เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 548 จะช้าหรือเร็วหัวใจของเธอก็ต้องเป็นของผม ตอนที่ 549 แปลกใจ
- Home
- All Mangas
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 548 จะช้าหรือเร็วหัวใจของเธอก็ต้องเป็นของผม ตอนที่ 549 แปลกใจ
ตอนที่ 548 จะช้าหรือเร็วหัวใจของเธอก็ต้องเป็นของผม
ท่าทางของฉีหย่วนเหิงที่พูดออกมาเมื่อครู่นี้มีความลึกซึ้งไม่น้อย เหมือนกับว่ากำลังไม่พอใจแต่ก็เหมือนว่ากำลังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ต้องรีบทำจริงๆ เธอไม่แน่ใจเลยว่าคืออย่างไหนกันแน่ อดได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
แต่ทว่าพอได้เดินเข้ามาในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามแล้ว ในขณะที่กำลังเดินตามหลังแอร์โฮสเตสที่แสนเอาใจใส่ จู่ๆ เธอก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่ามีอะไรแปลกๆ ยังไงซะเธอก็มั่นใจแล้วว่าเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง แล้วเธอจะมานั่งสนใจเรื่องความคิดของเขาทำไมกัน
ช่างโง่เขลาเสียจริงๆ
เธอถอนหายใจออกมาแล้วหันไปนั่งลงบนเตียง
เมื่อกี้ที่บอกเขาไปว่าอยากจะพักผ่อนก็แค่เรื่องโกหก ตอนนี้สติเธอกำลังตื่นเต็มที่ เธอคิดไปคิดมา ก่อนจะล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋า แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่บนเครื่องบินนี่นาจึงยัดมือถือกลับไปที่เดิมด้วยความหงุดหงิด
เธอล้มตัวลงบนเตียงแล้วลูบท้องตัวเอง ตั้งท้องมาตั้งนานขนาดนี้ ตอนนี้หน้าท้องของเธอเริ่มที่จะนูนขึ้นมานิดหน่อยแล้ว แต่เพราะมันยังเล็กอยู่ ทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในปัจจุบันก็ยังมองไม่ออก
นี่หมายถึงว่าลูกในท้องของเธอเติบโตไปได้ด้วยดีใช่ไหมนะ ได้ยินมาว่าช่วงนี้เด็กจะมีแขนมีขาและดวงตาแล้ว ถ้าได้เห็นด้วยตาตัวเองก็คงจะดีไม่น้อยเลย…
เธอนอนคิดอยู่บนเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ หลับไป
พอมีลูกเธอก็ขี้เซากว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ว่าก็ไม่ได้มากมายอะไร เธอแค่ไม่ทันได้รู้สึกตัวเท่านั้นเอง แต่ทว่าพอเด็กเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ความอ่อนเพลียก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
หลังจากที่เธอหลับสนิทไปแล้ว ประตูห้องที่ถูกปิดสนิทก็ถูกใครบางคนค่อยๆ เปิดออก เงาที่ทอดยาวของฉีหย่วนเหิงปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตู แววตาที่เรียบนิ่งมองไปยังหญิงสาวที่กำลังหลับลึก จากนั้นก็ค่อยๆ เดินเข้าไป
แอร์โฮสเตสสาวที่อยู่ด้านหลังเขาเบิกตามองการกระทำของเขาโดยที่ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่มีใครคิดที่จะไปเตือนเฉียวซือมู่
ฉีหย่วนเหิงเดินไปที่ข้างเตียงของเธอ ดวงตาคู่นั้นกะพริบมองหญิงสาวที่กำลังหลับอุตุ เส้นผมของเธอมันพันกันไปมาอยู่เหนือศีรษะของเธอ มือทั้งสองข้างวางไว้ข้างตัว ใบหน้างดงามมีสีแดงฝาดเลือด ดวงตาปิดสนิท จมูกรั้นเล็กๆ นั่นขยับเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงฉ่ำอ้าออกเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังรอให้เขาเข้าไปจูบ
ตอนที่สายตาของเขาจ้องมองไปที่จุดนั้น หัวใจของเขาก็เต้นแรงสุดๆ
นี่คือผู้หญิงที่อยู่ในความคิดของเขามาตลอดเวลา ก่อนหน้านี้หลังจากที่รู้ว่าเธอได้ตกเป็นของชายอื่นแล้ว เขาเองก็เคยคิดหาวิธีที่จะตัดใจ แต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ ยิ่งเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่สามารถที่จะยับยั้งความหลงใหลที่มีต่อตัวเธอได้เลย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อยากจะยอมแพ้
โดยเฉพาะหลังจากที่ไปอยู่ในที่ที่เงียบสงบจนเกือบจะทำให้คนรู้สึกบ้าขึ้นมาให้ได้แบบนั้นแล้ว ความปรารถนาที่จะได้หัวใจของเธอมันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้เขาไม่สามารถที่จะยับยั้งความรู้สึกในใจของตัวเองไดอีกแล้ว ต้องลงมือด้วยตัวเอง
เรื่องราวผ่านไปได้อย่างราบรื่น เขาได้ตัวเธอมาแล้ว แต่หัวใจนั้นไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน ไม่ต้องรีบ
เขายิ้มขึ้นโดยไม่ส่งเสียงใดๆ ออกไป แววตาที่เปล่งประกายของเขามันเป็นเหมือนดวงดาวในค่ำคืนที่มืดมิด ส่องสว่างเด่นชัด
เขาค่อยๆ ช่วยเธอห่มผ้าห่ม จากนั้นก็จ้องไปที่เธอนิ่งๆ แล้วถึงค่อยได้เดินออกจากห้องๆ ไป
พอเฉียวซือมู่ตื่นขึ้นมาอีกที ก็หันไปมองยังบานกระจกกลมเล็กบนหัวเตียงนั่น ก็รู้สึกแปลใจนิดหน่อย ทำไมหน้าต่างในบ้านถึงได้เล็กลงแบบนั้นกันล่ะ
หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาก็ยกมือขึ้นเขกหัวตัวเอง นอนจนเบลอไปหมดแล้วเหรอ ตอนนี้เธออยู่บนเครื่องบินต่างหาก
หยิบมือถือขึ้นมาดูเล็กน้อย และพบว่าเวลาในตอนนี้เหมือนว่าจะผ่านไปนานพอควรแล้ว อย่างนั้นตัวเองก็คงจะนอนไปเยอะเหมือนกัน
เธอดึงผ้าห่มลงจากตัว และพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มันแปลกไป
ตอนที่ 549 แปลกใจ
หรือว่าเธอจะจำผิดกันนะ แต่เธอจำได้ว่าตอนที่ตัวเองหลับไปก็ไม่ได้ห่มผ้าห่มนี่นา แล้วทำไมตอนนี้ผ้าห่มมันถึงได้มาอยู่บนตัวเธอได้ล่ะ
หรือเธอรู้สึกหนาวตอนที่หลับ เลยสะลึมสะลือหยิบผ้าห่มมาห่มเองอย่างนั้นเหรอ
เธอคิดอยู่ครู่ใหญ่ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีความทรงจำในส่วนนั้นเลย พอหันไปดูที่ประตู ก็พบว่ามันก็ยังปิดสนิทดีจึงส่ายหัว ไม่สนใจเรื่องนี้อีก
ก็คงจะเป็นตัวเองที่สะลึมสะลือขึ้นมาห่มเองนั่นแหละ คงใช่ น่าจะอย่างนั้นแหละ
พอเธอคิดแบบนั้นแล้ว ก็ไม่มัวเสียเวลาอีก ลุกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องทันที
แต่ก็ตกตะลึงงันไปครู่หนึ่ง
จากการคาดคะเนแล้วภายในของเครื่องบินลำนี้ก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรมาก คงจะใหญ่ประมาณห้องชุดห้องหนึ่งได้ละมั้ง พอเธอเดินออกมาจากห้องก็จะเจอกับห้องรับแขก และพบว่าฉีหย่วนเหิงกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา ตรงหน้ามีโน๊ตบุ๊คตั้งอยู่ นิ้วเรียวยาวของเขากำลังกดอยู่บนแป้นพิมพ์อย่างคล่องแคล่ว บนหน้าจอเต็มไปด้วยตัวหนังสือมากมาย ทำเอาเธอรู้สึกตาลายไปหมด
เธอค่อยๆ เดินเข้าไป ไม่อยากจะไปรบกวนเขา แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะความรู้สึกไวขนาดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของเธอได้ทันทีและหันมามองที่เธอ “ตื่นแล้วหรือครับ”
พูดแล้วก็หยุดมือ พร้อมกับพับหน้าจอลง และส่งยิ้มให้เธอ “ยังต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าเครื่องจะลง คุณหิวไหม เดี๋ยวผมให้คนเตรียมอะไรให้คุณทานก่อน”
“ไม่ ไม่ต้องค่ะ” เธอรีบปฏิเสธเขาทันที ดูก็รู้แล้วว่าเขากำลังจัดการเรื่องของตัวเองอยู่ จึงพูดออกไป “คุณทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันจะไปนั่งอีกที่ไม่รบกวนคุณหรอก”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องพวกนี้ยังไงก็ยังทำไม่เสร็จหรอก จะช้าจะเร็วก็เหมือนกัน”
ฉีหย่วนเหิงพูดพลางดันโน๊ตบุ๊คไปไว้ข้างๆ ไม่หันไปมองมันเลยสักนิด “ถ้าเทียบกับพวกมันแล้ว ผมคิดว่าคุณสำคัญกว่าเป็นไหนๆ”
หน้าของเธอเห่อแดงขึ้นอีกครั้ง คิดไปคิดมาก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป “หย่วนเหิง คือว่าฉัน…”
แต่เหมือนว่าสวรรค์กำลังช่วยฉีหย่วนเหิงเสียอย่างนั้น เธอพูดออกไปแค่ไม่กี่คำ จู่ๆ ร่างทั้งร่างก็สั่นไปหมด ความรู้สึกเหมือนพื้นบ้านกำลังสั่นเพราะแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น
แผ่นดินไหวอย่างนั้นเหรอ?
นี่คือสิ่งแรกที่ลอยเข้ามาในหัวของเธอ จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่บนพื้นดินนี่ แบบนั้นคงไม่ได้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวน่ะสิ
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ เธอก็รู้สึกเหมือนว่าพื้นมันสั่นขึ้นอีกครั้ง เธอเริ่มทรงตัวไม่ได้ ร่างทั้งร่างกำลังจะล้มลงไปกับพื้น
สายตาของเธอมองเห็นจมูกโด่งของตัวเองกำลังจะสัมผัสกับพื้นแข็งๆ แล้ว แต่เพราะว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจึงไม่ทันที่จะตั้งตัว ได้แต่เบิกตากว้างมองพื้นที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
แย่แล้ว
เธอหลับตาลงอย่างหมดหวัง
แต่นึกไม่ถึงเลยว่าในเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะชนเข้ากับพื้นนั่น ร่างทั้งร่างของเธอก็เหมือนถูกประคองเอาไว้ด้วยพละกำลังที่แข็งแรง
เธอรู้สึกดีใจขึ้นมา พอเงยหน้าขึ้นก็พบกับดวงตาสีดำเข้ม
“ขอบคุณ…” ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ร่างทั้งร่างก็สั่นขึ้นอีกครั้ง และเหมือนว่าแรงสั่นสะเทือนจะแรงมากกว่าเดิมด้วย ท่าทางของฉีหย่วนเหิงที่กำลังประคองเธออยู่ก็ไม่ได้มั่นคงอยู่แล้ว ยิ่งพอเจอแบบนี้ก็ยืนไม่อยู่อีกต่อไป ร่างของทั้งสองคนเซไปมา สุดท้ายก็ล้มลงไป
แต่ทว่าเขาก็ยังฉลาด เขารีบเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเหมือนเบาะรอง และให้เธออยู่ด้านบนเพื่อความปลอดภัย จนกระทั่งแรงสั่นสะเทือนของเครื่องบินค่อยๆ หยุดลง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้มันน่ากลัวมาก เธอกลั้นหายใจจนตอนนี้เพิ่งจะกล้าปล่อยออกมา แววตาก็ดูสงบลงแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
Related