เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 405 ฉันว่าฉันเป็นรุ่นพี่ของเธอนะ
- Home
- All Mangas
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 405 ฉันว่าฉันเป็นรุ่นพี่ของเธอนะ
ตอนที่ 405 : ฉันว่าฉันเป็นรุ่นพี่ของเธอนะ!
มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคปักกิ่ง
เทียนหยู่เฉิงสาวน้อยนักศึกษากาลังยุ่งอยู่ในสภานักเรียน
ฤดูกาลปฐมนิเทศสําหรับน้องใหม่กาลังใกล้เข้ามาและน้องใหม่กําลังจะเข้ามามหาวิทยาลัยและเธอยังมีงานอีกมากที่ต้องทํา
จะทํายังไงดี?
เทียนหยู่เฉิงรู้สึกกังวลมาก
“ในงานปฐมนิเทศน้องใหม่ครั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาพันธ์ นักศึกษาปีหนึ่งผู้ที่จะเป็นตัวแทนของน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคผู้ที่จะเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมนั่นก็คือ…”
“ฟูจุนจุน!”
“โอ้ ฉันต้องเขียนคําปราศรัยให้เธองั้นหรอ เศร้าจัง…”
เทียนหยู่เฉิงรู้สึกหดหู
อย่างไรก็ตาม เธอก็อยากรู้เช่นกัน
ที่มาของคู่จุนจุนคนนี้มาจากไหนกันแน่?
จะเลือกน้องใหม่เป็นประธานสภานักเรียนปีหนึ่งได้อย่างไร?
เดาว่าเธอคงเป็นคนที่มีต้นกําเนิดพิเศษ?
ในเวลานี้การประชุมก็ดําเนินต่อไป
จ้าวหงจุนกาลังประชุมกับรองอาจารย์ใหญ่เพื่อหารือเกี่ยวกับการเปิดรับนักศึกษาใหม่
“อาจารย์ผู้นักศึกษาใหม่จะให้พวกเราเตรียมตัวรับอย่างไรดีครับ”
ผู้อํานวยการและรองอธิการบดีคนใหม่ของสํานักงานกิจการการศึกษา อาจารย์ ใหญ่ฟูยืนขึ้นก่อนจะขมวดคิ้วและพูดว่า “เรื่องอื่นๆ พูดง่ายแต่เมื่อเร็วๆ นี้ทีมรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนของเราทํางานกันหนักมาก ในช่วงเปิดเทอมจํานวน นักศึกษาใหม่และผู้ปกครองจะหลั่งไหลเข้ามาในโรงเรียนฉันกลัวการเปิดเทอมสําหรับนักเรียนใหม่ล่าช้าและฉันจําเป็นต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพิ่ม
“นี่คงจะเป็นเรื่องง่ายมาก!”
จางห้าวจนตัดสินใจ “เพิ่มกําลังคนทันที”
“กลัวว่าทีมรปภ. จะไม่พอ งั้นเราก็หาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยแล้วจ้างรปภ.มาชั่วคราวก็ได้ใช่เหรอ?”
อาจารย์ใหญ่ผู้กระพริบตา
“โอเค งั้นเอาแบบนั้นก็ได้!”
จางห้าวจนรู้สึกว่านี่มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงมอบหมายมันให้กับอาจารย์ใหญ่ “คุณทําได้แน่และฉันไขอพูดมากก็แล้วกันนะ เรากําลังจะเข้าสู่ช่วงของการเปิดเทอม นี่เป็นโอกาสที่ดีสําหรับมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคของเราที่จะแสดงให้เห็นและเผยภาพลักษณ์ของพวกเราออกไปสู่โลกภายนอกชักชําไม่ได้เด็ดขาดนะ”
“ครับ”
ในที่สุดช่วงของการเปิดเทอมก็มาถึง
เช้าตรู่รถต์อู่หลิงก็ขับเข้ามาจอดที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค
ประตูถูกเปิด
กยามรักษาความปอลดภัยกระโดดออกมาจากรถที่ละคน
จํานวนของพวกเขามีกว่า 20 คน!
บรรดานักศึกษาที่ได้เห็นว่ารถต์อู่หลิงเพียงคันเดียวแต่กัลสามารถขนคนมาได้ ขนาดนี้ก็ถึงกับตกตะลึง….
นี่มันรถตู้จริงๆหรอ?
วิเศษมาก!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจํานวนมากนํามาโดยหัวหน้าจ้าวหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเข้าสังให้ทุกคนมาเข้าแถวและมันก็ทำให้ความสนใจของทุกคนที่อยซิรอบๆมารวมกันอยู่ที่พวกเขา
หัวหน้าโจวไอออกมาและพูด “ทุกคนวันนี้ พวกเรามีงานที่ต้องเหนื่อยอีกแล้วบริษัทของพวกเราได้รับการว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคให้ส่งรูปภ.มาช่วยดูแลมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ”
เขาเริ่มพูดปลุกใจออกมา….
จนยามบางคนเริ่มรู้สึกง่วงนอน
และแน่นอนว่าหัวหน้าโจวก็จะไม่หยุดเพราะตราบใดที่เขากําลังพูดเขาก็จะสันหาค่าอีกนับหมื่นมาพูดต่อได้เสมอ!
เจียงเฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขานั้นจะบังเอิญได้กลับมาที่มหาวิทยาลัยเก่าของ ตัวเองในฐานะยามรักษาความปลอดภัย
นี่….
น่าสนใจ!
เจ้าโง่จมองไปรอบๆเขามองไปที่นักศึกษาทุกคนอย่างสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…กับเด็กสาวและสาวสวย
“เห้ย! มองอะไรอยู่เนี่ย?”
เจียงเฉินที่อยู่ด้านข้างถึงกับพูดไม่ออก
“เฮ้ พี่เฉิน ดูนี่สิ นักศึกษาหญิงที่นี่หน้าตาดีจริงๆ ฮิฮิ…”
น้ําลายของเจ้าโง่กําลังจไหลลงมา
เจียงเฉิน: “…”
ปิดใบหน้าของตัวเอง!ว?!
เจียงเฉินรีบขยับไปยืนห่างๆอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้สาวๆ เข้าใจเขาผิดว่าตัวเองเป็นนักเลงหัวไม้ทันที
ในเวลานี้ มีหญิงสาวหลายคนที่สังเกตเห็นสายตาของเจ้าโง่จพวกเธอพากันสูดอากาศเย็นๆและเดินผ่านไปก่อนจะเงยศีรษะขึ้น และมองไปทางเจ้าโง่จด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
เหมือนกับฝูงหงส์ขาวที่หยิ่งผยองกําลังดูหมิ่นกลุ่มคางคก
กระซิบ
“นี่ รปภ.นั่นน่ารําคาญชะมัด”
“ใช่แล้ว! ท่าไมรูปภ.นั่นถึงจ้องมาที่เรา?”
“ห์ึ เราต้องสนใจพวกมันด้วยเหรอ”
“ไม่เป็นไรไปกันเถอะ”
นักศึกษาหญิงรีบออกไป
เจียงเฉิน: “…”
ให้ตายเถอะ!
ฉันจะไม่ขออยู่กลุ่มเดียวกับเจ้าโง่จูอีกแล้ว!
น่าอับอาย!
เจ้าโง่จยังคงออกความเห็นชี้นุ่นชี้นี่และพูดกับเจียงเฉินว่า “พี่เฉิน รีบดูเร็ว สาวสวยคนนั้นมาตรงต่อเวลาดีจริงๆ ขาของเธอยาวมาก…”
“โอเค รีบไปกันแยกย้ายกันไป! ไปรักษาความเรียบร้อยกัน!”
ในที่สุดหัวหน้าโจวก็สังเกตเห็นว่ากองทัพนักศึกษาใหม่กําลังมาแล้ว เขาเลยสั่งให้เจียงเฉินและเจ้าโง่จไปทํางานโดยเร็ว
เจียงเฉินและเจ้าโง่จได้รับมอบหมายให้ไปที่ประตูโรงเรียน
ภารกิจของพวกเขาคือ…
“พวกนายต้องดูที่จตุรัสนี้ ผู้ปกครองไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาจอดรถที่ประตูนี้โดยเด็ดขาดนะเพราะมันจะทําให้กีดขวางการจราจรที่ประตูโรงเรียน
หัวหน้าโจวตะโกนออกมา “เข้าใจไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกนายจะต้องหาวิธีให้ผู้ปกครองขับรถไปที่ลานจอดรถให้ได้”
เจียงเฉินพยักหน้า
แต่…
เขาก็ต้องขมวดคิ้ว
เนื่องจากการลงทะเบียนนักศึกษาใหม่ในครั้งนี้ ทําให้มีนักศึกษาเข้ามามากเกินไป
ที่ทางเข้าลานจอดรถไม่นานก็เริ่มมีการจราจรติดขัด
แม้แต่ในบริเวณรอบๆของมหาวิทยาลัยก็เป็นไปด้วย
นอกจากนี้ความจุที่จอดรถของทางมหาวิทยาลัยก็ยังมีจํากัดและดูเหมือนว่ามันจะเกินขีดจํากัดเร็วๆนี้ ดังนั้นหลังจากนี้ผู้ปกครองที่มาส่งนักศึกษาจะทําได้เพียงอดทน รอให้มีที่จอดรถว่าง
เห็นได้ชัดว่าไม่สะดวกมากเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นมันจึงส่งผลให้มีรถที่มาส่งนักศึกษาพยายามเข้ามาจอดรถในจัตุรัสอย่างมักง่าย
และสิ่งนี้ก็จะนําไปสู่การจราจรที่ติดขัดและมีความโกลาหลมากยิ่งขึ้น
เจียงเฉินนั้นนับว่าฉลาดมากเขารู้เหตุผลที่จําเป็นต้องมีการห้ามจอดที่บริเวณนี้ดีกว่าใคร ดังนั้นทุกครั้งที่เขาเห็นรถพยายามเข้ามาจอด เขาก็จะรีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว และบอกกับผู้ปกครองว่าให้ตัวนักศึกษาลงมาจากรถก่อนได้ แต่รถไม่สามารถจอดที่นี่ ได้จริงๆ และต้องไปต่อคิวที่ลานจอดรถ
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็มีเหตุผลเช่นกันเมื่อได้ฟังคําเตือนด้านความปลอดภัยและอนุญาตให้มีการลงจากรถก่อนพวกเขาจึงปล่อยให้ลูกหลานของพวกเขาลากกระเป๋าและลงจากรถเพื่อเข้ามหาลัยก่อนแล้วจึงไปเข้าคิวจอดรถอย่างเชื่อฟัง
แต่ผม
เมื่อป่าใหญ่ขึ้นก็จะมีนกเข้ามาอาศัยมากขึ้น
เนื่องจากมันเป็นมหาวิทยาลัยก็จาเป็นต้องมีคนปกติที่คิดว่าตนเองไม่ธรรมดาและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ในเวลานี้ก็มีรถคันหรูคันหนึ่งเข้ามาจอดอยู่ที่ประตูโรงเรียน
และก็มีผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถ
ผู้หญิงคนนี้มีขายาวและขาวสวยแถมยังดูรวย แต่เมื่อมองเธอแว็บแรกก็รู้ได้เลยว่าเธอนั้นเป็นพวกหยิ่งยโสแววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งราวกับว่าเธอนั้นไม่สนใจใครทั้งนั้น
เธอขับรถ Maserati รุ่นท็อปซึ่งน่าจะได้รับการปรับแต่งมาจากต่างประเทศ
เจียงเฉินเหลือบมองดูมันเขาก็รู้ได้ทันทีว่าราคาของสิ่งนี้ควรมีมากกว่าสิบล้าน
นักศึกษาใหม่ที่อยู่รอบๆ ทุกคนต่างก็มองไปที่นักศึกษาใหม่ที่มามหาลัยด้วยรถ Maserati ด้วยสายตาที่อิจฉาอย่างหาที่เปรียบมิได้
มีการพูดคุยกันมากมาย
“พระเจ้า รวยอะไรแบบนี้?”
“รถคันนี้คงมีราคากว่าห้าล้านถูกไหม?”
“ถ้าไม่รู้อะไรเลยก็อย่าพูดไร้สาระ ราคารถคันนี้ต้องเริ่มสูงกว่านั้นอยู่แล้ว”
“โอ้ พระเจ้า เธอเป็นนักศึกษาจริงๆหรอ ทําไมเธอต้องทําตัวสูงส่งขนาดนี้แล้วทําไมต้องขับรถใหม่เจ๋งๆแบบนี้มามหาลัยด้วยล่ะ”
“ประเด็นคือทุกคนไปที่ลานจอดรถ แล้วทําไมเธอถึงจอดรถที่ประตูโรงเรียนได้ล่ะ? ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย?”
บางคนรู้สึกแย่
เจียงเฉินและเจ้าโง่จมองหน้ากัน
เจ้าโง่จุถามเจียงเฉินอย่างโง่เขลา “พี่เฉิน พี่คิดยังไง จะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้จอดรถปิดกั้นถนนดีไหมหรือเราจะเข้าไปคุยกับเธอ”
เจียงเฉินพยักหน้า
เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในความรับผิดชอบของพวกเขาอยู่ดังนั้นพวกเขาต้องจัดการให้ดี
ต่จนจนรู้สึกดีมาก!ซ
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอมาเรียน
วันเปิดเทอม!
ที่สําคัญที่สุดก็คือ
ด้วยเส้นสายในครอบครัวของเธอทําให้เธอได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานักเรียนปีแรกก่อนที่เธอจะได้เข้ามามหาลัยด้วยซ้ํา!
เธอกําลังจะได้พูดในนามของน้องใหม่ในการประชุมปฐมนิเทศของนักศึกษาใหม่วันนี้!
แต่แค่นั้นมันจะพอหรอ?
เพื่อที่จะโอ้อวดเธอยอมขับรถ Maserati คันใหม่ล่าสุดที่ครอบครัวของเธอให้เป็นของรางวัลกับเธอเมื่อเธอสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้
ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในมหาลัย!
และวันนี้เธอนั้นก็ใช้เวลาไปกับการแต่งหน้าของเธอนานมากทําให้เธอนั้นออกมาสาย
เมื่อมาถึงมหาลัยเธอนั้นก็ต้องพบว่ามีรถยนต์จํานวนมากกําลังต่อคิวเพื่อเข้าไปจอดอยู่! ขมวดคิ้ว
“ประธานนักเรียนที่สง่างามแบบฉัน จะให้ฉันมาเข้าแถวรอกับคนแบบนี้ได้อย่างไร?”
“ฉันจะจอดมันที่หน้าประตูโรงเรียนตรงจัตุรัสนี้แหละ ก็ให้มันรู้ไปว่ารถหรูของฉันมันจะจอดไม่ได้จริงๆหรอ?”
ต่จุนจุนนั้นรู้ว่าครอบครัวของตัวเองนั้นพิเศษและแตกต่างกับคนอื่นตั้งแต่ที่เธออายุยังน้อย
ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโต เธอจึงได้รับความโปรดปรานมาโดยตลอดและฉันชินกับสิทธิพิเศษต่างๆ
ดังนั้นเธอจะไปทนกับการต่อคิวเป็นชั่วโมงได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น เธอต้องกล่าวสุนทรพจน์ของนักศึกษาใหม่ด้วย?
ต่จุนจุนจอดรถของเธอไว้ที่ประตูและเดินไปแบบสบายๆ
ระหว่างทางเธอก็รู้สึกว่ามีคนชื่นชมเธอนับไม่ถ้วน!
สูดอากาศ! !
ฉันต้องการความรู้สึกนี้นี่แหละ!
แต่ใครจะรู้
จู่ๆก็มีรปภ.2คนก่าลังเดินใกล้เข้ามา!
ต่จุนจุนขมวดคิ้ว
อื่ม ไม่ต้องสนใจ!
เดินไปต่อ
เจียงเฉินและเจ้าโง่จูเดินมาหยุดต่อหน้าต่จุนจุนและพูดกับเธอ “ขอโทษด้วยจริงๆ พื้นที่ตรงนี้ไม่อนุญาติให้นักศึกษาหรือผู้ปกครองจอดกรุณาขับรถไปที่ลานจอดรถด้วยครับ”
“ลานจอดรถ?”
ตู้จนจนพูดออกมาอย่างเย็นชา: “พวกนายไม่เห็นรึยังไงว่า ลานจอดรถมันเต็มแล้ว! และฉันกําลังจะเข้าไปไปเรียนสาย พวกนายจะช่วยรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ไหม?!”
เจ้าโง่จุตกตะลึง
เขาหน้าแดงและพูดอย่างงุ่มง่าม “ผมไม่สนใจเรื่องนี้ แต่หน้าที่ของเราคือไม่ให้คนจอดรถที่ประตู คุณช่วยขับรถไปจอดที่ลานจอดรถด้วย! ไม่เช่นนั้น ”
“ถ้าไม่แล้วจะทําไม?”
ต่จุนจุนเลิกคิ้วและพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “บอกฉันมาสิ ฉันรอฟังอยู่!”
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าต่จนจนคนนี้รับมือยากจริงๆ
ต่จุนจุนเริ่มรู้สึกหยิ่งผยองมากขึ้นเรื่อยๆ เธอสูดลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนจะหยิบเครื่องหมายของประธานสภานักเรียนออกมาและเยาะเย้ยเจียงเฉินและกับเจ้าโง่จ
“เห็นไหม พวกนายรู้จักมันรึเปล่า?”
เจ้าโง่จตกตะลึงและมองไปที่เครื่องหมายอยู่นานก่อนจะพูดว่า “คุณคือ… จากหน่วยงานบริหารเมืองหรอ?”
พรูด!
ต่จนจนล้มลงกับพื้น
เจียงเฉินหัวเราะลั่น!
พระเจ้า!
นายเก่งจริงๆ!
คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะคิกคัก
“หน่วยงานบริหารเมืองบ้าบออะไร?!”
ต่จนจนพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันเป็นประธานสภานักศึกษา! นายเข้าใจไหม ฉัน เป็นประธานสภานักเรียน! ฉันเป็นตัวแทนของนักศึกษาใหม่ในการพูดในงานปฐมนิเทศในวันนี้! และพวกนายกําลังทําให้ฉันเข้าไปสาย ถ้าการปฐมนิเทศล่าช้าพวกนายจะสามารถรับผิดชอบได้ไหม?!”
ขณะที่เธอพูด เธอก็พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เจ้าโง่”..”
มองไปที่เจียงเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ
ทํายังไงดี?
ในเวลานี้เจียงเฉินก็เดินออกมาข้างหน้า
“คุณสมาชิกสภานักศึกษาเหรอ?”
เจียงเฉินขมวดคิ้วและพูดว่า “ประธานสภา?”
“ใช่!”
ต่จนจนไม่ได้ใส่ใจกับรูปภสองคนนี้เลยเธอมีประสบการณ์มากมายและด้วยสิทธิ์พิเศษของครอบครัวของเธอทําให้เธอไม่เคยต้องเข้าแถวรอ ดังนั้นแค่เป็นประธานสภานักเรียนจะทําไม่ได้?
นี่คือแนวคิดอภิสิทธิ์ชน – เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษอย่างที่ควรจะเป็นและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เป็นการกระทําที่ โง่เขลา ไร้ความสามารถ
แต่ใครจะรู้ผล
ประโยคมาของเจียงเฉินทําให้ต่จนจนต้องกลายเป็นหิน
“ในเมื่อเธอเป็นประธานสภานักศึกษา เธอควรเป็นแบบอย่างที่ดี! กรุณาไปจอดรถข้างนอก! ห้ามจอดรถที่นี่!
“นาย นาย”
ต่จุนจุนกาลังโกรธ
คิดไม่ถึงเลยว่ารูปภ.สองคนนี้จะไม่มีความเคารพต่อเธอเลย เธอเป็นถึงประธานสภานักศึกษาผู้สง่างาม
เจียงเฉินพูดต่อว่า: “เธอเข้าใจหรือเปล่า? งั้นฉันต้องขอโทษงั้นฉันจะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน การที่เธอมาสายมันก็เป็นเพราะเธอเองเป็นเพราะนิสัยของเธอ การที่เธอมีจุดหมายจะต้องทําอะไรเธอก็ควรที่จะมาก่อนเวลาเพื่อเผื่อเวลาเอาไว้ ถ้าจะถามว่าเรื่อง นี้ปัญหาอยู่ที่ไหนก็คงตอบได้แค่ว่ามันอยู่ที่เธอนั้นแหละ ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเลยแม้ แต่นิดเดียว! ดังนั้นรีบขับรถของเธอออกไปได้แล้ว!”
“นาย นายNe”
ต่จุนจุนโกรธจัด
นักศึกษาและผู้ปกครองที่อยู่รอบๆ ต่างก็เห็นด้วยกับค่าพูดของเจียงเฉิน พวกเขาพากันปรบมือ
“ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้สุดยอดมาก!”
“ยอดเยี่ยม! ทุกคนสมควรปฏิบัติตามกฎ! และประธานสภานักศึกษาก็ควรทําตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี!”
“ฮัม สมัยนี้คนบางคนยังชินกับสิทธิพิเศษ พวกเขาเลยคิดว่าตัวเองจะสามารถทําอะไรก็ทําได้!”
“พวกลูกคนรวยนิสัยเสียกันทั้งหมดเลยรึไง?”
ใบหน้าของคู่จุนจุนแดงกําด้วยความโกรธท่ามกลางการพูดคุยของนักศึกษาใหม่และพ่อแม่ของพวกเขา
เธอไม่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็ก
“แกไอ้ยามรักษาความปลอดภัยแกไม่อยากทํางานแล้วงั้นเหรอ!”
ตูจุนจนพูดอย่างโกรธเคือ: “แกกล้าที่จะหยุดฉันงั้นหรอ เชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถสั่งให้ใครซักคนไล่แกออกได้ในไม่กี่นาที”
“เก่งขนาดนั้นเลยหรอ?”
เจียงเฉินตกตะลึงครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าเธอก็คงมีเส้นสายไม่น้อยเลยสินะ”
“ซึ่ม!”
ต่จุนจุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันไม่ขู่หรอกนะจะบอกเอาไว้ให้! แกเป็นใครกัน? แกมันก็แค่ยามรักษาความปลอดภัย! แกเรียนจบมัธยทร์ยังล่ะ? มหาลัยเคยเรียนบ้างหรือเปล่า?”
เจียงเฉินพูดอย่างรวดเร็ว “ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดอ่ะเคยหมดแล้ว”
ตูจุนจุน “???”
เจ้าโง่จตกตะลึง “พี่เฉิน พี่เคยไปเรียนมหาวิทยาลัยจริงๆหรอ? ผมรู้ครั้งแรกเลยเนี่ย”
เจียงเฉิน: _+
“ฮัม คงเป็นมหาวิทยาลัยห่วยแตกแน่ๆ!”
ต่จุนจุนพูดอย่างดูถูก
เจียงเฉินยิ้ม: “ฉันว่าฉันเป็นรุ่นพี่ของเธอนะ! เพราะฉันจบมาจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแห่งนี้”
“อะไรนะ?”
คนต่างตกใจ
ดวงตาของต่จุนจุนเบิกกว้าง
ดจโง่ๆ อ้าปากของเขากว้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ