เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 340 ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน
- Home
- All Mangas
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 340 ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน
ตอนที่ 340 : ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน!
พิ่ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…
เจียงเฉินก็ขับรถมาที่ชุมชนหูกวงซีจน
เจียงเฉินจอดรถ Mercedes Benz G500 เอาไว้ที่นอกประตูชุมชน และเขาก็มองไปที่ประตูชุมชนจากระยะที่ห่างออกไปเพียงสิบเมตรเท่านั้น และเขาก็เห็นเฉินฮุ่ยที่กําลังยืนอยู่ที่ป้อมยามได้อย่างชัดเจน
“คุณป้าใกล้ถึงหรือยังครับ?”
“เกือบจะถึงแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นานเฉินก็เห็นคุณป้าลงมาจากรถ
“คุณป้า ผมเห็นคุณแล้ว ทางนี้ครับตรงรถ Mercedes Benz สีด่า”
“ห๊ะ Mercedes Benz?”
และหลังจากนั้นเจียงเฉินก็พาป้าขึ้นรถของตัวเอง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน
“พ่อหนุ่ม นี่รถของนายหรอ?”
“ใช่ครับ”
คุณป้าตกตะลึง
อะไรกัน!
ผู้ชายคนนี้รวยขนาดนั้นเลยหรอ?
ทั้งๆที่เขาเป็นคนทําธุระ?
สิ่งนี้ทําให้ความคิดเดิมของเธอที่มีต่อคนทําธุระนั้นเปลี่ยนไปทันที
เจียงเฉินเริ่มอธิบายแผนของวันนี้ “คุณป้าครับ มันเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าลูกชายของคนติดผู้หญิงคนนี้มากเกินไป ดังนั้นผมก็เลยหาสาวสวยอีกหนึ่งมา แต่ผมจะใช้วิธีที่ใช้พิษสู่พิษ ตอนนี้เรามารอเพื่อนของผมอีกคนหนึ่งก่อน(สาวชาเขียวหลิวหลาน) ผมจะให้เธอเข้าหาลูกชายของคุณ….
คุณป้าส่ายหัว “ไม่มีทางหรอก ป้าเคยแนะนําให้ลูกชายของป้ารู้จักกับผู้หญิงไปหลายคนแล้ว แต่เขาก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่”
เจียงเฉินยิ้มออกมา “นั่นก็คงเป็นเพราะว่าระดับของพวกเธอยังคงไม่สูงพอ”
คุณป้างุนงง “ระดับอะไรหรอ?”
เจียงเฉินยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา
ในเวลานี้เอง ก็มีรถมาเซราติขับเข้ามาแล้วหยุดอยู่ที่หน้าประตู
แล้วสาวสวย 80 คะแนนก็ลงมาจากรถ!
หลิวหลาน!
เมื่อเธอลงมาจากรถเธอก็เดินไปที่ประตูชุมชนด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม
ท่วงท่าที่ดูสง่างาม กระโปรงยาว ผมยาวสลวยใบหน้าที่ถูกแต่งแบบบางๆ ผิวที่ขาวมากๆ
แม่เจ้า!!
ต้องยอมรับเลยว่าหลิวหลานคนนี้เป็นสุดยอดเจ้าแม่ชาเขียวจริงๆ!
“คุณป้าครับ เธอมาแล้ว!”
เจียงเฉินชี้ไปที่สาวชาเขียวหลิวหลาน
“นั่นคือเพื่อนที่ผมบอก ระดับของเธอสูงมาก เรามารอดูกันดีกว่าครับ…”
“นี่ ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลยนะ แถมเธอยังขับรถมาเซราติด้วย เธอคงจะเป็นเศรษฐีนี้ใช่ไหม?” คุณป้าพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
เจียงเฉินหัวเราะออกมา “ไม่ใช่หรอกครับ รถคันนั้นผมให้เธอยืมเอง”
เพราะถึงยังไงซะการที่เจียงเฉินยอมลงทุนทําแบบนี้ มันก็พอเขาต้องการรางวัลจากระบบ เพราะถ้าหากมันไม่มีโอกาศได้ทั้งหมดจากระบบเลย มีหรือที่เขาจะให้คนอื่นรถได้ง่ายๆแบบนี้?
คุณป้าตกตะลึงอีกครั้ง มีรถหรูมากกว่าหนึ่งคันงั้นหรอ ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะมีภูมิหลังครอบครัวที่ดีไม่น้อยเลย และการที่เข้ามาทํางานทําธุระมันก็ทําให้เห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีนิสัยที่ดีมาก นี่คือชายหนุ่มที่ดแบบสุดๆ! ฉันจะต้องแนะนําผู้หญิงให้เขา แต่หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่พักนึ่งเธอก็พบว่าเธอนั้นมีญาติหรือหลานสาวที่คู่ควรกับเจียงเฉินเลย สุดท้ายเธอก็เลยต้องยกเลิกความคิดนี้ไป
“คุณป้าครับ ได้เวลาแล้ว!”
เจียงเฉินพูดออกมา
ในเวลานี้หลิวหลานก็เดินบิดเอวของเธอไปที่หน้าประตูชุมชน
ยามหลายคนต่างพากันตกตะลึงเมื่อเห็นเธอ
“ว้าว เทพธิดา!”
“สวยมาก!”
“ยังสาวอยู่ด้วย!”
เฉินฮุ่ยหันไปมองหลิวหลาน ดวงตาของเขาเป็นประกาย เธอสามารถเทียบได้กับเทพธิดาของเขาเลย!
“สวัสดีสุดหล่อ ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหมฉันลืมเอาการ์ดมา”
หลิวหลานชี้ที่เฉินฮุยและพูดออกมา
ตุบ ตุ๊บ ตุ๊บ
หัวใจของเฉินฮุ่ยเต้นเร็วขึ้นหลายเท่า
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้รอยยิ้มจากเทพธิดาแบบนี้มาก่อนเขารู้สึกตื่นเต้นมาก
“ไม่สิ ฉันมีผู้หญิงที่ฉันชอบอยู่แล้ว ฉันจะหลงไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง!”
“ถ้าฉันหลงไปเธอคงจะต้องเสียใจแน่!”
เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉินฮุยก็รู้สึกราวกับถูกน้ําเย็นสาดใส่ ความกระตือรือร้นของเขาลดลงทันที
และในเวลานี้เอง….
“อ๊ะ
หลิวหลานที่ก้าวเดินไปสองก้าวอยู่ๆก็ล้มลงและตัวของเธอก็พุ่งไปหาเฉินฮุย
น้ําตาซึมออกมา
ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก
ในตอนนี้หัวใจของเฉินฮุยถูกล่อลวงอีกครั้ง
เฉินฮุ่ยรีบพยุงเธอขึ้นมาและพูดด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ คุณเจ็บหรือเปล่า?”
“เจ็บ”
หลิวหลานเอามือเธอปิดไปที่ข้อเท้าของเธอ แสดงท่าที่ที่ดูอ่อนแอและน่าสงสารออกมาเพื่อกระตุ้นความอยากปกป้องหญิงสาวของเฉินฮุย
เจียงเฉินที่แอบดูอยู่จากระยะไกลก็ยกนิ้วให้ “ยอดเยี่ยมมาก!”
คุณป้าตกตะลึง “พระเจ้า! สาวน้อยคนนี้… เธอก่าลังแสดงอยู่จริงๆเหรอ?”
เจียงเฉินพยักหน้า “ใช่ครับ มันเป็นแผน”
“สุดยอดเกินไปแล้ว…”
เธอนั้นไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะใช้คําใดในการอธิบายวิธีการของหลิวหลาน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอนั้นรู้ได้ทันที คือเฉินฮุยลูกชายของเธอนั้นจะต้องตกหลุมพรางของสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน!
ในเวลานี้เฉินฮุยนั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว
แต่ในเวลานี้หลินหลานก็แสดงความไว้วางใจและแสดงความรู้สึกดีที่มีต่อเขา “ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจริงๆ”
เฉินฮุยในเวลานี้ก็รู้สึกราวกับหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นจนแทบจะระเบิด
หลิวหลานหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา “มาแอดวีแชทกันหน่อยไหม ถ้าเย็นนี้ฉันมีเวลา ฉันจะชวนไปทานอาหารเย็นด้วย –
เฉินฮุยรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา “ได้ครับ ได้ครับ”
หลิวหลานแอบยิ้มเบาๆ
ติดกับแล้ว!
เจ้าลิงโง่!
ในรถเจียงเฉินที่เห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็คาดว่าพวกเขาคงเริ่มแอดวีแชทกันแล้ว
ติดกับแล้ว!
แผนการขั้นแรกสําเร็จ
ดังนั้นหลังจากที่หลิวหลานได้รับวีแชทของอีกฝ่ายสําเร็จ เธอก็หยุดทุกอย่างเอาไว้ก่อน
ทางด้านเจียงเฉินก็ยังคงทําธุระต่อไป
ในอีกด้านหนึ่ง….
ผู้พิพากษาขยะซูอ้ายฉิงและชูเสี่ยวเพิ่งก็กําลังคุยกันอยู่
ใช่แล้ว
ซูอ้ายฉิงกับชเสี่ยวเมิ่งพวกเธอทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน
ซอยฉิงและชูเสี่ยวเพิ่งพวกเธอทั้งสองนั้นต่างเป็นเทพธิดาที่มีนิสัยขี้เล่น
แต่ความแตกต่างนั้นก็มีอยู่นั้นก็คือ หลังจากที่ชูเสี่ยวเพิ่งได้ตกหลุมรักจียงเฉินแล้ว เธอก็เชื่อฟังเจียงเฉินมาก แต่เธอก็ไม่เคยไปไนท์คลับอีกเลยเพราะเธอรู้ว่าเจียงเฉินนั้นไม่ชอบผู้หญิงที่ไปไนท์คลับ
แต่ซอ้ายฉิงนั้นเนื่องจากพ่อของเธอนั้นนอกใจแม่ของเธอ มันจึงทําให้เธอนั้นไม่ชอบผู้ชาย และคิดว่าผู้ชายทั้งโลกนั้นก็เหมือนกันหมด
เพื่อนสนิทสาวสองคนคุยโทรศัพท์กัน
การคุยของพวกเธอนั้นดูมีชีวิตชีวามาก
“เสี่ยวเมิ่ง ฉันเพิ่งถูกรังแกมา!”
ทันทีที่ซูอ้ายฉิงคิดถึงเรื่องของเจียงเฉินมันก็ทําให้เธอโกรธ “ฉันจะต้องแก้แค้นให้ได้”
“หืม?”
ดวงตาของชูเสี่ยวเมิ่งเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “บนโลกใบนี้ยังมีผู้ชายที่กล้ายั่วยุเธออยู่ด้วย?”
ชูเสี่ยวเพิ่งนั้นรู้จักซูอ้ายฉิงดี
เพื่อนสาวซูอ้ายฉิงคนนี้เย็นชามาก!
“อื้ม! มี!”
ซูอ้ายฉิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “ก่อนหน้านี้ฉันไปทํางานเป็นผู้พิพากษาขยะและฉันก็ได้ เจอกับผู้ชายคนนึง”
หลังจากนั้นเธอก็เราเรื่องที่เธอนั้นได้พบกับเจียงเฉินและถูกเจียงเฉินจัดการ
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นมันน่าเศร้าเกินไป มันทําให้ความภาคภูมิใจของซูอ้ายฉิงต้องพังทลาย เธอรู้สึกอับอายมากเมื่อนึกถึงชื่อของเจียงเฉิน
“ฮ่าๆๆๆษ”
ชูเสี่ยวเพิ่งยิ้มและหัวเราะออกมา
เธอนะคิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนสาวผู้เย่อหยิ่งของเธออย่างซูอ้ายฉิงจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วย
เธอนั้นเคยแต่ได้ยินจากซูอ้ายฉิงว่าเธอนั้นจัดการกับพวกผู้ชายยังไง แต่เธอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
“เธอจะหัวเราะออกมาทําไม?”
ซูอ้ายฉิงรู้สึกไม่มีความสุข “ทําไมต้องหัวเหราะเยาะฉันด้วย เมื่อก่อนเทอก้อคอยยืนอยู่เคียงข้างฉันแล้วไม่สนใจผู้ชายเลย หรือว่าเธอจะ….”
สายตาของซูอ้ายฉิงเปลี่ยนไป “เป็นไปได้ไหมชูเสี่ยวเพิ่งของฉันกําลังเปลี่ยนใจไปอยู่ฝั่งพวกผู้ชาย หรือว่าอาจจะก่าลังตกหลุมรักใครบางคนอยู่?”
ชูเสี่ยวเพิ่งอ้าปากค้าง
คิดไม่ถึงเลยว่าซูอ้ายฉิงจะสัมผัสถึงความผิดปกติได้เร็วขนาดนี้
แต่ทันทีที่นึกถึงเจียงเฉินหัวใจของชเสี่ยวเพิ่งก็พองโต
สามีของฉันหล่อมาก!
แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่ได้เป็นแฟนกับเธอจริงๆ แต่การปล่อยให้ซูอ้ายฉิงรู้เรื่องนี้ก็คงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“ที่ไหนกัน?”
ชูเสี่ยวเพิ่งส่ายหัว “ฉันไม่มีสักหน่อย ผู้ชายอะไร? แค่กๆ(ยกเว้ยไว้สักคนก็แล้วกัน)”
“ก็แค่นั้นแหละ”
ซูอ้ายฉิงภูมิใจ “ผู้ชายทุกคนมันก็เหมือนกับหมูนั่นแหละ! ไร้ความสามารถ!”
“ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อมาก แต่ครั้งหน้าที่ฉันเจอเขา ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปแน่!”
ซูอ้ายฉิงตัดสินใจที่จะแก้แค้นเจียงเฉิน
(เธอนั้นคงจะลืมไปแล้วว่าเธอนั้นเพิ่งจะเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอให้เป็นรูปของเจียงเฉินไป)
ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน! เพราะไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนแต่ทันทีที่ได้เห็นรูปของเจียงเฉินเธอก็อดไม่ได้ที่จะเลียหน้าจอ
และเธอนั้นก็เปลี่ยนภาพพื้นหลังมือถือไปสามรอบแล้ว!
โทรศัพท์ : จะใช้งานฉันหนักไปถึงไหน!?
“ใช่แล้ว!”
ซอยฉิงพูดออกมา “แบรนด์ของฉัน [ซูเลิฟ] กําาลังจะจัดงานที่แกลอรี่ลาฟาเยตต์ด้วยนะ!”
“โอ้ จริงหรอ!? ยินดีด้วยนะ!”
ชูเสี่ยวเพิ่งรู้ว่าซูอ้ายฉิงนั้นเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก
พรสวรรค์ของเธอนั้นไม่ใช่เพียงแค่การจัดการกับพวกผู้ชายเจ้าชู้
แต่ที่จริงงานผู้พิพากษาขยะนั้นเป็นเพียงแค่งานอดิเรกของซูอ้ายฉิงเท่านั้น
งานหลักของเธอนั่นก็คือ
การบริหารแบรนด์ยอดนิยม [ซูเลิฟ] ของเธอ!
“ขอบคุณนะ”
ซูอ้ายฉิงพยักหน้าและพูดต่อ “แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีนายแบบ เธอพอจะแนะนําให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“อะไรนะ นายแบบงั้นหรอ?”
ชูเสี่ยวเพิ่งพูดอย่างไม่เข้าใจ “อ้ายฉิง เธอก็สวยไม่ใช่หรอ แล้วทําไมเธอถึงต้องเอาคนอื่นมาเป็นนายแบบด้วยล่ะ?”
“ถ้าเป็นเรื่องนางแบบฉันคงไม่ถามหรอก”
ซูอ้ายฉิงพูดต่อ “แต่ที่ฉันต้องการคือนายแบบ”
“เดี๋ยวนะ!”
จู่ๆชูเสี่ยวเพิ่งก็นึกข่าวลือก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ “ไม่ใช่ว่าเธอมีดาราหนุ่มอย่างหรูหวางที่กําลังไล่ตามเธออยู่ไม่ใช่หรอ จูหวี่หวางคนนี้มีแฟนคลับอยู่ทั่วประเทศ เขาก็หล่อไม่น้อยเลยนะ ทําไมเธอไม่เชิญเขามาเป็นนายแบบของแบรนด์เธอล่ะ บางทีเค้าอาจจะไม่คิดเงินเธอเลยก็ได้นะ!”
เมื่อพูดถึงจูหวูหวางใบหน้าของซูอ้ายฉิงก็ดูมืดมนลงทันที เธอแค่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “อื้ม! เขางั้นเหรอ!?”
“แม้ว่าเขาจะไล่ตามฉันแต่ฉันไม่สนใจเขาหรอก!”
ซูอ้ายฉิงส่ายหัวอย่างเย็นชา
ซูอ้ายฉิงนั้นมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ตั้งแต่คนรุ่นปู่ย่าตายายของเธอนั้นพวกเขาต่างก็มีรากฐานที่ฝังแน่นอยู่ในเมืองหลวงและเป็นตระกูลชั้นสูงอยู่ในเมืองหลวงมานาน
ที่ใจกลางเมืองหลวงมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่าง-แกลอร์ลาฟาเยตต์!
และข้างๆห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นก็มีลานขนาดใหญ่อยู่!
และลานขนาดใหญ่นั้นก็ถูกสร้างโดยคุณยายของซูอ้ายฉิง!
แค่นี้ก็น่ากลัวมากแล้ว!
แถมพ่อและลุงของซูอายฉิงก็เป็นยักษ์ใหญ่ที่มีเส้นสายอยู่ทั่วเมืองหลวง
พ่อของเธอนั้นเป็นซีอีโอของบริษัทรัฐวิสาหกิจ และลุงของเธอนั้นก็เป็นรองประธานธนาคารขนาดใหญ่
และเธอนั้นก็มีการศึกษาที่ดีมาก ในตอนที่เธอสําเร็จการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศลำดับของเธอนั้นก็อยู่หนึ่งในสิบของรุ่นเลยทีเดียว
หลังจากที่เธอกลับมาประเทศจีน เธอนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วบนโลกอินเทอร์เน็ต และกลายเป็นหนึ่งในห้าสิบหญิงสาวที่โด่งดังบนโลกอินเทอร์เน็ต!
และซูอ้ายฉิงก็อย่างได้ก่อตั้งแบรนด์ส่วนตัวของเธอ “ซูเลิฟ” ด้วยภูมิหลังทางครอบครัวที่แข็งแกร่งและความสามารถส่วนตัวของเธอ แบรนด์ของเธอนั้นจึงกลายเป็นที่ว่านิยมไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีรูปแบบที่ไม่ซ้ําใคร
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทําให้เธอนั้นมีชื่อเสียง!
ในปีนั้นก็มีศิลปินผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก เขามีชื่อว่าจหวูหวางเขามีแฟนคลับผู้หญิงเป็นจํานวนนับไม่ถ้วนอยู่ทั่วประเทศ
และหลังจากที่เขานั้นได้พบกับซูอ้ายฉิง
และพบว่าภูมิหลังทางครอบครัวของซูอ้ายฉิงนั้นยอดเยี่ยมมาก
มันก็ทําให้เขาคิดว่าหากเขาได้มีแฟนสาวที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ เขาก็คงจะมีเงินไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง….
และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มไล่ตามซูอ้ายฉิงอย่างบ้าคลัง
ซูอ้ายฉิงเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกให้กับจูหวี่หวาง เพราะก่อนหน้านี้พ่อของเธอนั้นได้ละทิ้งแม่ของเธออย่างเย็นชา ทําให้เธอนั้นคอยระแวดระวังผู้ชายอยู่ตลอด
และแน่นอนว่าครอบครัวของเธอนั้นก็จะต้องเป็นห่วงเธอ
เมื่อเห็นว่าตั้งแต่ที่เธอนั้นจบการศึกษามาและกลับมาที่ประเทศจีนถึงสองปีแล้ว เธอก็ไม่เคยพูดถึงแฟนหนุ่มแม้แต่ครั้งเดียว จึงทําให้ครอบครัวของเธอเริ่มจริงจังและกังวลกับเรื่องนี้
แม้แต่คุณยายของเธอก็คอยแอบถามเธออยู่เสมอว่า “รสนิยมทางเพศของหลานผิดปกติรีเปล่า? หรือว่ามีปัญหาอะไรไหม? หรือว่าหลานชอบผู้หญิง?”
ซูอายฉิงที่ถูกถามแบบนั้นก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เรื่องทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกันยังไง?
“ถ้าหลานไม่ได้ชอบผู้หญิงงั้นก็ลองคบกับพ่อดาราหนุ่มคนนั้นก็ดีนะ”
สุดท้ายคุณยายของเธอก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ภายใต้แรงกดดันจากครอบครัว ซูอ้ายฉิงก็ทําอะไรไม่ถูกจนสุดท้ายเธอก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไร และกลับไปต่อว่าจหวูหวางอย่างเลือดเย็น
ในตอนนี้เธอนั้นก็ต้องพบกับทางตันเพราะเธอนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่ใครจะรู้จหว่หวางคนนี้กลับใช้โอกาสนี้ในการประกาศกับคนไปทั่ว!
จูหวูหวางคนนี้เริ่มประกาศความสัมพันธ์ของเขากับซูอายฉิงบนเว่ยป๋อของตัวเอง
ทําให้เกิดกระแสกับแฟนคลับของเขาเป็นวงกว้าง
เรื่องนี้มันทําให้ซูอันฉงนั้นรู้สึกรังเกียจเขามาก
เธอนั้นไม่เคยคิดที่จะคบกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับประกาศให้โลกรู้ว่าซูอ้ายฉิงนั้นเป็นแฟนของเขา!
และหลังจากนั้นซูอ้ายฉิงก็ฉีกหน้าของเขาบนเว่ยป๋อของเธอ และต่อว่าเขาที่ทําลายชื่อเสียงของเธอ
และจูหรูหวางคนนี้ก็รับมือได้ดีไม่น้อยเลย เขาประกาศขอโทษออกมาทันทีว่า “ผมต้องขอโทษซูอ้ายฉิงจริงๆ พอผมเองก็คิดไม่ถึงว่าเธอนั้นจะไม่เห็นด้วยจริงทั้งๆที่ผมได้ตามเธอมาขนาดนี้ และผมก็เป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงเสมอดังนั้นผมจะรออย่างอดทน ผมจะรอให้เธอมาเลือกผม และผมจะพยายามทําให้ความรู้สึกผมนั้นส่งถึงเธอให้ได้……”
จะให้สรุปง่ายๆก็คือจูหวูหวางนั้นยอมรับการปฏิเสธของซูอ้ายฉิง แต่ว่ามันไม่ได้ทําให้เขานั้นเสียชื่อเสียงแต่กลับทําให้เขานั้นมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก และหลายๆคนนั้นคิดว่าจหว่หวางกับซูอ้ายฉิงนั้นก็ดูเหมาะสมกันดี
สิ่งนี้ยิ่งทําให้ซูอ้ายฉิงรู้สึกรําคาญและรังเกียจมากขึ้นไปอีก
แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคที่อินเตอร์เน็ตนั้นสามารถเข้าถึงได้ทุกคนการที่จะอธิบายเรื่องแบบนี้ มันชัดเจนมันยากมาก
ซูอ้ายฉิงแค่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “เธอรู้ไหมว่าเจ้าจูหรูหวางนั่นคอยกวนใจฉันอยู่ตลอดเวลาให้ฉันโมโหอยู่ตลอด เธอก็น่าจะรู้ดีว่าฉันเกลียดเขามากแค่ไหนแล้วฉันจะไปเชิญเขามาเป็นนายแบบได้ยังไง?”
“โอ้”
ชูเสี่ยวเพิ่งพยักหน้า
เพราะแม้แต่ชเสี่ยวเพิ่งเองก็เคยได้ยินถึงชื่อเสียงของจูหวี่หวาง และเธอนั้นก็พอรู้มาว่าเขานั้นเจ้าชู้ไม่น้อยเลย
“ว่าแต่เธอพอจะรู้จักคนที่เหมาะมาเป็นนายแบบให้ฉันไหม?”
ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันเองก็ได้ยินมาว่าจะเจ้าจหวูหวางผู้ชายที่ฉันปฏิเสธมาโดยตลอดยังคงวางแผนเข้าหาฉันอยู่ และยิ่งครั้งนี้แบรนด์ซูเลิฟของฉันจะจัดงานที่ลาฟาเยตต์ด้วย แถมฉันยังได้ยินข่าวลืออีกว่าเขานั้นต้องการที่จะทําอะไรบางอย่าง ดังนั้นฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าเกิดเขามาปรากฏตัวอยู่ที่งาน เพื่อสร้างกระแสข่าวปลอมๆว่าฉันกําลังคบกับเขาอยู่!”
เมื่อได้ยินว่าจูหรูหวางนั้นทําอําไรเอาไว้ ชูเสี่ยวเพิ่งก็ผงะและเข้าใจทันทีเลยว่าทําไมซูอ้ายฉิงถึงเกลียดเขามากขนาดนี้ ดังนั้นการจะพิจารณาให้เขามาเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ก็คงปัดตกไป
ได้เลย
“แต่ว่าในวงการบันเทิงก็มีหนุ่มหล่อดาราดังอยู่อีกมากมายไม่ใช่หรอ?”
ชูเสี่ยวเพิ่งเสนอ “ถ้าตราบใดที่บริษัทของเธอมีเงินมากพอมันก็คงไม่มีปัญหาไม่ใช่รึไง?”
“ทําอย่างนั้นไม่ได้”
ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างหดหู “เจ้าบ้าจหวูหวางนั่นเป็นหนึ่งในศิลปินชายที่ดังที่สุดในประเทศจีน แถมยังส่งพลังไม่น้อยเลยเขามีเส้นสายอยู่มากมาย แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ปล่อยข่าวลือออกมาว่าถ้าเกิดใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้และเข้ามาเป็น นายแบบให้กับแบรนด์ซูเลิฟของฉันพวกเขาจะต้องรับผิดชอบกับผลที่จะตามมา ดังนั้นตอนที่ฉันไปหานายแบบตามบริษัทต่างๆ ก็ไม่มีซักบริษัทเลยที่จะตอบตกลงเพราะพวกเขาไม่มีใครกล้าที่จะทําให้จูหวูหวางขุ่นเคือง”
“???”
ชเสี่ยวเมิ่ง “เขาทําได้ขนาดนี้เลยหรอ?”
“ใช่”
ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างหดหู “และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทําไมฉันถึงหานายแบบไม่ได้สักที เพราะตอนนี้คนที่ฉันต้องการคือคนที่ไม่อยู่ในวงการบันเทิง และที่สําคัญเขาจะต้องหล่อ! แล้วจะต้องมีเอกลักษณ์มากพอที่จะสามารถเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ซูเลิฟได้
“นี่
”
“หล่อ! มีเอกลักษณ์! ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง?”
ชูเสี่ยวเพิ่งนึกถึงเจียงเฉินทันที
ถ้าจะถามว่าใครหล่อที่สุด?
ก็คงจะแน่นอนว่าเป็นเจียงเฉิน!