เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 869 ที่หลบภัย
ตอนนี้ หัวหน้าทุกคนในห้องทำงานถือบทความกับคู่มือพวกนี้
อยู่ พวกเขาต่างหนักใจ!
สิ่งนี้คืออะไร
ทุกคนรู้ดี แล้วก็เข้าใจด้วย!
บทความที่ได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลคลินิกที่สมบูรณ์ของ
การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจไมทรัลโดยหัวใจไม่หยุดเต้น รวมถึงคู่มือ
การผ่าตัด!
ทุกคนหายใจหอบถี่
ตอนนี้สายตาที่ทุกคนมองเฉินชางเต็มไปด้วยความนับถือแล้ว!
อาจารย์เฉินอะไร!
ยังไงก็ต้องเรียกเขาว่าอาจารย์เฉิน
บรรดาหัวหน้าอย่างสวีจื่อหมิงที่อยู่ในห้องพลันรับรู้ได้ว่า
ความพยายามในช่วงที่ผ่านมาของพวกเขาอาจทำให้พวกเขากลายเป็นผู้บุกเบิกการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจไมทรัลโดยหัวใจไม่หยุด
เต้นก็เป็นได้!
กระแสคลื่นแห่งยุคสมัยเปลี่ยนผันเปลี่ยนไม่ว่างเว้น การ
สร้างสรรค์สิ่งใหม่และละทิ้งสิ่งเก่าก็รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถ้าอยากเป็นเสาหลักกลางกระแสชลก็ต้องก้าวหน้าต่อไป
ไม่หยุดยั้ง!
ตอนนี้พวกหวังทง จางเหิง เหอไต้เจินและอวี๋จื้อเฉียงอ่าน
ข้อมูลที่อยู่ในมือแล้วอดกลืนน้ำลายไม่ได้!
เฉินชางเห็นทุกคนเหม่อไปจึงอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “เอาละครับ
ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว วันหยุดที่หายากของทุกคนทั้งทีไป
พักผ่อนดีๆ ตั้งใจอ่านบทความเถอะครับ พรุ่งนี้เช้าพวกเราค่อย
มาถกกันเรื่องรายละเอียด”
เฉินชางพูดจบแล้วลุกขึ้นเตรียมออกไป หวังทงก็รีบเรียกไว้
“อาจารย์เฉิน!”
เฉินชางชะงักไปแล้วหันหลังมา “ทำไมเหรอครับ”หวังทงมองเฉินชางอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ผมอยากตามคุณ
ไปผ่าตัดโดยหัวใจไม่หยุดเต้น หวังว่าคุณจะยอมตกลง”
เหอไต้เจินรีบพูดขึ้น “ฉันด้วย!”
จางเหิงกับอวี๋จื้อเฉียงย่อมไม่น้อยหน้า
ตอนนี้ถ้าพวกเขายอมล้าหลังอีกก้าวเดียวก็โง่แล้ว
พอเฉินชางได้ยินเข้าก็อดยิ้มไม่ได้ เขาส่ายหัว “พวกคุณเป็น
หัวหน้าแผนกทั้งนั้น วิ่งไปวิ่งกลับคงไม่เหมาะครับ”
ทุกคนได้ยินแล้วก็นึกเสียใจอย่างห้ามไม่ได้
ที่เฉินชางพูดเป็นเรื่องจริง ปกติพวกเขายุ่งจริงๆ ปลีกเวลา
มาวิ่งไปวิ่งมายากมาก
แต่พอเห็นว่าจะไม่ได้เรียนเทคนิคแบบนี้แล้ว ทุกคนก็รู้สึกว่า
เรื่องนี้เสียหายมากกว่า!
“ไม่เป็นไร พวกเราค่อยมาตอนเลิกงาน…”
“ใช่ เหนื่อยหน่อยไม่กลัวหรอก!”
เฉินชางมองคนทั้งสี่ที่เคร่งเครียดแล้วอดส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่ได้
“ผมไม่ได้หมายความแบบนี้ครับ ผมไม่รังเกียจที่จะสอนพวกคุณอยู่แล้ว
เอาอย่างนี้แล้วกันครับ พอพวกคุณกลับไปแล้วก็รวบรวม
ผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดแบบนี้มา พวกเรารวมเวลากันดู ถึงตอนนั้นผม
จะไปสอนที่โรงพยาบาลพวกคุณเอง แบบนี้เหมาะกว่า”
ทุกคนอึ้งไป พลันซาบซึ้งจนน้ำตาไหล!
อาจารย์เฉินคนนี้เป็นคนดีจริงๆ เลย!
ตรงไหนก็คิดเผื่อพวกเราหมด
หวังทงได้ยินแล้วพยักหน้ารับทันที “ต้องขอบคุณอาจารย์เฉิน
จริงๆ ครับ พวกเราจะเชิญคุณมาผ่าตัดด้วยมาตรฐานพิเศษ ไม่ว่า
จะเป็นค่าผู้เชี่ยวชาญ ค่าสอน หรือค่าแนะนำ ก็จะจัดการให้ด้วย
มาตรฐานระดับนานาชาติ!”
คนอื่นก็พากันพยักหน้า!
โรงพยาบาลเหล่านี้ไม่ใช่โรงพยาบาลธรรมดา แต่เป็น
โรงพยาบาลที่มากด้วยทุนทรัพย์และอิทธิพล มีโอกาสที่จะเพิ่มพูน
ศักยภาพการแข่งขันของแผนกได้แบบนี้ พวกเขาไม่มีทางปล่อย
โอกาสไป!เฉินชางยิ้มให้แล้วลุกออกไป
ต่อไปก็มีข้ออ้างไปหายัยฉินขี้ประจบแล้ว…
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ลุกออกไปอย่างเบิกบานใจ
วันนี้เขาอยากกลับบ้านไปทำกับข้าวอร่อยๆ สักมื้อ นานๆ จะได้
พักที ทำเซอร์ไพรส์ให้ยัยฉินขี้ประจบสักหน่อย!
ช่วงนี้เขางานยุ่งทุกวันเลย! ที่จริงก็เพราะต้องรวบรวมข้อมูล
ทางคลินิกด้วย ต่อให้คู่มือของเขาเป็นรางวัลจากระบบ ถูกต้อง
แม่นยำแน่นอน แต่เขาก็ต้องวิเคราะห์สถิติโดยอิงตามข้อมูลด้วย
อยู่ดี!
กลางวันผ่าตัด กลางคืนกลับไปวิเคราะห์ข้อมูล เขาจึงยุ่งมาก
ฉินเยว่ก็เหนื่อย ตัวเธอที่เพิ่งกลับมาที่แผนกเหมือนจะยัง
ไม่ค่อยชินกับจังหวะของปักกิ่งยูเนี่ยน จึงค่อนข้างอ่อนล้า
เธอเห็นใจเฉินชางมาก แต่ก็รักและเป็นห่วงเขาพอๆ กัน
เฉินชางเองก็อยากดีกับฉินเยว่มากขึ้นหน่อย!
ในชีวิตจำ เป็นต้องมีวันพิเศษ ต่อให้เป็นแค่มื้อค่ำเปี่ยมรักสัก
มื้อก็ตามพอเห็นเฉินชางจากไปอย่างเยือกเย็นแบบนี้ ทุกคนใน
ห้องทำงานก็ไม่กล้าผ่อนคลายเลยสักนิด!
สวีจื่อหมิงไปปิดประตู มองหัวหน้าที่อยู่ในห้องพวกนี้ พูดด้วย
สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังว่า “บทความและคู่มือนี่ ผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้
ถึงความสำ คัญของมันเป็นอย่างดี แต่…ผมหวังว่าจะไม่มีใคร
แพร่งพรายออกไปก่อนตีพิมพ์! และไม่ต้องการให้กลายเป็น
เครื่องมือให้คนที่มีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์บางคน!
ไม่งั้นผมสวีจื่อหมิงขอสาบานว่าจะแฉเขาโดยไม่ปรานี”
ทุกคนมีสีหน้าจริงจังเช่นเดียวกัน!
“ใช่ อาจารย์เฉินจริงใจกับพวกเราขนาดนี้ ถ้าใครทำเรื่องแบบ
นั้น
ได้ อย่าหาว่าพวกเราพร้อมใจกันต่อกร!”
ถ้าเฉินชางอยู่ที่นี่แล้วเห็นว่าศิษย์กลุ่มนี้สามัคคีกันขนาดนี้
อาจจะซาบซึ้งไปอีกนาน
พวกหวังทงพากันพยักหน้า “จื่อหมิง หัวหน้าทุกคนด้วย วางใจ
เถอะ พวกเรารู้ตื้นลึกหนาบางดี”สวีจื่อหมิงจึงพยักหน้าเอ่ยว่า “ทุกคนกลับไปตั้งใจอ่าน พรุ่งนี้
พวกเรามาถกกัน คู่มือฉบับนี้มีความหมายพิเศษกับพวกเรา!”
……
……
พอเฉินชางกลับมาถึงบ้านก็เก็บของ ฉินเยว่ยังไม่กลับมา ช่วงนี้
คงทำให้เธอเหนื่อยแย่
เฉินชางจัดการล้างผักที่ซื้อมาให้สะอาดแล้วเริ่มรายการครัว
ศัลยแพทย์
ปีกไก่ตุ๋นโคล่าอย่างหนึ่ง ปลากะพงนึ่งซีอิ๊วอย่างหนึ่ง ผัดสาม
เซียนอีกอย่างหนึ่ง
เฉินชางง่วนอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงก็ตั้งอาหารบนโต๊ะ ข้าวก็หุงสุก
แล้ว
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือมาส่งข้อความให้ฉินเยว่ “เลิกงานแล้ว
ให้ผมไปรับคุณไหม”
ตอนนี้เอง เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
ฉินเยว่เข้ามาในห้องแล้ว ดูออกว่าไม่ค่อยร่าเริงแต่พอเธอเห็นเฉินชางก็โผเข้ากอดเขาทันที
ทำเอาเฉินชางตกใจ “เป็นอะไรไปเนี่ย ใครแกล้งที่รักผม”
ฉินเยว่มุ่ยปาก “เปล่า ฉันแค่เหนื่อยน่ะ พอเห็นคุณแล้วอารมณ์
ดีขึ้นในพริบตาเลย”
เฉินชางจึงอุ้มฉินเยว่ไปนั่งที่โซฟา “เอาละ ไปล้างมือกินข้าว
ชิมฝีมือสามีคุณสักหน่อย!”
ฉินเยว่รีบพยักหน้ายิ้มๆ แล้วลุกขึ้น
ตอนกินข้าว เฉินชางอดถามไม่ได้ว่า “ผมเห็นเมื่อวานคุณ
เหนื่อยมากเลยใช่ไหม ลำบากมากหรือเปล่า”
ฉินเยว่ถอนใจ “ยังพอไหวค่ะ แค่อาจารย์ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้าง
เข้มงวดกับฉันล่ะมั้ง เขาเรียกร้องค่อนข้างมาก ให้ฉันดูแลผู้ป่วย
ออกคำสั่งแพทย์ เขียนประวัติผู้ป่วย ไปเอาพัสดุให้เขา…ผ่าตัดยัง
ไม่ให้ฉันไปเลย
แต่ใหม่ๆ ก็แบบนี้ทั้งนั้น อีกสักพักก็โอเคแล้วค่ะ”
เฉินชางพยักหน้า “ไม่งั้น พวกเราเปลี่ยนอาจารย์ที่สอนไหม”ฉินเยว่ส่ายหน้า “เขาเป็นศิษย์เอกของอาจารย์ฉัน เป็นรุ่นพี่ฉัน
ด้วย ทำงานในโรงพยาบาลแล้ว เพิ่งมาได้ไม่นานก็หาเรื่องมันไม่ดี
ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็โอเค”
กินข้าวเสร็จ เฉินชางก็ห่อตัวฉินเยว่ไว้ในผ้าห่มแล้วเปิด
เครื่องฉายภาพในห้องนอน
นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสองคนออกแบบเอง เพื่อให้ตอนที่แอบ
มาพักผ่อนในช่วงยุ่งๆ จะได้ซุกตัวดูหนังอยู่ใต้ผ้าห่มได้
บอกว่าดูหนัง แต่ที่จริงแล้วก็คือเฉินชางโอบฉินเยว่ ทั้งสองคน
ซุกตัวกระซิบกระซาบกันอยู่ใต้ผ้าห่ม
ยุ่งมาทั้งวันแล้วได้มาฟังฉินเยว่บ่นรุ่นพี่ บอกเล่าความคิดที่
มีต่อโรงพยาบาล มุมมองต่ออาการของโรค และเรื่องราวชวนซึ้ง
ใจบางเรื่อง
บางทีชีวิตก็เท่านี้
ผ้าห่มเป็นที่หลบภัย ทำให้เราได้ปลอบประโลมกายใจอัน
อ่อนล้า ได้นอนใต้ผ้าห่มบอกเล่าเรื่องราวในใจกับคนข้างเตียงกระซิบเสียงแผ่วเบา ฟังอีกฝ่ายหนึ่งระบายความข้องใจ ปลอบใจกัน
ในยามทุกข์ แบ่งปันกันในยามสุข
บางทีสิ่งนี้ก็คือความสุข