เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 342 อย่าหยุดฉัน ให้ตายเถอะ
ตอนที่ 342 : อย่าหยุดฉัน ให้ตายเถอะ!
เมื่อเหล่าแฟนคลับสาวได้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาไร้เทียมทานของเจียงเฉิน พวกเธอนั้นก็นําไปเปรียบเทียบกับจูหวู่หวางทันทีและสิ่งที่พวกเธอคิดก็คือ
จูหวู่หวางน่าเกลียดมาก!
และเมื่อจูหวู่หวางได้ยินแบบนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมาทันที
“แกเป็นใครกัน!?”
เขามองไปที่เจียงเฉินด้วยความโกรธหึงหวงและดูถูก
เขาอิจฉาในความหล่อของเจียงเฉินที่ทําให้เขาต้องปวดใจ
แต่เขาก็ดูถูกความยากจนของเจียงเฉิน เพราะเขารู้สึกว่าควรทําธุระอย่างจึงเชิญจะต้องไม่มีภูมิหลังอย่างแน่นอน!
ในตอนนี้ชูเสี่ยวเพิ่งก็เข้ามากอดแขนของเจียงเฉิน
“สามีคะ งานแถลงข่าวกําลังจะเริ่มแล้วเรารีบไปกันเถอะ”
“ก็ดี”
เจียงเฉินหันไปหาแฟนคลับผู้หญิงและเตือนว่า “ผมกําลังจะไปงานแถลงข่าวพวกคุณควรกลับไปได้แล้ว ช่วงนี้อากาศตอนกลางคืนค่อนข้างเย็นระวังจะเป็นหวัดกันด้วยนะครับแล้วก็ผมเห็นว่าพวกคุณหลายคนยังเด็กมากและน่าจะกําลังเรียนกันอยู่ ผมขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนกว่านี้นะครับ อย่ามาไล่ตามดาราเยอะเกินไปนะ”
“ว้าวvs- เจียงเฉิงทั้งอ่อนโยนทั้งมีน้ําใจ!!”
“รักเลย!”
เหล่าแฟนๆพากันจับมือและมองไปที่เจียงเฉินด้วยสายตาที่ชื่นชม
จูหวู่หวางที่อยู่ใกล้ๆก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ
“พวกเธอทําแบบนี้ได้ยังไงกัน?!”
“พวกเธอเป็นแฟนคลับของฉันนะ!”
“พวกทรยศ!”
จูหวู่หวางชี้นิ้วไปที่อดีตแฟนคลับและสาปแช่งออกมา!
ส่งผลให้เราแฟนคลับสาวพากันหันกลับมามองที่เขา
“น่าเกลียดมาก ฉันขอถอนตัวจากการเป็นแฟนคลับของเขา!”
“ใช่แล้ว น่าเกลียดจริงๆ!”
“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าไอดอลของฉันจะน่าเกลียดได้ขนาดนี้ ควบคุมอารมณ์ก็ไม่เป็นเทียบกับยงเฉินที่อ่อนโยนและหล่อเหลาไม่ได้เลย มันเหมือนความแตกต่างระหว่างก้อนเมฆกับดินโคลน!”
“ใช่ เป็นไอดอลเหมือนกัน แต่ทําไมช่องว่างกว้างใหญ่ขนาดนี้!”
พรูด
จูหวู่หวางโกรธมากจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง!
เขาโกรธมากและเริ่มจะชี้ไปที่เจียงเฉินและสาปแช่งออกมา “แกก็แค่หล่อกว่าฉันนิดหน่อย แต่สุดท้ายแกมันก็แค่คนทําธุระอยู่ดี!”
เขารู้ดีว่าการจัดการกับแฟนคลับนั้นเป็นเรื่องยากดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะโจมตีเจียงเฉินแบบตรงๆ
สูดอากาศ!
มันก็แค่คนทําธุระ!
ไร้ซึ่งอ่านาจ!
มาดูเธอว่าฉันจูหวู่หวางจะจัดการกับแกยังไง!
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างดูถูก “แต่นายน่าเกลียดกว่าฉันนะ!”
จูหวู่หวาง “แต่ฉันรวยกว่าแก ฉันมีรายได้กว่า 400 ล้านหยวนต่อปี!”
เจียงเฉิน “นายน่าเกลียดกว่าฉัน!”
จูหวู่หวาง “ฉันร้องเพลงได้ฉันเต้นได้ฉันเก่งกว่าแก!”
เจียงเฉิน “นายน่าเกลียดกว่าฉัน!”
จูหวู่หวาง “ฉันมีแฟนคลับมากมายและมีสถานะในวงการบันเทิงที่….”
เจียงเฉิน “นายน่าเกลียดกว่าฉัน!”
จูหวู่หวางแทบจะบ้าตาย!
เจ็บใจแบบสุดๆ!
กระทืบเท้าด้วยความโกรธ
“เล็กพูดว่าฉันน่าเกลียดกว่าสักทีจะได้ไหม!”
“ไม่พูดก็ได้แต่ความจริงมันก็อยู่ตรงหน้าอยู่แล้วทุกคนต่างก็มองเห็น”
แฟนคลับพากันพยักหน้าตาม “ใช่
จูหวู่หวางที่เห็นแบบนี้ก็ทําอะไรไม่ได้เขาได้แต่ระงับความโกรธของตัวเอง และพยายามท่องว่าจุดประสงค์ของการมาที่นี่ในครั้งนี้คืออะไร
เขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาอยู่ตรงนี้
เจียงเฉิงเองก็ไม่อยากที่จะมานั่งเสียเวลากับคนโง่
“ไปเถอะ!”
เจียงเฉินพาชเสี่ยวเพิ่งหันหลังกลับและเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแกลอรี่ราฟาเยตต์ทันที
ชูเสี่ยวเพิ่งหันกลับไปและก็เริ่มพูดกับเจียงเฉิน “เป็นแค่คางคกแต่อยากจะกินเนื้อหงส์ กล้าดียังไงมาไล่ตามเพื่อนสนิทของฉัน น่าขยะแขยงจริงๆ!”
เจียงเฉิงประหลาดใจ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ ไล่ตามเพื่อนสนิทของเธอ?”
ชเสี่ยวเมิ่งพยักหน้า “ใช่ เจ้าบ้านั่น…บลาบลาบลา ”
เธอเล่าเรื่องที่เธอรู้ทั้งหมดให้กับเจียงเฉินฟัง
ดวงตาของเจียงเฉินหลงเล็กน้อย “หรือจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากนี้ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับเขา?”
ชเสี่ยวเมิ่ง “แน่นอนอยู่แล้ว!”
เจียงเฉินหัวเราะออกมา “น่าสนใจดีนี่ ฉันขอออกไปโทรศัพท์ก่อน….”
เจียงเฉินโทรหาบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินและให้พวกเขาตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างของจูหวู่หวาง
คนหยิ่งยโสประเภทนี้ ย่อมต้องมีมือที่ไม่สะอาดอยู่แล้วดังนั้นการจัดการอีกฝ่ายด้วยข้อมูลจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด –
หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ชั้นห้าเข้าไปในสถานที่จัดประชุม!
“เสี่ยวเมิ่ง ในที่สุดเธอก็มาถึง!” ซูอ้ายฉิงสวมชุดสีฟ้ามันขับรูปลักษณ์ของเธอให้ดูดีขึ้นเธอทักทายเพื่อนของเธออย่างมีความสุข
“ฉิงฉิง”
สองสาวงามกอดกันอย่างสเน่หา
“นี่แฟนเธอหรอ เป็นคนทําธุระ?”
ซอ้ายจึงมองไปที่เจียงเฉินด้วยความประหลาดใจ
แล้ว……
ตาของเธอก็ค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆ!
“บ้าเอ๊ย นี่นาย!!”
“เป็นเธองั้นเหรอ!?”
เจียงเฉินกับซูอ้ายฉงชี้หน้ากันและกัน ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความสับสน
ซอ้ายจึงอดไม่ได้ที่จะโกรธเมื่อเธอคิดถึงฉากก่อนหน้านี้ แต่หัวใจของเธอก็ค่อยๆเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
พระเจ้า!
เขาหล่อขนาดนี้ได้ยังไงกัน!
แม้แต่อยู่ในชุดขนทําธุระก็ยังหล่อ!!
แม้ว่าภายนอกจะดูโกรธแต่ในใจเต็มไปด้วยความหลงใหล
ในขณะเดียวกันเธอก็อิจฉา
“หือ เทพบุตรผู้หล่อเหลาคนนี้เป็นแฟนของเพื่อนสนิทของฉัน ดูเหมือนฉันคงได้แต่ทนโสดต่อไปเท่านั้น น่าอิจฉาจัง ”
เห็นได้ชัดว่าชูเสี่ยวเพิ่งนั้นมีแฟนเป็นเทพบุตร แต่เธอกลับเป็นแค่สุนัขโสด….
น่าสงสาร!
ในเวลานี้จูหวู่หวางก็ได้เดินนํากลุ่มผู้ช่วยสาวและแฟนคลับอีกห้าสิบคนที่เหลือเข้ามา
ขมวดคิ้ว
ทําไมถึงเป็นแบบนี้?
ไม่พอใจมาก!
เขาวางแผนมาว่าจะให้แฟนคลับของเขามาช่วยกดดันซูอ้ายจ๋ง แต่ปรากฎว่าอยู่แฟนคลับของเขากลายเป็นกบฏ และเหลือเพียงแค่ห้าสิบคนจากตอนแรกที่มีมากกว่าห้าร้อยคน
น่าสงสาร!
ช่างมันเถอะมีแค่ห้าสิบดีกว่าไม่มีเลย!
และก่อนที่เขาจะเดินจากมาเขาก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองแฟนคลับที่ทรยศหักหลังเขา
เหล่าแฟนคลับพากันแสดงสีหน้าบูดบึ้ง “น่าเกลียด!!!”
จูหวู่หวางรู้สึกอยากจะตาย –
หลังจากนั้นเขาก็นําคนที่เหลือทุกคนเดินขึ้นไปที่ชั้นห้า!
ฮ่าๆๆษ ราชาแห่งการเต้นของเอเชียมาถึงแล้ว!!
มาเลย!!!
มาเริ่มแผนการ….ไม่สิ การเต้นกันดีกว่า!!!
เต้น เต้น เต้น เต้น
เขาเดินเต้นมาพร้อมกับเสียงเพลงดัง (แฟนคลับกําลังถือลําโพงให้อยู่) จูหวูหวางเริ่มเต้นเปิดตัวเข้ามาในงานแถลงข่าว…
เหล่าแฟนคลับที่ถูกจ้างมาก็เริ่มถ่ายรูป
และพวกเธอบางคนก็ปิดปากพร้อมกับหลั่งน้ําตาออกมา
อิจฉามาก
“ซูอ้ายฉิงคนนี้โชคดีจริงๆ ไอดอลของพวกเรารักเธอมาก!”
“ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่ปฏิเสธนะ”
“จะเป็นไปได้ยังไง? บนโลกนี้ยังมีผู้หญิงคนไหนที่จะปฏิเสธไอดอลของพวกเรา!”
คนที่อยู่ข้างๆ “…”
อยากจะถ่มน้ําลายออกมาแต่ก็ทําไม่ได้!
หนึ่งนาทีต่อมา เมื่อการเต้นของจูหวู่หวางจบลงเขาก็ไปเอาดอกกุหลาบมาจากที่ไหนก็ไม่รู้
และเอามันมาคาบเอาไว้ที่ปาก ราวกับตัวเองเป็นสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์สุดหล่อ
หล่อเท่ห์!
เขาเดินไปหยุดอยู่ต่อหน้าซูอ้ายฉิงที่ห่างออกไปห้าเมตร
“ซูอ้ายฉิง — (ลากเสียงยาว)”
แล้ว
จู่ๆเขากระโดดขึ้นพร้อมกับหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาอากาศ
เขาตั้งใจที่จะกระโดดขึ้นและลงกลับมาด้วยท่วงท่าที่สง่างามต่อหน้า ซูอ้ายฉิงและเริ่มสารภาพรัก
ถ้าทําสําเร็จทุกอย่างจะดูสมบูรณ์แบบ!!
แต่ผลลัพธ์กลับ…..
เมื่อเขาตกไปถึงพื้น…
แกร็ก
ด้วยการหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาทําให้จูหวู่หวางนั้นไม่สามารถทรงตัวได้ทันในตอนที่เขาลงกลับมาบนพื้นข้อเท้าของเขา ก็มีเสียงดังราวกับกระดูกของเขาก็จะแตกออกมา
หลังจากนั้นเขาก็
ร้องออกมา
จูหวู่หวางล้มลงมาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจียงเฉิน
จูหวู่หวาง “…”
ซูอ้ายจ๋ง “…”
แฟนคลับ “…..”
คนที่เข้ามาร่วมงาน “…”
เงียบ!
ทั้งสถานที่เต็มไปด้วยความเงียบ!
ก๊าก
ในเวลานี้เองเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงถ่ายภาพ
“แค่ก แค่ก…” เจียงเฉินพูดออกมา “ขอโทษนะ แต่ทําไมต้องมาคุกเข่าต่อหน้าฉันด้วย?”
เมื่อเสียงของเจียงเฉินดังออกมา
จูหวู่หวางก็แทบจะบ้าตายทันที
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว!
ในเวลานี้เองก็มีเสียงหัวเราะดังออกมามากมาย
ผู้ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ต่างก็เป็นคนที่ร่ํารวยและหลายคนก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลซู
คนกลุ่มนี้ต่างเป็นคนที่มีสถานะที่ไม่ธรรมดาไม่อาจดูถูกได้ และสําหรับพวกเขานั้น การสารภาพหลักของจูหวู่หวางต่อซูอ้ายฉิงมันเป็นเรื่องเอาประโยชน์ของเหล่าเศรษฐี
ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นจูหวู่หวางได้รับความอับอาย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“น่าเกลียด!”
จูหวู่หวางมองดูกันเยาะเย้ยรอบๆตัวเขาด้วยความโกรธ
เขาจ้องมองไปที่เจียงเฉิน
เมื่อเขามองดูสาวสวย (ชูเสี่ยวเพิ่ง) ที่อยู่ข้างๆเจียงเฉินพร้อมกับกอดแขนเขาเอาไว้ จริงๆแล้ว เธอนั้นสวยกว่าซอ้ายฉิงเล็กน้อยมันทําให้เขารู้สึกอิจฉาเจียงเฉินขึ้นมาทันที
“หัวเราะอะไรของแก!?”
เขาชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วพูดออกมาด้วยความโกรธ
เจียงเฉินหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “แล้วฉันจะหัวเราะไม่ได้เหรอ ฉันต้องฟังนายด้วยหรอ? หึ ขอโทษนะแต่ ฮ่าๆๆๆๆ ”
“แก…!” จูหวู่หวางโกรธจัด “แกมีคุณสมบัติอะไรมาหัวเราะเยาะฉันแก้มันก็แค่ไอ้คนทําธุระ คนอย่างแกหาเงินได้อย่างมากก็แค่หลักพันต่อเดือนมีอะไรน่าภูมิใจบ้าง!? แต่ฉันที่มีรายได้สี่ร้อยล้านหยวนต่อปี คนอย่างแกน่ะไม่มีคุณสมบัติ!”
เจียงเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ “แต่นายก็คุกเข่าให้ฉันอยู่นะ”
“อ๊ากกก ” จูหวู่หวางโกรธจัด “ฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการบันเทิงมีแฟนคลับหลายล้านคน แล้วแกล่ะมีอะไรบ้าง!?”
เจียงเฉินยิ้ม “ก็มีนายคุกเข้าให้ไง”
ใบหน้าของจูหวู่หวางเปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วยความโกรธ “จะมีบริษัทอยู่หลายแห่งแกล่ะมีบริษัทบ้างไหม!”
เจียงเฉินพูด “ก็มีนายคุกเข่าให้ไง”
อําก
จูหวู่หวางโกรธมาก “หยุดพูดว่าฉันคุกเข่าให้สักทีจะได้ไหม!”
เจียงเฉินหัวเราะออกมา “นายน่าเกลียดกว่าฉัน!”
อําากก
จูหวู่หวางรู้สึกโกรธมากจนร่างกายของเขาแทบจะระเบิด
เมื่อไหร่กันที่เขาจะต้องประสบความสูญเสียครั้งใหญ่แบบนี้?!
พรูด
ซูอ้ายฉิงปิดปากของเธอและยิ้มออกมา
เธอไม่คิดเลยว่าเจียงเฉินที่เธอเกลียดชังจะตลกได้มากขนาดนี้ เขามีความสามารถมากพอ ที่จะทําให้จูหวู่หวางที่เป็นคนที่มีผิวหน้าหนามากที่สุดคนหนึ่งที่เธอเคยเจอโกรธได้ขนาดนี้
อั้ม–
เทพบุตรเจียงเฉิน!!
ในเวลานี้เองผู้ช่วยสาวรีบคว้าตัวจูหวู่หวางอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “เขากําลังตั้งใจทําให้คุณโกรธอยู่นะคะ ตอนนี้คุณต้องมาสารภาพรักและสร้างกระแสข่าวนะคะ!
จูหวู่หวางสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วใช่!
ฉันมาวันนี้เพื่อทําตามแผน ฉันจะต้องมาสร้างกระแสข่าว ทําไมชั้นต้องมาเสียเวลากับไอ้คนทําธุระคนนี้ด้วย!
ในเวลานี้เอง….
ก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาจากด้านนอก
บุคคลที่เดินน่าเข้ามามีรูปร่างที่สูงและดูแข็งแกร่ง เขาเดินเข้ามาพูดพร้อมกับหัวเราะด้วยความสง่าผ่าเผย
และเขาคนนั้นก็คือประธานบริษัทกฎหมายเทียนกวน จางเทียนเหิง!
เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจทําไมพี่จางที่อยู่ในวงการกฎหมายถึงมาที่นี่? เขามีความเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลซู?
และเบื้องหลังของจางเทียนเหิงก็มีคนเดินตามมาเจ็ดถึงแปดคน มองเพียงแวบแรกก็รู้ได้ทันที ว่าพวกเขาต่างก็เป็นบุคคลสําคัญ
“ฮ่าๆๆ – พวกเขาเป็นคนรู้จักของฉันเอง!”
ดวงตาของจูหวู่หวางเป็นประกาย!
เขานั้นรู้จักกับคนเหล่านี้ พวกเขาต่างก็เป็นเจ้าของหรือผู้บริหารบริษัทที่เขารู้จัก
“ฮ่าๆๆ – พวกเขาจะต้องมาสนับสนุนฉันแน่ๆ!”
“พี่ชายที่แสนดีของฉันจะเข้ามาช่วยฉันในช่วงเวลาวิกฤตแล้ว!”
“ฉันจูหวู่หวางไม่เพียงแต่เป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ฉันยังเป็นมหาเศรษฐีในวงการธุรกิจอีกด้วย!”
ในตอนนี้จูหวู่หวางรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากภูมิใจ
เงยหน้าขึ้นฟ้าสี่สิบห้าองศาล
ขอเป็นบ้าสักทีเถอะ!
ในเวลานี้เมื่อคนกลุ่มใหญ่เข้ามาใกล้จูหวู่หวางก็โบกมือเรียก
แต่แล้ว……
จางเทียนเหิงที่เดินนําเข้ามาก็เห็นเจียงเฉินเขาเลยตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
“น้องเจียง นายก็อยู่ที่นี่ด้วยหรอ!”
จางเทียนเหิงเมินจูหวู่หวางไปในทันที เขารีบเดินตรงเข้าไปหาเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว
“น้องเจียง!”
ส่วนคนที่ตามมาก็เป็นจูหวู่หวางและตรงไปหาเจียงเฉินเช่นเดียวกัน
พวกเขานั้นไม่ได้โง่
เมื่อพิจารณาถึงความกระตือรือร้นและความเคารพของจางเทียนเหิงที่มีต่อคนทําธุระคนนี้ ตัวตนที่แท้จริงของคุณทําธุระคนนี้จะธรรมดาได้ยังไง?
จางเทียนเพิ่งคือใคร?
เขาคือผู้บริหารบริษัทกฎหมายเทียนกวน ผู้ที่มีเส้นสายอยู่ทั่วเมืองหลวงและมีความสัมพันธ์กับมหาเศรษฐีหลายคน
แต่เขากลับเคารพคนทําธุระคนนี้มาก
แถมยังเรียกว่าน้องชายอีก!
ส่วนคนที่โบกมือให้เมื่อกี้…. เขาเป็นใคร? งั้นก็คงต้องขอโทษทีพอดีเดินเร็วเกินไปก็เลยมองไม่ชัด!
จูหวู่หวาง “…”
มือแข็งค้างอยู่กลางอากาศ
ไม่มีอะไรที่จะน่าอับอายไปมากกว่านี้แล้ว
ในเวลานี้เขาอยากตายเป็นอย่างมาก