บทที่ 643 รอดูเอาเถอะ!
พอทุกคนเชื่อมโยงเบาะแสต่างๆ ได้แล้วก็ล้วนตกตะลึงกับเรื่องนี้
หัวหน้าใหญ่ของอาคารแปดชั้น นี่รองหัวหน้าแผนกมีอำนาจแบบนี้ด้วยเหรอ กุญแจสำคัญของเรื่องนี้คืออำนาจที่แท้จริงสินะ! ถ้าพูดจาไม่น่าฟังหน่อย ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่แบบนี้จะควบกับรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลใช่ไหม นี่อาจจะเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโรงพยาบาลอันดับสองนอกจากผู้อำนวยการแล้วมั้ง!
พอคิดถึงตรงนี้ ทั้งโรงพยาบาลพากันวิพากษ์วิจารณ์ ถึงขนาดยังมีคนสงสัยว่าฝั่งโรงพยาบาลประมาท
“เขามีดีอะไรน่ะ เขาเก่งกล้าสามารถมาจากไหน ถึงเป็นหัวหน้าตึกฉุกเฉินได้!”
“ก็ใช่ไง เขายังอีกไกลเลยไหม”
……
ตอนนี้เอง เอกสารทางการที่เฉินชางได้รับการแต่งตั้งก็ถูกปล่อยออกมา ประกาศปิดอยู่บนป้ายประกาศของโรงพยาบาล! นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกได้เป็นครั้งแรกว่าแผนกธุรการโรงพยาบาลทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขนาดนี้!
เฉินชางคู่ควรที่จะได้รับความสำคัญจากโรงพยาบาลขนาดนี้จริงหรือ แต่พอทุกคนเห็นประวัติย่อที่อยู่ด้านล่างของเอกสารรับเข้าทำงานของเฉินชางก็ศีรษะชาหนึบทันที
เฉินชาง เพศชาย 27 ปี นักศึกษาปริญญาโท
สมาชิกสมาคมศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีแห่งประเทศจีน
คณะกรรมการบริหารสมาคมศัลยแพทย์ด้านตับและถุงน้ำดีของมณฑลตงหยาง
สมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งประเทศจีน
คณะกรรมการบริหารสมาคมศัลยแพทย์ด้านมือแห่งมณฑล
สมาชิกสมาคมศัลยกรรมหัวใจแห่งประเทศจีน…
ปี 2019 ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารแกนกลางระดับนานาชาติ 3 บทความ (วารสารศัลยกรรมประเทศอังกฤษสองบทความ วารสารปลูกถ่ายตับหนึ่งบทความ ปรับปรุงวิธีการผ่าตัดสองชนิดเป็นลำดับ สร้างวิธีการเย็บเส้นเอ็นของเฉิน ยื่นเสนอผลงานวิจัยระดับประเทศหนึ่งชิ้น ทั้งยังเข้าร่วมโครงการแผนวิจัยหลักศัลยกรรมด้านมือระดับประเทศปี 2020…’
พออ่านจบ ทุกคนก็ต่างอึ้งงัน!
ข้อมูลชุดนี้น่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว!
จู่โจมจิตใจให้พังยับเยินได้เลย!
ใครจะคิดได้ว่า ‘เสี่ยวเฉิน’ ที่ในสายตาทุกคนรู้สึกว่าไม่สำคัญจะถึงกับเก่งกาจขนาดนี้!
ถึงขนาดเข้าร่วมสมาคมระดับประเทศชั้นหนึ่งสี่สมาคม เป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมระดับมณฑลสองสมาคมพร้อมกัน เขาเก่งทุกด้านหรือ ในใจทุกคนต่างเต็มไปด้วยความสงสัย!
ไหนจะบทความวิจัยชั้นยอดสามบทความนั้นอีก ถ้าพูดแบบไม่น่าฟังสักหน่อย ขนาดผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอันดับสองฉินเสี้ยวยวนยังไม่เคยตีพิมพ์เลยมั้ง ศักยภาพในการวินิจฉัยโรค ศักยภาพในการวิจัย เขาอยากได้อะไรก็มีหมด! เอาอะไรมาเป็นรองหัวหน้าไม่ได้
พอคิดถึงตรงนี้ ทุกคนรู้สึกไม่สบอารมณ์ขนาดไหน ปากก็ต้องบอกว่ายอมรับ!
ถึงยังไงถ้าแน่จริงก็เอาสิ!
ทางโรงพยาบาลเขียนสิ่งนี้มาปิดประกาศที่นี่ก็เพื่อบอกทุกคนว่าถ้าพวกคุณแน่จริงพวกคุณก็มาลองดู
เรื่องเฉินชางเลื่อนขั้นอย่างผิดปกติถึงกับกระตุ้นหมออายุน้อยในโรงพยาบาลจำนวนไม่น้อยในทันใด เรื่องนี้ใครก็คิดไม่ถึง!
บางครั้งการแข่งขันเชิงบวกถึงจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา!
ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังมีคนที่มีเจตนาไม่ดีบางคนถือโอกาสโวยวาย แต่ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะโวยวายขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์ ถึงอย่างไรทางโรงพยาบาลก็ลงตราประทับแล้ว เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้วคุณโวยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้แค่พร่ำบ่นเป็นการส่วนตัว
แต่ในขณะที่หลายคนในโรงพยาบาลเริ่มสงสัยและวิจารณ์เรื่องเฉินชาง ตอนนี้แผนกฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมหัวใจ และแผนกศัลยกรรมทั่วไปกลับมีความเห็นเป็นเอกฉันท์อย่างประหลาด!
สนับสนุนเฉินชาง!
เพราะศักยภาพที่แท้จริงของเฉินชางเอาชนะแผนกฉุกเฉิน ต่อให้ทุกคนยังเรียกเขาว่าเสี่ยวเฉินพลางหยอกล้อเล่นหัว แต่ในใจรู้ดีว่าเสี่ยวเฉินคนนี้เหนือกว่าตนไปแล้ว
……
……
ทางที่เฉินชางกลับจากสำนักงานผู้อำนวยการมาที่แผนกฉุกเฉินนี้ พูดได้ว่ามีหลายความรู้สึกปนเป ตลอดทางมีแต่คนทักทายเฉินชาง
“อรุณสวัสดิ์หัวหน้าเฉิน!”
“หัวหน้าเฉิน!”
“สวัสดีหัวหน้าเฉิน!”
……
เฉินชางเจอเข้ากับการทักทายจากคนมากมายขนาดนี้ยังออกจะไม่ชิน พอเขากลับมาถึงแผนก เสียงโห่ร้องยินดีระลอกหนึ่งก็ดังขึ้นทันที!
“หัวหน้าเฉินกลับมาแล้ว!”
“สวัสดีหัวหน้าเฉิน อย่ามาใช้อำนาจข่มฉันเชียวนะ…” เล่อเล่อพูดยิ้มๆ
เฉินชางยิ้มให้ บอกหลี่เป่าซานว่า “หัวหน้า ตอนบ่ายผมต้องไปเมืองหลวงแล้ว พรุ่งนี้มีแข่ง เลยมาทักทายคุณ”
หลี่เป่าซานยิ้มพลางพยักหน้า “อืม สู้ๆ! ชิงเอารางวัลกลับมาให้คนที่ดูถูกคุณพวกนั้นเห็น!”
เฉินชางพยักหน้ายิ้ม “จะต้องชนะให้ได้ครับ!”
ตอนที่อยู่ในสำนักงานผู้อำนวยการเมื่อครู่นี้ ความจริงแล้วฉินเสี้ยวยวนก็อยากพูดประโยคนี้ แต่กลัวว่าเฉินชางจะกดดันจึงไม่ได้พูด แค่เอ่ยให้กำลังใจเรียบๆ
แต่เฉินชางรู้ว่าสิ่งที่ตนต้องการในตอนนี้ก็คือความสำเร็จ! ตอนที่เขาเอาความสำเร็จมาวางอยู่ตรงหน้าทุกคน ความกังขาจะดูซีดเผือดไร้พลัง! เฉินชางที่เดิมทีไม่ได้มีความคิดอยากเอาชนะขนาดนั้นก็ตั้งใจว่าจะเอารางวัลชนะเลิศมาครอง!
เฉินชางเก็บของแล้วลุกออกไป
แต่ในตอนนี้เอง สายโทรศัพท์จากฉินเสียงก็ดังขึ้น เฉินชางรับสาย “หัวหน้าฉิน”
ฉินเสียงพยักหน้า “เสี่ยวเฉิน คุณมาหาผมที่นี่หน่อยสิ ผมจะเอาวีซ่าของคุณให้”
เฉินชางพยักหน้า “ทำเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ”
ฉินเสียงยิ้ม “เรื่องใหญ่ตรงไหน มาเอาวีซ่ากับผมก็พอแล้ว”
เฉินชางยิ้ม ตัวเองก็เป็นคนมีวีซ่าแล้ว แต่ยุ่งจังเลยนะ!
พรุ่งนี้กับวันมะรืนไปเข้าร่วมการแข่งขันทักษะศัลยกรรมหัวใจระดับประเทศ
วันเสาร์กับอาทิตย์หน้าไปร่วมงานรวมตัวประจำปีของสมาคมศัลยกรรมตกแต่งที่เกาหลี ว่ากันว่าปีเตอร์ก็จะไปเป็นคณะกรรมการ คล้ายยังมีสุดยอดรางวัลใหญ่อะไรสักอย่าง เลือกเอาศัลยแพทย์ตกแต่งดีเด่นประจำปี
นี่เป็นถึงรางวัลใหญ่ระดับโลกเลยนะ!
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทั้งหมดนี้จังหวะเหมาะเจาะเป็นพิเศษ
รางวัลชนะเลิศศัลยกรรมระดับประเทศรางวัลหนึ่ง ศัลยแพทย์ตกแต่งดีเด่นระดับโลกอีกรางวัลหนึ่ง! รางวัลที่มีความสามารถในการโน้มน้าวสองรางวัลมาอยู่ในมือ คงทำให้ทุกคนเชื่อมั่นได้พอดีละมั้ง
พอคิดถึงตรงนี้ ในใจเฉินชางถึงกับเต็มไปด้วยความความกระตือรือร้นและแรงขับเคลื่อน
ความจริงแล้วในใจเฉินชางก็ย่อมรู้สึกซาบซึ้งไม่สิ้นสุดกับการที่เฉินเสี้ยวยวนเลื่อนตำแหน่งให้แบบนี้ มีผู้นำแบบนี้ มีพ่อสามีแบบนี้ เฉินชางย่อมทำให้เขาผิดหวังไม่ได้!
และเขาเองก็ทำให้ผู้อำนวยการฉินวางตัวลำบากเกินไปไม่ได้ เอาความสำเร็จออกมานิดเดียวก็เพียงพอที่จะคลี่คลายความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นได้หลายอย่างแล้ว
คนเราก็ต้องเข้าใจกัน คิดไตร่ตรองเผื่ออีกฝ่าย ฉินเสี้ยวยวนสนับสนุนเฉินชางทุกวิถีทาง เฉินชางก็ไม่อยากให้ผู้อำนวยการฉินถูกคนอื่นชี้ว่าไม่ยุติธรรม
……
……
ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หลังจากสยงคังอวี้สืบข่าวทั้งหมดของเฉินชางได้อย่างแน่ชัดก็ถึงกับร้องลั่นด้วยความประหลาดใจทันที! เขาถึงกับค้นพบอัจฉริยะรอบด้านแบบนี้!
หยกที่ยังไม่เจียระไน
อัจฉริยะที่ยังไม่มีใครค้นพบนี่นา!
แต่ในขณะที่เขากำลังเตรียมจะคุยกับเฉินชาง จู่ๆ ก็ได้ข่าวว่าโรงพยาบาลอันดับสองเลื่อนขั้นให้เฉินชางเป็นพิเศษ มิหนำซ้ำอีกหนึ่งปียังให้ตำแหน่งหัวหน้าอาคารฉุกเฉินด้วย!
สยงคังอวี้แทบกระอักเลือดออกมาทันที!
ฉินเสี้ยวยวนคนนี้ถึงกับเด็ดขาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร!
ด้านจ้าวซิวผิงรู้สึกทุกข์ใจ วางแผนมาตั้งนาน คิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะถึงกับเลื่อนขั้นเป็นพิเศษแล้ว แต่หลังจากที่จ้าวซิวผิงเห็นผลงานเด่นของฉินเสี้ยวยวนก็ทำได้เพียงส่ายหัวเนือยๆ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเฉินชางไม่ควรถูกให้ค่าขนาดนี้
หัวหน้าตึกฉุกเฉินคนหนึ่งเหรอ คนที่รับตำแหน่งไหวจะมีสักกี่คน เฉินชางเก่งก็จริงแต่เขาเพิ่งอายุยี่สิบเจ็ดปี เรื่องในอนาคตใครจะชี้ชัดได้
ส่วนเฉียนเลี่ยงที่อยู่ข้างๆ กลับทอดถอนใจ ชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ในที่สุดก็เหลือแค่ก้าวเดียวแล้ว!
จ้าวซิวผิงอดพูดไม่ได้ “เหล่าเฉียน นี่คุณจะเวอร์เกินไปหน่อยแล้วมั้ง”
เฉียนเลี่ยงเห็นดังนี้ไม่ได้โต้กลับ เพียงแค่เอ่ยเรียบๆ ว่า “เหล่าจ้าวเอ๋ย รอดูเอาเถอะ”
