เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน - ตอนที่ 12 บทที่ 3 ตายไปพร้อมกัน งานเทศกาล
- Home
- All Mangas
- เมื่อกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง แต่ถูกปฏิเสธจากเพื่อนสมัยเด็ก จึงตัดสินใจกระโดดตึกกับสาวสวยที่สุดในโรงเรียน
- ตอนที่ 12 บทที่ 3 ตายไปพร้อมกัน งานเทศกาล
ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว แปรเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ร่วง
รอยไหม้จากแดดของผมเริ่มหายดี
และอากาศเริ่มเย็นจนรู้สึกว่าไม่ต้อง
ใส่เสื้อกันหนาวแล้ว
เพื่อนร่วมชั้นดูเหมือนจะเครียด
กับชีวิตประจำวันของพวกเขาในช่วง
เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
แต่ก็ไม่ค่อยสำคัญกับผมเท่าไร
เพราะเป้าหมายในชีวิตของผม
ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
ก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ตั้งแต่นั้นมา
ความสัมพันธ์ระหว่างโคโยอิและผม
ก็กลับสู่สภาพที่ดูปกติแปลกๆ
เราไม่ได้ไปบ้านของกันและกันอีกแล้ว
แต่การพูดคุยของเราก็เหมือนปกติ
มันเหมือนกับว่าผมเข้าใจผิด
เกี่ยวกับตัวเธอในวันนั้น
“ทำไมมองฉันแบบนั้น?”
นัตสึกิถามผมด้วยน้ำเสียงที่สับสน
ตอนนี้เรานั่งอ่านหนังสืออยู่
ที่ร้านอาหารหลังเลิกเรียน
โชคดีที่นัตสึกิยังช่วยสอนผมอยู่บ้าง
ต้องขอบคุณเธอ
ทำให้ผมรู้สึกว่าความสามารถทางวิชาการ
ของผมดีขึ้นกว่าตอนที่ยังเป็นนักเรียน
ผมรู้สึกว่าเธอใส่ใจผมมาก อย่างไรก็ตาม
นัตสึกิยังคงไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมชั้น
ของเธอได้เหมือนเดิม
“เทศกาลโรงเรียนใกล้จะมาถึงแล้วนะ
ผมสงสัยว่าคนอย่างเธอทำอะไรในปีที่แล้ว?”
ผมถามนัตสึกิ
การแข่งขันกีฬาครั้งสุดท้ายของ
โรงเรียนมัธยมปลายได้ผ่านไปแล้ว
และเทศกาลวัฒนธรรมนี้จะเป็นงานใหญ่สุดท้าย
ที่เราจะมีร่วมกันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
“นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหน?
ฉันไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดในวันเทศกาล
ที่นั่นคนน้อยกว่าทุกๆวัน
ฉันก็เลยทบทวนได้แบบไม่มีใครมากวน”
นัตสึกิถอนหายใจแล้วพูด
ผมคิดว่าคงไม่มีใครไม่ไปเทศกาล
ในเวลาเครียดๆแบบนี้
แต่ก็แปลกใจที่เธอเลือกที่
จะไปนั่งอ่านหนังสือในวันเทศกาล
“ปีนี้เธอจะไปเที่ยวงานเทศกาลไหม?”
“ไปทำไม?
ฉันก็แค่เดินไปเดินมา
ดูพวกเด็กๆ เล่นอะไรไร้สาระก็แค่นั้น”
นัตสึกิพูดพร้อมกับยักไหล่
และแสดงความไม่สนใจออกมา
แล้วพอเห็นสีหน้าผม
เธอก็ทำท่าทางตกใจ
“นี่นาย… จะชวนฉันไปงานเทศกาลเหรอ?”
“ใช่ ถ้าเธออยากไปน่ะนะ”
นัตสึกิมองมาที่ผมด้วยความประหลาดใจ
พร้อมรอยยิ้มขมขื่น
“ฉันไม่ได้พยายามทำให้เธอชอบ
โรงเรียนนี้หรอกนะ
แต่เธอก็คงไม่อยากเกลียดมันหรอก
ถ้ายังไม่รู้จักมันดีใช่ไหม?”
ผมพูดไปแบบนั้น
นัตสึกิก็ยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะตอบกลับ
“ก็จริงของนาย
มันไม่ถูกต้องที่จะล้อเลียน
ชีวิตของพวกเด็กบ้านนอก
ทั้งที่ฉันยังไม่ได้เข้าร่วมเทศกาลอย่างเต็มที่”
จากนั้นเธอก็พูดต่อ
“ข้อเสนอของนายมันน่าสนใจนะ
แต่ฉันขอผ่านดีกว่า
ฉันไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ”
“จุดสนใจ?”
ผมสงสัยในตรรกะของเธอ
แล้วนัตสึกิก็อธิบายให้ผมฟัง
“นายมันเป็นพวก
[คนที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข]
ถ้านายไปเดินกับฉัน
ซึ่งเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว
เราก็จะโดนมองด้วยสายตาสงสัย
ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”
“ถ้าเธอไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
แต่เธอก็น่าจะชินกับการถูกมองแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ห๊ะ? นายล้อฉันเล่นเหรอ?”
นัตสึกิถามกลับมาอย่างไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก… นัตสึกิเป็นคนสวยอยู่แล้ว
ก็เลยมักจะมีคนมองเธอเยอะอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
ผมเกือบจะทนไม่ไหวกับจำนวนผู้ชาย
ที่มองมาที่ผมด้วยสายตาที่อิจฉาทุกครั้ง
ที่ผมเดินข้างๆ เธอเวลาออกมานอกโรงเรียน
“ถูกปฏิเสธจากรักแรกที่แอบชอบมานานหลายปี
ถูกสาวแกลตามตื้อ
แล้วตอนนี้ก็พยายามมาจีบฉันเหรอ?”
“ขอโทษนะ
แต่ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ไม่รู้จักพอหรอกนะ”
นัตสึกิทำท่าทางจ้องมาที่ผมเหมือนกับจะบอกว่า
[นายมันศัตรูของผู้หญิง]
บางทีคำพูดของผมอาจจะดูมากไปหน่อย
เธอก็เลยเข้าใจผิด
“เสียดายจัง ถ้าเธอเปลี่ยนใจเมื่อไหร่
ก็บอกมาได้เสมอ”
ผมยักไหล่แล้วพูดไปอย่างนั้น
แล้วเธอก็เตะที่ขาผมอย่างเงียบๆ
เพื่อระบายความหงุดหงิดที่ยังไม่หายออกมา
แล้ววันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
และวันนั้นก็เป็นวันแรกของ
เทศกาลโรงเรียนครั้งสุดท้ายในชีวิต
มัธยมปลายของผม
เนื่องจากนักเรียนชั้นปีที่ 3
กำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
พวกเขาจึงไม่ได้เป็นผู้ดูแลกิจกรรมใดๆ
และแค่ไปชมงานเทศกาลเท่านั้น
ผมไม่ได้นัดกับนัตสึกิ โคโยอิ หรืออิโอริเลย
ผมเลือกที่จะไปเดินเล่นรอบโรงเรียน
กับเพื่อนบางคนในห้องเรียน
เหมือนที่เคยทำในอดีต
บรรยากาศเสียงดังของโรงเรียน
ทำให้ผมนึกถึงความทรงจำเก่าๆ
ผมคิดถึงเรื่องเก่าๆเล็กน้อย
และเลือกที่จะสนุกไปกับมัน…
เวลาผ่านไปถึงช่วงเที่ยง
และเริ่มจะเย็นลงในตอนเย็น
แต่เหล่านักเรียนยังคงคึกคักเหมือนเดิม
อีกหนึ่งชั่วโมง เทศกาลวันแรกก็จะจบลง
ขณะที่ผมดูการแสดงบนเวทีไปกับเพื่อนๆ
ผมก็นึกถึงนัตสึกิขึ้นมา
เธอกำลังเรียนอยู่ในห้องสมุด
เหมือนปีที่แล้วหรือเปล่า?
คงเหงามากถ้าเธอต้องเรียนคนเดียวอีกครั้ง
ในขณะที่ทุกคนรอบตัวกำลังสนุกสนานกัน
นัตสึกิช่วยผมเรื่องเรียนเสมอ
ผมควรซื้อของขวัญเล็กๆ
ไปขอบคุณเธอสักหน่อย
ผมบอกลาเพื่อนๆ
และออกจากหอประชุม
ผมซื้อน้ำชาที่ร้านแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด
เมื่อถึงประตูห้องสมุด
ผมเห็นว่าไม่มีรองเท้าวางอยู่ในตู้รองเท้า
ผมเดินเข้าไปในห้องสมุดและมองไปรอบๆ
เพื่อดูให้แน่ใจ แต่นัตสึกิก็ไม่อยู่ที่นี่
ผมสงสัยว่าเธอไปอยู่ที่ไหน
จู่ๆ ก็มีสถานที่หนึ่งที่ผมคิดถึง
ผมเดินเข้าอาคารเรียนและขึ้นบันได
ยืนอยู่หน้าประตูดาดฟ้า
กุญแจล็อคไม่ได้ถูกล็อค
ผมรู้แล้วว่าเธอต้องอยู่ที่นี่
ผมเปิดประตูและก้าวออกไปบนดาดฟ้า
ผมเห็นนัตสึกิยืนพิงราวกั้นและมองลงไปข้างล่าง
ผมเดินไปข้างๆ เธอและเรียกเธอ
“ปีนี้ไม่อยู่ในห้องสมุดเหมือนเดิมเหรอ?”
“นาย… ต้องการอะไร?”
เมื่อได้ยินเสียงผม
เธอก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจผมเลย
ไม่แม้แต่จะหันมามองผม
แค่จ้องมองลงไปข้างล่างด้วยสีหน้าอ่อนล้า
“คิดว่าเธอจะเรียนอยู่เลยซื้อของขวัญมาฝาก”
ผมยื่นขวดน้ำชาไปข้างหน้าเธอ
“อ๋อ… ขอบคุณนะ”
เธอพูดออกมา แต่เธอก็ไม่ได้รับมันไป
ผมยื่นมันไปข้างหน้าอีกครั้ง
และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมจะรับฟังเอง”
พฤติกรรมของนัตสึกิดูแปลกไป
เธอคงจะถูกกดดันด้วยอะไรบางอย่าง
เธอคงวิ่งหนีมาอยู่ที่นี่
เพราะอยากอยู่คนเดียว
และไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับเธอ
“หุบปากซักที!”
นัตสึกิแสดงความรำคาญออกมา
ในขณะที่พูดออกมา
สายตาของเราก็สบกันในที่สุด
ดวงตาของนัตสึกิแดงและบวม
“เธอ…”
ผมพึมพำออกมา
เธอรีบหันหน้าหนีไป
และก็ปัดมือผมออกไปอย่างเร็ว
กล่องน้ำชาในมือผมหล่นลงไปบนพื้น
และน้ำชาไหลออก
นัตสึกิยืนนิ่งมองดูน้ำชาที่ซึมลงไปในพื้นดิน
โดยไม่สบตากับผมแม้แต่น้อย
และพูดว่า
“ขอฉันอยู่คนเดียวเถอะ”
ผมเก็บกล่องที่บิดเบี้ยวขึ้นมาและพึมพำ
“โอเค”
ตอนนี้ผมทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว
ผมพูดแล้วเดินออกจากดาดฟ้า
โดยไม่มองปฏิกิริยาของนัตสึกิ