เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 302 เต้าหู้เหม็นอาบน้ำ
ตอนที่ 302 เต้าหู้เหม็นอาบน้ำ
……….
ในตอนนี้เหลียงฮั่นอดกลืนน้ำลายไม่ได้ แม่มันเถอะ เด็กคนหนึ่งและเด็กหนุ่มคนหนึ่งแค่เดินเข้ามา จะมีอะไรให้กลัวกัน
เขาปลอบตัวเองในใจแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่สบายใจ
อวี่เหวินเซี่ยวข้างๆ ดูไม่ออกว่านี่หมายความว่าอย่างไร สีหน้าค่อนข้างกังวล
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่แน่ใจว่าซางเทียนซั่วมาแล้วจะจัดการเหลียงฮั่นได้
คนคนนี้นับว่าเป็นแนวหน้าของแก๊งขอทาน จะยอมเพราะซางเทียนซั่วกระทืบเขาทีหนึ่งเหรอ
เห็นท่าทางของอวี่เหวินเซี่ยว ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม เดินเข้าไปใกล้แล้วตบที่ไหล่เขา
“วางใจเถอะ จริงสิ ที่นี่มีกาแฟไหม”
“อ้อ มีครับ นายท่านรองจะรับตอนนี้ไหมครับ”
ซ่งจื่อเซวียนยิ้ม “นายบอกฉันไปดื่มตรงไหนก็พอ ฉันไปเองได้”
“ทางนั้นมีห้องพักอยู่ ให้ผมพาไปเถอะครับ” อวี่เหวินเซี่ยวพูดพลางชี้ไปทางหนึ่ง
“เหอะๆ ไม่ต้องหรอก นายอยู่ดูละครที่นี่ก็ได้ ฉันไปเอง”
จากนั้น ซ่งจื่อเซวียนก็เดินออกไป ฟางรุ่ยตามออกไปด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรหน้าที่ของเขาไม่ใช่การมาดูความครึกครื้นอยู่แล้ว แต่มาปกป้องซ่งจื่อเซวียนต่างหาก
เดินออกจากห้องอเนกประสงค์ ฟางรุ่ยพูดว่า “นายท่านรอง คราวนี้เหลียงฮั่นคนนั้นน่าสงสารน่าดู เทียนซั่วคงได้จัดการเขาจนตายแน่เลยครับ”
“เหอะๆ ประมาณนั้นแหละมั้ง ยังไงถ้าไม่มีซางเทียนซั่วก็ถามอะไรไม่ได้ แต่เสี่ยวเป่าฉลาดมาก อนาคตคิดจะช่วยฉันต่อกรกับเลคริเซียสอยู่แล้ว ตอนนี้กลับเอามาเป็นค่าตอบแทนให้เทียนซั่วซะงั้น”
“เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ ถ้าบอกว่าเทียนซั่วโหดเหี้ยม อย่างนั้นเสี่ยวเป่าก็ต้องมากกว่าเขาเท่าหนึ่ง”
พูดจบ ทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา
และในห้องอเนกประสงค์เวลานี้ ซางเทียนซั่วเดินไปเบื้องหน้าเหลียงฮั่น “แกแน่ใจเหรอว่าจะไม่พูดน่ะ”
เหลียงฮั่นเงยหน้ามองซางเทียนซั่ว ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ถึงใจจะเต้นเร็วขึ้นอย่างชัดเจน แต่กำลังควบคุมไว้สุดแรง
“ไอ้หนู ฉันยังจำได้ว่าแกทำท่าหวาดกลัวอยู่ในร้านอาหารวันนั้น!”
ซางเทียนซั่วได้ยินก็ออกแรงพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้าคนนี้คือคนขี้กลัว แต่ยังมีจุดเด่นอย่างหนึ่ง นั่นก็คือใครทำให้ฉันกลัว ฉันก็จะหาโอกาสทำให้เขาตายไง!”
“ฮ่าๆๆ ผีน้อยอยากให้ฉันตายเหรอ เคยฆ่าคนหรือเปล่า เคยถือมีดไหม รู้ไหมว่าฆ่าคนรู้สึกยังไง”
ในสายตาของเหลียงฮั่น ซางเทียนซั่วก็คือเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้พูดอะไรออกมาก็คือโม้ล้วนๆ
ซางเทียนซั่วรู้สึกไม่สนใจ ยักไหล่ด้วยรอยยิ้ม “ข้ายังไม่รู้จริงๆ นั่นแหละ แต่ว่า…ตอนนี้ก็ไม่ได้อยากรู้ ข้าต้องทำให้แกเปิดปากก่อน”
“มาสิ ไอ้หนู ฉันจะคอยดูว่าแกจะใช้ลูกไม้อะไร!”
ซางเทียนซั่วมองตากับกู่เสี่ยวเป่า ทั้งสองคนยิ้มออกมา
“ขอทานน้อย พวกนายให้เขากินข้าวหรือยัง”
“หา? ไม่นะ” กู่เสี่ยวเป่าไม่รู้ว่าซางเทียนซั่วหมายความว่าอย่างไรจึงโพล่งตอบไป
ซางเทียนซั่วคิด “ปัดโธ่ นี่ไม่ใช่วิธีการต้อนรับแขกเลย แต่นายดูสิเขาถูกมัดอยู่ อยากจะกินข้าวด้วยตัวเองเป็นไม่ได้แน่นอน เราป้อนเขากันเถอะ”
“ได้สิ นายทำนะ!” กู่เสี่ยวเป่าพูด
ซางเทียนซั่วหันไปมองอวี่เหวินเซี่ยวทันที “มีกรวยไหม”
“หืม กรวยเหรอ”
“ใช่ เอามาอันหนึ่งสิ”
“อ้อ”
จากนั้น อวี่เหวินเซี่ยวก็ไปหากรวย แต่กำลังจะออกไป เขาก็เห็นกรวยพลาสติกบนพื้นอันหนึ่ง
เขาเดินเข้าไปหยิบขึ้นมา “อันนี้ได้ไหม”
ซางเทียนซั่วมอง เดาว่านี่เป็นสิ่งที่บริษัทที่เช่าที่นี่ก่อนหน้าเหลือทิ้งไว้ เห็นว่าบนกรวยมีคราบสกปรกเต็มไปหมด จะต้องเคยใช้กรองของเหลวสีขาวสักอย่างมาแน่
“ได้สิ ดีมากเลย”
“งั้นเอาไปล้างก่อน”
“ไม่ต้อง” ซางเทียนซั่วรีบเดินเข้าไปแย่งกรวยมา “ล้างอะไรเล่า หายากที่จะใช้มาได้ขนาดนี้นะ”
อวี่เหวินเซี่ยวชะงัก ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
ซางเทียนซั่วเดินไปทางเหลียงฮั่นทันที “เฮ้อ น่าสงสาร หิวแล้วใช่ไหม ข้าจะป้อนให้แกกินสักหน่อยนะ”
เหลียงฮั่นมองซางเทียนซั่วอย่างเย็นชา เขาเคยดูพวกภาพยนตร์มาก่อน มีคนใช้กรวยกรอกแมลงจำพวกแมลงสาบและตั๊กแตนเข้าไปในปากคน
คิดถึงตรงนี้ เหลียงฮั่นก็แค่นเสียงเย็น “ฮึ มาสิ คิดจะป้อนแมลงฉันใช่ไหมล่ะ คนอย่างข้าชอบอาหารโปรตีนสูงๆ มาสิ!”
เหลียงฮั่นยิ่งพูดยิ่งมีอำนาจ เป็นท่าทางที่ไม่กลัวตายจริงๆ
ซางเทียนซั่วส่ายหน้า “นั่นน่าเบื่อไป ถ้าข้าต้องทำเรื่องไร้รสนิยมแบบนั้น รู้สึกว่าจะน่าอายไป”
เขาพูดพลางหยิบกรวยเดินไปหาเหลียงฮั่น
เหลียงฮั่นรู้สึกแค่ว่าหน้าผากมีเหงื่อเม็ดหนึ่งไหลลงมาในฉับพลัน แสดงออกมาว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่ความจริงในใจร้อนรน
โดยเฉพาะเมื่อเห็นกรวยนั่นสกปรกเกินบรรยาย ด้านบนเปรอะไปด้วยคราบของเหลวสีขาว และยังเปรอะดินสีดำเล็กน้อยด้วย
ไม่รู้ว่าเคยผ่านมาแล้วกี่มือกี่เท้า…
เดินไปถึงเบื้องหน้าเหลียงฮั่น ซางเทียนซั่วยกมุมปากขึ้น ทำหน้ายิ้มแย้มตามมาตรฐาน
“มา ไอ้หนุ่ม ดื่มยา”
เขาพูดพลางไม่สนสี่สนแปดอะไรทั้งนั้น ยัดด้านแหลมเข้าไปในปากของเหลียงฮั่น
ตอนนี้เหลียงฮั่นนึกเสียใจเรียบร้อยแล้ว รสชาติขมๆ นั้นส่งผ่านลิ้น รู้สึกอยากอาเจียนออกมาทันที
แต่เรื่องมาถึงจุดนี้ ถ้าเขายอมจำนนก็ล้มแล้วจริงๆ อย่างไรก็ยัดเข้ามาในปากแล้ว เดี๋ยวกินเข้าไปก็ต้องอดทน ไม่อย่างนั้นความขมก่อนหน้านี้จะเสียเปล่า!
แต่ต่อให้เหลียงฮั่นคิดแบบนี้ วินาทีถัดมาเขาก็เปลี่ยนความคิด
“อวี่เหวินเซี่ยว ช่วยฉันจับหัวเขาเอาไว้!”
“ได้!”
อวี่เหวินเซี่ยวเดินมา สองมือจับหัวของเหลียงฮั่นเอาไว้ ต่อให้เขาออกแรงส่ายหัวก็ไม่ขยับ
ซางเทียนซั่วยิ้ม “ขอโทษนะ ข้าปวดฉี่น่ะ”
ซางเทียนซั่วพูดพลางเริ่มถอดกางเกง
เหลียงฮั่นรังเกียจ แรกเริ่มเขายังคิดว่าซางเทียนซั่วจะโม้ แต่พอเห็นว่าคนคนนี้ล้วงออกมาจริงๆ กระเพาะก็เริ่มคัดค้านทันที
เขายอมแล้ว
จริงๆ นะ ไม่อวดเก่งอีกแล้ว
เขาอยากยอมจำนน
แต่…ไม่มีโอกาส
ศีรษะถูกอวี่เหวินเซี่ยวใช้แรงทั้งหมดล็อกไว้ กรวยยัดเข้ามาในปากแล้ว จะพูดก็ไม่มีใครได้ยิน ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้
ไม่ใช่แค่นี้ ตอนนี้ซางเทียนซั่วเริ่มผิวปากแล้ว
เหลียงฮั่นอยากร้องแต่ไม่มีน้ำตา ทำได้แค่ปิดตาทั้งสองข้าง รอเผชิญหน้ากับความรังเกียจที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนตั้งแต่เล็กจนโต
เขาสาบานเงียบๆ ในใจ ถ้าขยับได้เมื่อไร สิ่งแรกที่จะทำก็คือฆ่าซางเทียนซั่ว
ระหว่างที่คิด รสสัมผัสอุ่นร้อนก็ค่อยๆ ไหลเข้าไปในปาก นับตั้งแต่วินาทีถัดไป น้ำก็ไหลแรงขึ้น…
อวี่เหวินเซี่ยวมองอย่างเหม่อลอย ในที่สุดก็เข้าใจประโยคนั้นของกู่เสี่ยวเป่าแล้ว…ไม่มีซางเทียนซั่วก็ถามอะไรไม่ได้
แม่งชั่วร้ายเกินไปแล้วจริงๆ!
เกียรติและศักดิ์ศรีของยอดฝีมือแนวหน้าของกลุ่มเสื้อผ้าสะอาด วันนี้โดนกรอกปากด้วยปัสสาวะ…พูดออกไปเกรงว่าเหลียงฮั่นคงหมดหนทางที่จะโลดแล่นอยู่ในวงการนี้แล้ว
เห็นกรวยใกล้จะเต็มแล้ว ซางเทียนซั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม่งไม่ดื่มเหรอวะ อวี่เหวินเซี่ยว ถ้านายอยากให้ฉี่พวกนี้สาดลงไปบนรองเท้านาย นายก็อย่าง้างปากเขา”
“หา? อ้อๆ”
อวี่เหวินเซี่ยวไม่อยากจริงๆ โคตรน่ารังเกียจเลย
เขารีบวางมือบนแก้มเหลียงฮั่นและเริ่มออกแรง ก็ง้างปากของเหลียงฮั่นได้ทันที
อึก…อึก
ไม่มีแรงฟันและลิ้นช่วย เหลียงฮั่นที่กำลังถูกล็อกคอแน่นไม่มีทางเลือกเลย รู้สึกแค่ว่าปัสสาวะอุ่นร้อนไหลตามลำคอลงไป
เห็นเหลียงฮั่นสั่นกระตุกเป็นระยะ เห็นได้ชัดว่ารู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา อวี่เหวินเซี่ยวเริ่มจับไว้ไม่อยู่แล้ว
โดยเฉพาะซางเทียนซั่วที่ไม่รู้ว่าร้อนในมาจากไหน กลิ่นแรงมาก
กู่เสี่ยวเป่ายังดี รีบหันหลังเดินออกห่างไปสี่ห้าเมตร ไม่ดูแล้ว ถึงอย่างไรก็โคตรน่าอ้วกเลย
ตอนที่ดึงกรวยออกมา เหลียงฮั่นอาเจียนออกมาทันที
ความขยะแขยงรุนแรงทำให้เขาไม่มีเวลาคิดว่าจะอาเจียนตรงไหนดี เสื้อผ้า กางเกงและพื้นตรงหน้าเปรอะน้ำสีเหลืองทั้งหมด…
เห็นภาพนี้ ซางเทียนซั่วเองก็ค่อนข้างรู้สึกคลื่นไส้ รีบเดินไปไกลๆ สูดลมหายใจลึกๆ ถึงปลอดโปร่งขึ้นเล็กน้อย
เขาหันไปมองเหลียงฮั่นทันที “เป็นไงพี่ชาย ต่อไหม”
เหลียงฮั่นส่งเสียงอาเจียน คิดในใจว่าตนอดทนจนถึงจุดนี้แล้ว ยอมจำนนตอนนี้ก็ไม่ยุติธรรมเกินไป จึงกัดฟันแน่น
“ยังมีอีกเหรอ แม่ง ก็มาสิวะ!”
ซางเทียนซั่วไม่ได้ร้อนรน ลูกเล่นของเขามีอีกเยอะ จนตอนนี้ยังไม่ถึงถุงเท้าสีสันสดใสเลย
“ยอดเยี่ยมเลยหลานชายคนโต!” กู่เสี่ยวเป่าพูด
“เหอะๆ ลูกเล่นวันนี้ไม่ค่อยน่าใช้เท่าไร เมื่อคืนล้างเท้าไป ถ้านายบอกฉันเร็วกว่านี้วันนี้จะมีลูกเล่นนี้แล้ว ฉันรับประกันว่าจะทำให้เขาสลบเหมือดแน่!”
แค่พูดประโยคนี้ออกมา หน้าของอวี่เหวินเซี่ยวที่อยู่ข้างๆ ก็เผยความรังเกียจ…
“เอาเถอะ เอ่อ…ไอ้หมีโง่ งั้นก็ให้แกกินขี้สักหน่อยแล้วกัน ถ้าแกกินขี้แล้วยังไม่พูด พรุ่งนี้ค่อยมาอีก ให้แกลองของดี”
พอได้ยินประโยคนี้ ใจของเหลียงฮั่นก็หล่นตุบทันที บนโลกใบนี้ทำไมถึงยังมีคนน่ารังเกียจขนาดนี้อยู่ด้วยนะ
แต่พอคิด อีกฝ่ายเพิ่งจะฉี่ไป เป็นผู้ชายกันทั้งนั้นจึงไม่ได้พะว้าพะวังอะไร แต่คงไม่ถึงขนาดกับขี้ที่นี่หรอกมั้ง นั่นก็เกินไปแล้ว
คิดถึงตรงนี้ เขาก็พูด “ฮึ ขี้เลยสิ แกขี้ข้าก็กิน”
ซางเทียนซั่วยิ้ม “สมองแกมีปัญหาใช่ไหมเนี่ย แด*เยี่ยวจนโง่ไปแล้วเหรอ ก้อนหยกของข้าคู่ควรให้แกกินเรอะ อวี่เหวินเซี่ยว ไปเอามาจากห้องน้ำสักหน่อย ของใครก็ได้”
“ฉันไม่ไป!”
อวี่เหวินเซี่ยวพูดออกมาแค่สามคำ ท่าทางรังเกียจและแน่วแน่สุดฤทธิ์
“แม่ง ขอทานน้อย เขาไม่เชื่อฟังอะ” ซางเทียนซั่วพูด
กู่เสี่ยวเป่ายักไหล่ “ไม่มีทางเลือก ไม่งั้น…นายก็ไปเองสิ”
“ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ไปเหมือนกัน จริงสิ ได้ละ มีเต้าหู้เหม็นไหม”
เหลียงฮั่นแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ฮ่าๆๆ ถูกปากข้าพอดี เอามาสิ”
ซางเทียนซั่วกลอกตาใส่เขา “ก็สวยสิ เอามาให้แกอาบน้ำไง”
เหลียงฮั่นงุนงง ไอ้หมอนี่อะไรแบบนี้ก็คิดออกมาได้จริงๆ เต้าหู้เหม็นอาบน้ำ?
พูดตามตรง เขาไม่อยากโดน…
รออาบเสร็จ คนพวกนี้ก็ไปแล้ว แต่เขาต้องอยู่ที่นี่ตลอด อีกทั้งเต้าหู้เหม็นเลอะไปทั้งตัว จะรู้สึกยังไงล่ะ
แต่ไม่รอให้เหลียงฮั่นเปิดปาก ซางเทียนซั่วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ช่างเถอะ ยังต้องรอ ยังไงวันนี้ก็ใส่ถุงเท้าของเมื่อวานเหมือนกัน เดาว่ากลิ่นตลอดทั้งวันก็คงไม่ต่างมากหรอก”
ซางเทียนซั่วพูดพลางถอดรองเท้า
เห็นภาพนี้ กู่เสี่ยวเป่าก็วิ่งออกไปด้านนอกทันที ลูกเล่นนี้เขาก็เคยได้ยินมาบ้าง…
อวี่เหวินเซี่ยวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตามออกไปเช่นกัน
เหลือเพียงเหลียงฮั่นคนเดียว เห็นซางเทียนซั่วที่ถอดถุงรองเท้าเดินเข้ามาใกล้ช้าๆ ทั้งสองตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
แต่นี่ยังไม่ใช่การหวาดหวั่นที่สุด ตอนที่กลิ่นโชยมา สองตาของเหลียงฮั่นก็เลื่อนลอย
แม่ง!
นี่เป็นกลิ่นที่โชยออกมาจากเท้ามนุษย์เหรอวะ
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ…
เหลียงฮั่นกรีดร้องตะโกนในใจ คุกเข่าขอร้องไม่เอาเต้าหู้เหม็นอาบน้ำอย่างจริงจัง…
ซางเทียนซั่วเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ไม่รอให้เหลียงฮั่นเปิดปาก เท้าขนาดใหญ่ก็โปะลงไปบนหน้าเขา
กู่เสี่ยวเป่าและอวี่เหวินเซี่ยวที่เห็นภาพนี้ตกตะลึงกันหมด จู่ๆ ก็รู้สึกแบบเดียวกันกับเหลียงฮั่น
ส่วนเหลียงฮั่นส่งเสียงอาเจียนออกมาเป็นระลอกๆ ซางเทียนซั่วกลับไม่หยุด ขยี้เท้าขนาดใหญ่ลงบนหน้าเขา นับว่ากลิ่นนี้ฝังอยู่บนหน้าเขาแล้ว
………………………………………….