เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ - ตอนที่ 339 ดวงตาของฉันผ่านโลกมามากจริงๆ
- Home
- All Mangas
- เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ
- ตอนที่ 339 ดวงตาของฉันผ่านโลกมามากจริงๆ
ตอนที่ 339 : ดวงตาของฉันผ่านโลกมามากจริงๆ!
วันนี้เป็นวันไม่เจียมเฉินถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาโดยนาฬิกาปลุกของเขา
งานจัดการกับสุนัขเรียนนั้นเขายังไม่สามารถทําได้ในเวลานี้ เพราะเขาต้องรอให้สาวชาเขียวหลิวหลานเตรียมพร้อมก่อน
และเจียงเฉินก็จําได้ว่าเดือนนี้เขายังไม่เริ่มเก็บค่าเช่าเลย ดังนั้นเขาจึงใส่ชุดและปั่นจักรยานไปเก็บค่าเช่า
ใช้เวลาครึ่งวันในการเก็บค่าเช่าลงใส่กระสอบ
“บางที่นี่อาจจะเป็นรางวัลของความขยัน…….”
ในเวลานี้เองก็มีตัวแทนอสังหาริมทรัพย์สองคนกําลังเดินเข้ามาในชุมชนเจียงเจีย
ในครั้งนี้พวกเขามาที่ชุมชนเจียงเจียเพื่อมาหาลูกค้า
นายหน้าอาวุโสแกล้งโอ้อวดออกมา “เดือนที่แล้วฉันขายห้องชุดไปได้สามห้องและบ้านอีกห้าหลัง เรื่องแบบนี้แหละที่ฉันเชี่ยวชาญ!”
“สุดยอด ”
นายหน้าหนุ่มพูดออกมาด้วยท่าทางชื่นชม
นายหน้าอาวุโสแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจออกมา
เยี่ยมจริงๆ!
การได้โอ้อวดต่อหน้าพวกมือใหม่มันสนุกจริงๆ!
“ท่านอาจารย์ คุณเป็นหน้าที่เก่งที่สุดในบริษัท ผู้จัดการเลยขอให้ผมมาเรียนรู้ทักษะคุณ คุณพอจะช่วยสอนผมหน่อยได้ไหมครับ?”
นายหน้าหนุ่มยื่นบุหรี่ให้กับนายหน้าอาวุโสและพูดด้วยความจริงจังว่า “ท่านอาจารย์ ศิษย์ต้องการความรู้ในอนาคตศิษย์จะไม่ลืมบุญคุณของอาจารย์อย่างเด็ดขาด!”
นายหน้าอาวุโสรับบุหรี่มาละคิดในใจ –
“สิ้ม! การสอนลูกศิษย์นายจะทําให้ฉันอดตายต่างหากล่ะ! ถ้าอยากเรียนรู้วิธีขายจากฉัน – ก็เลิกฝันไปได้เลย!
“แต่น่าเสียดายที่เจ้าเด็กฝึกงานคนนี้ถูกบริษัทส่งให้มากับฉัน”
“ฉันจะต้องหาวิธีกําจัดเจ้าเด็กฝึกงานนี้ออกไปให้ได้!”
นายหน้าอาวุโสเยาะเย้ยในใจแต่สีหน้าเขายังคงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเขาแกล้งแสดงเป็นอาจารย์ที่พร้อมจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับลูกศิษย์ของตัวเอง “ฮ่าๆ ศิษย์เอ๋ย ในเมื่อนายปฏิบัติกับฉันดีขนาดนี้เรื่องนี้ก็ค่อยพูดง่ายหน่อย”
ในเวลานี้เอง
ลูกค้าสองคนก็ปรากฏตัวจากระยะไกล
ลูกค้าคนหนึ่งขับรถเบนท์ลีย์กลับเข้าไปในชุมชนอย่างช้าๆ
ส่วนลูกค้าอีกคนหนึ่งก็คือ
เจียงเฉิน
ที่กําลังอยู่ในชุดคนทําธุระ
เขาก่าลังแบกกระสอบออกจากชุมชน…..
นายหน้าอาวุโสมองลูกค้าสองคนอย่างระมัดระวังและเริ่มคิดในใจว่า
“หึหึ ฉันฉันจะให้เจ้าเด็กฝึกงานไปเล่นกับคนทําโทรคนหน่อยก็แล้วกัน และฉันก็จะใช้โอกาสนี้ไปหาลูกค้าตัวจริงคนที่เพิ่งขับเบนท์ลีย์คันเมื่อกี้ เขาจะต้องเป็นคนรวยแน่ๆ!”
นายหน้าอาวุโสตัดสินใจและชี้ไปที่เจียงเฉิน
“หืม? ตรงนั้นมีลูกค้าอยู่!
“นายเข้าไปหาเขาซะ!”
นายหน้ามือใหม่หันไปมองที่เจียงเฉินก่อนจะหันไปมองที่ลูกค้าที่ขับเบนท์ลีย์ก่อนจะถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “ท่านอาจารย์ แต่ตรงนั้นมีคนขับรถเบนท์ลีย์อยู่นะ เราควรไปหาคนๆนั้นก่อนไม่ใช่หรอ?”
“เจ้าเด็กน้อย คิดขัดคําพูดของอาจารย์งั้นหรอ?”
นายหน้าอาวุโสตําหนิออกมาเสียงดัง “ฉันกําลังสอนนายอยู่นะ! และฉันจะสอนอะไรให้ก็แล้วกัน ในธุรกิจของเราสิ่งที่ต้องห้ามมากที่สุดคือดูคนจากภายนอก! เราห้ามตัดสินคนจะรูปร่างหน้าตาของพวกเขา บางที่การขับรถเบนท์ลีย์อาจจะไม่จําเป็นต้องเป็นคนรวย คนทําธุระไม่จําเป็นต้องมีเงิน ดังนั้นฉันเลยมอบหมายเขาให้กับนาย ทีนี้เข้าใจหรือยัง?”
นายหน้ามือใหม่เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ท่านอาจารย์พูดถูก! ตอนนี้ผมยังมีประสบการณ์น้อยเกินไปเลยตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก บางทีคนทําธุระคนนี้อาจจะเป็นคนรวยจริงๆก็ได้ ผมจะต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้ ”
เขารีบวิ่งออกไปในพริบตา
วิ่งตรงไปหาเจียงเฉิน
นายหน้าอาวุโสลุกขึ้นดูดบุหรี่ก่อนจะยิ้มออกมา
“ไอ้หนู อยากจะมาแทนที่ฉันงั้นเหรอ อ่อนหัดเกินไป!”
“ถึงแม้ว่าฉันจะบอกว่าเราห้ามตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่ฉันที่ทํางานนี้มาหลายปี สายตาของฉันดีกว่านายมาก!”
“มีเงินหรือไม่มีเงินแค่กวาดตามองก็รู้แล้ว!”
“เพราะถึงยังไงสักคนขับเบนท์ลีย์ก็จําเป็นต้องมีเงินอยู่ในระดับนึงอยู่แล้วถูกไหม?”
“และยิ่งกว่านั้นคนขับนั้นสวมเสื้อกุชชี่ และเสื้อตัวนั้นมีราคากว่าเก้าพันสองร้อยหยวน!”
นายหน้าอาวุโสเยาะเย้ยออกมา
เขานั้นทําเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ในตอนนี้แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
เสื้อที่ชายคนขับรถเบนท์ลีย์คนนั้นใส่นั้นมีค่ามาก ดูก็รู้แล้วว่าต้องเป็นคนรวย!
“ทําธุระแล้วจะรวยงั้นหรอ? หึหึง”
“คนรวยบางกลุ่มที่ออกมาประสบการณ์ชีวิต แต่พวกเขาก็คงไม่ทําให้ตัวเองลําบากเกินไป ถูกมั้ย คนแบบพวกเขาจะออกมาทําธุระในวันที่อากาศร้อนแบบนี้ได้ยังไง?”
“ดังนั้นนายก็คุยกับคนทําธุระไปก็แล้วกัน ส่วนฉันจะไปคุยธุรกิจกับคนขับรถเบนท์ลี่ย์!”
หลังจากนั้นเขาก็เดินตรงไปหาคนขับรถเบนท์ลีย์
ในเวลานี้เองคนขับรถเบนซ์ลีกจอดรถและลงมาจากรถพอดี
ชายผู้สวมเสื้อกุชชี่เดินลงมาจากรถด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง
รองเท้าแตะของเขาก็เป็นแบรนด์กุชชี่ที่มีมูลค่าไม่ต่ํากว่าหนึ่งหมื่น!
นายอาวุโสดีใจขึ้นมาทันที!
นี้จะต้องเป็นเศรษฐีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย! เขาไม่ใช่แค่คนขับรถแน่ๆ!
วิธีแยกระหว่างคนรวยกับคนขับรถ
จุดเด่นที่สําคัญของคนรวยนั้นก็คือพวกเขาจะใส่เสื้อยืดและรองเท้าแตะหรือรองเท้าผ้าใบออกไปขับรถเล่นในช่วงหน้าร้อน พวกเขาจะแต่งตัวแบบสบายๆ แต่เสื้อผ้าทุกชิ้นของพวกเขานั้นจะเป็นของแบรนด์เนมที่มีราคาแพงมาก
ส่วนคนขับรถนั้นมักจะอยู่ในเครื่องแบบ ชุดสูท รองเท้าหนัง พวกเขาจะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยแม่ในวันที่มีอากาศร้อนจัด เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เป็นเพียงแค่ลูกจ้างของเจ้านาย พวกเขาไม่กล้าที่จะแต่งตัวสบายเกินไป
หรือจะให้พูดง่ายๆก็คือ ยิ่งแต่งตัวเรียบร้อยมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสเป็นคนขับรถมากขึ้นเท่านั้น แต่กลับกันถ้าหากยิ่งแต่งตัวสบายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นคนรวยมากขึ้นเท่านั้น!
นายหน้าอาวุโสรู้สึกภูมิใจกับทฤษฎีของตัวเอง!
ไม่น่าแปลกใจว่าทําไมฉันถึงทํากําไรได้ดี!
ดวงตาของฉันผ่านโลกมามากจริงๆ!
เขาเดินเข้าไปหาชายขับรถเบนท์ลีย์ด้วยสีหน้าประจบประแจงและเริ่มพูดออกมา
“พี่ชาย! ผมมองเห็นแต่ไกลแล้วว่าคุณจะต้องเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแน่ๆ!”
ใช่ครับรถเบนท์ลีย์แค่ลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา เขาไม่สนใจที่จะพูดด้วยและเลือกที่จะเดินต่อไปโดยที่ไม่สนใจ
นายหน้าอาวุโสพูดออกมาว่า “พี่ชาย คุณดูเหมือนจะเป็นคนรวยมากเลยนะ! คุณสนใจอยากจะซื้อบ้านหน่อยมั้ย ฟังผมก่อนนะจากสถานการณ์ในปีนี้ ช่วงก่อนสิ้นปีราคาบ้านจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน!”
ชายขับรถเบนท์ลีย์หันกลับมามองด้วยสายตาที่ต้องการที่จะไล่เขาออกไป
“ครอบครัวของฉันมีบ้านเยอะอยู่แล้ว! เพียงแค่ภายใต้ชื่อของฉันก็มีมากกว่ายี่สิบหลังแล้ว! ฉันไม่ต้องการซื้อ! เข้าใจแล้วนะ ฉันไม่ต้องการ!”
เดิมที่เขาต้องการโอ้อวดเพื่อที่จะให้นายหน้าอาวุโสรู้สึกท้อใจและเดินออกไปแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิด “พี่ชายในเมื่อคุณมีบ้านเยอะขนาดนั้นสนใจขายให้ผมหน่อยมั้ย ฟังผมนะ พี่ชาย สิ้นปีนี้ราคาจะต้องตกอย่างแน่นอน!”
พรูดew
ชายเจ้าของเบนท์ลีย์เดินโซเซจนเกือบจะล้มลง
ตกตะลึง!
เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยไม่ใช่หรือไงว่าราคาบ้านจะขึ้น? แล้วทําไมตอนนี้ถึงมาบอกว่าบ้านกําลังจะลงแล้วล่ะ!?
ชายเจ้าของรถเบนท์ลีย์ปาดเหงื่อเย็นและได้แต่โอ้อวดต่อไปว่า “ทําไมฉันต้องขายบ้า นด้วยฉันมีเงินอยู่ในมืออยู่แล้ว! ในธนาคารฉันมีเงินอยู่หลายร้อยล้าน! ทําไมฉันต้องขายบ้านด้วย? คุณป่วยหรือยังไง?”
เขาคิดว่ามันจะทําให้นายหน้าคนนี้ยอมล่าถอยไปได้ แต่ใครจะรู้
นายหน้าอาวุโสคนนี้สุดยอดจริงๆ…..
เขากรอกตาไปมา
“พี่ใหญ่! ในเมื่อคุณรวยมากบริษัทของเราก็เปิดรับฝากเงินด้วยนะ ถ้าเกิดคุณฝากเงินกับพวกเรา เราจะให้ดอกเบี้ยคุณมากกว่าธนาคารแน่นอน สนใจหน่อยมั้ย?”
เจ้าของรถเบนท์ลีย์ “…”
อะไรกันอีก?!
ทําไมถึงต้องมาตามฉันขนาดนี้!?
อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ําตาล
เมื่อไหร่จะหยุดสักที! ฉันควรทํายังไงดี?
ในตอนนี้เขาได้แต่แสร้งทําเป็นไม่เห็นด้วย “ฉันพูดมามากแล้วไม่ใช่รึไงว่าฉันไม่ได้สนใจเรื่องเงิน สถานการณ์ทางการเงินของฉันก็ไม่ได้แย่! ฉันไม่สนใจเรื่องดอกเบี้ย! ทุกวันนี้ฉันมีเงินมากพอที่จะทําการกุศลแล้วด้วย! เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว!”
เขาคิดว่าครั้งนี้อีกฝ่ายจะต้องยอมถอยออกไปอย่างแน่นอน
แต่ใครจะรู้
นายหน้าอาวุโสเริ่มสนใจเขามากขึ้นเรื่อยๆดวงตาของเขาเป็นประกาย “พี่ใหญ่! คุณทําการกุศลด้วยหรอ เหมาะมาก! ผมรู้จักงานการกุศลอยู่สองสามงานพวกเขากําลังต้องการทุนการกุศลอย่างเร่งด่วนด้วย และไม่เพียงเท่านั้นคุณยังสามารถใช้มันเพื่อลดหย่อนภาษีได้ด้วย! เรียกได้กว่าปาหินก้อนเดียวได้นกสองตัวเลยนะ! ได้ทั้งชื่อเสียงและโชคลาภ! อยากจะบริจาคหน่อยไหมสักหนึ่งล้านเป็นยังไง? บางทีอาจจะได้ติดรายชื่อนิตยสารฟอร์บส์เลยนะ!”
พรูดws
ชายเจ้าของรถเบนท์ลีย์แทบจะกระอักเลือดออกมา!
พระเจ้า
ทําไมแค่ไล่เขาออกไปมันยากขนาดนี้!
ฉันแกลังแสดงมาขนาดนี้ยังไม่พออีกหรอ?!
“ฉันไม่ได้อยากมีรายชื่อบนนิตยสารฟอร์บส์! ฉันไม่อยากเป็นคนดัง ฉันต้องการแค่ทําการกุศลเล็กๆน้อยๆก็พอแล้ว! ส่วนคุณที่เป็นพวกนายหน้าตัวเหม็น! ผมน่ะรังเกียจคนแบบพวกคุณที่สุด!”
ชายเจ้าของรถเบนท์ลี่ย์อับอายและเขาก็ต้องการใช้ความกลัวมาปิดบังความอับอายของ
เขาจะนายหน้าอาวุโสยังคงไล่ตามอย่างไม่ย่อท้อ
ในเวลานี้เองโทรศัพท์มือถือของชายเจ้าของรถเบนซ์ลีกดังขึ้น
เสียงเข้มดังออกมา
“จ้าวน้อย!”
เสียงของหวังหวังชงดังขึ้น “ฉันให้นานไปที่ชุมชนตระกูลเจียง เพื่อให้นายรับคุณเจียงมานายไปถึงรึยัง?”
เสียงของชายคนขับรถเบนท์ลีย์ฟังดูประหม่าเขารีบพูดออกมาด้วยความประจบประแจงทันที “คุณหวัง! ผมมาถึงแล้วครับ! ผมพึ่งจะมาถึงเลย!”
“รีบไปรับคุณเจียงเร็วเข้า!”
หวังชงตําหนิออกมา “ตอนนี้ฉันสั่งอาหารเอาไว้หมดแล้ว ฉันสั่งให้นายทํางานสําคัฯแต่ถ้านายทําช้าจนทําให้อาหารเย็นก่อน นายกลับมาก็รอดูก็แล้วกันว่านายจะต้องเจอกับอะไร!”
“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบไปรับคุณเจียงทันที!”
ชายขับรถเบนท์ลีย์พยักหน้ารับ
นายหน้าอาวุโส “…”
(P P IL!
นิ่ง!
ผู้ชายที่ขับรถเบนท์ลีย์ ใส่เสื้อกุชชื่นาฬิกาและรองเท้าแตะแบรนด์เนมเป็นแค่…คนขับรถ?
พี่สาวน้องสาวแกเถอะ!
ทุกวันนี้คนขับรถแต่งตัวแบบนี้กันแล้วหรอ?
สวมเสื้อผ้าหรูหรา มีห้องชุดมากกว่ายี่สิบห้อง มีเงินฝากในธนาคารเป็นร้อยล้านแถมยังทําการกุศลอีก?
ทําการกุศลให้พี่สาวแกเถอะ!
เงินเดือนของแกจะซักเท่าไหร่เชียว? กี่หมื่น?!
นายหน้าอาวุโสพูดออกมาด้วยเสียงโกรธจัด “นายหลอกฉันมาตั้งนานสุดท้ายนายก็แค่คนขับรถไม่ใช่รึไง!? นายทําให้ฉันเสียเวลามากเท่าไรรู้ไหม!?”
ชายขับรถเบนท์ลีย์ที่โอ้อวดก็หันไปมอง “บัดซบ! เมื่อตอนที่ฉันลงจากรถเป็นนายไม่ใช่เหรอที่เขามาหาฉันเอง นายต่างหากที่ทําให้ธุระของฉันช้า! ฉันจะต้องไปรับคนแล้ว! หลีกทาง!”
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มองด้วยความยิ่งพูดไม่ออก
และก็เริ่มมีการพูดคุยกัน
“พระเจ้า….”
“นี่มันอะไรกัน?”
“บัดซบ ฉันยืนฟังอยู่ตั้งนานฉันก็นึกว่าพวกเขาเป็นมหาเศรษฐี สุดท้ายก็เป็นแค่คนขับรถ!”
หลังจากนั้นกลุ่มคนก็แยกย้ายกันออกไป
ในเวลานี้เองในดวงตาของชายที่ขับรถเบนท์ลีย์ก็เป็นประกายเพราะเขานั้นเห็นเจียงเฉินที่กําลังผลักจักรยานออกไปพอดี! ในเวลานี้เจียงเฉินกําลังผลักจักรยานพร้อมกับแบกกระสอบเอาไว้ข้างหลัง ในระหว่างที่กําลังคุยอะไรบางอย่างกับนายหน้ามือใหม่
นายหน้ามือใหม่พูดอย่างสุภาพและให้เกียรติเจียงเฉินมาก เขาปฏิบัติตามข้อควรระวังต่างๆที่นายหน้าอาวุโสสังสอนเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
เจียงเฉินเองก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ดีมาก แววตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจและปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความกระตือรือร้น
นายหน้ามือใหม่ก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน
แม้ว่าเจียงเฉินจะเข็นรถจักรยานและสูงเครื่องแบบของคนทําทุระ แม้จะไม่ถูกจัดประเภทเป็นคนรวยแต่ง
ท่านอาจารย์ก็เตือนเอาไว้แล้วว่าอย่าตัดสินคนจากรูปร่างภายนอก!
แม้ว่าลูกค้าคนนี้จะดูไม่เหมือนเศรษฐีแต่ฉันก็ต้องทํางานและแสดงความจริงใจเพื่อเอาชนะใจเขา
คนหนึ่งสองคนพูดคุยและหัวเราะกัน
“คุณเจียง! คุณเจียง!”
ชายคนขับรถเบนท์ลีย์วิ่งไปอยู่ต่อหน้าเจียงเฉินและพูดออกมาว่า “คุณเจียงผมเป็นคนขับรถของคณหวางชง คุณหวางสั่งให้ผมมารับคุณเพื่อไปคุยเรื่องโครงการอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน!”
คนที่อยู่รอบข้างตกตะลึง!
เพียงเฉินที่กําลังอยู่ในชุดของคุณทําธุระและเข็นจักรยาน
ใครจะไปคิดว่าคนทําธุระแบบนี้จะเป็นแขกของคนขับรถเบนท์ลีย์
แล้วไหนจะเรื่องการเจรจาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายหมื่นล้านอีก?
หวางชงชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ!
นั่นมันลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัทอี้ตํากรุ๊ป!
คนทําธุระคนนี้คงไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของอี้ตกหรอกใช่ไหม?!
พระเจ้า!
โลกมันเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้เลยหรอ!?
เจียงเฉินยิ้มให้กับนายหน้ามือใหม่ก่อนจะพูดออกมาว่า “เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้วนายชื่อว่าหลิวเจียนใช่ไหม?”
นายหน้ามือใหม่หลิวเจียนดูตื่นเต้นและพูดอย่างจริงใจว่า “ใช่ครับ คุณเจียงผมชื่อเสี่ยวหลิว หากในอนาคตคุณมีอะไรก็โทรหาผมได้ทันทีนะครับ ผมจะบริการคุณอย่างเต็มที่แน่นอน!”
ในเวลานี้เองรถเบนท์ลีย์ก็ขับมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงเฉิน
เจียงเฉินที่กําลังพักจักรยานอยู่โดยมีกระสอบขนาดใหญ่สองใบสะพายอยู่ข้างหลัง ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า “ได้”
เจียงเฉินหันไปมองที่คนขับรถเบนท์ลีย์ “แต่ว่าฉันยังมีกระสอบสองใบนี้อยู่นะ”
คนขับรถเบนท์ลีย์รู้สึกกังวลเล็กน้อย (หวังชงนั้นเร่งเขามาแล้วและเขาก็กลัวว่าตัวเองจะไปส่งเจียงเฉินช้า) เขาก็เลยรีบพูดออกมาว่า “กระสอบสองใบนั้น มีของมีค่าอยู่หรือเปล่าครับ ถ้าไม่มี
ในเวลานี้เองนายหน้ามือใหม่ก็พูดออกมาด้วยความจริงจัง “ถ้าไม่ว่าอะไรเดี๋ยวผมเก็บให้ก็ได้นะครับ ผมรับประกันเลยว่าของไม่หายแน่นอน!”
ในเวลานี้เองนายหน้าอาวุโสกยออกมา “เขาก็แค่คนทําธุระจะไปมีของมีค่าอะไร?”
เจียงเฉินยิ้มและไม่พูดอะไรออกมาก่อนจะส่ายหัว “กระสอบสองใบนี้ฉันไม่สะดวกที่จะเก็บไว้ที่จริงๆ”
คนขับรถเบนท์ลีย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งไปเปิดท้ายรถและช่วยเฉินยกกระสอบใส่ทันที
และนายหน้ามือใหม่ก็เข้ามาช่วยเช่นกัน
แต่ใครจะรู้ –
ในขณะที่คนขับรถเบนท์ลีย์กําลังยกกระสอบขึ้นมาซึ่งเขาคิดว่ามันเบามาก แต่สิ่งที่เขาคิดกับความเป็นจริงนั้นไปคนละทางกันมันเลยทําให้เขาล้มลงกับพื้น
ปัก!!
ธนบัตรร้อยหยวนทั้งเก่าและใหม่กระจายอยู่บนพื้น!
ทุกคนอึ้ง!
ตกตะลึง!
นี่มันกระสอบที่เต็มไปด้วย
เงิน!
แถมยังเป็นธนบัตรร้อยหยวนทั้งหมด!
ดูแล้วคงไม่ต่ากว่าหมื่นใบแน่!
เขาจะต้องบ้าไปแล้ว!
เอาเงินมาใส่กระสอบเนี่ยนะ!?
ถามหน่อยเถอะไม่กลัวบ้างเลยหรือยังไง!?
ในเวลานี้ทุกคนกําลังตกตะลึง!
นายหน้าอาวุโส “…”
นายหน้ามือใหม่ “…”
คนขับเบนท์ลีย์ “…”
คนที่เดินผ่านมา “…”
เบิกตากว้าง!
พระเจ้า!
นี่คนทําธุระจริงดิ?
เขามีเงินมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
“นี่แหละเหตุผลง”
เจียงเฉินยิ้มออกมาและพูดว่า “วันนี้ฉันก็เก็บค่าเช่าและฉันก็เพิ่งจะเก็บค่าเช่าเสร็จแล้วจะไปธนาคารพอดี!”
คนรอบข้างตกตะลึง!
เก็บค่าเช่า!
พระเจ้า! สรุปแล้วเค้าเป็นคนเก็บค่าเช่า!
โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!
ในตอนนี้นายหน้าอาวุโสนั้นรู้สึกราวกับตัวเองกําลังตาบอดสนิท!
บอดสนิทจนเหมือนกับหมาตาบอด!
คิดไม่ถึงเลยว่าคนทําธุระที่ปั่นจักรยานจะเป็น…..
คนเก็บค่าเช่า!
และจากจํานวนบัตรที่คาดการณ์ไว้ ณ
พระเจ้า!
กระสอบสองใบนี้จะมีเงินอยู่มาเท่าไหร่กัน?!
จะซื้อบ้านได้กี่หลัง!?
ตัวสั่น!!!
ในฐานะที่เขานั้นเป็นนายหน้าอาวุโสในวงการนี้ แน่นอนเขาย่อมต้องรู้เกี่ยวกับตํานานบางอย่างของ [ชุมชนตระกูลเจียง] แห่งนี้อยู่บ้าง
ตัวอย่างเช่นที่นี่ [ชุมชนตระกูลเจียง] มีเจ้าของเพียงคนเดียวเท่านั้น!
และยังมีตํานานอีกว่าเจ้าของชุมชนตระกูลเจียงแห่งนี้ชอบที่จะใส่ชุดคนทําธุระและปั่นจักรยาน
ในสายตาของนายหน้าชุมชนตระกูลเจียงแห่งนี้ไม่ต่างกับไข่ทองคํา!
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าที่นี่นั้นอยู่ใกล้เขตโรงเรียน ความต้องการซื้อของที่นี่นั่นอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม ในบริษัทของพวกเขานั้นจะต้องมีลูกค้าอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบคนมาถามว่ามีคนในชุมชน ตระกูลเจียงนั้นต้องการขายบ้านหรือไม่!?
แต่ว่าที่นี่ไม่ได้มีไว้ขาย!
เพราะ
ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดที่นี่เป็นผู้เช่า!
และมีเจ้าของอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น!
เจ้าของคนนี้เป็นเหมือนกับมังกรที่เห็นหัว แต่ไม่เห็นทางนายหน้า หลายคนอยากจะติดต่อกับเขาแต่ก็ไม่มีใครทําสําเร็จซักคน!
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทนายหน้าไหนในย่านนี้ต่างก็รู้ถึงตํานานนี้กันหมดทั้งนั้น!
เพราะไม่ว่าใครจะโชคดีได้พบกับเจ้าของชุมชนตระกูลเจียง และสามารถพูดคุยติดต่อกับเขาได้คนนั้นก็จะกลายเป็นเหมือนคนที่เนื้อหอมที่สุดในวงการนี้!
นั่นก็เพราะ
ชุมชนตระกูลเจียงนั้นมีอาคารถึงสิบหลังและมีบ้านกว่าหกร้อยหลังอยู่ภายใต้การดูแลของเขา!
หากใครสามารถติดต่อกับเขาได้คนนั้นก็จะกลายเป็นนายหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเมือง!
พระเจ้า
เป็นไปได้ไหมว่าตอนนี้เทพเจ้าแห่งโชคลาภอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ฉันมีโอกาสไปบังเอิญมาเจอกับเจ้าของเพียงคนเดียวของชุมชนตระกูลเจียงแต่ฉันกับพลาดเขาไป
เงินนับล้านลอยหายไปกับตา?
จู่ๆนายหน้าอาวุโสก็รู้สึกว่า
ตัวเองได้พลาดเงินหลายร้อยล้านไปแล้ว!
นายหน้ามือใหม่พูดอย่างกระตือรือร้น “เดี๋ยวผมช่วยคุณเองครับ!”
จากนั้นเขาก็ยกกระสอบที่เต็มไปด้วยเงินใส่ลงไปหลังรถอย่างยากลําบาก
หลังจากนั้นฉันก็เข้าไปนั่งในรถเบนท์ลีย์
หลิวเจียนนายหน้ามือใหม่โค้งคํานับส่งเสียงเชิญด้วยความเคารพ “คุณเจียงเดินทางปลอดภัยนะครับ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสเรามาคุยกันใหม่นะครับ”
เจียงเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับหลิวเจียนว่า “การที่ฉันต้องดูแลและปล่อยเช่ามีคนเดียว มันค่อนข้างที่จะล่าบากเกินไป ดังนั้นหลังจากนี้ฉันก็ขอฝากนายดูแลด้วยก็แล้วกัน”
หลิวเจียนที่ไม่รู้อะไรเลยก็พูดถามออกมาอย่างตื่นเต้น “ได้ครับคุณเจียง! แต่ขอโทษนะครับ แล้วบ้านของคุณอยู่อาคารไหนหรอครับ?”
เจียงเฉินพูดออกมา “ทั้งหมด!”
หลิวเจียน “???”
นายหน้าอาวุโส “???”
คนขับรถเบนท์ลีย์ “???”
คนที่เดินผ่านมา “???”
หลังจากนั้น หนึ่งในคนที่เดินผ่านมาที่เพิ่งจะจ่ายค่าเช่าไปก็พูดออกมาเสียงดังว่า “ก็ถูกแล้วไม่ใช่หรอ นายไม่รู้จักเขาจริงเหรอ? เขาคือคุณเพียง! เขาคือเจ้าของเพียงคนเดียวของชุมชนตระกูลเจียงของเรา! อาคารสิบอาคารตรงนี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!”
คนรอบข้างตกตะลึง!
พระเจ้า!!
ทั้งชุมชนมีเจ้าของเพียงแค่คนเดียว?
นี้เขายังเป็นคนอยู่จริงใช่ไหม?
เจียงเฉินพูดออกมา “นี่คือกุญแจ! ฉันให้เช้าอย่างเดียวไม่ขายนะ หลังจากนี้ในอนาคตถ้าจะมีคนเข้ามาเช่าหรือดูบ้าน ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะเช่าบ้านอยู่ที่นี่หลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับนายเท่านั้นแล้วก็ฝากเก็บค่าเช่าด้วยล่ะ บาย!”
เจียงเฉินโยนกุญแจออกจากหน้าต่างของรถ
เกรั้ง!
หนักมาก!
ในแต่ละพวกกุญแจมีกุญแจอยู่หลายสิบดอกซึ่งเขียนเอาไว้ว่าห้องไหนเป็นห้องไหน
จากนั้นฉันก็กดกระจกขึ้นและรถเบนท์ลี่ย์ก็ขับออกไป
เหลือไว้เพียงแต่เงา
หลิวเจียน “…”
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
เขาให้ฉันจัดการเรื่องการเช่าบ้านหกร้อยหลัง?
พระเจ้า!
ฉัน…ฉันเป็นเพียงแค่นายหน้ามือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทําธุรกรรมแม้แต่ครั้งเดียวนะ!?
เมื่อนายหน้าอาวุโสเห็นกุญแจหลายดอก ดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงจนแทบจะหลุดออกมา!
“เขาคือคุณเพียงจริงๆ!”
“เขาเป็นเจ้าของเพียงคนเดียวของชุมชนตระกูลเจียงจริงๆด้วย!”
“ฉันพลาดโอกาสหลายร้อยล้านไปได้ยังไงกัน!”
นายหน้าอาวุโสทุบอกตัวเองและกระทืบเท้าษ
จู่ๆเขาก็นึกถึงค่าพูดหนึ่งขึ้นมา
“บางครั้งโอกาสจะมาหาเราราวกับเม็ดฝน แต่เราก็มักจะขยับนี้มันอยู่เสมอและไม่โดนมันแม้แต่น้อย!”
ในตอนนี้หลิวเจียนนั้นดูตื่นเต้นมาก เขาหยิบกุญแจนับร้อยๆดอกวิ่งเข้ามาหานายหน้าอาวุโสอย่างรวดเร็ว
“อาจารย์! อาจารย์!”
“ท่านอาจารย์เก่งจริงๆ!”
“ท่านอาจารย์รู้ได้ยังไงว่าคนทําธุระคนนั้นเขาคือเศรษฐีตัวจริง!”
“ผมแค่ทําตามที่อาจารย์สอน อย่าตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอกและปฏิบัติกับเขาด้วยความจริงใจ จนสุดท้ายคุณเจียงก็ให้โอกาสผมในการจัดการการเช่าบ้านของเขาแถมยังมีตั้งหกร้อยหลัง! หลังจากนี้ผมคงไม่ต้องกังวลเรื่องงานแล้ว!”
“ขอบคุณท่านอาจารย์ อาจารย์ใจดีกับผมจริงๆ! ผมจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน!”
หลิวเจียนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากและโค้งคํานับให้อาจารย์ของตัวเอง
นายหน้าอาวุโสปิดหน้าของตัวเอง “…”
น้ําตาจะไหล
ลูกศิษย์ที่รักเลิกพูดได้แล้ว!
ฉันอยากจะบ้าตายแล้ว!
และหลังจากนั้นหลินเจียนก็รีบกลับไปที่บริษัท
และข่าวเรื่องที่เจียงเฉินมอบการจัดการห้องหกร้อยห้องในชุมชนตระกูลเจียงให้กับหลินเจียน ก็ไปถึงหูของผู้บริหารบริษัทอย่างรวดเร็ว!
และหลินเจียนก็ได้รับรางวัล [ผู้ทํายอดขายสูงสุดประจําเดือน] ของบริษัทไป!
และในการประชุมของบริษัทหลินเจียนก็ถูกเชิญให้ไปพูดถึงประสบการณ์ของเขา
หลิวเจียนพูดออกมาว่า
“เหตุผลที่ผมสามารถบรรลุผลนี้ได้นั่นก็เป็นเพราะว่าอาจารย์ของผม! ในวันนั้นผมติดตามเข้าไปเพื่อรับการถ่ายทอดประสบการณ์หลังจากที่เขาสั่งสอบผมแล้ว ผมก็นําวิธีนําไปใช้และผม ก็ได้รับโอกาสในการจัดการชุมชนตระกูลเจียงจากคุณเจียงทันที…”
ในกลุ่มผู้ชมสายตาของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หลายพันคนมุ่งตรงไปที่นายหน้าอาวุโส
นายหน้าอาวุโส “ฉัน….”
or Tow
ฉันอยากอยู่คนเดียว
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกับหวังชงเสร็จแล้ว และโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหนึ่งหมื่นล้านของบริษัทอี้ตําก็ได้รับการสรุปอย่างเป็นทางการ
ตรัดตรู้ด ๒
ในตอนที่เจียงเฉินเดินออกมาจากร้านอาหารสาวชาเขียวหลิวหลานก็โทรมาพอดี
“พี่เฉิน ฉันพร้อมทํางานให้พี่แล้ว!”
“ได้เลย จะเริ่มจากตรงไหนดี?”
“เขาทํางานที่ไหนล่ะ?”
“รอฉันก่อน เดี๋ยวฉันจะไปถึงในยี่สิบนาที!
เจียงเฉินก็ไม่อยากพลาดโอกาสในการทําภารกิจ
เขายังคงให้ความสําคัญกับภารกิจนี้เพราะมันมีโอกาสที่จะทําให้ระบบให้รางวัลกับเขา
ซึ่งมันน่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว!