เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 819 อวยพรให้เราประสบความสำเร็จไวๆ!
หลังจากวางสาย หม่าเยว่ฮุยสบายอกสบายใจ!
ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เฉินชางเป็นสมาชิกทีมมือฉมังของเขา
เขาเป็นหัวหน้าทีมมือฉมัง
การผ่าตัดของเฉินชาง = การผ่าตัดของทีมมือฉมัง = การ
ชี้แนะของ…หัวหน้าหม่า!
ใช่ๆๆ!
อย่างน้อยทุกคนก็คิดแบบนี้ ส่วนผมจะคิดอย่างไรก็ช่าง…คน
เป็นหัวหน้าก็ควรจะมีมาดของหัวหน้า คิกๆ!
เขาเป็นหัวหน้าจะใจแคบเกินไปไม่ได้ เสี่ยวเฉินจะผ่าตัดอะไรก็
ปล่อยเขา ตอนนี้หม่าเยว่ฮุยคิดได้แล้ว เฉินชางเป็นศัลยแพทย์
มืออาชีพ แม้แต่การผ่าตัดโดยที่หัวใจไม่หยุดเต้นยังทำได้นับประสาอะไรกับหลอดเลือดแดงใหญ่ ง่ายเหมือน
ปอกกล้วยเข้าปากล่ะสิไม่ว่า
ช่วงบ่าย เฉินชางผ่าตัดเสร็จกลับมาเจอหม่าเยว่ฮุยก็รีบยิ้ม
เจื่อน “หัวหน้าหม่าครับ ขอโทษด้วยนะครับ ตอนกลางวันมีคนไข้
หลอดเลือดแดงใหญ่แตก เพราะต้องผ่าตัดเร่งด่วน ไม่ได้แจ้งคุณ
ล่วงหน้า ผม…ทำไปก่อนแล้วค่อยโทรบอกคุณ”
หม่าเยว่ฮุยตบแขนเฉินชางเหมือนกำลังเลียนแบบท่าทางที่
หัวหน้าคนหนึ่งพึงมี “ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ ทำเต็มที่
เลยครับ แต่ต้องระวังด้วย มีอะไรที่ไม่เข้าใจ หรือทำไม่เป็น ต้อง
มาขอคำแนะนำผมนะครับ”
เฉินชางอึ้งไปทันที ตอนแรกคิดว่าหัวหน้าทีมหม่าจะโกรธ
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ จึงไม่ชินนัก…
“หัวหน้าทีมหม่า…ถ้าโกรธก็พูดออกมาเลยครับ อย่าเก็บเอาไว้
ผมจะปรับปรุงตัวครับ!” เฉินชางเห็นหัวหน้าทีมหม่าที่ท่าทางทึ่มๆ
ทำแบบนี้แล้วไม่ชิน
หม่าเยว่ฮุยชะงักไปทันที เกือบหัวเราะออกมาพวกสวีอ้ายชิงที่อยู่ข้างๆ อดชิงหัวเราะขึ้นมาก่อนไม่ได้
หลังจากคลุกคลีมาระยะหนึ่ง ทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี
……
……
ช่วงบ่าย เฉินชางตั้งใจไปเยี่ยมเด็กผู้ชายที่ผ่าตัดเมื่อวาน จาก
การสังเกตอาการมาหนึ่งวัน ตัวชี้วัดต่างๆ คงที่แล้ว
เฉินชางเห็นตัวชี้วัดต่างๆ แล้วโล่งอกไปที
การผ่าตัดประสบความสำ เร็จมาก แต่สำ หรับปัญหาที่หัวใจ
ห้องล่างซ้าย ห้องหัวใจบนหนาตัวช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ
ทั้ง
หมดนี้เป็นการชดเชยการเปลี่ยนแปลง บางทีอาจจะดีขึ้น
ด้วยกลไกควบคุมตัวเองของร่างกาย หวังว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้…
แต่ไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องผ่าตัด
เห็นเฉินชางมา ฉินฟางและสามีซาบซึ้งใจมาก
เด็กชายเองก็มองเฉินชางพร้อมรอยยิ้ม พูดภาษาจีนกลาง
อย่างไม่คล่องนัก “ขอบคุณครับคุณอาเฉิน”เฉินชางอดยิ้มไม่ได้ “พักผ่อนเยอะๆ นะครับ แต่ช่วงนี้อย่าเพิ่ง
ทำกิจกรรมและออกกำลังหนักนะ…” เฉินชางบอกข้อควรระวังกับ
เด็กชาย “พ่อแม่เป็นห่วงหนูขนาดนี้ รักหนูขนาดนี้ ต่อไปอย่าคิดมาก
อีกนะ หนูเป็นลูกผู้ชาย โตมาจะต้องปกป้องแม่ อย่าทำให้แม่เสียใจ
โอเคไหมครับ”
เฉินชางคุยกับเด็กชายอีกสักพัก
ตอนแรกเด็กชายยังหน้าแดงไม่พูดจา จากนั้นก็ค่อยๆ ยิ้มขึ้น
มา
แม้การผ่าตัดจะประสบความสำ เร็จมาก แต่การผ่าตัดแบบนี้
เป็นการเพิ่มภาระอย่างหนักหน่วงต่อครอบครัวที่ลำบากอยู่แล้ว
อะไรที่เฉินชางช่วยได้ก็จะช่วยอย่างสุดความสามารถ แต่
สำ หรับเรื่องที่ช่วยไม่ได้ก็จนปัญญา
พลังของคนๆ เดียว อย่างไรก็มีขีดจำ กัด แต่คนที่ต้องการ
ความช่วยเหลือกลับเยอะมาก
ตอนออกมา พ่อของเด็กผู้ชายตามมาอย่างเร่งรีบ หามุมที่
ไม่มีคนจะยัดซองให้เฉินชางให้ได้เฉินชางรีบปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม “น้องยังต้องใช้เงินอีกเยอะ
เงินก้อนนี้คุณเก็บไว้เถอะครับ!”
ชายหนุ่มเองก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เห็นเฉินชางบ่ายเบี่ยง
สุดกำลังก็จนปัญญา เขาพลันพูดอย่างจริงจัง “หมอเฉิน คุณเป็น
คนดี คุณคือผู้มีพระคุณของครอบครัวเรา! บุญคุณครั้งนี้ เราจะ
ไม่มีวันลืม จะตอบแทนคุณให้ได้ครับ”
……
……
ตอนเย็นหลังจากเลิกงาน เฉินชางรีบกลับบ้านไปเก็บของ
แน่นอนว่า จุดประสงค์หลักของการกลับบ้านคือเอา
บัตรประจำ ตัวประชาชน ทะเบียนบ้านและเอกสารต่างๆ!
หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด จึงรีบเดินทางไปที่
สถานี
ออกจากบ้านมาครึ่งเดือนแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้เจอยัยฉินขี้ประจบ
มานานมากแล้ว เฉินชางนึกถึงดวงหน้าเล็กน่ารักซุกซนที่กลมละมุน
น่าหยิกแล้วดีใจมากนั่งรถไฟจากเมืองหลวงไปเมืองอันหยางก็แค่สามสี่ชั่วโมง เฉิน
ชางนั่งหลับตาอยู่บนรถไฟ ในหัวฉายภาพเรื่องราวตั้งแต่เมื่อสาม
สี่ปีก่อนเรื่อยมา เหมือนหนังที่แต่ละภาพฉากปรากฏอย่างต่อเนื่อง
ก่อนจะหายไป…
ในทุกภาพ ล้วนมีฉินเยว่อยู่
ตอนนี้เฉินชางตระหนักได้ว่า ที่แท้เขาก็แอบมองและชอบเธอ
มาตั้งแต่แรกแล้ว
แต่เฉินชางในตอนนั้นกลับไม่มีความกล้ามากพอจะจีบเธอ
นึกถึงตอนที่ฉินเยว่โดนเขาผลักไปติดกำแพงเกือบจะบังคับจูบ
เฉินชางสาบานว่า ตอนนั้นเขาหวั่นไหวจริงๆ เขาอยากจูบมาก
จริงๆ!
ทว่า ไม่ว่าจะหวั่นไหวมากี่ครั้ง เฉินชางก็จะควบคุมความคิด
ของตนเอง
เพลงเพลงหนึ่งดังขึ้นข้างหูไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร
‘ถ้าตอนหนุ่มผมไม่ด้อยค่าตัวเอง
รู้จักรักษาไว้ไม่ได้ให้ความฝันอันงดงามกับคุณ
คือความเสียใจตลอดชีวิตของผม
ถ้าผม…”
เฉินชางอึ้งไปอย่างควบคุมไม่ได้ ในใจหวั่นไหวแล้วจริงๆ
บางที…อาจจะเป็นแบบนี้จริงๆ
ถ้าผมไม่มีเสื้อกาวน์ช่วย…ผมจะทำอย่างไร
ผมจะรวบรวมความกล้าไปสารภาพรักฉินเยว่ไหม ตอน
เผชิญหน้ากับฉินเยว่จะรู้สึกละอายใจเพราะให้ความฝันอันสวยงาม
กับเธอไม่ได้หรือไม่
ตอนนี้เอง เฉินชางหมุนตัว พบว่าชายคนหนึ่งเอามือกุมหน้า
น้ำตาไหลอยู่ข้างๆ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร
เฉินชางหันกลับมา
รถไฟค่อยๆ แล่นไปถึงเมืองอันหยาง
ชายที่อยู่ข้างๆ ลุกขึ้นลงจากรถ การ์ดเชิญใบหนึ่งตกลงมา
เฉินชางรีบเรียกชายคนนั้นไว้ “ของตกครับ” เขาพูดพลางช่วยว
เก็บขึ้นมาร่างของชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินหน้าต่อ
เฉินชางนิ่งไป พอก้มมองก็เห็นเป็นการ์ดเชิญงานแต่งใบหนึ่ง
คำว่าครองรักนิรันดร์ด้านบนสะดุดตามาก
……
……
เฉินชางออกจากชานชาลา เตรียมจะออกจากสถานี จู่ๆ มือคู่
หนึ่งก็อ้อมมาปิดตาเขา “ทายซิ ใครเอ่ย~ ”
เฉินชางอดหัวเราะฮ่าๆ ไม่ได้ “lisa! ไม่ใช่สิ! ลี่ลี่! เอ๊ะ ไม่ใช่ อ่อ.
..หรงหรง!”
ฉินเยว่โกรธจนอยากเตะก้นเฉินชาง “ไสหัวไปกลับเมืองหลวง
ไปเลย เมืองอันหยางไม่ต้อนรับคุณ! ฉันอุตส่าห์รอคุณตั้งนาน
อากาศหนาวมากนะคะ! เชอะ…”
เฉินชางหันหลังกลับ เห็นฉินเยว่ในชุดไหมพรมสีเหลือง
ใส่หมวกสีแดงยืนอยู่ หนาวจนหน้าแดงก่ำ สายตาจ้องเฉินชางเขม็ง
เฉินชางหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมาทันที “ผมล้อเล่นครับ!”เขาพูดจบก็ยกมือกุมหน้าฉินเยว่ พลันรู้สึกเย็นวาบ
เฉินชางอดสงสารไม่ได้ “รอนานมากแล้วใช่ไหมครับ!”
ฉินเยว่ยู่ปากเล็กๆ “คุณไปเถอะ ฉันไม่แต่งงานกับคุณแล้ว
พรุ่งนี้ฉันจะไปหาสามีที่สำ นักงานเขต! คุณเอาแต่ยั่วโมโหฉัน!”
เฉินชางมองท่าทางเงอะงะของฉินเยว่แล้วก้มลงอุ้มฉินเยว่
พาดบ่า “ฮ่าๆ ฉุดภรรยากลับบ้านดีกว่า!”
ตอนแรกฉินเยว่จะร้องให้ช่วย แต่พอนึกได้ว่ามี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจำ นวนมากถือปืนลาดตระเวนอยู่รอบๆ จึงทำได้
เพียงยั้งไว้ “เชอะ ปล่อยฉันลงค่ะ!”
แน่นอนว่าเฉินชางไม่ตอบรับ “ภรรยาที่ตกอยู่ในเงื้อมมือแล้
วจะปล่อยไปได้อย่างไร ไม่ปล่อย!”
ฉินเยว่เห็นผู้คนจำ นวนนับไม่ถ้วนรอบข้างหันมองก็อายจน
หน้าแดง!
แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในใจกลับมีความรู้สึกดีใจมากๆ ถึงมาก
ที่สุดมีคนคอยคลั่งรัก คอยมีความสุขด้วยกัน ทักทายตอนเช้าบอก
ฝันดีตอนกลางคืน อยู่กับคุณไปจนแก่เฒ่า เรียกกันว่าคู่ชีวิตอย่าง
เต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง!
นี่ก็คือความรักสินะ!