เพื่อนที่หน้าตาเย็นชาแต่แอบรักผมข้างเดียวนั้นน่ารักจริง ๆ - ตอนที่ 3
บท1
เพราะช่วยแมวทำให้ได้พลังวิเศษ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ) Part 3
“พี่คะ เช้าแล้วค่ะ”
เสียงของน้องสาวที่คุ้นเคย
“ฮัลโหลลล อ้าว ๆ วันนี้เป็นเด็กขี้เซาเหรอคะ ตื่นได้แล้วค่าาา เอาแต่นอนอยู่ได้”
ร่างกายถูกเขย่าไปมา สุดท้ายผมก็ลืมตาขึ้น
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้น คือน้องสาวของผม ยูนะ
ผมตรงยาวถึงไหล่ ปลายผมโค้งขึ้นเล็กน้อย แววตาที่เปล่งประกายไม่เหมือนผมเลยสักนิด กำลังจ้องตรงมา
“หืม……..ยูนะ? ……ที่นี่…..ที่ใหนเหรอ”
“โถ่…ยังละเมออยู่อีกเหรอ ที่นี่คือบ้านแสนรักของฉันและพี่ยังไงล่ะ!”
“ฮะ? อะไรกัน นี่ฉันโดนทุบหัวด้วยเหรอเนี่ย”
“เอ้าาา นี่แค่มุกเฉย ๆ”
ผมลองมองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าผมจะอยู่ในห้องของตัวเองจริง ๆ ด้วยแหละ
เมื่อเปิดดูโทรศัพท์ ก็พบว่าเวลาได้ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว
เมื่อวาน หลังจากเหตุการณ์นั่นผมกลับบ้านยังไงนะ แล้วอีกอย่าง ไอ้เมื่อวานนั่นเรื่องจริงหรือเปล่านะ หรือผมแค่ฝันไป
ยูนะที่ใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่เอาตัวเข้ามาใกล้ผม มือแปะที่หน้าผาก
“อืม ไม่เป็นไรเหรอกค่ะ ดูเหมือนจะไม่มีไข้”
“ไข้….?”
“พี่น่ะ เมื่อวานตอนกลับมาพี่ล้มอยู่ตรงประตูบ้าน หน้าแดงมาก ทำยูนะกลัวเลยล่ะ”
“ล้ม?……ฉันน่ะเหรอ”
“ใช่ค่ะ บนตัวพี่มีแมวเล่นอยู่ตั้งหลายตัวแน่ะ”
“อะไรกันสภาพนั่น”
แต่ว่า แมวงั้นเหรอ แสดงว่าเรื่องนั้นไม่ใช่แค่ความฝันสินะ
ยูนะใช้นิ้วเลื่อนบนจอโทรศัพท์ตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วยื่นมาที่ผม
“นี่ไง มีรูปหลังฐานด้วย!”
“ทำไมถึงถ่ายมาเนี่ย…..พี่ชายตัวเองกองอยู่หน้าบ้านก็ช่วยตกใจมากกว่านี้ได้มั้ยฮ่ะ แล้วนี่มันรูปเซลฟี่ไม่ใช้เหรอ แถมเธอยังยิ้มชูสองนิ้วด้วย”
“แหะ ๆ ๆ เพราะแมวมันน่ารักยังไงละคะ”
“ไม่ต้องมา แหะ ๆ ๆ ใส่นะ! ตรงกลางของภาพมีตัวฉันนอนหน้าคว่ำอยู่ไม่ใช่หรือไง…….เดี๋ยวนะ บนเสื้อฉันมีรอยเท้าคนอยู่ด้วย นี่เธอเหยียบหลังฉันไปใช้มั้ยฮ่ะ!”
“…….น่าาาาา อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยมันไปนะคะ”
“นันมันคำพูดฉัน!”
“กินข้าวได้แล้วค่ะพี่”
—————————————————————————-
บ้านเดี่ยวสองชั้น ในพื้นที่อันค่อนข้างกว้างนี้ มีผมและน้องสาวยูนะอาศัยอยู่เพียงสองคน พ่อของพวกผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตอนที่น้องสาวกำลังจะเข้าโรงเรียนประถม แม่ต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำงาน
ผมนั่งลงที่มุมหนึ่งโต๊ะที่อยู่ในห้องรับแขกชั้นหนึ่ง กำลังจะหยิบตะเกียบที่ถูกวางเตรียมไว้ที่ขอบโต๊ะ สายตาก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอหนึ่งเส้นบนโต๊ะ
“อ้าว นี่เธอยังใส่สร้อยคอที่แม่ให้มาอีกเหรอ”
ยูนะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะก็ตอบ
“เปล่าหรอก แค่ไปเจอพอดีตอนทำความสะอาด มันทำให้นึกถึงความหลังเลยกะจะเก็บเอาไว้น่ะค่ะ”
“วางทิ้งไว้แบบนี้ เดี๋ยวก็หายอีกจนได้”
“อีก?”
“นี่เธอจำไม่ได้เหรอ เมื่อก่อนเธอทำมันหายแล้วก็ร้องให้ไม่หยุดเลยนะ”
“อย่างนี้นี่เอง สงสัยจำไม่ได้แหะ”
จำไม่ได้งั้นเหรอ ที่ตอนนั้นพี่ชายคนนี้หาให้แทบตายเลยนะ
ยูนะจ้องผมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยู่ดีก็นึกถึงเรื่องเทพเจ้าแมวที่ไปเจอมาเมื่อวาน
[สามารถได้ยินเสียงในใจของเพศตรงข้ามได้หนึ่งวัน] งั้นเหรอ แต่ว่า ตอนนี้ที่คุยกับยูนะอยู่ก็ไม่ได้ยินเสียงในใจอะไรเลยนะ สงสัยว่าเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนั้นคงไม่มีทางจะเกิดขึ้นจริง
ยูนะกำลังเคี้ยวไข่ทอดอยู่ ดูทีวีพลางขำเหมือนคนบ้า
เดี๋ยวนะ หรืออาจจะเป็นแค่เพราะ ในหัวของยูนะมันไม่มีอะไรอยู่ตั้งแต่แรกหรือเปล่านะ ถ้าเป็นจริง ถึงจะได้ยินเสียงในใจได้ แต่ก็จะไม่มีอะไรให้ฟังอยู่ดีน่ะสิ
“นี่ ยูนะ”
“หืม มีอารายเหรอคะพี่”
“เธอควรฉลาดกว่านี้นะ”
“อยู่ดี ๆ ก็ร้ายขึ้นมา!?”
—————————————————————————-
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รับพลัง [สามารถได้ยินเสียงในใจของเพศตรงข้ามได้หนึ่งวัน] ที่เทพเจ้าแมวได้บอกไว้ พอรู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียนมัธยมปลายเนะบุจิ
จนถึงตอนนี้เดินสวนกับผู้หญิงตั้งหลายคน ตอนอยู่บนรถไฟฟ้าก็มีผู้หญิงตั้งเยอะ แต่อ่านใจไม่ได้เลยสักคนเดียว สงสัยไอ้เมื่อวานมันคงเป็นความฝันจริง ๆ แหละ
ผมเดินคิดไปเรื่อย ๆ จนผ่านประตูเข้ามาในเขตโรงเรียน วินาทีที่ก้าวเข้ามา จู่ ๆ ก็มีเสียงแหลมมากระทบที่แก้วหูผม ผมหยุดเดินแล้วหมอบลงอย่างไม่รู้ตัว แล้วเสียงนั้นก็หายไป
อะไรกัน เสียงนั่น……….แสบแก้วหูแทบตาย
“[ให้ตายสิ วันนี้มีแต่คาบน่าเบื่อ]”
…….เอ๊ะ?
ตอนแรกคิดว่ามีคนพูดด้วย แต่พอหันไปก็ไม่มีใครที่ทำท่าทางกำลังพูดกับผม
อะไรกัน…….?
“[โถ้เอ้ย วันนี้ลืมดูดวง]” “[หลังงานพิเศษจบอยากไปร้องเกะ]” “[ชิบหาย ลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องส่งการบ้าน]” “[ง่วง…]”
“[วันนี้กลับไปต้องรีบทบทวนละ]” “[โอยย วันนี้ก็ไม่ได้กินข้าวเช้า]”
พวกนั้นเป็นเสียงผู้หญิงทั้งหมด ก็จริงว่ารอบข้างตอนนี้มีผู้หญิงหลายคน แต่ก็ไม่มีใครเปิดปากพูดสักคนเดียว
………ไอ้นี่………หรือว่าจะเป็น……..เสียงในใจกันนะ?
เอาจริงดิ….. ถ้างั้นก็แปลว่าไอ้เมื่อวาน เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ….?
เอา…เอาไงดีล่ะ….. เอ่อ…ก็จริงว่าตามที่เทพเจ้าแมวพูด ไอ้พลังนี้มันได้ผลแค่วันเดียว แต่ว่าในช่วงเวลานี้ผมควรทำยังไงล่ะ….?
ในหัวของผมมีภาพอายะโนะที่มองมาด้วยสายตาเย็นชา
จริง…จริงสิ! ตอนนี้ต้องรีบไปที่ห้องเรียนแล้วไปขอโทษอายะโนะ ถ้าเกิดว่าไม่ยกโทษให้ละก็ ค่อยใช้พลังนี้อ่านใจ แล้วหาข้อแก้ตัวให้กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อนได้
ผมคิดได้อย่างนั้น กำลังจะมุ่งไปที่ห้องเรียน ก็ได้ยินเสียงในใจของพวกผู้หญิงที่เดินรอบข้างอีกครั้ง
“[ไอ้อาจารย์คนนั้นน่ารำคาญชิบหาย]”
หืม….?
“[ไอ้ชุดที่มันใส่เมื่อวานดูเห่ยว่ะ]” “[เดี๋ยวต้องเขียนด่าลงเน็ตอีก]” “[โอยย น้ำหอมของไอ้นี่กลิ่นโครตแย่อีกแล้ว]” “[เดินเร็ว ๆ สิวะ]”
……เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“[แย่ที่สุด โดนแฟนจับได้ว่านอกใจซะงั้น]” “[เห้ย หล่อเอาเรื่อง]” “[วันนี้ประจำเดือนก็มาอีก ซวยชะมัด]” “[เดี๋ยวแอบขโมยเงินจากงานพิเศษมาอีกสักหน่อย]”
ไม่ดีแน่……ได้ยินอะไรแบบนี้เข้า
ผมว่าผมควรคิดให้ดีกว่านี้
เกี่ยวกับการไปอ่านใจของคนอื่น
—————————————————————————-
“ถ้าจำไม่ผิด น่าจะอยู่แถวนี้นะ”
หลังจากนั้น ผมวิ่งออกมาจากโรงเรียนทันที ตามหาศาลเจ้าที่แมวขาวชื่อบิยะคุยะพามาเมื่อวาน
พลังที่ [สามารถได้ยินเสียงในใจของเพศตรงข้ามได้หนึ่งวัน] ไม่ใช่สิ่งที่ควรมี ผมไม่สามารถรอให้หมดวันได้ ตอนนี้ต้องรีบไปเจอเทพเจ้าแมว แล้วให้เอาพลังไร้สาระนี่ออกไปซะ
“เหมียวว”
“หืม?”
ได้ยินเสียงมาจากที่ขา เมื่องมองแล้วก็เห็นแมวขาวกำลังเอาหัวถูไถกับขาผม
“เอ้ย นายคือบิยะคุยะใช่มั้ย พอดีเลย พาไปหาเทพเจ้าแมวหน่อย”
“เหมียวว”
บิยะคุยะไม่ได้เดินนำผมเหมือนเมื่อวาน แต่ชูขาหน้าแล้วชี้ไปทางซ้าย เหมือนคนกำลังบอกทาง
พอมองไปในทิศนั้นแล้ว ก็เห็นศาลเจ้าโทรม ๆ
“ฮ่ะ? เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ผิดแล้วบิยะคุยะ ผมไม่ได้อยากมาศาลเจ้าโทรมขนาดนี้ ที่จะไปคือไอ้เมื่อวาน ที่เป็นบันไดยาว ๆ รอบข้างมีแต่ป่าไผ่ แล้วที่ศาลเจ้ามันดูดีกว่านี้น่ะ ชื่อว่า…ใช่แล้ว ศาลเจ้าแมว!”
“เหมียวว”
“หืม..หืมมมมม”
ผมลองมองดุที่แผ่นหินแกะสลักที่ปักอยู่ ก็มีคำส่า ศาลเจ้าแมว เขียนอยู่จริง ๆ
“เดี๋ย….เดี๋ยวนะ ไอ้ศาลเจ้าพัง ๆ นี่ เมื่อวานที่ ๆ ผมมาเจอกับเทพเจ้าแมวคือที่นี่เหรอ”
ศาลเจ้านี้ ตอนมาไม่ต้องขึ้นบันไดแทบตาย ป่าไผ่ก็ไม่มี อยู่ติดถนนด้วย มองไปฝั่งตรงข้ามยังมีร้านสะดวกซื้ออยู่เลย
เดินขึ้นบันไดมาแค่สามขั้น ศาลเจ้าสภาพตอนนี้ดูเหมือนจะผ่านการย่อยสลายมาสักพักแล้ว ผมยืนอึ้งอยู่หน้าศาลเจ้าที่ข้างในเต็มไปด้วยใยแมงมุม
“นี่แค่ผ่านมาวันเดียวเองนะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
ทั้งหัวผมโล่งไปหมด ค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องโถงอย่างระวังกันไม่ให้ประตูถล่มลงมา ข้างในมีเทพเจ้าแมวจ้องหน้าผมอยู่
“เทพเจ้าแมว! พอดีเลย ตอนแรกคิดว่าที่เห็นเมื่อวานเป็นแค่ภาพหลอนซะอีก”
เทพเจ้าแมวทำสีหน้าเศร้า ๆ
“ไอ้นั่นมันแค่การแสดงน่ะ ข้าเองก็อยากทำให้ตัวเองดูเท่บ้างนะ”
“การแสดง….. ไม่เป็นไรครับ ๆ จริง ๆ คือ ไอ้พลังที่ผมได้รับเมื่อวาน ไอ้ [สามารถได้ยินเสียงในใจของเพศตรงข้ามได้หนึ่งวัน] น่ะครับ คืออยากให้ช่วยเอาออกให้ตอนนี้ครับ”
เทพเจ้าแมวเหงื่อตก ดวงตาหมุนไปหมุนมาไม่อยู่กับที่
“….อ๋อ…..อืม…..ไอ้พลังนั้นสิน้า”
“ใช่ครับ! อยากให้ช่วยเอาออกให้ครับ!”
“อะ…เอาน่า…ยังไงก็ตามขึ้นมานี่ก่อน เดี๋ยวจะอธิบายให้นะ….”
“ไม่ต้องหรอกครับ! อยากให้เอาออกตอนนี้เลยครับ!”
“เดี๋ยว ๆ ๆ ฟังก่อน คือว่านะ….”
เทพเจ้าแมวทำหน้าเหมือนกำลังซ่อนอะไรจากผมอยู่ สายตาเบี่ยงออกจากผม
“โทษทีนะ พลังนั่น ไม่สามารถเอาออกได้ระยะหนึ่งน่ะ”
“……ครับ?”
“…………….”
“………ลบไม่ได้……?”
“………….อืม……”
“เอ่อ……ล้อเล่นหรือเปล่าครับ…………..?”
“พูดจริง……………..”
“จริง ๆ เหรอเนี่ย………”
“…….ใช่……เอาละ แค่นี้ใช่มั้ย?”
ปึ่ง ประตูถูกปิดอย่างจัง เทพเจ้าแมวกลับเข้าไปในห้องโถง
อย่างนี้นี่เอง เอาออกไม่ได้ใช้มั้ย เอ๋…..
ผมใช้เท้าที่ยังเละกินอยู่ถีบประตูจนพัง
“แค่นี้ใช่มั้ย อะไรกันครับ!!!!”
เทพเจ้าเมวยืนตัวหดสั่นระริกอยู่อีกฝากของห้องโถง
“เอ่อ คือว่า จะให้อธิบายเรื่องมันจะยาวน่ะ….”
“พูดมาให้หมด”
“อืม…คือว่านะ…..เอ่อ…..ไอ้ลูกอมที่เธอกินเข้าไปน่ะ จริง ๆ แล้ว สั่งมาจาก [ร้านขายออนไลน์แห่งสวรรค์] น่ะ ”
“…..ร้านขายออนไลน์แห่งสวรรค์?”
“ไอ้นี่”
เทพเจ้าแมวยื่นโทรศัพท์มาให้ดู ในจอมีโฆษณาขายลูกอมที่ว่าอยู่
[กินแล้วสาวรุม!] [อยากรู้ใจคนรัก? ต้องซื้อแล้ว!] [คนที่นับถือคุณจะพุ่งกระฉูด!] [ความพึงพอใจร้อยเปอร์เซ็นต์จากผู้ใช้!] [ใช้แล้วมีแฟนแน่!] [แนะนำให้ผู้ใช้อื่น รับส่วนลดสิบเปอร์เซ็นต์!] [รับรองจากเทพเจ้าดัง ๆ ทุกองค์!] [รับตัวอย่างฟรี!]
อ่อ…. อย่างนี้นี่เอง……อืม
“จะมองยังไงก็เป็นพวกหลอกลวงไม่ใช่เหรอ! มีคนซื้อด้วยเหรออะไรแบบนี้น่ะ!”
“แหะ ๆ ๆ ซื้อเข้าไปแล้วง่ะ”
“ไม่ใช่ ซื้อเข้าไปแล้ว สิ!”
“…..ไม่มีข้อแก้ตัว”
“แล้วไงต่อ? ไอ้ที่บอกว่าพลังนี้ไม่สามารถลบได้นี่มันหมายความว่ายังไงกัน”
“ไม่ใช่ลบไม่ได้สิ แค่ ลบไม่ได้ไปสักพัก เท่านั้นเอง”
“……พูดจริงใช่มั้ยเนี่ย”
เทพเจ้าแมววิ่งไปหยิบกล่องไม้ที่วางอยู่ที่มุมห้องโถง
“เอ่อ…. เริ่มจากใหนดีล่ะ…..อ๋อ เอางี้ละกัน นายเคยได้ยินเรื่องราวของ เทพแห่งความอิจฉา มั้ย?”
“เทพแห่งความอิจฉา?”
“ใช่แล้ว เทพแห่งความอิจฉา คือเทพเจ้าแปลกประหลาดที่ถ้าไม่อิจฉาสิ่งรอบข้างตัวเองจะไม่พอใจน่ะ อิจฉาคนนี้ ริศยาคนนั้น ไม่มีความรู้สึกนอกเหนือจากนี้น่ะ”
“แล้วเทพแห่งความอิจฉานี่ มันทำอะไรเหรอครับ”
“เธอมีความอิจฉาไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะพวกที่มีความรักนะ ความอิจฉาของเธอจะพุ่งขึ้นเป็นทีวคูณ และเมื่อไม่สามารถควบคุมความอิจฉาได้ ก็เลยสร้างอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งเพื่อทำร้ายคนอื่นน่ะ”
“หรือว่า….”
“ใช่แล้ว มันคือลูกอมที่เธอกินเข้าไปเองแหละ”
“……เดี๋ยว เพราะเทพเจ้าแมวเอามาให้เฉย ๆ นี่นา”
“อะ….อ๋อ…มันเป็นอย่างนี้นี่เอง”
ไอ้เทพเจ้านี่ จะเอาความรับผิดชอบของตัวเองมาลงที่ผมถึงเมื่อไรเนี่ย
เทพเจ้าแมวหยิบกระดาษจากกล่องไม้ที่ยกมา
“อันนี้คือคู่มือที่แถมมากับตอนที่ซื้อลูกอมนั่น แต่ดูยังไงก็เป็นของปลอม แต่เมื่อเช้านี้มีคู่มืออีกอันถูกส่งมา อันนี้น่าจะของแท้แหละ”
เทพเจ้าแมวหยิบหนังสือที่หนาพอ ๆ กับสมุดหน้าเหลืองแล้วโยนลงบนพื้นหน้าผม
“ดูยังไงก็เป็นคู่มือใช้งานของวัตถุอันตรายไม่ใช่เหรอ!”
“แต่ว่าคู่มือนี้มันถูกเขียนด้วยรหัสลับน่ะ ตอนนี้ก็ยังแกะได้ไม่หมดเลย….”
“แกล้งกันใช่มั้ย?!”
เทพเจ้าแมวเปิดคู่มือแบบผ่าน ๆ
“ไม่ต้องกังวล ไอ้ลูกอมนี่ ดูท่าผลที่ได้กับข้อควรระวังจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุและอาชีพ แปลว่าไม่ต้องอ่านหมดไงล่ะ เอ่อ…. หัวข้อของนักเรียนม.ปลายปีสองผู้ชาย……อยู่นี่นี่เอง”
หน้าที่ถูกเปิดขึ้นมามีแต่ลายเส้นขะยึกขยือที่ผมอ่านไม่ออก
“แล้วมันเขียนว่าอะไรเหรอครับ”
“ยังแปลได้แค่ช่วงแรกนะ…. [ขอขอบคุณที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา เพียงแค่กินผลิตภัณฑ์ของเรา คุณลูกค้าก็จะได้รับพลังวิเศษ ทีจะสามารถอ่านใจของเพศตรงข้ามได้ แต่ว่ามีข้อควรระวังอยู่เล็กน้อย โปรดอ่านข้อควรระวัง ในหัวข้อ กรณีของมัธยมปลายปีสองผู้ชาย ก่อนใช้งาน]”
“ข้อควรระวัง…. นี่ยังแปลไม่ถึงตรงนั้นเหรอครับ”
“ไม่ ๆ แปลสามข้อแรกเสร็จแล้ว…. เอ่อ….. คือว่า…. แหะ ๆ ๆ”
“มีอะไรเหรอครับ ช่วยบอกตรงที่แปลแล้วมาตรง ๆ หน่อยครับ”
“อืม…. เอาล่ะ”
เทพเจ้าแมวหายใจเข้าหนี่งเฮือก พูดออกมาแบบเร็ว ๆ
“ข้อควรระวังข้อที่หนึ่ง [ถ้าผู้ใช้ถูกสารภาพรักแล้วจะตาย]”
………………………………………………
……………..หืม?
ตาย?………..
“เอ่อ…. เทพเจ้าแมวครับ ไอ้เมื่อกี้…คือ…”
เทพเจ้าแมวขัดคำพูดของผม
“ข้อควรระวังข้อที่สอง [พลังนี้จะอยู่ไปจนถึงผู้ใช้จบการศึกษาจากโรงเรียนที่เรียนอยู่ ถ้าลาออกหรือย้ายโรงเรียนจะตาย]”
“เอ่อ เทพเจ้าแมวครับ คำถามขอ-”
“ข้อควรระวังข้อที่สาม [ถ้ามีคนที่ไม่เกี่ยวข้องรู้เข้าถึงพลังนี้ ผู้ใช้จะตาย]”
“เดี๋ยว ยังไม่-”
“เท่านี่แหละ มีคำถามอะไรมั้ย”
“อะ… ครับ! มีคำถามครับ!”
“ว่ามา”
“เอ่อ…. มีหลายคำถามอยู่ แต่ก่อนอื่น………………………….. นี่ผมจะตายเหรอครับ”
“ไม่ใช่แค่ตายปกตินะ แต่ทั้งร่างกาญทั้งวิญญาณจะถูกทำลายไปด้วย”
“ครับ ๆ ๆ ๆ ๆ พอแล้วครับ!”
“พอแล้ว….”
“ฮืม? มีอะไรเหรอครับ”
“พอได้แล้ว”
“ครับ?”
“ก็บอกว่าพอได้แล้ว!!!!!”
“ครับ?”
“ข้าเองก็ไม่ได้อยากทำพลาดหรอกนะ! มัวแต่มาโทษกันอยู่ได้! นายนี่มัน ปีศาจเหรอ!?”
“เอ่อ…เปล่าครับ…. ไม่ได้ตั้งใจที่-”
“ถ้านายแก้ปัญหาของนายตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้มันก็จะไม่เกิดขึ้นไม่ใช่เหรอฮ่ะ!? ที่มาพึ่งพลังแบบง่าย ๆ แบบนี้มันก็ความผิดนายไม่ใช่เหรอ!?”
“เอ่อ…. นั่นก็…. จริงอยู่หรอกครับ แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้ข้อควรระวังพักนี้นี่นา”
“……งั้นจะอธิบายตั้งแต่เริ่มให้อีกรอบนะ แต่อย่าโกรธกันนะ ได้มั้ย? นี่จะไม่โกรธใช้มั้ย!?”
“คะ…ครับ!”
เทพเจ้าแมวไอกระแฮ่มหนึ่งรอบ
“……ตามที่พูดไว้เมื่อกี้ ตั้งแต่ตอนนี้จนเรียนจบ นายจะต้องใช้ชีวิตแบบมีพลังนี้ แต่ถ้าในโอกาสหนึ่งในล้านที่มีคนมาสารภาพรักละก็ นายก็จะตายอยู่ตรงนั้นแหละ”
“เดี๋ยวนะ ทำไมมันกลายเป็นแบบนั้นล่ะครับ!? ตาย? นี่ล้อเล่นใช้มั้ยครับ ที่ผมกินไปมันแค่ลูกอมที่จะทำให้อ่านใจเพศตรงข้ามไม่ใช่เหรอครับ”
“เอ่อ มันเป็นอย่างนี้น่ะ ใน [ร้านขายออนไลน์แห่งสวรรค์] ไอ้ลูกอมนี้มันชื่อ [ลูกอมช่วยชีวิตรักคุณ]”
รสนิยมตั้งชื่อเห่ยชะมัด
“แล้วคืนเมื่อวานน่ะ [เทพแห่งการค้า] ที่เป็นคนคุม [ร้านขายออนไลน์แห่งสวรรค์] น่ะ ก็พบว่า [ลูกอมช่วยชีวิตรักคุณ] มันถูกสร้างขึ้นมาโดยเทพแห่งความอิจฉา ก็เลยทำการจับกุมเทพแห่งความอิจฉา แล้วรวบรวมคู่มือการใช้งานของจริงที่เหลืออยู่ที่บ้านของเทพแห่งความอิจฉา และส่งให้ผู้ที่ซื้อไปจริง ๆ คนเดียวอย่างข้าไงล่ะ”
ในโลกแห่งเทพเจ้านี่มีการจับกุมกันด้วยเหรอเนี่ย แล้วถ้ามีแค่เธอที่ซื้อคนเดียว แสดงว่าผู้เสียงหายก็มีผมแค่คนเดียวสิ
“จากไอ้คู่มือหนา ๆ นี่ ชื่อที่แท้จริงของลูกอมไม่ใช่ [ลูกอมช่วยชีวิตรักคุณ] แต่เป็น [ตายซะ พวกมีความรักทุกคน] น่ะ”
“อยากฆ่าผมขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เอาน่าาาาาา”
“เอาน่าาาาาา นี่คือ…”
นี่จะไม่แสดงความรับผิดขอบเลยสักนิดใช่มั้ย
เทพเจ้าแมวยืนขึ้น ชี้มาทางผม
“ยังไงก็เหอะ ทั้งคนที่คบอยู่ หรือคนที่มาแอบชอบ นายดูท่าจะไม่มีนี่นา ถ้าอย่างนั้นแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรใช้มั้ย”
“…….พูดอย่างนั้นก็จริงแหละ…. แต่อยู่ก็เจ็บปวดขึ้นมาเลยแหะ”
“อย่างน้อยข้าก็จะรับผิดชอบให้ส่วนหนึ่งแหละ ถ้ามีเรื่องปรึกษาอะไรก็มาหาได้ เพราะตัวข้าออกจากศาลเจ้านี้ไม่ได้ แต่จะช่วยเท่าที่ได้นะ เอาละ วันนี้กลับได้แล้ว ข้าก็เริ่มเหนื่อยแล้วเหมือนกัน”
“คะ… ครับ”
“ถ้างั้น ไว้เจอกันนะ”
เทพเจ้าแมวเดินวนไปวนมา จู่ ๆ ก็หายไปในชั่วหริบตา
ที่เหลืออยู่มีแค่ผมที่ยืนจ้องเพดานต่ำของห้องโถง
“เทพเจ้านี่มันไร้สาระขนาดนี้เลยเหรอ”
—————————————————————————-
ตอนเช้า ผมแปรงฝันพลางคิดไปด้วย
ผมยังจัดการกับระบบคิดตัวเองไม่ได้เมื่อรู้ว่าพลังจะไม่หาย และถ้าโดนสารภาพรักผมจะตายแบบทันทีทันใด แต่ตามที่เทพเจ้าแมวพูด ถ้าคิดดี ๆ แล้ว ไม่มีทางที่จะมีใครมาสารภาพรักผมสินะ ……. เอาน่า ความจริงมันเป็นงี้แหละ
แต่ว่า ผมจะสามารถไปโรงเรียนทั้ง ๆ ที่ได้ยินเสียงในใจผู้หญิงคนอื่นจนเรียนจบได้หรือเปล่านะ ต้องเจออย่างนั้นไปทุกวันนี่มัน…
ผมถอนหายใจอย่างแรง ยูนะที่เดินอยู่ตรงทางเดินเอาหน้าจ้องเข้ามา
“พี่คะ ยูนะรอใช้อ่างล้างหน้าอยู่นะคะ”
“อ่อ โทษที จะเสร็จละ ๆ ”
“แล้วสบายดีมั้ยคะเนี่ย เมื่อวานก็หยุดเรียนไปด้วย”
“อืม พอนอนทั้งวันก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้วแหละ”
หลังจากที่ผมไปเจอกับเทพเจ้าแมวเป็นครั้งที่สอง ผมก็กลับบ้านทันที และหยุดเรียนวันนั้นทั้งวัน แถมอีกหนึ่งวันด้วยเพื่อความชัวร์ ที่จริงแล้วเทพเจ้าแมวเข้าใจผิดไป ว่าถ้าผ่านไปแล้วหนึ่งวัน พลังนี้จะหายไปของมันเอง
ผมเดินสวนกับยูนะที่จะเข้ามาใช้อ่างล้างหน้า แล้วก็ได้ยินเสียงดังเกล่า
“[อะ ลืมเอาแฮมเบอร์เกอร์ใส่ในกล่องข้างของพี่ แต่ช่างมันเหอะ]”
แต่ว่า หลังจากผ่านไปหนึ่งวันแล้วก็ยังได้ยินเสียงในใจมาตลอด
เมื่อวานซืนไม่ได้ยินเสียงในใจของยูนะ แต่หลังจากที่มีเสียงแหลมพุ่งเข้ามาในหูตรงประตูโรงเรียนแล้ว วันนั้นกลับบ้านมาก็ได้ยินเสียงในใจของยูนะอย่างชัดเจน หรือว่าในการที่จะให้พลังสามารถใช้งานได้ ผมต้องเดินผ่านประตูโรงเรียนหนึ่งรอบนะ
ผมเดินเข้าหาห้องครัว เอาแฮมเบอร์เกอร์หนึ่งชิ้นที่วางอยู่บนจานใส่กล่องข้าวของตัวเอง และก็คิดได้
ความจริง ผมยังไม่เข้าใจพลังนี้อย่างถ่องแท้เลยนะ ต้องอย่ใกล้แค่ในถึงจะได้ยินเสียงในใจได้นะ เสียงที่ได้ยินจะต่างกันไปแล้วแต่คนหรือเปล่านะ สามารถใช้ได้เรื่อย ๆ หรือเปล่านะ
สักพักยูนะก็เดินมาข้าง ๆ ผม ในปากยังอมแปรงสีฟันอยู่
“พี่คะ เป็นอะไรเหรอ ทำหน้าแบบนั้น”
“เอ้ะ เปล่า ๆ ไม่มีอะไร”
“[หรือว่า พี่ยังสุขภาพแย่อยู่นะ…]”
ยูนะ นี่เธอเป็นห่วงพี่ชายมากกว่าที่คิดนะเนี่ย
“[หรือว่าพี่จับได้ว่าฉันกินพุดดิ้งของพี่เข้าไปนะ แย่แล้ว…]”
“นี่เธอกินพุดดิ้งของฉันเข้าไปเหรอ”
ยังไงก็ตาม วันนี้ต้องรู้เกี่ยวกับพลังนี้ให้มากขึ้น
—————————————————————————-
วันนี้ ผมออกจากบ้านตามเวลาปกติ แต่ว่าจมอยู่ท่ามกลางเสียงในใจหลาย ๆ เสียงที่ตีกัน สุดท้ายเกือบมาดรงเรียนสายเพเราะไปหลบอยู่ในห้องน้ำที่สถานีเกือบครึ่งชั่วโมง
จมอยู่ท่ามกลายเสียงในใจ ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองนะเนี่ย
ตอนนี้ร่างกายยังคงไม่ชินกับพลังนี้มั้ง หรือว่าสักพักมันจะรวมเป็นหนึ่งกับร่างกายนะ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้
ตอนนี้ได้แต่รอและสังเกตการณ์
เดินผ่านประตูโรงเรียน เปลี่ยนรองเท้าที่ตูเก็บรองเท้า เดินขึ้นบันได แล้วดูรอบข้างไปเรื่อย ๆ
ถ้าที่เทพเจ้าแมวพูดเป็นเรื่องจริงละก็ พลังนี้จะอยู่กับตัวผมไปจนถึงเรียนจบ มันไม่ใช่เวลาที่จะมารู้สึกผิดเพราะได้ยินความลับชาวบ้าน
แถมถ้าคุ้นชินกับการได้ยินเสียงในใจของผู้หญิงแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ สามารถหลบหลีกปัญหาที่ไม่จำเป็นได้
เอ่อ แต่ว่าจะใช้ได้ผลมากเกินไปก็ไม่ได้นะ ข้อควรระวังข้อที่หนึ่ง [ถ้าผู้ใช้ถูกสารภาพรักแล้วจะตาย] ต้องระวังด้วยแหละ
ผมคิดอย่างนั้นแล้วขำคนเดียว
ไม่หรอก ไม่มีทางที่จะมีใครมาชอบคนประหลาด ๆ อยากผมหรอก ตอนนี้ที่ต้องคิดคือ จะทำให้ร่างกายคุ้นชินกับการได้ยินเสียงในใจคนอื่นยังไง แล้วถ้าทำได้ดีละก็ ก็จะสามารถหาวิธีคืนดีกับอายะโนะได้ด้วย
ผมเดินไปถึงหน้าประตูห้องเรียน หายใจเข้าหนึ่งเฮือกใหญ่
ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นผมน่าจะทำได้ดีแหละ เอาเป็นว่าอย่าไปสนสิ่งที่พวกผู้หญิงคนอื่น ๆ คิดไปให้มากเลย
ผมเอามือจับที่กลอนประตู แล้วเลื่อนออกช้า ๆ ทันในนั้น เสียงในใจของพวกผู้หญิงก็ซัดเข้ามาราวกลับคลื่นสึนามิ
“[วันนี้โดดเรียนดีกว่า]” “[อีกละ ไปอยู่กับผู้ชายอีกละ]” “[หิว….]” “[หางานพิเศษทำกันเถอะ]” “[ไม่ยกโทษให้แน่ ๆ ]” “[วันนี้แต่งหน้าไม่ค่อยดีว่ะ]”
เอา…. เอาละ ยังอยู่ในระดับที่รับได้ รู้ไปแล้วคงไม่เกิดอะไรแย่ ๆ ขึ้น ดีละ….
มีเสียงที่เนื้อหาน่ากลัวมาด้วยแหละ แต่สักพักผมคงคุ้นชินได้ ตอนนี้ต้องเข้าหาอย่างเดียว
ทำใจให้มั่นคง ผมเดินหนึ่งก้าวเข้าไปในห้อง ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงในใจที่ดังมากมาจากมุมหนึ่งของห้อง
“[โอ้วว โคจังนี่เอง! ในที่สุด! มาโรงเรียนสักที! หยุดไปสองวันเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ….]”
ผมหัวหลังไปแบบทาทีหวาดกลัว ตรงทิศนั้นมีผู้หญิงหนึ่งคนยืนอยู่
ผมตรงยาวสีดำ สีหน้าไม่พอใจ
บุคคลนั้นจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ เพื่อนสมัยเด็กของผม อายะโนะ ยูเมะมิกะซากิ นั่นเอง
ท่าทางของอายะโนะเหมือนกับเมื่อวันก่อน มองผมด้วยสายตาเหมือนมองแมลงน่าขยะแขยง แต่เสียงในใจนั้นเหมือนเด็กแบบไม่สามารถจินตนาการได้จากสีหน้า
“[อะ…เอาล่ะ! วันนี้นี่แหละจะสารภาพรักโคจังให้ได้]”
………………สารภาพรัก?
………….ฮ่ะ?
สมองของผมที่ยังตามสถานการณ์ไม่ทัน คำพูดประโยคเดียวของเทพเจ้าแมวก็พุ่งเข้ามาราวกับจรวด
“ข้อควรระวังข้อที่หนึ่ง [ถ้าผู้ใช้ถูกสารภาพรักแล้วจะตาย]”