เพื่อนที่หน้าตาเย็นชาแต่แอบรักผมข้างเดียวนั้นน่ารักจริง ๆ - ตอนที่ 0
เพื่อนที่หน้าตาเย็นชาแต่แอบรักผมข้างเดียวนั้นน่ารักจริง ๆ
บทนำ
ถึงแต่ผมจะเป็นรักเรียนมัธยมปลายแล้ว ผมยังจำได้ดี
พื้นของโรงเรียนประถมที่เหยียบแล้วมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด โรงยิมขนาดเล็กที่มีเสียงคนคุยกันเจี้ยวจ้าว โต็ะสภาพโทรม ๆ ที่มีรูเต็มไปหมด
ตอนเรียนภาษาญี่ปุ่นผมรู้สึกไม่ชอบอย่างมาก ตอนเรียนคณิตศาสตร์ผมรู้สึกง่วง ตอนเรียนสังคมผมคุยกับเพื่อนข้าง ๆ เรื่องอนิเมะที่ดูมาเมื่อคืน
ถ้าชีวิตต่อไปเป็นแบบนี้ ที่ทุกวันไม่มีอะไรเหมือนกันไปเรื่อย ๆ ผมว่าผมชอบมันนะ
ในวันหนึ่ง วันที่ผมคิดว่ามันก็จะเป็นเหมือนทุก ๆ วัน
หลังเลิกเรียน ที่มุมห้องเรียน มีเหล่านักเรียนหญิงคุยกันเสียงดัง
“อายะโนะ สุดยอด!”
“สนุกมาก ๆ เลยล่ะ”
“ถ้าเขียนต่อก็เอามาให้อ่านอีกนะ”
พวกเธอกำลังชมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
สำหรับผมแล้ว สถานการณ์นั้นคือสิ่งที่ผมเห็นจนชินแล้ว จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
เพื่อนตั้งแต่สมันเด็กของผม อายะโนะ ยูเมะมิกะซากิ อยู่โรงเรียนนี้มาได้ไม่ถึงปี ก็เอานิยายที่ตัวเองเขียนมาให้คนรอบข้างได้อ่านเรื่อย ๆ จนตอนนี้สามารถพูดได้ว่าเธอมีออร่าของผู้มีพรสววรค์ ไม่ก็ออร่าของนักเขียน
ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจการอ่านมาก แต่ถึงอย่างนั้น อายะโนะก็บังคับให้ผมอ่านนิยายของเธอ
แต่ว่า พอลองอ่านดูแล้ว ถึงแม้ว่าปกติแล้วผมไม่อ่านนิยายก็ตาม นิยายของอายะโนะนั้นมันสนุกจริง ๆ
“สมกับเป็นลูกสาวของอาจารย์ไคโดอิจิกะจริง ๆ เธอมีพรสวรรค์มาก ๆ เลยล่ะ”
อยู่ดี ๆ ก็มีคนพูดประโยคนั้นออกมา
หลังพ่อแม่หย่ากัน อายะโนะก็อาศัยอยู่กับพ่อสองคน
ในส่วนของแม่นั้น เป็นนักเขียนชื่อดังที่ทุกคนรู้จัก อาจารย์ไคโดอิจิกะ ไม่ว่าใครในห้องเรียนก็รู้ว่าอายะโนะเป็นลูกสาวของเธอ
อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนั้น ในห้องเรียนที่อายะโนะอยู่นั้น มีคนที่มีความสนในเกี่ยวนิยายอยู่เยอะ
ทันใดนั้น นักเรียนหญิงที่พูดนามปากกาของแม่ของอายะโนะออกมา ก็เอามื่อปิดปาก พร้อมทำท่าตกใจ
“ อ่ะ! ขอ…ขอโทษ! เรื่องแม่ของเธอนั้น ไม่ควรพูดดีกว่านะ…”
ในตอนนั้น พ่อแม่ของอายะโนะได้หย่ากันไม่ถึงปี เหล่าเพื่อน ๆ ก็เห็นใจอายะโนะที่ยังคงช็อก และพยายามไม่พูดเรื่องนี้
ในส่วนของอายะโนะนั้น เธอได้แต่ส่ายหัว
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดอะไรแล้วแหละ”
เสียงที่เบาราวกับจะหายไปแล้วนั้น ถ้ามองดูดี ๆ แล้วสีหน้าของเธอก็ดูแย่ลงเล็กน้อย
เหล่าเพื่อน ๆ ราวกับว่าเห็นว่าท่าทางของอายะโนะเริ่มแปลก ๆ ก็เลยชมผลงานเธอกันยกใหญ่ เมื่อหมดคำชมแล้ว ทุกคนก็กลับบ้านพร้อมกับความพึงพอใจ
อายะโนะไม่ได้กลับกับพวกเพื่อน ๆ แต่กลับเดินมาหาผมที่กำลังทำใบงานคณิตศาสตร์อยู่
“โคจัง ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทำอะไรอยู่หรอ”
“ใบงานคณิตน่ะ”
“เอ่อ จะว่าไปแล้ว ตอนคาบคณิต นายหลับตลอดเลยนินา”
“ใกล้จะเสร็จแล้วแหละ อายะโนะล่ะ ไม่กลับกับพวกนั้นหรอ”
“อื่ม วันนี้ค่อยรู้สึกอย่างนั้นน่ะ”
อาจจะเป็นเพราะได้ยินนามปากกาแม่ตัวเอง แล้วคงคิดย้อนไปตอนที่แม่ย้ายออกจากบ้าน สีหน้าของอายะโนะตอนนี้ยังคงมืดมน
“อย่างนี้นี่เอง…”
ขณะที่ผมกลับมาโฟกัสกับงานคณิตของผมอีกครั้ง อายะโนะก็พูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“…นี่ โคจัง”
“หืม มีอะไรหรอ”
ผมตอบอายะโนะทั้งที่ยังไม่ได้ละสายตาจากใบงานคณิต อายะโนะก็มานั่งตรงเก้าอี้ข้างหน้า พร้อมกระซิบว่า “นี่…อ่านจบแล้วใช้มั้ย”
ผมสะดุ้งไปพักนึง แต่ก็รับรู้สิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ ก็เลยหยิบสมุดโน้ตที่อายะโนะให้ยืมเมื่อสองวันก่อนออกมาจากกระเป๋า
นี่คือสมุดโน็ตที่อายะโนะใช้เขียนนิยายล่าสุด เนื่องจากผ่านมือคนในห้องเรียนมาหลายมือ สีตรงปกเริ่มจางลง
ผมวางสมุดโน้ตลงบนโต็ะ อายะโนะก็เอานิ้วจิ้มลงบนปกสมุด แล้วถามแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม “ความคิดเห็นล่ะ”
สายตาบนสีหน้าอันมืดมนของอายะโนะนั้น มองมาทางผมแบบตรง ๆ
ตอนแรก ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรดี ก็เลยพยายามหลบสายตานั้น
“เมื่อกี้ ไอ้พวกนั้นก็พูดไปแล้วไม่ใช้หรอ”
“ฉันอยากฟังความเห็นของโคจังน่ะ”
“เอ่อ…แต่ว่า…”
“ขอร้องหล่ะ บอกมาเถอะ”
อายาโนะกำมือของผม ราวกับว่าจะเรียกร้องขอความเห็น พร้อมเอาหน้ามาใกล้
สายตาที่จริงจังนั้น ราวกับจะดูดทัศนวิสัยของผม
ตอนแรก ผมคิดที่จะตอบแบบส่ง ๆ เพื่อให้เรื่องราวมันผ่านไป แต่อายะโนะก็กำมือผมแน่น จนความคิดเหล่านั้นกระจายไปหมด
หลังจากนั้น ผมก็ยอมรับและตอบอย่างตรง ๆ
“…………………………………………………ไม่สนุกเลยล่ะ”
ทันใดนั้น ห้องเรียนที่มีแค่ผมกับอายะโนะ ก็มีเสียงนักเรียนที่เล่นกันในโรงยิมลอดเข้ามา
ตอนนั้น ผมคิดว่าประโยคต่อไปของอายะโนะจะเป็น “ตรงใหนที่ไม่สนุกห่ะ!” หรือว่า “โคจังน่ะไม่เข้าใจเรื่องของนิยายหรอก!” หร้อมใส่อารมณ์ หรืออะไรทำนองนั้น
แต่ว่า การตอบสนองของอายะโนะนั้นมันผิดคาด
ตาของอายะโนะนั้นมีน้ำตาปริ่ม ๆ พร้อมริมฝีปากที่เริ่มสั่นระริก
“เอ่อ….อายะโนะ….”
ผมที่อึ้งไปกับทางทางของอายาโนะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอะไร
ในหัวมีแต่สีขาวโพลน ได้ยินแต่เสียงอันอ่อนแอของอายะโนะ
“อย่างนี้นี่เอง……จริงด้วย……จริงด้วย มีแค่โคจังที่……”
ขณะที่พูดอย่างนั้น ตาของอายะโนะมีน้ำตาใหลออกมาเป็นสาย และหยดติ๋ง ๆ บนสมุดโน้ตบนโต็ะ
ในที่สุด ผมก็รู้ว่าผมได้ทำความผิดเข้าแล้ว
ต้องรีบขอโทษแล้วหล่ะ! ผมคิดอย่านั้น พร้อมเปิดปากพูด
“เอ่อ…อายะโนะ ฉันน่ะ….”
แต่ทว่า คำพูดผมก็ถูกอายะโนะขัด
“โทษที…………วันนี้ ฉัน….กลับแล้วนะ”
อายะโนะพูดอย่างนั้น หันหลังกลับ แล้ววิ่งออกจากห้องเรียนไป
สิ่งที่เหลือในห้อง คือสมุดโน้ตบนโต๊ะ และความรู้สิกผิดหลักจากที่ทำร้ายจิตใจเพื่อน
จริง ๆ คือไม่ควรพูดแบบตรงไปตรงมา หรืออย่างน้อย ใช้ภาษาที่ดูใจดีกว่านี้
จมอยู่กับความเสียใจที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ผมถอนหายใจ และฟุบหัวลงบนโต็ะ
“หรุ่งนี้เช้า ก่อนอื่นต้องขอโทษอายะโนะสินะ….”
แต่ว่า วันพรุ่งนี่ที่ผมรอคอยนั้นมันไม่มาถึง
ในส่วนของสาเหตุ หลังจากวันนั้น อายะโนะก็ได้ย้ายบ้าน และย้ายโรงเรียน
ถ้าในตอนนั้น ผมไม่บอกไปว่านิยายของอายะโนะมันไม่สนุก…..
ถ้าตอนนั้น ผมวิ่งออกจากห้องเรียนตามอายะโนะไป…..
ถ้าทำอย่างนั้นแล้ว มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่านะ