เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 402 อ๊ย เจอโจร
ตอนที่ 402 : อ๊ย! เจอโจร!
ทั้งสามมองดูเจียงเฉินเดินจากไปด้วยความเกรงใจและเคารพ
หยางอี้เฉิงปาดเหงื่อและพูดว่า “โชคดีที่คุณเพียงไม่ได้โกรธ ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจอาคารดังเฉิงจงหวนด้วยซ้ํา!”
แต่ใครจะรู้
หากเขาไม่พูดก็คงไม่เป็นไร แต่เมื่อเขาพูดออกมามันก็ทําให้อไห่โกรธอีกครั้ง!
ให้ตายเถอะ!
หลังจากนั้นเขาก็โดนตบหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า
“ได้! ในเมื่อคุณเจียงเขามีสิ่งที่สําคัญกว่าให้ทําเยอะเขาเลยขี้เกียจจะมาจัดการกับคนอย่างนายงั้นฉันจะเป็นคนทุบตีนายเอง! ฉันจะเป็นคนสั่งสอนนายให้เป็นผู้เป็นคนเอง!”
เพี้ยะ เพี้ยะ
และเสียงกรีดร้องของหยางเฉิงก็ดังออกมา
นอกจากนั้นก็มีเสียงขอร้องของเฉิงซีซวน “ท่านประธานอู๋อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ ฮือ~~ พวกเราไม่กล้าทําตัวอวดดีต่อหน้าเจียงเฉินอีกต่อไปแล้ว…..”
วันรุ่งขึ้นเจียงเฉินก็ไปทํางานต่อ
ในเวลานนี้เองอู๋ไห่เจ้าของบริษัทก่อสร้างก็กําลังเดินไปมาอย่างกระวนกระวายราวกับมดบนกระทะร้อน
“ให้ตายเถอะ!”
“เจ้าคนงี่เง่าหยางอี้เฉิงดันไปทําให้คุณเจียงขุ่นเคืองแล้ว”
“ถึงคุณเจียงจะไม่ใส่ใจคนงี่เง่าแบบนั้นแต่ฉันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี”
ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งคิดว่ามันสมเหตุสมผลมากขึ้นเท่านั้น
“ถ้าคุณเจียงหันมาคิดถึงเรื่องนี้ในอนาคตและไม่พอใจขึ้นมาล่ะก็”
“ไอ้เวรหยางอี้เจ๋ง! แกอยู่ที่ไหน?!”
เขาพูดใส่ไมค์อย่างเสียงดัง
หยางอี้เฉิงที่ได้ยินเสียงจากล่าโพงก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วแสง
“อีก!”
อไห่รู้สึกโมโหทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่าย “เมื่อวานนายสร้างปัญหาให้กับคุณเจียง! สร้างปัญหา! ใครใช้ให้นายไปสร้างปัญหากันหะ?!”
ตบหน้าไปหนึ่งที่
หยางอี้เฉิงไม่กล้าขัดขึ้นเขาพยักหน้าและยืนอยู่อย่างนั้น
“บอกฉันมาสิว่าตอนนี้ฉันควรทํายังไง?!”
แม้ว่าอไห่จะเจ็บมือจากการตบหน้าแต่ความโกรธของเขาก็ไม่ได้หายไป
“จู่ๆก็มีความคิดดีแล้วครับ!”
ดวงตาของหยางอี้เฉิงเป็นประกายเขารีบพูดออกมา “ตอนนี้คุณเจียงเป็นยามรักษาความปลอดภัยในอาคารแห่งหนึ่งใช่ไหมครับ? ถ้าเราต้องการให้เขาพึงพอใจทําไมเราไม่จ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยที่คุณเจียงทํางานอยู่มาทํางานที่ไซต์ก่อสร้างของเราล่ะครับ?”
“อะไรนะ?”
ดวงตาของอู๋ไห่เป็นประกาย “เจ้าบ้าแกมีความคิดที่ดีจริงๆ!”
“ดี!”
หยางอี้เฉิงพูดออกมา “ถ้าเราต้องการทําให้คุณเพียงพอใจ ดังนั้นการให้เขามาที่ไซต์ก่อสร้างของเราและกินดื่มอย่างสบายใจบริการเขาอย่างดีไม่ให้เขาต้องโดนแดดคุณเจียงจะต้องพอใจขึ้นมาอย่างแน่นอน!”
อูไห่พยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่า “ฉันจะโทรหาบริษัทรักษาความปลอดภัยของคุณเจียงทันที!”
บริษัทรักษาความปลอดภัยหลิวเปาได้รับโทรศัพท์จากอู๋ไห่ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
อาคารกังเฉิงจงหวน? ต้องการยามรักษาความปลอดภัยเข้าไปดูแลไซต์ก่อสร้าง?
แถมยอมเสียเงินจ้างสูงกว่าปกติ?
ยามรักษาความปลอดภัยปกติจ่ายเงินเดือนละ 5,000 หยวนแต่พวกเขากลับต้องการให้ 20,000 หยวน?
พระเจ้า~~
ยามรักษาความปลอดภัยขาดแคลนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่สิ่งที่ทําให้ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทรักษาความปลอดภัยสับสนมากกว่าเดิม นก็คืออู๋ไห่ไม่เพียงแต่ให้เงินเดือนสูงกว่าปกติเท่านั้นแต่ยังก่าหนดว่าคนที่เขาต้องการนั้นมีชื่อว่าเจียงเฉินอีก?
ถึงแม้ว่ามันจะดูน่าสงสัยแต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่บริษัทรักษาความปลอดภัยจะปฏิเสธข้อเสนอดีๆแบบนี้ ดังนั้น…..
เจียงเฉินและเจ้าโง่จุพร้อมกับหัวหน้าโจวก็ถูกส่งตัวไปที่นั่นทันที
หัวหน้าโจวพูดออกมาอย่างเหลือเชื่อ “เจียงเฉิน เจ้าโง่ ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์มาจากบริษัทเมื่อกี้นี้ พวกเขาต้องการให้ทีมของเราเก็บของทันทีและไปที่ไซต์ก่อสร้างของกังเฉิงจงหวน? เพื่อไปทํางานที่นั่น!”
เจียงเฉินกระพริบตาและเขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ในไม่กี่วินาที
นี่จะต้องเป็นผลจากการพูดคุยกับอูไห่และหยางอี้เฉิงแน่ๆ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายต้องการให้ฉันพอใจ
แม้ว่าเจียงเฉินจะรู้สึกว่าคนทั้งสองนั้นไม่ได้มีความสําคัญอะไรแต่เจียงเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจ
เพราะถึงยังไงอาคารดังเฉิงจงหวนมันก็เป็นของเขาไม่ใช่เหรอ?
เจียงเฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เป็นยามรักษาความปลอดภัยจําเป็นต้องกาหนดที่ด้วยหรอ?
ตราบใดที่ยังเป็นยามรักษาความปลอดภัยอยู่ก็มีโอกาสได้รางวัลจากระบบเสมอ!
นอกจากนี้ ฉันเองก็ยังไม่ได้เห็นอาคารสํานักงานระดับไฮเอนด์อย่างทั้งเฉิงจงหวนของตัวเองเลย
เจียงเฉินพยักหน้า “โอเคหัวหน้าไปกันเถอะ”
หัวหน้าโจวพร้อมกับเจียงเฉินและเจ้าโง่จุพร้อมกับยามรักษาความปลอดภัยคนอื่นๆก็เดินทางไปที่ไซต์ก่อสร้างทันที
อาคารกังเฉิงจงหวน นั้นตั้งอยู่บนถนนรุนแรงรอบที่สองฝั่งตะวันออก เป็นจุดที่อยู่ใกล้กับส่วนกลางของเมืองหลวงและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เจริญที่สุด
เบื้องหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความวุ่นวายของไซต์ก่อสร้าง
เจียงเฉินก็เห็นว่าโครงการดังเฉิงจงหวนนั้นก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้วเหลือเพียงแค่เก็บงานและตกแต่งเท่านั้น
อาคารของที่นี่สูง 21 ชั้นโครงสร้างดูโอ่อ่าและสูงมาก
“เจียงเฉินกับเจ้าโง่จคืนนี้พวกนายเข้าเวรที่นี่นะ!”
“ครับ!”
ไม่นานก็ถึงเวลากลางคืน
ในขณะที่เจียงเฉินกําลังหลับสนิท
เจ้าโง่ก็เดินเข้ามาและแตะเจียงเฉิน
“พี่เฉิน! พี่เฉิน!”
“มีอะไรผิดปกติหรอ?”
เจียงเฉินตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและขยี้ตา
ใช่แล้วคืนนี้เจียงเฉินกับเจ้าโง่จต้องคอยเดินตรวจตอนกลางคืนแต่ผม
มีหรอที่เจียงเฉินจะสามารถทําหน้าที่ตอนกลางคืนได้?
เขานอนไปตั้งแต่หัวค่ําแล้ว!
เจ้าโง่ก็ทํางานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและไร้ที่ติ! ทําให้เจียงเฉินไม่จําเป็นต้องทําด้วยตัวเอง
“ผมเจอขโมย!”
เจ้าโง่จูลดเสียงลงและพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
แม้ว่าเจ้าโง่จจะมีร่างกายที่สูงใหญ่และดูแข็งแรงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับขโมย
มันจึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกกลัวๆขึ้นมาเล็กน้อย
“อะไรนะขโมย?”
เจียงเฉินคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก
ทุกวันนี้ยังจะมีโจรขโมยวัสดุก่อสร้างอีกหรอ?
“ใช่ พี่เฉิน แต่ถ้ามันรบกวนเวลานอนของพี่ก็ไม่เป็นไรนะ”
เสียงของเจ้าโง่จสั่น “พวกมันมีมากกว่า 1 คนดูเหมือนว่าพวกมันจะเข้ามาขโมยวัสดุก่อสร้าง แต่ที่นี่มีแค่พวกเขา 2 คนพวกเราจัดการไม่ได้แน่ผมเลยจะโทรหาต่ารวจ”
เดิมที่เจียงเฉินกําลังจะพยักหน้าเห็นด้วยแต่ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นได้
เดี๋ยวก่อนนะ?
นายธนาดิฉันเป็นยามรักษาความปลอดภัยฉันควรที่จะมีหน้าที่กลับขโมยไม่ใช่หรอ?
และอย่างฉันก็เป็นถึงต่ารวจอาชญากรรมนี่มันก็เป็นหน้าที่ของฉันด้วยไม่ใช่หรือไง?
เหตุฉุกเฉินแบบนี้มันอาจจะเป็นบททดสอบของระบบก็ได้ถูกไหม?
เจียงเฉินกระแอมออกมา “อย่าเพิ่งตกใจ! ขอฉันไปดูก่อน”
เจ้าโง่จูพยักหน้าทันที
หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มาเขาก็เริ่มเชื่อเจียงเฉินอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ เขาเป็นเหมือนกับน้องชายของเจียงเฉินที่ไม่ว่าพี่ชายจะพูดอะไรเขาก็จะทําตามพี่ชายทุกอย่าง
เจียงเฉินหยิบกระบองขึ้นมา ปิดไฟฉายและย่องไปที่ไซต์ก่อสร้าง
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว
ภายใต้แสงจันทร์
มีคนประมาณสี่ถึงห้าคนกําลังยุ่งอยู่ในไซต์ก่อสร้างทั้งที่มันถึงเวลาเลิกงานนานแล้ว
ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังยุ่งกับการขโมยอะไรบางอย่าง
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาขโมยสายเคเบิล
เจ้าโง่จที่มีประสบการณ์รักษาความปลอดภัยมานานพูดกับเจียงเฉิน
“นอกจากนี้ตรงนั้นมีรถตู้ที่มารอรับพวกเขาพร้อมกับของอยู่ด้วย
เจ้าโง่จู่ชี้ไปที่รถตู้ที่อยู่ห่างออกไป
“พี่เฉิน มีแค่พวกเราสองคนพวกเราคงเอาชนะพวกเขาไม่ได้หรอก พวกนั้นมีอาวุธทั้งท่อเหล็กแล้วก็มีดเลยนะ”
เจ้าโง่พูดออกมา
เจียงเฉินมองอย่างระมัดระวัง
ขโมยกลุ่มนี้มีการแบ่งงานที่ชัดเจน พอพวกเขามีคนที่ถือท่อเหล็กเอาไว้ดูลาดเลามีคนที่คอยขับรถไปมาเพื่อรอรับทุกคน และก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยรับหน้าที่ขโมยของดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นพวกที่มีประสบการณ์ทําผิดซ้ําซาก
ที่ไซต์ก่อสร้างวัสดุบางอย่างนั้นมีราคาแพงมาก ถ้าหากมันถูกขโมยไปและนําไป ขายก็คงได้อย่างน้อยหลายหมื่นหยวน
เดิมที่วิธีการโง่ๆอย่างการเรียกตรวจนั้นจะปลอดภัยกว่า
แต่กว่าต่ารวจจะมาถึงมันก็ต้องใช้เวลา
และดจากการวางแผนของขโมยกลุ่มนี้พวกเขาคงมีประสบการณ์สูงและพวกเขาคงวางแผนที่จะนี้เอาไว้อยู่แล้ว
เจียงเฉินหัวเราะออกมา
ให้ตายเถอะ
คิดจะขโมยของฉันเนี่ยนะ?
อาคารกังเฉิงจงหวนแห่งนี้เป็นบ้านของฉัน!
มีเหรอที่ฉันจะยอมทน?
และอีกอย่าง~~
การจับขโมยกลุ่มนี้ภายใต้หน้าที่ของยามรักษาความปลอดภัย…..ก็อาจจะได้รางวัลจากระบบด้วยถูกไหม?
เจียงเฉินรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
“พวกเราจะจับพวกเขาเอง!”
เจ้าโง่จ “???”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ปกติแล้วเฉินจะใช้เส้นทางที่ดูเรียบง่ายที่สุด แต่การเข้าไปสู่……เขาไม่เคยเห็นว่าเจียงเฉินจะทําแบบนี้มาก่อน
เจ้าโง่จูถามออกมาอย่างสงสัย “พี่เฉิน ผมเคยเป็นทหารมาก่อนแน่นอนว่าผมไม่มีปัญหาที่จะขึ้นไปสู่ แต่พี่เฉินอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้มากนัก ผมกลัวว่าถ้าเกิดพี่ขึ้นไปแล้วพวกเขาจะทําลายพี่”
“ฮ่าๆ”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ไม่ต้องกังวลไป พวกเราไปกันเถอะ เดี๋ยวนายรับผิดชอบเรื่องการจัดการกับรถตู้ของขโมยขั้นนั้น ไปจัดการกับคนขับซะอย่าปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้แม้แต่คนเดียวส่วนที่เหลือฉันจัดการเอง”
“รับทราบครับ”
เจ้าโง่จูพยักหน้า
เจียงเฉินแอบเดินขึ้นไป
ส่วนเจ้าโง่ก็ทําตามแผนของเจียงเฉิน แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีความคิดที่เรียบง่าย แต่การที่เขาเป็นยามรักษาความปลอดภัยมานานเขานั้นก็ต้องได้รับการฝึกมากไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าไปหาคนขับรถและดึงตัวลงมาจากรถได้อย่างง่ายดายทําให้เขาสามารถควบคุมรถของขโมยได้อย่างสมบูรณ์
“ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉินแล้วบ้าง?”
เจ้าโง่กังวลว่าเจียงเฉินจะได้รับอันตราย
แม้ว่าสมองของพี่เฉินจะดีแต่ครั้งนี้มันเป็นการต่อสู้ที่ใช้ร่างกาย –
เจ้าโง่จูเลยอดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปสนับสนุนเจียงเฉิน
แต่ใครจะรู้~~
เมื่อเขามาถึงไซต์ก่อสร้างเขาก็เห็นเจียงเฉิน….
พร้อมกับหัวขโมยผู้โชคร้าย 5 คนถูกมัดรวมกันเป็นก้อน!
เจ้าโง่จู “???”
พระเจ้า~~
ลูกตาแทบหลุดออกมา
“พี่เฉิน พี่….”
“พี่ทั้งหมดเองเลยหรอ?”
เจียงเฉินยิ้มออกมา
คราวนั้นมีร่างกายอยู่ในระดับเดียวกันกับทหารหน่วยรบพิเศษและทักษะการต่อสู้จากระบบ 4.0!
ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยถ้าหากจะพูดว่าเจียงเฉินนั้นสามารถสู้กับคนในอัตราส่วนสิบต่อหนึ่งได้สบายๆ!
หรือบางทีแม้แต่ทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็อาจจะไม่สามารถสู้กับเขาได้เลยด้วยซ้ํา!
ดังนั้นหัวขโมยห้าคนที่ไม่ได้รับการฝึกอะไรเลยเจียงเฉินมีหรอที่จะแพ้?
เพียงเฉินสามารถเข้าหาหัวขโมยทั้งห้าคนโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวและใช้ประโยชน์จากความมืดจัดการกับพวกเขาทีละคน ก่อนที่จะนํามามัดรวมอย่างรวดเร็ว
เมื่อเผชิญหน้ากับโจรที่ถูกมัดรวมกันเป็นเกี้ยวอยู่บนพื้น เจียงเฉินก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “คนตั้งเยอะขนาดนี้แต่เอาชนะฉันไม่ได้สักคน”
เจ้าโง่ “…”
หัวขโมย “…..”
ให้ตายเถอะ
ในเวลานี้เองหัวหน้าขโมยก็ยิ้มออกมาอย่างแห้งและพูดกับเจียงเฉินและเจ้าโง่จ “พวกนายสองคนน่ะพวกเราผิดเองที่เข้ามาขโมยของ แต่…ฮิฮิ พวกนายช่วยปล่อยพวกเราไปสักครั้งได้มั้ย?”
“ปล่อยไปงั้นเหรอ?”
เจียงเฉินหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ฉันจะพวกนายได้ทุกคนท่าไมฉันต้องปล่อยพวกนายไปด้วยล่ะ?”
“นั่นก็เพราะว่า”
หัวหน้าโจรพูดออกมา “น้องชายพวกเรารู้ถึงความตระหนี้ของบริษัทรักษาความปลอดภัยดี พวกนายจะพวกเราได้พวกนายจะได้ประโยชน์สักเท่าไหร่กันเชียว? อย่ามากคงให้โบนัสแค่ไม่กี่ร้อยเงินแค่นั้นแทบทําอะไรไม่ได้เลย ม”
เขาลืมตาแล้วพูดออกมา “หนึ่งพันหยวน! ฉันจะให้พวกนายหนึ่งพันหยวน! ของทั้งหมดฉันจะทิ้งเอาไว้ที่นี่ พวกนายยังสามารถบอกให้กับบริษัทรู้ได้ว่าที่นี่ถูกขโมยเข้ามาแล้วพวกนายก็เป็นคนไล่ออกไปบางทีพวกมาอาจจะยังมีรางวัลเหลืออยู่บ้าง”
เจ้าโง่จูมองไปที่เจียงเฉิน
เจียงเฉินส่ายหัว
หนึ่งพันหยวนแลกกับการปล่อยตัวเนี่ยนะ?
หึหึ
“แค่พันเดียวเองเหรอ?”
หัวหน้าขโมยพูดออกมาอย่างแปลกใจ “นายอย่าโลภเกินไปหน่อยสิ! เดือนนึ่งยามรักษาความปลอดภัยแบบไหนจะได้เงินเดือนซักเท่าไหร่กันเชียว?”
เจียงเฉินส่ายหัวและแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไม่ต้องการที่จะต่อรอง
หัวหน้าขโมยรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที
เขานั้นเคยเข้าคุกมาแล้วสองครั้งถ้าหากว่าเขาถูกจับส่งสถานีตํารวจอีกน่ากลัวว่าเขาคงจะได้รับโทษที่หนักกว่าเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้แล้วต่อให้ล้มละลายก็ต้องต่อรองให้ได้!
“สองพัน!”
หัวหน้าขโมยพูดออกมา “สองพันแลกกับอิสระของฉัน!”
เจียงเฉินยังคงส่ายหัว
“จะต่อรองยังไงฉันก็ไม่เอาหรอก”
หัวหน้าขโมยโกรธ “ห้าพัน! ห้าพันแล้วปล่อยฉันไปได้ไหม?”
เจียงเฉินยังคงส่ายหน้าอีกครั้ง
“หนึ่งหมื่น!”
“สองหมื่น!”
หัวหน้าขโมยเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระอักเลือดออกมา
พระเจ้า!
ขโมยพวกนี้รวยมาก!
ใช้เงินขนาดนี้เพื่อแลกกับอิสระ?
ถ้าตัวเองรวยขนาดนั้นแล้วจะขโมยของอยู่ทําไม?
แต่สุดท้ายแล้วเจียงเฉินก็ยังคงส่ายหัวไม่!
“นาย นาย….”
หัวหน้าขโมยปกปิดความเศร้าของตัวเองและตะโกนออกมาว่า “หนึ่งแสน! หนึ่งแสน! พอหรือเปล่า?!”