเตอร์ละทิ้งกองกำลังพิเศษของอเมริกาไม่ใช่เพราะความกลัวแน่นอน แต่เป็นเพราะเลคริเซียสเสนอค่าตอบแทนที่สูงมากต่างหาก
และพวกเขายังรู้จักความแข็งแกร่งของเลคริเซียส ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อสิบปีก่อนเคยเป็นที่รู้จักในฐานะทหารรับจ้างสากลที่ทำให้ผู้คนปวดหัวมากที่สุด
แต่เพราะความหลงใหลในการทำอาหาร เขาจึงออกจากอาชีพทหารรับจ้าง
แม้แต่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้ จึงสามารถจินตนาการความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้
แทแรนติโนหายใจเข้าลึกๆ “เอ่อ…ลูกน้องของมันงั้นเหรอ ผู้ติดตาม?”
“หึแล้วจะเป็นอะไรล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้สู้กับซ่งเลย ถ้าเขาเป็นยอดฝีมือที่ได้รับการยอมรับของจีน แทแรนติโน ฉันกล้ารับประได้เลยว่าฉันจะฆ่านาย!”
คำพูดนี้ทำให้แทแรนติโนที่มีท่าทีสบายๆ เมื่อครู่นี้รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
แม้ว่าเขาจะมีตำแหน่งสูงสุดในบรรดาลูกน้องของเลคริเซียส และทั้งสองคนก็นับถือเป็นพี่น้องกัน แต่หากเลคริเซียสต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ ก็คงไม่มีทางเลือก
“เอ่อเลคริเซียส บางทีฉันอาจจะประมาทไป ฉันจะไปสืบข่าวให้อีกครั้ง”
“ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ แล้วจะไปสืบข่าวทำไมอีก ทางหวงฟาเป็นยังไงบ้าง”
พูดถึงตรงนี้ แทแรนติโนก็ยิ้มเล็กน้อย “ฉันรับรองว่าข่าวนี้จะทำให้นายสบายใจ หวงออกจากตึกสำนักงานของเขาแล้ว ตอนนี้พักอยู่ในชุมชนที่เรียกว่าสวนชุ่ยหย่า ที่นั่นน่าจะเป็นที่ที่คนรักของเขาพักอยู่”
“เอ๋ เริ่มโผล่หัวมาแล้วเหรอ”
“ฉันคิดว่าเป็นแบบนั้น” แทแรนติโนพยักหน้า
เลคริเซียสครุ่นคิด “เอาล่ะ พักสักหน่อยแล้วพวกนายก็ไปพาหวงฟามาหาฉัน ฉันอยากให้เขาพูดบางอย่างกับฉันด้วยตัวเอง”
“ไม่ต้องห่วง คราวนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ฉันจะพาหวงฟามาที่นี่แบบตัวเป็นๆ เลย”
เมื่อพูดจบ แทแรนติโนก็หยิบเสื้อกันลมขึ้นมาแล้วลุกขึ้นยืน “คาเรน ฉันไม่พักแล้ว นายล่ะ”
“เหมือนกันครับ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกจากวิลล่าไป
เลคริเซียสขุ่นเคืองขนาดนี้ แทแรนติโนไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป จึงมุ่งหน้าตรงไปที่บ้านพักของหวงฟา
…
ในสวนสวินเฟิงเวลานี้ ความไม่สบายใจของซ่งจื่อเซวียนยังคงดำเนินต่อไป
จนถึงขั้นไม่สามารถอ่านหนังสือสูตรอาหารได้อีก
เขานอนฟุบลงบนโต๊ะและเหม่อลอยเป็นเวลานาน ใบหน้ายิ่งกังวลมากขึ้น
ในที่สุดเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรออก
“เสี่ยหวง ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”
……………………………………………….