ตอนที่ 394 : กฎหรอ? ฉันนี่แหละกฏ!
หลังจากที่ประธานเป่ยขับรถออกไปเฉินลี่ก็โบกมือสั่งหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัย “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแล้วพวกนายกลับไปได้เลยถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้ทันที”
หัวหน้ายามและคนอื่นๆก็จากไป
เฉินลี่พูดคุยกับหวังต้าจอีกนิดหน่อยก่อนจะนําเจียงเฉินไปที่ห้องทํางานของเขา
“พระเจ้า!”
ทันทีที่เฉินลี่ปิดประตูเขาก็หันหน้ากลับมาพูดกับเจียงเฉิน “คุณเจียง ทําไมคุณถึงมาเป็นยามรักษาความปลอดภัยที่นี่ได้เ? เมื่อคุณทําให้ผมตกใจแทบตายเลยนะ!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ฉันยังเคยเป็นคนส่งอาหารมาแล้วทําไมฉันจะเป็นยามไม่ได้ล่ะ?”
“เป็นได้ครับ…..”
เฉินลี่พูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “แต่คุณเป็นใครกันแล้วคุณจะมาเป็นยามรักษาความปลอดภัยตัวเล็กแบบนี้ได้ยังไงกัน? อย่างน้อยคุณก็ควรเป็นหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยนะเอา เป็นว่าให้ผมปลดหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยออกแล้วเอาคุณขึ้นมาแทนดีไหม?”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ฉันกําลังออกหาประสบการณ์ชีวิตอยู่ ถ้าฉันขึ้นมาเป็นหัวหน้าเลยฉันจะไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตได้ยังไง?”
หัวใจของเฉินลี่รู้สึกห่อเหี่ยว
พวกเราแตกต่างกันเกินไป!
บอสเจียงก็ยังเป็นบอสเจียงอยู่วันยันค่ําจริงๆ!
เศรษฐีตัวจริง!
ออกตามหาประสบการณ์ชีวิต!
“โอเคแล้วเจอกันใหม่ล่ะ แล้วก็อย่าลืมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วย!”
เจียงเฉินสั่ง
“รับทราบครับ!”
เฉินลี่ปาดเหงื่อ
ต้องทํางานอย่างหนักอีกแล้ว
เพื่อความปลอดภัยของคุณเจียงและยังต้องระวังพวกไร้สมองมาหาเรื่องคุณเจียงอีกงานแบบนี้จะทําแบบชุ่ยๆได้ยังไง
น่าสงสาร!
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทําให้ดีที่สุด
แต่~~
เฉินลี่มองไปที่เจียงเฉินที่ทํางานอยู่ในลานจอดรถซึ่งมันดูไม่ได้สนุกเลยแม้แต่น้อย
ให้ตายเถอะ!
หัวหน้ายามคนนี้มันบ้าไปแล้ว!
จะให้คุณเจียงมาเป็นยามในลานจอดรถเนี่ยนะ?
ต้องย้ําเตือนเขาหน่อยแล้ว!
เขาพยายามบีบสมองเค้นหาวิธีมากแก้ปัญหาและในที่สุดเขาก็คิดวิธีได้
เรียกหัวหน้ายามเข้ามาพบทันที
“นี่ ในทีมรักษาความปลอดภัยของนายมีคนทีมที่ชื่อว่าเจียงเฉินใช่ไหม ฉันคิดว่างานของเขาหนักไปหน่อยนะ”
เฉินลี่เอามือไว้ข้างหลังและพูดออกมาอย่างใจเย็น
“ครับ”
“ส่งตัวเขาเข้าไปทํางานในอาคารและให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลลิฟต์แทน”
เฉินลี่พูดออกมา “งานนี้มีความสําคัญมากนะ”
“ผมจะจัดการให้ดรครับ!”
หัวหน้ายามคิดในใจด้วยความสงสัย
ทําไมประธานเฉินถึงดูแลเจียงเฉิงเป็นพิเศษขนาดนี้?
แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ต้องทําตามคําสั่งที่ได้รับมา
เจียงเฉินและหวังต้าจูจึงถูกส่งมาทําหน้าที่อยู่ที่หน้าลิฟต์
และอาคารศูนย์กลางทางการเงินนั้นก็มีกฎอยู่ว่าห้ามไม่ให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขึ้นไปชั้นบนโดยเด็ดขาด
ตอนนี้เจียงเฉินนั้นก็เป็นคนดูแลลิฟต์ดังนั้นเขาจึงต้องตรวจสอบใบอนุญาตทํางานของทุกคนที่จะขึ้นลิฟต์
อาคารศูนย์กลางทางการเงินนั้นมีผู้คนผ่านไปมามากมาย
และในเวลานี้เองก็มีผู้หญิงที่แต่งตัวดีคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับความเย็นชา
เธอเดินตรงเข้ามาที่ลิฟต์
“สวัสดีครับช่วยแสดงบัตรอนุญาตทํางานของคุณด้วย”
เจียงเฉินก้าวออกมาและพูดกับเธออย่างสุภาพ
“อะไรนะ บัตรอนุญาตทํางาน?”
ผู้หญิงคนนั้นขึ้นเสียงของเธอทันที
“ใช่ครับ”
เจียงเฉินยิ้ม “นี่เป็นนโยบายของทางอาคารหากไม่มีใบอนุญาตทํางานก็แปลว่าคุณไม่ใช่ พนักงานในอาคารนี้แล้วคุณไม่สามารถขึ้นไปข้างบนได้ หากคุณต้องการขึ้นไปจะต้องให้คนข้างบนลงมารับคุณ”
“ฉันมาที่นี่เพื่อทําธุรกิจกล้าดียังไงถึงมาห้ามฉันฮะพวกยามตัวเหม็น!”
ท่าทีของหญิงสาวดูเยอะยิ่งมาก “นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ผมไม่สนว่าคุณเป็นใครแต่ช่วยปฏิบัติตามกฎด้วยครับ”
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกรําคาญมาก “ฮัม! ฉันมาทําธุรกิจถ้ามันล่าช้านายจะรับผิดชอบได้ไหม?!”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา “ธุรกิจของคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับผม คุณไม่สามารถขึ้นไปได้หากไม่มีใบอนุญาตทํางาน!”
หวังต้าจูในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากแฟนคลับตัวยงของเจียงเฉินไปแล้วเมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฉินกําลังโต้เถียงอยู่กับกับผู้หญิงคนหนึ่งเขาก็รีบมายืนอยู่ข้างเจียงเฉินทันที
“อะไรกัน ที่รีบต้องมียามเยอะขนาดนี้เลยหรอ?”
แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กลัวเลยเธอใช้ความฉลาดของเธอตะโกนออกมา “ทุกคนมาดูนี่สิ ยามรักษาความปลอดภัยสองคนนี้รังแกฉัน!”
เจียงเฉินตกตะลึง
อะไรกันทําไมช่วงนี้ถึงมีเรื่องแปลกเยอะขนาดนี้?
แค่ขอใบอนุญาตทํางานมันยากขนาดนั้นเลยหรอ?
ไม่ขอใบอนุญาตแต่ว่ามากล่าวหาคนอื่นลอยๆเนี่ยนะ?
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ลิฟท์ของที่นี่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีแถมพื้นก็ยังถูกถูจนเป็นเงา”
ผู้หญิง “???”
เขากําลังหมายถึงอะไร?
สับสน
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา “ดังนั้นหากคนเราดูแลรูปร่างหน้าตาตัวเองได้ไม่ดี! ก็จะเหมือนกับผู้หญิงบางคนแถวนี้ ที่จะแสดงด้านที่ไม่ได้ดูออกมา”
เจ้าโง่จที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะออกมา
“ใช่แล้ว!
“นาย นายพูดว่าอะไรนะ?!”
ผู้หญิงคนนั้นถูกความโกรธครอบงําเธอกรีดร้องออกมา “พวกนายกล้าล้อเลี่ยนรูปลักษณ์ของฉันงั้นเหรอ?!”
ในเวลานี้เองก็เริ่มมีคนเข้ามามุงดูเรื่อยๆ
ผู้คนมากมายรวมตัวกันเพื่อชมความตื่นเต้น
“หืม? มีเรื่องงั้นหรอ?”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่มีใบอนุญาตทํางานและเธอไม่ต้องการที่จะโทรให้คนข้างบนลงมารับ แต่เธอต้องการที่จะบุกเข้าไปแทน”
“ก็แค่ทําตามกฎมันยากขนาดนั้นซะที่ไหน?”
“น้องชายคนนั้นก็พูดเพราะจริงๆนะ
เจียงเฉินพูดออกมายังเฉยเมย “คุณคิดว่าตัวเองดูดีหรอ? ตรงลิฟหมีกระจกอยู่นะไปดูก็ได้”
ความโกรธของเธอพุ่งทะยาน
“แก! ไอ้ยามรักษาความปลอดภัย! พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นผู้จัดการอาวุโสของแผนกให้คํา ปรึกษาของบริษัทผู้ที่ชั้นบน! ฉันรับผิดชอบในเรื่องของการจัดการทรัพย์สินและให้คําแนะนํา! ในปีหนึ่งฉันมีเงินเดือนมากกว่าหนึ่งล้าน! ส่วนพวกแกที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยชั้นต่ําได้ก็ได้เงินเดือนแค่ 3 พันเท่านั้น!”
เธอชี้ไปที่เจียงเฉิน “แกไม่มีคุณสมบัติมาคุยกับฉันด้วยซ้ํา! ไปเรียกหัวหน้ากับเจ้านายของแกมาเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการให้พวกเขาไล่แก้ออกไม่อย่างนั้นบริษัทของพวกแกเตรียมเจอปัญหาได้เลย! ก็แค่บริษัทรักษาความปลอดภัยจะเปลี่ยนกี่ครั้งก็ได้”
เจียงเฉิน “โอ้ ดังนั้นคุณก็เลยไม่คิดจะปฏิบัติตัวตามกฎเลยสินะแถมยังสามารถทําตัวหยาบคายกับยามรักษาความปลอดภัยได้ตามใจชอบอีก”
“แน่นอน!
หญิงสาวเจ้าเล่ห์เอามือเท้าเอวของเธอและพูดออกมาอย่างหยิ่งยโส “กฏน่ะมันใช้สําหรับบังคับคนอื่น แต่ฉันพิเศษกว่าคนพวกนั้น! และฉันก็ไม่จําเป็นต้องทําตัวตามกฏ!”
เจียงเฉินที่ได้ฟังคําพูดที่เย่อหยิ่งของหญิงสาวเจ้าเล่ห์เขาก็ยิ้ม “นี่…. คุณคิดจะสอนให้ผมเป็นคนแบบนั้นงั้นหรอ? งั้นผมเกรงว่าคุณคงไม่จําเป็นต้องสอบผมแล้วล่ะเพราะผมเนี่ยแหล่ะจะเป็นสอนให้คุณเป็นคนดีเอง! คุณจะได้ไม่ไปแหกกฎที่อื่นอีก!”
คนรอบข้างเริ่มพูดคุยกัน
“ยามคนนี้ดีจัง”
“ใช่ทั้งหล่อทั้งจริงใจ!”
“กฏการควบคุมการเข้าออกของอาคารนี้ก็มีมานานแล้ว ถ้าหากไม่มีใบอนุญาตให้ขึ้นไปก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปโดยเด็ดขาด! ถ้าเธอเป็นพนักงานของที่นี่จริงเธอก็ควรรู้กฎนี้ไม่ใช่รึไง?”
“ก็นะคนจํานวนมากในสังคมสมัยนี้ถือคติว่าตัวเองเหนือกว่าและก็ไม่ทําตัวตามกฏที่ถูกตั้งเอา ไว้”
แต่ก็มีบางคนที่เริ่มกลัวว่าเจียงเฉินนั้นจะไม่สามารถรับมือกับเธอได้ “น้องชายนายอย่าหาเรื่องกับเธอเลยเธอแข็งแกร่งเกินไปนะ”
“ใช่ๆ บริษัทผู้ตําเป็นถึงลูกค้ารายใหญ่ของอาคารนี้เลยนะพวกเขาเช่าอาคารนี้ไปถึง 2 ชั้น ถ้าหากว่าเธอใช้อานาจในทางที่ผิดขึ้นมานายจะเดือดร้อนได้นะ”
“น้องชาย นายปิดตาข้างนึงก็ได้แล้วปล่อยให้เธอขึ้นไป ไม่จําเป็นต้องทําแบบนี้หรอก”
หญิงสาวที่ได้ยินคนพูดกันแบบนั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกหยิ่งยโสมากขึ้นไปอีก “ได้ยินหรือยังล่ะ แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่แกจะเสียใจ! เว้นแต่ว่าแกจะยอมคุกเข่าและขอโทษฉันคนนี้มาอย่างนั้นก็เตรียมตัวว่างานได้เลย!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ขอโทษนะ แต่การคู่ของเธอมันไร้ประโยชน์สําหรับฉัน
ในเวลานี้เอง
หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยก็รีบวิ่งเข้ามาหลังจากที่เขาได้ยินเรื่อง
“เกิดอะไรขึ้นทําไมถึงมีเสียงดัง?”
เมื่อเขาเห็นหญิงสาววิ่งผยองเขาก็ต้องตกใจ
“พระเจ้า! พี่ไป!”
“สวัสดีครับคุณไป”
หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยโค้งคํานับให้
หญิงสาวหยิ่งยโสชี้ไปที่เจียงเฉินที่อยู่ข้างหน้าของเธอและพูดอย่างเย็นชาว่า “หัวหน้าโจวใช่ไหม คุณลองดูลูกน้องของตัวเอง เป็นแค่ยามรักษาความปลอดภัยแต่กล้าเรียกร้องความชอบธรรมมาขวางทางหน้าฉันแล้วมาบอกว่ากฎต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตลก! ฉันเนี่ยแหละที่เป็นคนกำหนดกฎ! บริษัทของนายควรไปอบรมเขาใหม่นะ!”
หัวหน้าโจวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
ต้องรู้ก่อนว่าบริษัทลงทุนผู้ทํานั้นยอดเยี่ยมมาก
มันเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลสูงที่สุดบนถนนการเงิน และยังมีหลายคนที่ว่ากันว่าพนักงานของที่นี่เฉลี่ยแล้วได้เงินต่อปีมากถึงหนึ่งล้านหยวน
และก็มีเพียงแค่ไม่กี่บริษัทที่สามารถเช่าอาคารศูนย์กลางทางการเงินในครั้งเดียวถึง 2 ชั้น!
การเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ปั้มนั้นทั้งค่าเช่าและค่าใช้จ่ายมากมายเรียกได้ว่านี่คือบริษัทที่เป็นลูกค้าวีไอพีของอาคารเลย ดังนั้นแน่นอนว่าอาคารนั้นจะต้องให้ความสําคัญและการดูแลที่เป็นพิเศษกับพวกเขา……
และบริษัทรักษาความปลอดภัยบริษัทก่อนก็ได้สร้างความวุ่นวายให้กับพี่ไป์คนนี้และสุดท้ายพี่ไปก็กดดันให้ทางอาคารเปลี่ยนบริษัทรักษาความปลอดภัยได้สําเร็จและบริษัทรักษาความปลอดภัยนั้นก็ต้องจากไปด้วยความสิ้นหวัง!
แม้แต่เฉินลีรองผู้จัดการอาคาร ก็ยังได้เน้นย้ํากับเขาให้ดูแลบริษัทผู้จําเป็นอย่างดี
และตอนนี้เชิญก็ไปสร้างความขุ่นเคืองให้กับพพี่สาวไปแล้ว!
“เจียงเฉิน นายหลีกทางให้เธอเดี๋ยวนี้!”
หัวหน้าโจวตะโกนออกมาพร้อมกับหันไปพูดกับพี่ไป “ขอโทษจริงๆครับพี่ไปที่คนของน้อง ชายทําตัวงี่เง่าใส่แถมยังมาขวางทางเป็นเพราะผมฝึกเขาไม่ดีเอง”
“อื้ม! รู้ไหมว่าเขาถ่วงเวลาใช้มานานมากแค่ไหนแล้ว? คิดว่าคําไม่กี่คําของนายมันจะสามารถจบเรื่องได้งั้นหรอ?”
พี่ไป์เยาะเย้ยและไม่ยอมให้อภัย “ถ้าเขาไม่ยอมภูเขาให้ฉันวันนี้ฉันจะไม่ขึ้นไป! และฉันจะรายงานพวกนายทั้งหมด”
หัวหน้าโตวเกาหูและแก้มอย่างกังวลก่อนจะหันกลับมาพูดกับเจียงเฉิน “นายยังจะรออะไรอยู่อีกล่ะเร็วเข้ารีบทําตามที่เธอบอกเร็ว!”
แต่ใครจะรู้
เจียงเฉินกลับยิ้มออกมาและพูดว่า “หัวหน้าโจว กฏไม่ว่ายังไงก็ต้องเป็นกฏ! กฎที่ถูกกําหนดไว้สําหรับอาคารนี้คือคนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปโดยที่ไม่มีใบอนุญาตทํางาน แม้ว่าพี่สาวคนนี้จะเป็นคนรู้จักของคุณแต่เธอก็ต้องเชื่อฟังกฎ เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปโดยที่ไม่มีใบอนุญาตทํางานเพราะนี่คือกฎ!”
เจียงเฉินยืนอยู่ต่อหน้าพี่สาวไป๋ด้วยความหยิ่งผยอง “ถอยกลับไป! ผมไม่ขอบอกคุณเป็นครั้งที่สอง! และคุณเองก็คงได้ยินชัดแล้วนะ!”
ทั่วทั้งสถานที่เงียบสงัดลงทันที
ตกตะลึงกันถ้วนหน้า~~
ทําไมยามรักษาความปลอดภัยสุดหล่อคนนี้ถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้?
นี่มันยากเกินกว่าจะถอยกลับแล้วนะ!
ถ้าตัวเองไม่แข็งแกร่งพอก็จบแน่!
ก่อนหน้านี้ถ้าไม่รู้จักตัวตนของพี่สาวไปมาก่อนก็คงพอทําความเข้าใจได้แต่ตอนนี้พอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาแต่ยังกลับจะดื้อดึงอยู่อีก?
พระเจ้า!
เริ่มมีการพูดคุยกันมากมาย
“ช่างเป็นน้องชายที่มีความยุติธรรมอันแรงกล้า!”
“ยามรักษาความปลอดภัยคนนี้หล่อมาก! ดูเหมือนว่าฉันคงต้องเป็นแฟนคลับของเขาแล้ว!”
“ผู้หญิงแซ่ไป์คนนี้เอาแต่พึ่งพาชื่อบริษัทของตัวเองเอาไปโอ้อวด! ฉันเองก็ไม่ชอบเธอมานานแล้วเหมือนกัน!”
“ใช่ ฉันเองก็ยังไม่เคยเห็นเลยว่าเธอมีความสามารถอะไรด้วยซ้ํา”
กัปตันโจวถึงกับตกตะลึง
ปิดหน้า….
ให้ตายเถอะ!
เจียงเฉินนายอย่าเอาความเดือดร้อนมาให้ฉันได้ไหม
เห็นไหมว่าพี่ไปโกรธมากจนตาเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว!
“นายแซ่โจวนายได้ยินไหม?!”
ในเวลานี้เอง –
ก็มีสองสาวงามจับมือกันเดินผ่านมา
สองสาวงามคนนั้นก็คือมู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียน
หญิงสาวทั้งสองคนนั้นสนิทกันมากพวกเธอต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน
“เฉิงเฉิง เธอได้เจอกับเจียงเฉินล่าสุดเมื่อไหร่หรอ?”
เฉินเค่อเฉียนถามออกมา
“ฉันเจอเขาล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วนะ”
มู่เฉิงเฉิงตอบพร้อมกับหน้าของเธอที่แดงขึ้น
ความจริงแล้วเจียงเฉินนั้นมาหาเธอเพื่อ “ปรนเปรอ” เธอหลายครั้งแล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้วเจียงเช่นนั้นก็ทํางานที่ค่อนข้างมีอิสระ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะไปหาแฟนสาวของเขาซักสองสามคนในแต่ละวัน
แต่เมื่อมู่เฉิงเฉิงเผชิญกับคําถามจากเพื่อนสนิทของเธอเธอก็ต้องตอบอย่างระมัดระวังเหมือนกัน
เพราะมันคงไม่ดีจะบอกเพื่อนสนิทของเธอว่าเจียงเฉินนั้นมักจะใช้เวลาหนึ่งถึงสองวันต่อสัปดาห์อยู่กับเธอที่บ้านหรอกถูกไหม? แล้วเธอก็ไม่แน่ใจว่าเพื่อนของเธอนั้นจะหึงด้วยหรือเปล่า?
“แล้วเธอล่ะ ช่วงนี้เธอได้เจอเจียงเฉินหรือเปล่า?”
มู่เฉิงเฉิงถามออกมา
“นี่- ไม่เลย”
แม้ว่าเฉินเค่อเฉียนจะตอบผมมาโดยที่ส์เหล่าเธอนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยแต่ ในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเขินอาย
นั่นก็เพราะว่าจริงแล้วเมื่อคืนนี้เธออยู่กับเจียงเฉิน
“ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขากําลังทําอะไรอยู่?”
มู่เฉิงเฉิงถอนหายใจออกมา
หญิงสาวทั้งสองคนเดินไปที่ห้องโถงของอาคารและพวกเธอก็ดึงดูดความสนใจของคนจํานวนมากทันที
มู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนนั้นเป็นสองง่ามจากแผนกการเงิน พวกเธอนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพธิดาคู่ของบริษัทผู้ต!
ผู้คนในอาคารสํานักงานนี้อาจจะต่อสู้กันด้วยเรื่องของการที่ว่าใครนั้นทํางานได้ดีกว่า แต่สําหรับเรื่องรูปลักษณ์ของมู่เฉิงเฉิงและเฉินเค่อเฉียนพวกเขาต่างยกนิ้วให้อยากเป็นเอกฉันท์!
