เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 382 ถ้าเอามาไม่ได้ก็ทําลายทิ้ง
- Home
- All Mangas
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 382 ถ้าเอามาไม่ได้ก็ทําลายทิ้ง
ตอนที่ 382 : ถ้าเอามาไม่ได้ก็ทําลายทิ้ง!
ร่างจากมุมมืดปรากฏตัวออกมา
“คุณเจียงมีคําสั่งอะไรครับ?”
“ไปสืบมาว่าใครอยู่เบื้อหลังเรื่องนี้ ฉันต้องการรู้รายละเอียดทั้งหมดยิ่งละเอียดยิ่งดี” เจียงเฉินพูดออกมา
“รับทราบครับ ผมจะนําคําตอบมาให้ในครึ่งชั่วโมงครับ”
ร่างนั้นหายไปในพริบตา
คนๆนั้นก็คือหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยจากบริษัทเทียนเฉิน
เขาเป็นมือขวาอยู่ข้างกายเจียงเฉิน
ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เจียงเฉินไม่สะดวกที่จะทําด้วยตัวเองบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินก็จะเป็นผู้จัดการให้ นับตั้งแต่ที่จียงเฉินในบริษัทนี้มาข่าวนั้นก็เริ่มรู้สึกไว้วางใจบริษัทนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ในปัจจุบันเจียงเฉินได้รับรางวัลจากระบบมากมาย และจากบรรดารางวัลทั้งหมดบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินอาจไม่ใช่บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุด แต่เจียงเฉินนั้นให้ความสําคัญกับบริษัทนี้มากที่สุด!
ไม่ว่าใครจะมาเสนอเงินให้กับจียงเฉินมากเท่าไหร่ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทรักษาความปลอดภัยของเจียงเฉินได้
เพราะเมื่อมีเงินมากถึงระดับหนึ่งไม่ว่ามันจะมาอีกสักเท่าไหร่มันก็ไม่มีประโยชน์
แต่ในทางตรงข้าม สถานะและอํานาจนั่นคือสิ่งที่สําคัญที่สุดและหาได้ยากที่สุดเช่นกัน
หากคุณมีเงินคุณก็ต้องมีกําลังในการปกป้องตัวเอง
หากมีเงินแต่ไม่มีแรงที่จะปกป้องตัวเองก็ไม่ต่างจากหมูที่อยู่ในเล้ารอให้คนมาเชือดเท่านั้น!
และเงินที่หามาอย่างยากลําบากมันก็จะสามารถถูกคนอื่นแย่งชิงเอาไปได้ตลอดเวลา
ดังนั้นจึงมีเพียงแค่ความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้อย่างแท้จริง!
“คุณเจียงสั่งให้สืบสวนข้อมูลของจินมินและผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเธอ”
“รับทราบ!”
คําสั่งต่างๆถูกส่งต่อกันอย่างลับๆ
โรงแรมผางคู่เดิมทีนั้นก็เป็นของเจียงเฉินอยู่แล้ว
ดังนั้นหน่วยรักษาความปลอดภัยจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินจึงทําการลงมือในโรงแรมผางคู่ได้ในทันที
ในเวลาเพียงแค่ 5 นาที่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินก็มาถึงห้องส่วนตัวของจินมิน
ผู้จัดการล็อบบี้แอบเปิดประตูห้องข้างๆให้อย่างเงียบๆ และปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าไปโดยที่ไม่ถามอะไรทั้งนั้น
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินเดินไปที่หัวมุมของห้อง ก่อนจะเปิดกล่องเครื่องมือไฮเทคออกมาและเริ่มตรวจสอบ
สถานการณ์ในห้องของจินมิน
แผนทุกอย่างถูกกําหนดไว้หมดแล้วดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องพูดอะไรมาก
จินมินและบอดี้การ์ดของเธอนั้นไม่ได้รู้เลยว่าบอดี้การ์ดจากบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินได้ใช้อุปกรณ์ไฮเทค เพื่อทําการตรวจสอบสถานการณ์ในห้องของเธอ
ในเวลานี้ในห้องของจินมิน
จินมินในตอนนี้กําลังซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนใหญ่ของคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง
“ใช่แล้ว คุณซุน คุณสัญญากับฉันแล้วว่ารางวัลม้าทองค่าในครั้งนี้จะต้องเป็นของฉัน!”
จินมินพูดออกมา “แต่ดูตอนนี้สิษ คะแนนของจี้อเว่ยกับหานซูหยานที่เป็นคู่แข่งของฉัน คุณจะทําอะไรหน่อยได้ไหม?”
นายซนคนนี้มีอายุมากกว่า 40 ปีเป็นคนใหญ่คนโตพุงใหญ่ตาเล็ก “เธอจะกังวลไปทําไมในเมื่อฉันสัญญาไปแล้ว?”
“แต่ฉันเป็นกังวลจริงๆนะ”
จินมินหยิบมือถือของเธอขึ้นมาแล้วเปิดโหวตบนโทรศัพท์มือถือด “ดูสิ แม้ว่าจะมีการช่วยเพิ่มคะแนนแล้วแต่คะแนนของฉันยังตามหลัง 5 ล้านโหวตแม้แต่หานซูหยานก็ยังเหนือกว่า 3 ล้าน โหวต ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงต้องเลิกฝันเรื่องรางวัลแล้ว!”
ประธานซุนหัวเราะออกมา “โหวตหรอ? แล้วยังไง? พอใกล้ถึงเวลาประกันรางวัลสุดท้ายแล้ว มันก็ยังอยู่ในการควบคุมของฉันไม่ใช่หรือยังไง อย่าลืมว่าฉันคือหัวหน้าคณะกรรมการจัดงาน!”
ในเวลานี้เจียงเฉินที่อยู่ในห้องของตัวเองก็ดูวิดีโอที่ถูกถ่ายทอดสดตรงมาจากบอดี้การ์ดของเขา
เจียงเฉิงที่เห็นว่าจินมินกําลังวางแผนโกงกับชายแซ่ซุนดวงตาของเขาก็หรี่ลง
เป็นคนนี้เองสินะ
“ประธานซุนงั้นหรอ?”
ดวงตาของเจียงเฉินหลลงและถามออกมา “เขาเป็นใคร?”
หัวหน้าบอดี้การ์ด “ผมพบข้อมูลแล้วครับ เขาคือประธานคณะกรรมการจัดงานมอบรางวัลม้าทองคํา ซุนซื้อเซียงและเขายังเป็นคนใหญ่คนโตในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ภายในประเทศ เป็นผู้กํากับที่มีชื่อเสียงและมีผลงานมากมายแถมยังมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมนี้ และการที่จินมินสามารถมีทุกวันนี้ได้ก็คงต้องขอบคุณต้นขาของซุนจอเซียงคนนี้ และซุนจ่อเซี่ยงคนนี้ก็ยอมช่วยเธอทุกวิถีทางแม้จะต้องโกงก็ตาม”
เจียงเฉินพยักหน้า
คําพูดของซุนจ่อเซี่ยงทําให้จินมินพอใจมากเธอพูดออกมาอย่างอวดดีว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณซุน คุณต้องหาทางให้ฉันนะคะฉันจะได้พึ่งพาคุณได้”
ซุนจ๋อเซียงหัวเราะออกมา “ตอนแรกฉันก็แค่ต้องการหาเรื่องสร้างปัญหาให้จี้อเว่ยกับหานซูหยาน แต่ครั้งนี้เธอทําได้ดีมากที่ใช้คนทําธุระนั่นสร้างปัญหาให้กับจอเว่ยและหลังจากที่เราปล่อยเรื่องนี้ออกไปและใส่ไฟเข้าไปเรื่อยๆไม่ว่ายังไงจี้อเว่ยก็จะต้องถูกบดขยี้อย่างแน่นอน!”
เมื่อพูดออกมาแบบนั้นใบหน้าของซุนจอเซียงก็กระตุกและฉายแววความแค้นออกมา
“อะไรกัน? จี้อเว่ยเคยยุ่ยวยวนคุณงั้นหรอ?”
จนมินถามออกมาหึงหวง
ซุนจื่อเซียงเยาะเย้ยออกมา “ฉันเคยชอบจี้อเว่ยมาก่อนแต่ตอนที่ฉันขอให้เธอคบกับฉัน เธอกลับปฏิเสธและด่าว่าฉันมันน่ารังเกียจ ดังนั้นฉันจะใช้ประโยชน์จากโอกาศนี้เพื่อแก้แค้น!”
เจียงเฉินห์
จินมินที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมา “จื่อเว่ยคิดว่าตัวเองอยู่เหนือทุกอย่างยังไง? กล้าดียังไงถึงมาต่อว่าคุณที่เป็นถึงกรรมการจัดงาน แต่ฉันกลับไม่เข้าใจเลยว่าทําไมเธอถึงออกตัวปกป้องเจ้าคนทําธุระนั่น ถึงมันจะหล่ออยู่บ้างแต่มันก็คงไม่สามารถช่วยให้เธอได้รับรางวัลหรอกมั้ง? ฮ่าๆๆโง่จริงๆ!”
“เร็วเข้ารีบแก้ไขคะแนนได้แล้ว! แล้วก็อย่าลืมใส่ไฟเพิ่มด้วย!”
ซนจอเซียงพูดออกมาอย่างเย็นชา “ได้ ฉันจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อแบล็กเมล์เธอโดยบอกว่าเธอนั้นมีความสัมพันธ์กับคนทําธุระ! และเมื่อแฟนๆของจี้อเว่ยได้ยินเรื่องนี้เธอจะต้องสูญเสียแฟนๆของเธออย่างแน่นอนและคะแนนของจอเว่ยก็จะต้องต่ําลง แล้วหลังจากนั้นฉันก็จะให้คนรู้จักช่วยโปรโมทเธอแล้วแก้ไขคะแนนให้เพิ่มไปจนถึง 10 ล้านแล้วเธอก็จะเป็นผู้ได้รางวัลในคืนนี้ไป!”
“จริงหรอ?! ขอบคุณนะ!”
เมื่อได้ยินว่าซุนจอเซียงสามารถโกงคะแนนให้ตัวเองจนขึ้นไปถึง 10 ล้านคะแนนได้จินมินก็รู้ สึกดีใจและพูดขอบคุณออกมา
“มาเถอะให้ฉันได้สนุกกับเธอแล้วฉันจะได้ให้สิ่งที่เธอต้องการ!”
ซุนจอเซียงหัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโส
เจียงเฉินยิ้มออกมา
จี้อเว่ยมีฉันสนับสนุนฉันจะยอมให้เธอเจอปัญหาได้ยังไง?
ฉันจะให้พวกคุณทั้งสองคนได้ตายไปตามกันก็แล้วกัน!
เจียงเฉินบันทึกวีดีโอและเริ่มทํางาน
เวลากลางคืนมาถึง
การต่อสู้ในรอบชิงชนะเลิศของรางวัลม้าทองค่าใกล้จะจบลงแล้ว!
คะแนนของหานซูหยาน จุนมินและจีอีเว่ยผลัดกันนํา!
ภายใต้การสนับสนุนแฟนคลับและบริษัทบันเทิงในที่สุดการโหวตก็ใกล้จะจบลง
ในวีแชท เว่ยป๋อและแพลตฟอร์มอื่นๆต่างก็มีบัญชีอย่างเป็นทางการของบริษัทต่างๆออกมาเรียกร้องให้แฟนคลับพากันโหวต
มีการระดมแฟนๆจํานวนนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับตัวจริง หรือแฟนคลับตัวปลอมญาติ และเพื่อนต่างก็พากันดึงมาลงคะแนนเสียง
จํานวนโหวตทั้งสามคนในไม่ช้าก็พุ่งทะลุเกิน 20 ล้าน!
และใกล้ที่จะแตะ 30 ล้าน!
ในห้องของอีเว่ย
จี้อเว่ยมองดูหน้าจอทีวีขนาดใหญ่ด้วยความกังวล
บทโทรทัศน์นั้นก็มีการถ่ายทอดสดพิธีการมอบรางวัลในคืนนี้ด้วย
“ท่านผู้ชมทั้งหลายนี่คืองานประกาศรางวัลม้าทองคํา ในคืนนี้พวกเราจะเป็นสักขีพยานในโอกาสอันยิ่งใหญ่ของราชินีแห่งวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์!”
นักข่าวบันเทิงต่างรู้สึกตื่นเต้น “อย่างที่ทุกคนเห็นตอนนี้ที่ประตูโรงแรมผางคู่ เต็มไปด้วยแฟนคลับนับหมื่นที่มารวมตัวกันและเชียร์ไอดอลของตัวเองทั้งหานซูหยาน จินมินและจี้อเว่ย หนึ่งในสามคนนี้จะได้มีโอกาสเป็นนักแสดงที่ได้รับรางวัลม้าทองคําในค่ําคืนนี้ไป!”
กล้องหมุนไปรอบๆ
ที่หน้าประตูโรงแรมผังภู่แฟนคลับน่าไปทวนพากันชูป้ายชื่อไอดอลของตัวเองและตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง
“บนจอขนาดใหญ่ของโรงแรมมีการแสดงผลโหวตของดาราทั้งสามที่ได้รับการอัพเดทแบบเรียลไทม์!”
“ปัจจุบันผู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นก็คือหานซูหยาน! ด้วยคะแนนเสียงถึง 31.5 ล้านโหวต!”
“รองลงมาก็คือจี้อเว่ย แต่จี้อเว่ยดูแล้วค่อนข้างน่าสงสาร เดิมที่เธอนั้นควรที่จะเป็นแชมป์ของค่ําคืนนี้ แต่ว่าในช่วงบ่ายของวันนี้อเว่ยถูกเปิดเผยว่าเธอนั้นมีความสัมพันธ์กับคนทําธุระหน้าตาหล่อเหลา มันจึงทําให้ความนิยมของเธอลดลงอย่างมากและยังมีการเปิดเผยบทความและข้อมูลอีกมากมายเกี่ยวกับเธอบนแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งยิ่งส่งผลต่อคะแนนของเธอ จากตอนแรกที่เธอนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตอนนี้ความนิยมของเธอนั้นลดลงมาอยู่ที่อันดับสอง และดูเหมือนว่าคะแนนของจินมินกําลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็วซึ่งดูแล้วอันตรายมาก”
“และตอนนี้คะแนนของผู้ที่อยู่ท้ายสุดอย่างจินมิน แต่คะแนนโหวตของเธอนั้นกลับพุ่งอย่างรวดเร็วมากที่สุด เธอนั้นเหมือนกับกําลังนั่งจรวดวิ่งตามขึ้นมาเลยทีเดียว!”
“มันจบแล้ว!
ผู้จัดการส่วนตัวปิดทีวีและดจี้อเว่ยด้วยความโกรธ!
“เธอก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าจินมินนั้นต้องการใช้คุณทําธุระนั่นขุดหลุมให้เธอเดินลงไป?! แล้วหมอนั่นมีอะไรเกี่ยวกับเธอ?! ทําไมเธอถึงต้องไปช่วยมันด้วย?! โอกาสนี้ควรจะได้ตอนนี้มันจบแล้ว! มันทั้งหมดแล้ว!”
จี้อเว่ยก้มหน้าลงและหลั่งน้ําตาออกมา
“ใช่! ฉันผิดเอง!”
ผู้จัดการส่วนตัวตะโกนออกมา “ดูสิ คะแนนของยัยจินมินนั่นตามเข้ามาใกล้แล้ว!”
อยู่ๆคะแนนโหวตของจินมินก็พุ่งขึ้นมา 1 ล้านอย่างกระทันหัน
ทันใดนั้นมันก็ขึ้นนําจี้อเว่ย
“ทําไมมันขึ้นเร็วขนาดนี้?!”
จอเว่ยอุทานออกมา
อยู่ๆคะแนนก็กระโดดเพิ่มขึ้นไปอีก 1 ล้าน!
และจู่ๆก็แซงจี้อเว่ย!
จี้อเว่ยลงไปรั้งท้าย!
คะแนนโหวตของจินมินยังคงทะยานขึ้นไปต่อด้วยความรวดเร็ว
ในตอนนี้คะแนนของเธอนั้นเข้าใกล้หานซูหยานแล้ว
จี้อเว่ยรู้สึกอื้อองและเริ่มร้องไห้ออกมา
“เห้อ เธอ เธอนี่มันจริงๆเลย ทําตัวเองแท้ๆ!”
ผู้จัดการส่วนตัวส่ายหัวและถอนหายใจออกมา
เมื่อถึงจุดนี้ประตูก็ถูกเปิดออก
พุงใหญ่ของซุนจือเซียงก็นําเข้ามาพร้อมกับจินมินที่เดินตามเข้าด้วยริยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดเยาะเย้ยออกมา “เป็นยังไงบ้างล่ะ ดาราดังจอเว่ย ความรู้สึกของการถูกแซงมันดีไหมล่ะ?”
จินมินเยาะเย้ยออกมา “จอเว่ยเธอเกลียดพวกขี้โกงไม่ใช่หรอ เธอเคยดูถูกฉันไม่ใช่หรอ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าฉันแสดงไม่ดีไม่ใช่หรอ? แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? อย่างสบายดีอยู่ไหม?”
ผู้จัดการของอเว่ยรีบเดินเข้าไปหาซุนจ่อเซี่ยงและพูดอ้อนวอนออกมา “ประธานซุน คุณเคยชมเว่ยเว่ยว่าเธอมีทักษะการแสดงที่ดีหลายครั้งไม่ใช่เหรอคะ ดังนั้นได้โปรดช่วยเธอด้วยนะคะขอร้องล่ะค่ะ
ซุนจอเซียงหัวเราะออกมาก็จะมองไปที่จี้อเว่ย “จี้อเว่ย ถ้าฉันจะไม่ช่วยเธอเธอก็คงรู้ดีอยู่ในใจว่าทําไม?”
จี้อเว่ยกัดฟันและหลั่งน้ําตาออกมา
เธอรู้ดีว่าซุนจอเซียงกําลังต้องการที่จะแก้แค้นเพราเธอปฏิเสธที่จะเป็นผู้หญิงของเขา
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็เดินเข้ามาในห้องและยื่นชานมให้กับจี้อเว่ย
“เครื่องดื่มชานมที่คุณสั่งมาแล้วครับ”
“นายกลับมาที่นี่ทําไมทําไมยังไม่ออกไปอีก?!” จี้อเว่ยโกรธจัด
เจียงเฉินคิดในใจว่าแล้วจะให้ฉันไปที่ไหนล่ะ? ก็ในเมื่อโรงแรมผางอู่เป็นบ้านของฉัน?
อย่างไรก็ตามเจียงเฉินนั้นเป็นคนติดดินดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
ซุนจ่อเซี่ยงและจินมินเมื่อเห็นว่าเจียงเฉินและจี้อเว่ยยังอยู่ใกล้ชิดกันพวกเขาก็มองหน้ากัน และหัวเราะออกมา
ซนจอเซียงมีนิสัยขี้อิจฉาริษยาและอาฆาตแค้น เมื่อเห็นว่าจี้อเว่ยและเจียงเฉินมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแม้ว่าจี้อเว่ยกําลังโกรธเจียงเฉิน แต่สุดท้ายเธอก็ยังออกมาปกป้องเขา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีต่อผู้ชาย!
เดิมที่ซุนจอเซียงวางแผนว่าจะเข้ามาโอ้อวดและหาโอกาสที่จะเกลี่ยกล่อมจี้อเว่ย แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่าจี้อเว่ยจะไปมีความสัมพันธ์กับคนทําธุระจริงๆ!
ให้ตายเถอะ!
ฉันทั้งหล่อทั้งสุภาพ แต่เธอกลับหันไปหาคนทําธุระเนี่ยนะ?
ซุนจ๋อเซียงรู้สึกอิจฉามาก!
จี้อเว่ยเป็นผู้หญิงที่ฉันไม่สามารถนํามาครอบครองได้!
ในเมื่อฉันไม่สามารถครอบครองเธอได้งั้นฉันก็จะทําลายเธอทิ้ง!
“จี้อเว่ยดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะเลือกทางผิดนะ คนแบบนี้มีหรอที่จะช่วยเธอได้ เขาไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลยสักอย่างเดียวเป็นได้เพียงแค่ภาระเท่านั้น!”
ซุนจือเซียงพูดดูถูกเหยียดหยามออกมา
จินมินก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนจะพูดว่า “จอเว่ยการกระทําของเธอมันเข้าใจยากเสียจริง แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ขอบอกเธอไว้ตรงนี้ก่อนเลยละกันนะว่า รางวัลม้าทองคําฉันขอรับไปก่อนก็แล้วกัน!”
เจียงเฉินพูดออกมา “ผลลัพธ์ยังไม่ออกมาเลยทําไมถึงตัดสินไปแล้วว่าตัวเองจะได้รับรางวัล? หรือว่าคุณกลับซุนจ่อเซี่ยงจะตกลงอะไรกันไว้?”
ทั่วทั้งสถานที่เงียบลงทันที
ไม่มีใครคิดถึงเลย!
ว่าคนทําธุระตัวเล็กๆคนหนึ่งจะกล้าพูดออกมาแบบตรงไปตรงมาแบบนี้!
ใบหน้าของซุนจ่อเซี่ยงมืดมนลงทันทีก่อนจะหันหน้ากลับมา
แม้ว่าเขานั้นจะช่วยจินมินด้วยการโกงมาหลายครั้งและมีคนเห็นไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครเคยพูดต่อหน้าเขาแบบนี้!
เพราะซุนจอเซียงนั้นเป็นหนึ่งในคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ!
“ฮ่ม!”
ซุนจอเซียงจ้องไปที่เจียงเฉิน “นายเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงมาพูดกับฉันแบบนี้?”
ที่ด้านข้างผู้จัดการส่วนตัวของอีเว่ย รีบกระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็วและมายืนอยู่ต่อหน้าเจียงเฉินก่อนจะขอโทษซุนจ่อเซี่ยง “บอสซุนอย่าเพิ่งโกรธนะคะเราไม่รู้จักกับคนๆนี้นะคะ! เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเขาก็แค่คนทําธุระ! ใครใช้ให้แกเข้ามาไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เจียงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดกับซุนจอเซียง “แซ่ของนายคือแซ่ซุนสินะ อย่าคิดว่าตัวเองมีสถานะและอํานาจมากพอที่จะทําอะไรได้ตามอ่าเภอใจ การที่นายสามารถอวดเบ่งอยู่ที่นี่ได้ ก็เพียงเพราะว่านายนั้นมีอิทธิพลอยู่ในโลกของวงการภาพยนตร์ในทีวีเท่านั้น โลกน่ะไม่ได้หมุนอยู่บนมือของนายคนเดียวหรอกนะ”
แม้ว่าเจียงเฉินมันจะไม่ได้พูดออกมาเสียงดังแต่น้ําเสียงเขานั้นเต็มไปด้วยความสงบและสง่างาม คนที่ได้ฟังต่างก็รู้เรียนที่ว่านี่คือคําเตือนและซุนจอเซียงที่ได้ยินนั้นก็ถึงกับต้องตกตะลึง
เขานั้นทําเรื่องไม่ดีมามากมายและไม่เคยที่จะรู้สึกเสียใจ แต่หลังจากที่ได้ฟังเจียงเฉินพูดออกมาแบบนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกกลัวจนต้องก้าวถอยหลัง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการตรวจสอบเรื่องต่างๆนั้นมีมาตรฐานมากขึ้นเรื่อยๆรวมถึงประสิทธิภาพที่มากขึ้น ดังนั้นการที่ทําเรื่องไม่ดีนั้นก็ยากตามไปด้วยและโอกาสที่จะทําพลาดและเกิดเรื่องใหญ่นั้นก็มีมากตามไปด้วยซึ่งหากพลาด และเกิดเรื่องใหญ่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างนั้นก็จะต้องจบลงอย่างน่าเกลียด
“บอส เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? เขาก็แค่คนทําธุระไม่ใช่หรือไง?”
จินมินพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“อีก!”
ในที่สุดซุนจอเซียงก็พูดโต้ตอบออกมา “เจ้าหนู กล้าดียังไงถึงมาลองดีกับฉัน เชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถฆ่าแกได้!”
จีอีเว่ยเอามือก่ายหน้าผากของเธอและถอนหายใจออกมา
แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่กลัวแต่ตอนนี้เขานั้นได้ทําให้ซุนจ่อเซี่ยงโกรธเคืองเป็นอย่างมากแถมยังสร้างความขัดแย้งต่อหน้าสาธารณชนทําให้ตัวเองนั้นต้องไปอยู่ในจุดเสียง
ผู้จัดการของจี้อเว่ยพูดกับเจียงเฉินพร้อมทั้งน้ําตา “น้องชาย! ถ้านายต้องการช่วยเว่ยเว่ยจริงๆ ก็ช่วยหยุดพูดได้แล้ว! ไม่อย่างนั้นเราได้ตายแน่!”
“ตายไปแล้วต่างหาก!”
ซุนจอเซียงคํารามออกมาด้วยความโกรธจัด “ถ้าหากว่าจอเว่ยสามารถรับรางวัลในคืนนี้ไปได้ ฉันจะลาออกจากวงการนี้!”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “จะลาออกงั้นหรอ? คนแก่พุงกางอย่างนายที่ทําสิ่งที่เลวร้ายมาตลอดยังจะฝันหาการวางมืออย่างสงบสุขอีกหรอ? ฝันหวานไปหรือเปล่า? คืนนี้ถ้ามันเป็นอย่างที่นายพูด ฉันยอมเขียนชื่อตัวเองกับหัวเลย!”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างมั่นใจจนทําให้ซุนจ่อเซี่ยงหลั่งเหงื่อเย็นออกมา
“แก แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?!”
ซุนจ่อเซี่ยงไม่เข้าใจ
จินมินพูดออกมาอย่างหยายคาย “บ้าจริง คนทําธุระแบบนายเนี่ยนะจะทําแบบนั้นได้? อย่าไปสนใจมันเลย? จี้อเว่ยเธอทําให้บอสขุ่นเคืองดังนั้นอย่าว่าแต่งานรางวัลม้าทองคําเลย นับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เธอไม่มีทางอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้อีกต่อไปรอดูได้เลย!”
ในขณะที่ซุนจื่อเซียงกําลังเรียกคนเข้ามาเพื่อจัดการกับจียงเฉินในตอนนี้เองก็มีคนวิ่งเข้ามา
“ท่านประธานใกล้ถึงเวลาแล้วครับ ได้เวลาทําพิธีมอบรางวัลแล้ว!”
“ฮ่ม! นับว่าแกยังโชคดี!”
ซนจอเซียงมองดูนาฬิกาของเขาแล้วมันก็เป็นความจริงเพราะตอนนี้เหลือเวลาเพียงแค่ 10 นาทีก่อนที่จะถึงเวลา 20:00 ซึ่งเขาต้องไปเตรียมตัวขึ้นเวที “ฉันจะกลับมาจัดการกับแกหลังจากทําพิธีมอบรางวัลเสร็จ”
เจียงเฉินพูดออกมา “กลับมาให้ได้ก่อนแล้วกัน!”
จี้อเว่ยเอามือก่ายหน้าผากของเธอ
เจ๋ง!
เจียงเฉินนายคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งพองั้นเหรอ?!
เจียงเฉินยิ้มออกมาก่อนจะตบไหล่อเว่ย “ไม่ต้องกังวลหรอกฟังผมตอนนี้ไปขึ้นเวทีได้แล้ว ขึ้นไปและนํารางวัลกลับมาคนแซ่ซุนนั่นกับยัยจินมินเจ้าเล่ห์นั่นใช่วิธีสกปรกยังไงพวกเขาก็ไม่รอดหรอก”
“อะไรนะ? นายไม่รู้เลยหรือยังไงว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน?”
ผู้จัดการของอเว่ยโกรธมากจนมีเส้นสีดําพาดผ่านหน้าผากของเธอ “บอสซุนเขาเป็นถึงประธาน! ไม่ใช่คนที่น่าจะสามารถเอาชนะได้แถมนายยังลากจอเว่ยลงไปกับนายจนทําให้เธอแพ้คะแนนโหวตแล้วตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้แล้วที่เธอจะคว้ารางวัลมา! และอีกอย่างนะนายคิดว่าตัวเองเป็นใครกันคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์บอสหรือยังไง?”
เจียงเฉินยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้พูดอะไรสักคํา
ในเวลานี้เองทีมงานก็เข้ามาขอให้จี้อเว่ยไปที่เวทีเพื่อเข้าร่วมการมอบรางวัล
จี้อเว่ยถอนหายใจออกมาก่อนที่จะยกกระโปรงยาวของเธอขึ้น และเดินผ่านเจียงเฉินไป
เจียงเฉินยิ้มและเดินตามจี้อเว่ยออกไปข้างนอก
“นายจะตามไปเพื่ออะไรอีก?”
จี้อเว่ยตกตะลึง
“ก็ตามไปเอารางวัลมาให้ไง”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ว่ากันว่าพิธีมอบรางวัลนั้นต้องมีคนทําธุระมามีส่วนร่วมนะ”
แ???”
จี้อเว่ยมองดูด้วยความงง
“ช่างเขาไปเถอะ!”
ผู้จัดการส่วนตัวพูดออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน
เวลา 20:00
พิธีมอบรางวัลอย่างเป็นทางการก็เริ่มต้นขึ้น!
พิธีมอบรางวัลนั้นถูกจัดขึ้นบนชั้นบนสุดของโรงแรมผางคู่
ไฟฉายขนาดใหญ่ฉายแสงขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่ออยู่บนเวทีรับรางวัลก็จะสามารถเขียนเมืองหลวงได้ทั่ว
ทั้งพระราชวังที่เป็นมรดกอายุนับพันปีของเมืองหลวง และเมืองสมัยใหม่ที่น่าหลงใหล
“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี คืนนี้พวกเรามาอยู่ที่นี่เพื่อร่วมพิธีมอบรางวัลม้าทองคํา!”
“รางวัลม้าทองคํานั้นเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดในอุตสาหกรรมศิลปะการแสดงในประเทศของพวกเรา เป็นเป้าหมายที่เหล่านักแสดงพากันแย่งชิงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”
“และในปีนี้ใครจะได้เป็นผู้รับรางวัลนี้ไปกัน?”
“ขอเรียนเชิญeve”
“ประธานคณะกรรมการจัดงาน คุณซี่อี้เซียงขึ้นมาประกาศครับ!”
ปรบมือ
ซุนจอเซียงเดินขึ้นมาบนเวทีภายใต้แสงสปอตไลท์ที่ส่องตรงมาที่เขา
“ขอบคุณทุกคน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทําหน้าที่เป็นประธานในการตัดสินรางวัลม้าทองคําครั้งที่สิบในปีนี้ คืนนี้เราจะทําการมอบรางวัลให้กับนักแสดงยอดเยี่ยมโดยผ่านการพิจารณาจากคะแนนโหวตทางออนไลน์ เพื่อการนี้เรานั้นได้ทําการเตรียมการต่างๆไว้มากมายvs”
บลา บลา บลา บลา บลา
สิ่งที่เขาต้องการพูดแท้จริงก็คือการโอ้อวดความสําเร็จของตัวเอง
“ในที่สุดชื่อของผู้ที่จะได้รับรางวัลม้าทองคําก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้ว!”
“พวกเรามารอดูพร้อมๆกันเลยครับ!”
ในเวลานี้หัวใจของทุกคนเต้นระรัว
แม้ว่าเวลากําลังจะใกล้หมดลงแล้วแต่การแข่งขันระหว่างผู้เข้าชิงทั้งสามคนก็ยังคงดุเดือด
นอกจากจี้อเว่ยแล้วคะแนนโหวตของอีกสองคนที่เหลือก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในที่สุด!
แม้ว่าจี้อเว่ยจะได้รับผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น แต่เธอนั้นก็ยังได้รับคะแนนโหวตไปมากถึง 38.97 ล้านคะแนนด้วยทักษะการแสดงของเธอ!
หานซูหยานก็ได้รับไป 37.16 ล้านคะแนน!
แต่ที่เหลือเชื่อที่สุดก็คือจินมิน
จินมินผู้ซึ่งควรจะได้รับคะแนนน้อยที่สุดและมีทักษะการแสดงที่ห่วยแตกมากที่สุด กลับชนะด้วยคะแนนโหวตถึง 39.92 ล้านคะแนน!
ห่างกันถึง 1 ล้านคะแนน!
ทันทีที่จินมินเห็นแบบนั้น เธอก็ลุกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มหน้าเธอแทบรอไม่ไหวที่จะเดินขึ้นไปบนเวทีและโอ้อวดออกมา