เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 816 การโทษตัวเองของผู้เป็นแม่ (6)
พอได้ยินพยาบาลขานเวลา อวี๋หย่งกังก็หันหลังขวับ ดวงตา
จ้องดูเวลา ตาเบิกกว้าง รู้สึกทำใจเชื่อได้ยากยิ่ง!
เอ็นลิ้นหัวใจไมทรัลฉีก ยิ่งฉีกส่วนหน้าแล้วเป็นการผ่าตัด
ซ่อมแซมลิ้นหัวใจไมทรัลที่ซับซ้อนและต้องประณีตมาก! เพราะ
ลักษณะของเส้นเอ็นนี้กำหนดการเคลื่อนไหวของลิ้นหัวใจไมทรัล
สำ คัญเหมือนบานพับประตู! เส้นเอ็นจะสั้นหรือยาวไปไม่ได้ เพราะ
เส้นเอ็นมีหน้าที่เป็นเสาหลักในการรักษาการทำงานของลิ้นหัวใจ
ดังนั้นทันทีที่พบกับการผ่าตัดลักษณะนี้ ศัลยแพทย์หัวใจคนไหนก็
ใช้เวลาจัดการเรื่องนี้นานมาก
แต่เฉินชางใช้เวลาไปเท่าไร
หกนาทีหรือ
เจ็ดนาทีหรือแววตาที่อวี๋หย่งกังมองเฉินชางค่อนข้างตื่นตะลึง นี่ผ่าตัดทั้งที่
หัวใจยังไม่หยุดเต้นด้วย! ถ้าผ่าตัดตอนที่หัวใจหยุดเต็นเขาจะใช้
เวลาเท่าไร
พอคิดถึงตรงนี้ อวี๋หย่งกังก็อดกระแอมเพื่อบรรเทาความรู้สึก
ชื่นชมในใจตัวเองไม่ได้
และตอนนี้เอง จางหย่วนกับหยางฮุ่ยก็สูญเสียความสามารถ
ในการไตร่ตรองไปแล้ว!
ตอนนี้จางหย่วนเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เฉินชางทำได้บางอย่างก็
ทำตามไม่ได้จริงๆ!
คราวก่อนตาดูจนเข้าใจ แต่สมองกลับจำ ไม่ได้!
คราวนี้…ตายังมองไม่ทันเลย…
การผ่าตัดและความเร็วของท่านเทพอยู่ระดับราชาจริงๆ ถ้าไม่
โสดสักยี่สิบสามสิบปีต้องฝึกจนทำแบบนี้ไม่ได้แน่
พอคิดถึงตรงนี้ จางหย่วนก็นึกถึงบรรดาแฟนสาวที่ทิ้งตนไป
แต่ก่อน จู่ๆ ก็รู้สึกแย่ ถ้าไม่มีพวกเธอ ตอนนี้ฉันคงแข็งแกร่งขนาดนี้
แล้วมั้ง!พอเฉินชางเย็บปิดเส้นเอ็นเสร็จ ก็ได้ยินว่ายังเหลือเวลาอีกเก้า
นาที ตอนนี้ต้องรักษาลิ้นหัวใจที่ฉีกขาดแล้ว!
เฉินชางหันไปเปลี่ยนเป็นไหมละลายเส้นเล็ก ขณะที่พยาบาล
น้อยส่งเข็มให้ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ฉวยโอกาสลูบมือของเฉินชางโดย
ไม่ได้ตั้งใจ
ตอนนี้เฉินชางง่วนกับการผ่าตัดจนไม่สนใจ ไม่อย่างนั้นตอนที่
กลับไปรายงานจะต้องโดนคุณแฟนทำโทษให้คุกเข่าบนไม้ซักผ้าอีก
แน่นอน
การรักษาลิ้นหัวใจง่ายกว่าการรักษาเส้นเอ็นมาก
แต่มีจุดหนึ่งที่หยางฮุ่ยไม่เข้าใจจริงๆ!
คีมจับเข็มเย็บแผลยาวขนาดนั้น…แต่ทำไมเข็มที่ร้อยไหม
เย็บแผลไว้อยู่ถึงปราดเปรียวขนาดนี้ล่ะ นี่จะเก่งไปแล้วมั้ง
ตั้ง
แต่เริ่มจนจบ หยางฮุ่ยไม่ได้ดูอย่างอื่นเลย นอกจากช่วยเฉิน
ชางร้อยตะขอหรือทำเรื่องที่ไม่ได้ใช้เทคนิคก็เอาแต่มองมือเฉินชาง
นิ้วมือนี่ปราดเปรียวจัง!
หยางฮุ่ยยิ่งดูก็ยิ่งชื่นชม…นี่ถึงเป็นลักษณะร่างกายที่กายที่ศัลยแพทย์ควรมีใช่ไหม
ด้านวิสัญญีแพทย์โจวเฮ่อที่อยู่ฝั่งหนึ่งจ้องมองจอภาพคลื่น
ไฟฟ้าหัวใจกับอาการของผู้ป่วย เขาสูดหายใจลึกๆ อยู่ในใจ คงที่
เกินไปแล้ว! ไม่แกว่งสักนิด!
เทคนิคผ่าตัดแบบนี้ทำเอาเขารำพึงว่าตนอาจจะล้าสมัยไป
แล้วจริงๆ
ทำไมคนหนุ่มสมัยนี้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ
เขารู้จักเฉินชาง แต่ไม่ว่าใครก็ทำใจเชื่อได้ยากว่าเจ้าหนุ่มอายุ
ยี่สิบแปดคนหนึ่งจะมีเทคนิคดีขนาดนี้
คนมีพรสวรรค์มีมาก แต่ที่พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้มีสักกี่คน
การแข่งขันทักษะศัลยกรรมหัวใจระดับประเทศมีผู้ชนะทุกปี
แต่สุดท้ายแล้วคนที่ขึ้นไปถึงตำแหน่งของผู้อำนวยการอู๋ได้จริงๆ
มีอยู่กี่คน
มีน้อยมาก!
ยิ่งสูงขึ้นไป พรสวรรค์ของคนเราก็ยิ่งมีจำ กัด!แต่โจวเฮ่อคิดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นอัจฉริยะที่เริ่มพัฒนาฝีมือ
เต็มที่ ไม่ใช่ผู้เข้าแข่งขันมีพรสวรรค์ที่มีศักยภาพโดดเด่นแล้ว!
“อีกสองนาที!”
“หนึ่งนาทีสามสิบวินาที!”
เวลาไม่รอท่า ยิ่งเหลือเวลาน้อย เฉินชางก็ยิ่งเร่งมือ
อีกสามท่อน!
เย็บปิดเสร็จก็เรียบร้อย!
เฉินชางกัดฟันแล้วเพิ่มความเร็วในการเย็บขึ้นเล็กน้อย
อวี๋หย่งกังมองดูอย่างกังวลใจ!
เวลาเหลือน้อยลงเรื่อยๆ การผ่าตัดตอนนี้มาถึงช่วงที่ต้อง
แข่งกับเวลาทุกวินาที ไม่ได้พูดเกินเลยไปสักนิด!
ต่อให้อวี๋หย่งกังไม่ใช่แพทย์ผ่าตัดหลัก แต่การผ่าตัดสายนี้ก็
เป็นสิ่งที่เขาศึกษาค้นคว้ามาตลอด
ถ้าเฉินชางทำสำ เร็จ นี่ก็หมายถึงความเป็นไปได้ในการผ่าตัด!
นี่ก็หมายความว่าเส้นทางที่เขาเหล่าอวี๋เดินไม่ผิดเลยสักนิด
ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของเฉินชางแล้ว!เฉินชางก็สู้อยู่เหมือนกัน!
ทุกคนฝากความหวังไว้ที่เฉินชาง
เขาจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด!
เขาต้องพยายามช่วยเด็กคนนี้ให้ได้!
เหลืออีกสองท่อน!
อีกหนึ่งท่อน!
ใกล้แล้ว!
เย็บอีกสามเข็มก็เสร็จแล้ว!
ในตอนนี้เอง หัวหน้าพยาบาลก็พูดขึ้นว่า “สองวิ…หนึ่งวิ!
หมดเวลา!”
เฉินชางได้ยินเสียงแล้วรีบตัดไหมเย็บแผล ดึงคีมคีบเข็มออก!
สำ เร็จแล้ว!
ทุกคนจ้องเฉินชาง!
“สำ เร็จแล้วเหรอ”
“หมอเฉิน? สำ เร็จแล้วเหรอ”ตอนนี้จู่ๆ ประตูห้องกู้ชีพก็เปิดออก ชายหน้าตาเหลอหลาคน
หนึ่งถลาเข้ามา ท่าทางกระหืดกระหอบ หมอบลงพลางหอบหายใจ
แฮ่กอยู่กับพื้น!
แต่!
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขา
สายตาของทุกคนจับจ้องที่เฉินชาง!
“เสี่ยวเฉิน เป็นไงบ้าง” อวี๋หย่งกังเอ่ยถามอย่างร้อนรน!
หม่าเยว่ฮุยที่หมอบอยู่กับพื้นพลันอึ้งไป ผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอ
แม่ง!
มาสายอยู่ดีเหรอ!
พอคิดถึงตรงนี้ หม่าเยว่ฮุยก็รู้สึกจุกขึ้นมา
แต่คิดอีกทีเหล่าอวี๋ก็อยู่ เขาจึงถอนหายใจโล่งอก
ถ้าเหล่าอวี๋อยู่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
แต่ตอนนี้เอง เฉินชางอดถอนใจไม่ได้
“เฮ้อ…ผม…ผมยังทำไม่เสร็จ!”
เฉินชางตำหนิตัวเองเล็กน้อย!ทันใดนั้นทุกคนที่ได้ยินคำของเฉินชางก็หน้าเปลี่ยนสี!
ผ่าตัดล้มเหลวเหรอ นี่มันน่าตกใจไปแล้วมั้ง
หม่าเยว่ฮุยเข่าทรุดลงไปกองกับพื้นทันที!
แม่งเอ๊ย ยุคทองของเหล่าหม่าเพิ่งมาถึง ยังไม่ทันได้กำจัด
เหล่าอวี๋ ชีวิตการทำงานฉันก็จะจบลงแล้วเหรอ
นี่…
นี่มันน่าคับแค้นใจไปแล้วมั้ง!
หม่าเยว่ฮุยกำลังจะร้องไห้จริงๆ แล้ว
เขาคิดไกลมาก เขารู้สึกว่าชีวิตนี้ยังมีเรื่องที่ไม่ได้ทำอีกมาก
มีความฝันหลายอย่างที่ยังไม่เป็นจริง รายการสิ่งที่อยากทำให้สำ เร็จ
ยังไม่ได้ทำอีกเป็นกอง เขาไม่อยากจบเห่เร็วขนาดนี้…
หม่าเยว่ฮุยอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออกจริงๆ
แต่ตอนนี้เอง เฉินชางก็พูดต่อ “ปมสุดท้าย เวลามันกระชั้น
เกินไป ตอนที่ผมคิดอยู่ว่าจะผูกเงื่อนพิรอด เงื่อนสามชั้น หรือว่า
เงื่อนกากบาทดี ลังเลอยู่แป๊บนึงแล้วก็เลือกเงื่อนสามชั้น ผมน่าจะ
ผูกปมรวม!”คำพูดของเฉินชางทำเอาทุกคนงง!
ถ้าหัวหน้าโรงพยาบาลอันดับสองพวกนั้นอยู่จะต้องหันหลังไป
ตามความเคยชิน ไม่ฟังเจ้าคนขิงคนนี้โม้แน่!
แต่…
พวกนี้มันคนหน้าใหม่ไง!
เห็นได้ชัดว่าไม่เคยถูกสอนให้รับมือกับวิธีการโม้ผิดธรรมดา
แบบนี้ แถมยังไม่เคยรับหมัดคอมโบโชว์ผ่าตัดของคนแซ่เฉิน ย่อม
ตกตะลึงอ้าปากค้างไปชั่วขณะอยู่แล้ว!
รู้สึกเหมือนเขากำลังเต๊ะท่าสูงส่งจนเอื้อมไม่ถึงอยู่กลายๆ!
“อึก!”
ไม่รู้ว่าใครกลืนน้ำลายขึ้นก่อน จึงทำลายความเงียบนี้ลง
ถัดมา เสียงกลืนน้ำลายก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แววตาที่ทุกคนมองเฉินชางค่อนข้างชื่นชม
อวี๋หย่งกังถอนใจ เจ้าหน
ุ่มคนนี้ตั้งมาตรฐานให้ตัวเองสูงไป
แล้ว นี่ต้องฝึกฝนอย่างเข้มงวด ต้องกวดขันตัวเองเท่าไรถึงฝึกตัวเอง
จนมีความสามารถแบบนี้ได้กัน!พอคิดถึงตรงนี้ อวี๋หย่งกังก็มองเฉินชาง ตอนนี้เขาพอใจมาก!
และขณะนี้หม่าเยว่ฮุยที่เพิ่งเจอความเปลี่ยนแปลงฉับพลันก็
สมองรวนเล็กน้อย ต้องรีสตาร์ทใหม่!